#1
|
|||
|
|||
![]()
อายตนะ ๑๒ ทำจิตให้หมดราคะและปฏิฆะได้
วันอังคารที่ ๑๗ ส.ค. ๒๕๓๖ หลวงพ่อฤๅษี ท่านเมตตามาสอนธรรมเรื่องนี้ให้ ดังนี้ ๑. “การเข้าถึงธรรมด้วยสัญญา มันจึงเป็นอันตรายแก่เพศสมณะอย่างนี้ จะโกนหัวหรือไม่โกนหัว การถือบวชก็ต้องจัดว่าเพื่อเป็นพระ หากเข้าถึงธรรมด้วยปัญญาจริง ๆ แล้ว ไม่มีผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนที่จะมาสึกพระ ให้หลุดจากสมณะวิสัยได้” (เรื่องเดิมมีความโดยย่อ ๆ ดังนี้ ... หลวงตาองค์หนึ่งอายุ ๗๐ กว่าปีแล้ว ท่านสวดมนต์เก่งมาก จัดเป็นอันดับหนึ่งของวัดท่าซุง พอท่านย้ายออกจากวัดไปเป็นเจ้าอาวาสอีกวัดหนึ่งได้ไม่นาน ก็สึกออกไปมีเมียอายุ ๕๐ ปีเศษ อยู่ได้พักเดียวก็เลิกกัน เพราะกฎของกรรม จะบวชนานเท่าไหร่ หากราคะและปฏิฆะไม่หมด ผู้หญิงก็สึกเอาไปทำผัวได้) ๒. “พวกเอ็งดู ๆ เอาไว้ อย่าได้ประมาทในธรรมของการเสพกามนี้ อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ๗๐ กว่ายังมีสิทธิ์ถูกควายเขาอ่อนขวิด จนหลุดออกจากเพศพระ เพราะกฎของกรรมมันเข้ามาตัดความดี พวกเอ็งก็เหมือนกัน ต่างคนต่างก็ไม่รู้กฎของกรรมมันจะเข้ามาเล่นงานเอาวันไหน เวลาใด ต้องเร่งพิจารณากายคตา มรณา อสุภะเข้าไว้ ตราบใดที่จิตยังไม่หมดอารมณ์ และร่างกายมันยังไม่หมดปฏิกิริยาของกายกำหนัด ประมาทธรรมนี้ไม่ได้เป็นอันขาด” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2010 เมื่อ 14:11 |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
![]()
๓. “อายตนะ ๑๒ ที่ท่านพระอานนท์ให้พวกเอ็งทำนั้น หากทำได้ดีพอสมควร จิตก็จะตัดกามคุณ ๕ ได้อย่างเด็ดขาด เพราะธรรมภายใน (คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ธรรมภายนอก (คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์) หมวดนี้แก้อารมณ์ราคะและปฏิฆะได้โดยตรง จงพิจารณาให้ดี ๆ ให้ถึงที่สุดของความดับ เห็นสภาพที่แท้จริงของความดับในอายตนะ ๑๒ นี้ ถ้าหากทำได้ ก็จะเป็นพระอนาคามีได้ไม่ยาก ถ้าหากทำดีได้ถึงที่สุด ก็มีสิทธิ์เข้าถึงพระอรหัตผลได้แน่นอน”
๔. “ขอบอกย่อ ๆ ไว้เป็นตัวอย่าง อย่างตานี่ (หมายถึงดวงตา) เป็นธรรมภายนอก มีความเสื่อมอย่างที่ท่านพระอานนท์บอก มันเคลื่อนไปทุกขณะจิต และสภาพของตามันไม่คงที่ อายุสัก ๔๐ ปีก็ต้องหาแว่นมาใส่ให้มัน เพราะเลนส์มันเสื่อม บางรายมีกรรมหนัก ตาบอดเสียตั้งแต่ยังไม่ตาย และในที่สุดอนัตตาใหญ่มาถึง คือ ร่างกายมันตาย ประสาทตามันก็ต้องดับ และตาก็เน่าเฟะ ตาเป็นอาหารของหมู่หนอนไปในที่สุด สำหรับรูปซึ่งเป็นธรรมภายนอกคู่กับตา มองไปรูปก็เคลื่อนไปทุกขณะจิต ไม่ว่าคน สัตว์ วัตถุและรูปทุกชนิด ทุกรูปมาจากธาตุ ๔ มีความเกิดเป็นเบื้องต้น มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง และมีความตายไปในที่สุด ตายแล้วก็เน่าเปื่อยผุพัง เป็นอนัตตาเหมือนกัน นี่คิดให้เป็นต้องคิดให้ถึงที่สุด คิดทุกคู่เพราะเกี่ยวข้องกับกามคุณ ๕ เกี่ยวข้องกับอารมณ์ราคะและอารมณ์ปฏิฆะโดยตรง ถ้าหากคิดด้วยปัญญา ไม่ใช่จำด้วยสัญญา คิดบ่อย ๆ จนจิตยอมรับสภาพของความเป็นจริงคือ อริยสัจของอายตนะ ๑๒ นี้ จิตมันก็หมดอารมณ์ราคะ-ปฏิฆะได้ อย่าว่าแต่หนุ่มสาวที่ไหนจะมาสึกพระด้วยตนเองเลย แถมเอาช้างมาลากฉุดดึงอีก ๑๐๐ เชือก จิตของพระมันก็ไม่ไป เตลิดไม่ได้แล้ว หมดอยากรัก อยากโกรธ แต่ยังไม่หมดหลงหรอกนะ พระอนาคามีนี่ยังมีหลงอยู่อีก ก็ต้องหมดหลงเอาเมื่อเป็นพระอรหันต์นั่นแหละ” ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 31-08-2010 เมื่อ 12:12 |
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|