กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-03-2010, 08:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,203 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default หลับอยู่แต่ก็รู้ว่าหลับ

ถาม : อารมณ์ที่ว่าหลับอยู่แต่ก็รู้ตัวว่าตื่นอยู่ รู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์ใกล้เคียงอย่างนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าตื่นอยู่หรือเปล่า มีอารมณ์เป็นอย่างไรกันแน่ครับ ?
ตอบ : หลับอยู่แต่ก็รู้ว่าตอนนี้กำลังหลับ อะไรเกิดขึ้นรอบข้างจะรู้หมด ถ้าหากว่าใส่ใจก็จะคลายความรู้สึกออกมารับรู้ ถ้าไม่ใส่ใจก็จะนิ่งอยู่ในจุดเดิมของตัวเองต่อไป

ถาม : ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนตื่น ?
ตอบ : เหมือนตื่นทุกอย่าง เพียงแต่ว่าจะนิ่งอยู่อย่างนั้นแหละ และถ้าเรากดอารมณ์ลงลึกอีกนิดเดียว ก็จะตัดขาดหลับไปจริง ๆ ขณะเดียวกันถ้าคลายออกมาเมื่อไร ก็จะเริ่มรับรู้ทุกอย่างสารพัด

ถาม : จะชอบเป็นเคลิ้ม ๆ ระหว่างนั่งสมาธิ ?
ตอบ : พยายามสังเกตให้ได้ว่า อารมณ์ใจ..ถ้าเปรียบเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ จะค่อย ๆ ลดลง...ลดลง...ลดลง จะลดไปเรื่อย พอถึงระดับหนึ่ง เหลืออีกนิดเดียว เรารู้ว่ากดอีกนิดนี่จะดับเลย ก็ให้เรารักษาระดับนั้นเอาไว้

ถ้าสามารถทำจนคล่องตัว ต่อไปเราเข้าถึงระดับนั้นเมื่อไรก็สบายเลย เท่าที่สังเกตดูจะมีอาการเกิดขึ้นทางร่างกายด้วย อย่างเช่นว่า จู่ ๆ หูเราเหมือนกับดังวิ้ง แล้วก็จะไปถึงอารมณ์นั้นเลย และหลังจากนั้นคุณก็แค่ประคองอารมณ์ตรงนั้นไว้ แล้วก็ตั้งเวลาไว้เลยว่าจะเอากี่นาที กี่ชั่วโมง จะเป็นไปตามเวลานั้น ถึงเวลาก็จะคลายออกมาเอง แต่ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ เราสามารถสั่งให้คลายออกมาเพื่อรับรู้ได้ อาจจะมีคนเรียก อาจจะมีโทรศัพท์ดัง พอคลายอารมณ์ออกมาปฏิสัมพันธ์กับเขาเสร็จแล้ว ก็รีบกลับเข้าไปจุดเดิม

ตอนนั้นร่างกายเราหลับ บางทีเรากรน เรายังได้ยินเลย แต่ว่าจิตยังตื่นอยู่ เพราะใจเราไม่ได้หลับด้วย ทำถึงตรงนั้นเมื่อไร จึงพอจะมีกำลังสู้กิเลสได้ ถ้าทำไม่ถึงยังสู้ไม่ได้หรอก

ถาม : ตรงนี้เป็นผลของสมาธิหรือสติครับ ?
ตอบ : เป็นผลของสมาธิที่สร้างสติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-03-2010, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,203 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อก่อนตอนนั่งสมาธิใหม่ ๆ เวลาเข้าฌานได้ชั่วโมงสองชั่วโมง รู้สึกว่าเวลาเดี๋ยวเดียว แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าเวลาผ่านไปนาน พอลืมตามาดู เพิ่งผ่านไปแค่สิบห้านาทีเอง ทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ?
ตอบ : ตอนแรกจิตเราหยาบ พอจิตหยาบ ระยะเวลาที่ผ่านไปเราไม่รับรู้ กว่าที่จะคลายออกมาก็ผ่านไปนาน แต่ถ้าจิตละเอียดขึ้นเราจะรับรู้ทุกขั้นตอน แต่ว่ากำลังใจนิ่งอยู่เท่ากับตอนที่หยาบ ก็เลยพักน้อยแต่เหมือนกับได้พักมาก

ฉะนั้น..เวลาเหนื่อย ๆ ขึ้นมาก็จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ พอพักนิดเดียวแต่เหมือนได้นอนพักเป็นชั่วโมง ๆ จะรู้สึกสดชื่นมาก แต่ว่าจริง ๆ แล้วเวลาเพิ่งผ่านไปนิดเดียว แต่ถ้าหากทิ้งดิ่งลึกเมื่อไรก็ยาว เพราะฉะนั้น..ต้องระวังด้วย ต้องกำหนดเวลาว่าเราจะทำเต็มที่สักเท่าไร ไม่อย่างนั้นอาจจะข้ามวันข้ามคืนไปเลย คนอื่นตกใจแย่ แต่เรารู้สึกว่าเดี๋ยวเดียว

ถาม : แล้วกำลังใจที่ว่าดิ่งลงในระดับนั้น เป็นกำลังใจที่อยู่ในสมาธิระดับไหนขึ้นไป ?
ตอบ : ปฐมฌานละเอียด

ถาม : แล้วแต่บุคคลว่าทำได้ในระดับไหน ?
ตอบ : ใช่..อย่าเผลอนะ..ถ้าเผลอหลับทันที แรก ๆ ที่เป็นปฐมฌานหยาบ เราเอาไม่อยู่หรอก จะวูบไปเลย ต้องซ้อมบ่อย ๆ จนคล่องตัวก่อน

ตอนที่ผมซ้อม ผมใช้วิธีเปิดเทปของหลวงพ่อวัดท่าซุงฟัง และเอาจิตจดจ่ออยู่กับเสียงเทป ว่าจะต้องฟังให้ได้ทุกคำ พอใจเราจี้ไป..จี้ไป ก็จะลึกลงไปถึงระดับที่ต้องการ แต่ถ้าเราไม่จี้ติดขนาดนั้น เผลอวูบเดียวก็จะหลับไปเลย

ถาม : แล้วยังได้ยินทุกคำไหมครับ?
ตอบ : ได้ยิน..และได้ยินเกินด้วย พอถึงเวลา เอ๊ะ..ทำไมวันนี้หลวงพ่อเทศน์ยาว ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเทปหมดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ยังได้ยินต่อเนื่องเป็นปกติ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว