กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-05-2011, 08:00
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ทุกอย่างจักสำเร็จได้ ด้วยกำลังใจของตนเอง

ทุกอย่างจักสำเร็จได้ ด้วยกำลังใจของตนเอง

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้

๑. “บางคนฟังหลวงพ่อเทศน์ตอนเช้า แต่ขาดสติ มิได้เอาจิตกำหนดรู้ตามพระธรรม เลยไม่ทราบว่าท่านเทศน์เรื่องอะไร การฟังเทศน์-ฟังธรรมจะให้เกิดผล ต้องใช้อินทรีย์ ๕ พละ ๕ คือ ศรัทธา-วิริยะ ซึ่งบุคคลผู้นี้มีแต่ขาดสติ จึงทำให้ไม่เกิดสมาธิและปัญญา จึงมีผลดังกล่าว จำอะไรไม่ได้ เหมือนคนยังมีลมหายใจอยู่ แต่ลืมเอาจิตตามรู้กองลม จึงไม่รู้ว่าตลอดเวลามีธรรมเกิด-ดับอยู่กับร่างกายตลอดเวลา เพราะเป็นอย่างนี้ คนเราจึงมากด้วยความประมาท เพราะสาเหตุแห่งการลืมกำหนดรู้อาการของการเกิด-ดับนั้น

๒. “บางคนไปติดขันธ์ ๕ ของท่านฤๅษี แทนที่จะติดพระธรรมที่ท่านสอน จุดนี้ต้องจำกันเอาไว้ให้ดี ๆ ถ้าหากจักไม่ติดขันธ์ ๕ ของบุคคลผู้อื่นได้ จักต้องละที่ขันธ์ ๕ ของตนเองก่อนเป็นสำคัญ มองอสุภะและกายคตา มองทุกข์ให้เห็นตามอริยสัจเข้าไว้ ถ้าขยันจริง ประเดี๋ยวจิตก็วางได้

๓. “คณะชาวหาดใหญ่ไปขอพรจากพระพุทธเจ้าทั้ง ๒ พระองค์ (หลวงพ่อปราโภและหลวงพ่อคามวาสี) ในโบสถ์เก่า แล้วต่างคนต่างได้พรที่ต่างกัน เพราะจริต-นิสัยและกรรมของแต่ละคนไม่เสมอกัน เช่น บางคนขอพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ทรงให้ใช้ความเพียรแล้วจะสำเร็จได้ทุกอย่าง บางคนอยากได้อภิญญา ทรงให้พรว่าอย่าละความพยายาม ให้ใช้ความเพียรต่อไป แล้วกำลังใจจะค่อย ๆ รวมตัวเข้ามา ๆ แล้วจะสำเร็จได้ในที่สุด”

๔. ทรงตรัสตัวอย่างแค่ ๒ คนที่อธิษฐานของพร แล้วตรัสถามว่า “ถ้าได้พรแล้ว พวกเขาไม่ทำตามนั้น จักได้ตามนั้นหรือไม่” (ตอบว่า ย่อมไม่ได้)

๕. “นั่นซิ ทุกอย่างจักสำเร็จได้ด้วยกำลังใจของตนเอง ประดุจพระตถาคตเจ้ามีอาหารอันโอชะปรุงเสร็จ แล้วยื่นให้แต่บุคคลผู้รับไม่นำไปบริโภค ก็หาประโยชน์อันใดมิได้”

๖. “แม้เจ้าเองก็ได้พรจากท่าน ที่ว่าทำบุญอย่าหวังผลตอบแทนนะลูก จุดนี้ก็เช่นกัน การไม่หวังผลตอบแทนจากการทำบุญ คือ อารมณ์จิตตัดความโลภอันเป็นอนุสัยละเอียด (โลภขั้นละเอียด) ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทนเพื่อเกิดเป็นคน เป็นเทวดา เป็นพรหม ไม่หวังทรัพย์สินตอบแทนทั้งโลกนี้และโลกหน้า ถ้าหากกำลังใจของเจ้าไม่ตัดอารมณ์โลภตามนี้ ความสำเร็จจักเกิดขึ้นตามพรนั้นได้ไหม” (ตอบว่า ไม่ได้)

๗. “จุดนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่ทรงตรัสก็จักลุล่วงด้วยความเพียรแห่งตนเองทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จงอย่าละความเพียร”

๘. ทรงตรัสถามว่า “จงอย่าดูถูกธุดงค์ เพราะอานิสงส์ของธุดงค์มีมาก เป็นพระธรรมที่ตถาคตเจ้าตรัสสอนไว้ ธรรมทุกหมวดห้ามติ หากเจ้าและคุณหมอเคยนึกล่วงเกินก็จงขึ้นไปกราบขอขมาพระข้างบนเสีย


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว