กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-01-2011, 15:49
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ไม่รู้จักทุกข์ ก็พ้นทุกข์ไม่ได้

ไม่รู้จักทุกข์ ก็พ้นทุกข์ไม่ได้
หรือไม่รู้จักกฎของกรรม ก็พ้นกรรมไม่ได้



สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้

๑. “อารมณ์น้อยใจเป็นอารมณ์อะไร” (ตอบว่า เป็นอารมณ์ไม่พอใจ เพราะมีความปรารถนาไม่สมหวัง) “แล้วเป็นธรรมดาของโลกไหม” (ตอบว่า เป็นธรรมดาของโลก)

๒. “นั่นสิ เจ้าเกิดเป็นทุกข์ แก่เป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ ปรารถนาไม่สมหวังเป็นทุกข์ การพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจเป็นทุกข์ นี่เป็นธรรมดาของโลก แล้วเจ้าจักดิ้นรนไปใยกัน” (เพื่อนของผม ท่านรู้สึกว่าท่านไม่ได้รับความยุติธรรมจากบุคคลผู้อื่น)

๓. “ใครบอกเจ้าว่าไม่ยุติธรรม นี่เป็นกฎของกรรมนะ ถ้าเจ้าไม่ทำเอาไว้ก่อน กรรมนี้มีหรือจักตกทอดถึงเจ้าได้เยี่ยงนี้ จักว่าไม่ยุติธรรมได้อย่างไร กรรมในอดีตเป็นเช่นไร กรรมปัจจุบันก็เป็นเช่นนั้น ใครใช้เจ้าอยากทำกรรมเอาไว้เยี่ยงนี้ในชาติก่อนทำไมกัน”

๔. “ภิกษุพาณิชย์โลภหรือ เจ้าก็โลภมาก่อนในอดีต เขาอวดดีมีฝีมือเป็นเลิศในการทำงานหรือ เจ้าก็เคยอวดดีเยี่ยงนี้มาก่อนในอดีต แล้วบัดนี้เป็นอย่างไร กฎของกรรมมันตามมาสนอง ชาตินี้เจ้าถึงจักมีการศึกษาในด้านศิลป์ดีเลิศไม่ได้เพราะเยี่ยงนี้ ความทะนงถือตนว่าดีเด่น ทำให้คนลืมตนมามากแล้ว ความโลภก็ฆ่าคนตายมามากแล้ว เวลานี้เจ้าเข้าถึงธรรมะ บรรเทาแล้วซึ่งความโกรธ โลภ หลง แม้จักยังไม่หมด ก็เห็นโทษของความโกรธ โลภ หลง เห็นอดีตชาติอันเคยทำกรรมลามกไว้ เยี่ยงภิกษุพาณิชย์รูปนี้ กรรมนั้นเคยพาเจ้าลงสู่อเวจีมหานรกมาแล้ว เมื่อเห็นโทษอยู่เยี่ยงนี้ก็ย่อมไม่กล้ากระทำเยี่ยงนี้อีก ในบุคคลที่หลงผิดจึงน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่เจ้าได้รับอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นเพียงเศษของกรรม จักน้อยใจไปทำไมกัน” (ก็ยอมรับว่า ตนยังระงับอารมณ์น้อยใจไม่อยู่)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-01-2011, 08:46
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. “ก็เป็นธรรมดา หากเรื่องขนาดนี้เจ้าระงับอยู่ก็เป็นพระอรหันต์ได้สบาย ๆ ไปแล้ว”

๖. “คิดบ้าง ระงับบ้าง อย่าสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้มากนัก เตือนใจของตนเองเข้าไว้ อย่าประมาทในอารมณ์ก็แล้วกัน อย่าปล่อยอารมณ์ให้ฟุ้งซ่านจนเกินไป จักห้ามไม่ให้เจ้าคิดเลย มันก็ผิดธรรมดา”

๗. “พยายามระลึกถึงความตายเข้าไว้ อย่าประมาทในอารมณ์ก็แล้วกัน ปัญหาเหล่านี้เจ้าจักแก้ไขอะไรไม่ได้ สู้หยุดอยู่ให้สบาย ๆ ดีกว่า หาธรรมปฏิบัติมาใส่ใจดีกว่า อย่าไปดิ้นรน เพราะวาระกรรมยังไม่หมดที่จักส่งผล อดทนไปอีกสักระยะหนึ่ง นี่เป็นกรรมฐานทดลองจิตเจ้าล่ะ”

๘. “แม้ทนไม่ไหว ก็ต้องทนไหวบ้าง ทนไม่ไหวบ้าง เป็นธรรมดา สอบตกก็ตั้งต้นใหม่ อดทนตรงที่อารมณ์ใจของตนนี่แหละเป็นสำคัญ ให้รู้อารมณ์ของตนเข้าไว้ มันอยากร้องไห้ก็ร้องไห้ไป มันอยากหยุดก็ดูสิ จิตมันเป็นอย่างไร ดูสิร้องไห้ เศร้าโศกเสียใจ มันเป็นคุณหรือเป็นโทษ ดูสิ มันหยุด ไม่เสวยอารมณ์ใด ๆ อยู่เฉย ๆ มันเป็นคุณหรือเป็นโทษ อันไหนมันจักสบายใจกว่ากัน ดูไป คิดไป ให้จิตมันยอมรับเองด้วยปัญญา ใช้อุปสรรคเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แก่ผลของการปฏับัติธรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-01-2011 เมื่อ 16:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-01-2011, 08:33
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๙. “อย่าโง่ เอาแต่เกาะทุกข์ลูกเดียวไม่มีประโยชน์อันใด ตถาคตไม่ต้องการสอนคนที่ไม่รู้จักอารมณ์ จักพ้นทุกข์ได้อย่าไปรบกับใคร ให้รบกับอารมณ์กิเลสที่เกิดขึ้นในจิตของตนเอง รบกับบุคคลอื่นชนะก็ชนะเพียงชั่วคราว ไม่ยั่งยืนถาวร ต้องรบกับอารมณ์กิเลสของตัวเองโดยยึดหลักสังโยชน์เข้าไว้ ชนะให้ได้ตามนั้น ถ้าชนะได้ก็ชนะตลอดไปจีรังยั่งยืนถาวรเสมอ ขอเพียงสักแต่ว่าให้รู้อารมณ์ของตนเอง รบ ๑๐๐ ครั้งก็ชนะทั้ง ๑๐๐ ครา นี่เป็นประโยชน์แก่เจ้าแล้วนะ ที่มีอุปสรรคให้เกิดขึ้นจนรู้จักทุกข์ถึงขนาดนี้ ก็จงอย่าพึงปล่อยโอกาสดีให้ผ่านไป”

๑๐. “ใช้ทุกข์ให้เป็นประโยชน์ จักได้เข้าถึงอริยสัจกันจริง ๆ เสียที คนโง่เท่านั้นที่กอดทุกข์เข้าไว้ เหมือนอุปมา คนจักจมน้ำตาย ยังกอดคอผู้อื่นให้จมน้ำตายไปด้วย ทั้ง ๆ ที่คนผู้นั้นจักช่วยให้พ้นจากการจมน้ำตาย คนฉลาดเขาคลายทุกข์ เหมือนกับคนจักจมน้ำตาย รู้ว่าอีกคนเขาจักช่วยเราปล่อยให้เขาคว้า จิตก็พิจารณาไปตามนั้น รู้ว่าเขาช่วยเรา เราจักไม่กอดคอเขาไว้ ปล่อยวางให้เขาทำหน้าที่ตามสบาย ๆ ตามกำหนดรู้ พิจารณาตามหลักความเป็นจริงอย่างเดียว ทุกข์กอดทุกข์ ก็จมทุกข์อยู่นั่นแหละ”

๑๑. “ทุกข์คลายทุกข์ พิจารณาตามกำหนดรู้ทุกข์ เมื่อเข้าถึงทุกข์ก็เข้าถึงอริยสัจ ปล่อยวางทุกข์ ก็เท่ากับช่วยให้พ้นทุกข์ได้ ใช้ประโยชน์ให้เป็นสิ

๑๒. “ในทุกข์ตัวเดียวกันนี้แหละ จักพ้นทุกข์ก็ได้ จักจมทุกข์ก็ได้ คนไม่รู้จักตัณหาก็พ้นตัณหาไม่ได้ คนไม่รู้จักทุกข์ก็พ้นทุกข์ไม่ได้ นักปฏิบัติจักสอบได้หรือสอบตก หากไม่มีอารมณ์กระทบนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ พวกเจ้าต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของจุดนี้ให้ดี ๆ”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว