|
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : อารมณ์ที่ว่าหลับอยู่แต่ก็รู้ตัวว่าตื่นอยู่ รู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์ใกล้เคียงอย่างนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าตื่นอยู่หรือเปล่า มีอารมณ์เป็นอย่างไรกันแน่ครับ ?
ตอบ : หลับอยู่แต่ก็รู้ว่าตอนนี้กำลังหลับ อะไรเกิดขึ้นรอบข้างจะรู้หมด ถ้าหากว่าใส่ใจก็จะคลายความรู้สึกออกมารับรู้ ถ้าไม่ใส่ใจก็จะนิ่งอยู่ในจุดเดิมของตัวเองต่อไป ถาม : ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนตื่น ? ตอบ : เหมือนตื่นทุกอย่าง เพียงแต่ว่าจะนิ่งอยู่อย่างนั้นแหละ และถ้าเรากดอารมณ์ลงลึกอีกนิดเดียว ก็จะตัดขาดหลับไปจริง ๆ ขณะเดียวกันถ้าคลายออกมาเมื่อไร ก็จะเริ่มรับรู้ทุกอย่างสารพัด ถาม : จะชอบเป็นเคลิ้ม ๆ ระหว่างนั่งสมาธิ ? ตอบ : พยายามสังเกตให้ได้ว่า อารมณ์ใจ..ถ้าเปรียบเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ จะค่อย ๆ ลดลง...ลดลง...ลดลง จะลดไปเรื่อย พอถึงระดับหนึ่ง เหลืออีกนิดเดียว เรารู้ว่ากดอีกนิดนี่จะดับเลย ก็ให้เรารักษาระดับนั้นเอาไว้ ถ้าสามารถทำจนคล่องตัว ต่อไปเราเข้าถึงระดับนั้นเมื่อไรก็สบายเลย เท่าที่สังเกตดูจะมีอาการเกิดขึ้นทางร่างกายด้วย อย่างเช่นว่า จู่ ๆ หูเราเหมือนกับดังวิ้ง แล้วก็จะไปถึงอารมณ์นั้นเลย และหลังจากนั้นคุณก็แค่ประคองอารมณ์ตรงนั้นไว้ แล้วก็ตั้งเวลาไว้เลยว่าจะเอากี่นาที กี่ชั่วโมง จะเป็นไปตามเวลานั้น ถึงเวลาก็จะคลายออกมาเอง แต่ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ เราสามารถสั่งให้คลายออกมาเพื่อรับรู้ได้ อาจจะมีคนเรียก อาจจะมีโทรศัพท์ดัง พอคลายอารมณ์ออกมาปฏิสัมพันธ์กับเขาเสร็จแล้ว ก็รีบกลับเข้าไปจุดเดิม ตอนนั้นร่างกายเราหลับ บางทีเรากรน เรายังได้ยินเลย แต่ว่าจิตยังตื่นอยู่ เพราะใจเราไม่ได้หลับด้วย ทำถึงตรงนั้นเมื่อไร จึงพอจะมีกำลังสู้กิเลสได้ ถ้าทำไม่ถึงยังสู้ไม่ได้หรอก ถาม : ตรงนี้เป็นผลของสมาธิหรือสติครับ ? ตอบ : เป็นผลของสมาธิที่สร้างสติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:07 |
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เมื่อก่อนตอนนั่งสมาธิใหม่ ๆ เวลาเข้าฌานได้ชั่วโมงสองชั่วโมง รู้สึกว่าเวลาเดี๋ยวเดียว แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าเวลาผ่านไปนาน พอลืมตามาดู เพิ่งผ่านไปแค่สิบห้านาทีเอง ทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ?
ตอบ : ตอนแรกจิตเราหยาบ พอจิตหยาบ ระยะเวลาที่ผ่านไปเราไม่รับรู้ กว่าที่จะคลายออกมาก็ผ่านไปนาน แต่ถ้าจิตละเอียดขึ้นเราจะรับรู้ทุกขั้นตอน แต่ว่ากำลังใจนิ่งอยู่เท่ากับตอนที่หยาบ ก็เลยพักน้อยแต่เหมือนกับได้พักมาก ฉะนั้น..เวลาเหนื่อย ๆ ขึ้นมาก็จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ พอพักนิดเดียวแต่เหมือนได้นอนพักเป็นชั่วโมง ๆ จะรู้สึกสดชื่นมาก แต่ว่าจริง ๆ แล้วเวลาเพิ่งผ่านไปนิดเดียว แต่ถ้าหากทิ้งดิ่งลึกเมื่อไรก็ยาว เพราะฉะนั้น..ต้องระวังด้วย ต้องกำหนดเวลาว่าเราจะทำเต็มที่สักเท่าไร ไม่อย่างนั้นอาจจะข้ามวันข้ามคืนไปเลย คนอื่นตกใจแย่ แต่เรารู้สึกว่าเดี๋ยวเดียว ถาม : แล้วกำลังใจที่ว่าดิ่งลงในระดับนั้น เป็นกำลังใจที่อยู่ในสมาธิระดับไหนขึ้นไป ? ตอบ : ปฐมฌานละเอียด ถาม : แล้วแต่บุคคลว่าทำได้ในระดับไหน ? ตอบ : ใช่..อย่าเผลอนะ..ถ้าเผลอหลับทันที แรก ๆ ที่เป็นปฐมฌานหยาบ เราเอาไม่อยู่หรอก จะวูบไปเลย ต้องซ้อมบ่อย ๆ จนคล่องตัวก่อน ตอนที่ผมซ้อม ผมใช้วิธีเปิดเทปของหลวงพ่อวัดท่าซุงฟัง และเอาจิตจดจ่ออยู่กับเสียงเทป ว่าจะต้องฟังให้ได้ทุกคำ พอใจเราจี้ไป..จี้ไป ก็จะลึกลงไปถึงระดับที่ต้องการ แต่ถ้าเราไม่จี้ติดขนาดนั้น เผลอวูบเดียวก็จะหลับไปเลย ถาม : แล้วยังได้ยินทุกคำไหมครับ? ตอบ : ได้ยิน..และได้ยินเกินด้วย พอถึงเวลา เอ๊ะ..ทำไมวันนี้หลวงพ่อเทศน์ยาว ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเทปหมดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ยังได้ยินต่อเนื่องเป็นปกติ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์ วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:09 |
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|