| 
	|||||||
| ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
|||
		
		
  | 
|||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง ขอกราบเรียนสอบถามดังต่อไปนี้ 
		
		
		
		
		
		
		
		
			ได้ภาวนาคาถา “เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา” โดยพยายามให้จิตมีความเมตตามากที่สุด ภาวนาเกือบตลอดเวลา ๒ วัน รู้สึกว่ารู้กับการได้ยินดีและเร็วไวขึ้นมาก แต่ที่แปลกคือเหมือนจะเห็นภพภูมิอื่นด้วย จึงสงสัยว่าคาถานี้ช่วยส่งผลด้านนี้ด้วยหรือไม่ ๒ วันที่ภาวนาคาถานี้ ปรากฏคนรู้จักมีอาการไม่สบาย ท้องเสียอย่างหนักเป็นไข้ หน้าซีดเซียว คือคนนี้บ้านอยู่ใกล้ มักชอบมามองสังเกตแล้วจับผิดหาเรื่องคิดเก็บไปโกรธเอง พูดว่านินทา ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้ คาถานี้จะสะท้อนผลถึงผู้ที่ก่อการร้ายต่อผู้สวดคาถาในลักษณะใดบ้าง ตอนนี้จึงกลับมาภาวนาพุทโธเหมือนเดิม เพราะคิดว่าการภาวนาพุทโธหรืออานาปานสติจะช่วยเน้นด้านวิปัสสนามากกว่า ตรงนี้เข้าใจถูกหรือไม่ การรู้เห็นด้านอภิญญา จะมี ทิพจักขุญาณ การเห็นเป็นภาพ บางคนจะไม่ได้ยินเสียง หูทิพย์ การได้ยิน บางคนจะไม่เห็นภาพ การรู้ รู้เรื่องราวต่าง ๆ ไม่เห็นภาพและไม่ได้ยิน แต่ความรู้เรื่องราวจะผุดขึ้นมาเอง เมื่อตรวจสอบข้อมูลก็ตรง การรู้นี้เรียกว่าเรียกอะไร อภิญญา ๓ อย่างนี้ บางท่านสามารถทำได้ครบ แต่ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ไม่ว่ามีอภิญญาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือครบทั้งสามอย่าง ก็โดนมารหลอกได้และผิดพลาดได้ใช่ไหม ดังนั้นจึงไม่ควรให้ความสำคัญเท่ากับการแก้ไขกิเลสร้ายในใจ ใช่หรือไม่ กราบขอบพระคุณและกราบขอขมาพระอาจารย์ด้วยค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-01-2019 เมื่อ 18:54  | 
| สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทองหยด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ได้ภาวนาคาถา “เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา” โดยพยายามให้จิตมีความเมตตามากที่สุด ภาวนาเกือบตลอดเวลา ๒ วัน รู้สึกว่ารู้กับการได้ยินดีและเร็วไวขึ้นมาก แต่ที่แปลกคือเหมือนจะเห็นภพภูมิอื่นด้วย จึงสงสัยว่าคาถานี้ช่วยส่งผลด้านนี้ด้วยหรือไม่ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าสภาพจิตสงบและมีพื้นฐานทิพจักขุญาณมาแต่เดิม ไม่ว่าจะภาวนาคาถาอะไรก็เห็นได้ทั้งนั้น ถาม : วันที่ภาวนาคาถานี้ ปรากฏคนรู้จักมีอาการไม่สบาย ท้องเสียอย่างหนักเป็นไข้ หน้าซีดเซียว คือคนนี้บ้านอยู่ใกล้ มักชอบมามองสังเกตแล้วจับผิดหาเรื่องคิดเก็บไปโกรธเอง พูดว่านินทา ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้ คาถานี้จะสะท้อนผลถึงผู้ที่ก่อการร้ายต่อผู้สวดคาถาในลักษณะใดบ้าง ? ตอบ : หนักเบาแล้วแต่เขา เขาจะคิด จะพูด จะทำอะไรกับเรา เขาก็จะได้คืนไปมากกว่านั้น คาถานี้เป็นคาถาใจดี ใครให้อะไรมา ก็คืนกลับไปเยอะ ๆ ถาม : ตอนนี้จึงกลับมาภาวนาพุทโธเหมือนเดิม เพราะคิดว่าการภาวนาพุทโธหรืออานาปานสติจะช่วยเน้นด้านวิปัสสนามากกว่า ตรงนี้เข้าใจถูกหรือไม่ ? ตอบ : ผิด..วิปัสสนาเขาเอาไว้พิจารณา เขาไม่ได้เอาไว้ภาวนา 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :   การรู้เห็นด้านอภิญญา จะมีทิพจักขุญาณ การเห็นเป็นภาพ บางคนจะไม่ได้ยินเสียง  หูทิพย์ การได้ยิน บางคนจะไม่เห็นภาพ   การรู้ รู้เรื่องราวต่าง ๆ ไม่เห็นภาพและไม่ได้ยิน แต่ความรู้เรื่องราวจะผุดขึ้นมาเอง เมื่อตรวจสอบข้อมูลก็ตรง การรู้นี้เรียกว่าเรียกอะไร ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : เห็นภาพเรียกว่าทิพจักขุ ได้ยินเสียงเรียกว่าทิพโสต เกิดความรู้สึกขึ้นมาแล้วเข้าใจเองโดยไม่ต้องเห็น เรียกว่าทิพจักขุญาณ เอาให้แน่ ๆ นะ ทิพจักขุกับทิพจักขุญาณ คนละเรื่องกันนะ ทิพจักขุลักษณะเหมือนตาทิพย์คือเห็น ทิพจักขุญาณเป็นความรู้สึกเหมือนกับเห็น ชัดเจนมาก บอกได้ทุกอย่าง แต่ไม่เห็น ถาม : อภิญญา ๓ อย่างนี้ บางท่านสามารถทำได้ครบ แต่ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ไม่ว่ามีอภิญญาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือครบทั้งสามอย่าง ก็โดนมารหลอกได้และผิดพลาดได้ใช่ไหม ? ตอบ : ขนาดหมดกิเลสแล้ว มารยังพยายามหลอกเลย พวกไม่หมดกิเลสนี่เป็นลูกน้องของมารแน่ ๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก เขาหลอกเป็นประจำ ถาม : ดังนั้น เราจึงไม่ควรให้ความสำคัญเท่ากับการแก้ไขกิเลสร้ายในใจ ใช่หรือไม่ ? ตอบ : พิจารณาเอาเองว่าใช่หรือเปล่า เขาเรียกว่าถามแบบอวดรู้ ไม่ใช่ถามเพื่อเอาความรู้ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
		
  | 
	
		
  |