#1
|
||||
|
||||
![]() ปกิณกธรรมสัปดาห์วันแม่ วันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๖ - ช่วงค่ำ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 17-08-2023 เมื่อ 19:49 |
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]() เวลาและวารีย่อมไม่มีวันคอยใคร.......เรือเมล์และรถไฟก็ต้องไปตรงเวลา โอ้เอ้และอืดอาดมักจะพลาดปรารถนา......พลาดแล้วจักโศกาอนิจจาเราช้าเอง ไม่ต้องโทษใครนะ..ถ้าช้าแล้วพลาด เรื่องของมรรคของผลบางทีก็มีเกณฑ์ของตนเองอยู่ วาระนั้นวาระนี้ที่เหมาะสม เหมือนกับการปลูกต้นไม้ถูกฤดูกาล ก็จะผลิดอกออกผลได้เร็ว อย่างเช่นว่าเราปลูกปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝน แต่ถ้าหากว่าเราไปปลูกปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ถ้ารอดมาได้ ก็จะแกร็นไปทั้งปี เพราะว่าช่วงหน้าแล้งต้นไม้จะไม่เจริญงอกงาม ไม่แทงราก ไม่แตกกิ่งแตกใบ เรื่องของบุญของกุศลเป็นเรื่องที่หนักกว่านั้นอีก เพราะว่าแต่ละท่านมี "วงจรกรรม" ที่ไม่เหมือนกัน บางท่านวงจรกรรมกว้างใหญ่ไพศาลมาก อย่างเช่นว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไป ต้องรออีก ๒๐ - ๓๐ ปีข้างหน้า กว่าที่จะมาถึงวาระของเราอีกครั้ง เนื่องเพราะว่าในอดีตเราสร้างกุศลไว้น้อย จังหวะที่บุญกุศลจะมาสนองก็เลยทิ้งช่วงนาน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฉวยโอกาสตรงหน้าให้ได้ คำว่าโอกาสตรงหน้าก็คือ ขณะจิตที่เราอยากปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ขณะจิตที่เราอยากจะปฏิบัติธรรม แปลว่าเป็นช่วงที่บุญกุศลหนุนเสริมเรา ต้องรีบกอบโกยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ พอพ้นวาระไปแล้วอาจจะถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างไปอีกเป็นปีหรือหลาย ๆ ปี เราลองนึกถึงวงกลมสองวง ขนาดเล็กกับใหญ่ที่หมุนทวนกันอยู่ด้วยความเร็วที่เท่ากัน วงกลมเล็กย่อมไปถึงช่องที่สามารถจะตรงกับช่องว่างด้านหลังได้เร็วกว่า แต่ถ้าท่านอยู่ในวงกลมใหญ่ก็อาจจะรอช้ากว่าหลายเท่า ดังนั้น..การที่ทำเป็น "คุณนายสายเสมอ" หรือ "เจ้าชายสายเสมอ" จึงไม่ใช่เรื่องดี โบราณบอกว่า "นกที่ตื่นเช้าย่อมจับหนอนได้ก่อน" เรื่องนี้อย่าไปคุยกับหนอนนะ หนอนที่ตื่นเช้าโดนนกรับประทานทุกตัว..! เพราะฉะนั้น..เราเอาแค่นกเป็นตัวอย่าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2023 เมื่อ 14:09 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ญาติโยมจะเห็นว่าเรามีพระไม่ถึงครึ่งวัด ปีนี้พระจำพรรษาอยู่ด้วยกันในวัดท่าขนุน ๔๙ รูป แต่ว่าทางอำเภอจัดปฏิบัติธรรมพระนวกะ คือพระที่บวชใหม่ ทำให้หายไปแล้ว ๑๑ รูป แล้วยังเอาพระวิปัสสนาจารย์วัดท่าขนุนไปอีกหลายรูป รวมแล้วหายไปเยอะเลย แล้วยังมีพระเวรยามอีก ๕ รูป ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ๔ ผลัด รวมแล้ว ๒๐ รูป
บางรูปก็ควงเวรอยู่ตลอดเพราะว่าขี้เกียจสวดมนต์ทำวัตร แบบนั้นเขาเรียกว่าขยันผิดที่ เหตุที่บอกว่าขยันผิดที่ก็เพราะว่า เรื่องของสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ผลได้ที่เรียกว่าอานิสงส์นั้นเป็นของเรา ถ้าตราบใดที่ยังไม่มั่นคง แล้วทิ้งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ก็แปลว่าหาเรื่อง "นาน" คำว่า "นาน" ในที่นี้ก็คือโอกาสที่จะเข้าถึงมรรคถึงผล เหมือนกับเก็บเงินจะซื้อรถลัมโบร์กินี เก็บเท่าไรก็ไม่ได้ ๔๐ ล้านสักที เราก็ต้องเร่งสั่งสม เพื่อที่จะให้จำนวนบุญกุศลของเรา เพียงพอเหมาะสมกับการที่เราจะเข้าถึงมรรคถึงผลได้ การอยู่เวรยามได้แก่ส่วนรวม ก็คือความปลอดภัย ถ้าสักแต่ว่าอยู่เวรยามโดยไม่รู้จักเดินจงกรมภาวนาไปด้วยก็ถือว่าขาดทุน..! พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ปกิณกธรรมสัปดาห์วันแม่ ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2023 เมื่อ 14:11 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|