#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘
|
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดสุราษฎร์รังสรรค์ หรือที่ชื่อชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดทุ่งมะกรูด" อยู่ที่ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ปรากฏว่าไปถึง พระปลัดจักรกฤษณ์ สุทฺธิมโน เจ้าอาวาสที่มาต้อนรับนั้นหน้าตาเหมือนกับสามเณร..! สอบถามแล้วได้ความว่าเพิ่งจะอายุ ๓๒ ปี ก็แปลว่าต่อให้อายุครบแล้วบวชเลยก็น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน ๑๒ พรรษา แต่ว่าท่านสามารถบริหารจัดการวัดได้ดูสะอาดเรียบร้อยมาก เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อลมูล (พระครูปทุมธีรคุณ) เจ้าอาวาสเก่านั้น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงมาก วัดสุราษฎร์รังสรรค์หรือว่าวัดทุ่งมะกรูดนี้ มีรั้วติดกันกับวัดสามัคคิยาราม ซึ่งเป็นวัดธรรมยุต แต่ก็เป็นวัดที่พี่น้องชาวมอญสนับสนุนให้สร้างขึ้นทั้งสองวัด พูดง่าย ๆ ว่ามีพระเถระที่ตนเองเคารพนับถือและชอบใจ ก็นิมนต์มาอยู่วัดที่บ้านของตนเอง เมื่อสร้างวัดขึ้นมาแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าทั้งสองวัดนั้นถือคนละนิกายกัน..! แต่ก็สมัครสมานสามัคคีกันดี เพราะว่าอยู่ในชุมชนเดียวกัน วันนี้พวกกระผม/อาตมภาพต้องมาตรวจยกชุมชนบ้านโพธิ์ ตำบลคลองควายแห่งนี้ ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ปรากฏว่าเมื่อมาถึง หลวงพ่อเจ้าคุณโม่ง - พระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี หลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ - พระโสภณพัฒนคุณ (ทินน์ สุทินฺโน) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๓ วัดพุน้อย (เศรษฐีเรือทอง) จังหวัดลพบุรี ท่านได้มาถึงก่อนแล้ว อีกสักครู่หนึ่ง หลวงพ่อเจ้าคุณประเทือง - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) รักษาการประธานกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และหลวงพ่อโพไซดอน - พระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) รักษาการประธานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านศีล ๕ หนกลาง เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการก็มาถึง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:17 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
พวกเราเดินชมนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการทีเดียว โดยมีการสาธิตทอผ้าปักผ้าต่าง ๆ ให้ดูด้วย เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็น "เสน่ห์ชุมชน" อย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในตอนฉันภัตตาหารเพลนั้น ข้าวปลาอาหารที่มา เราไม่สามารถที่จะหวังได้ว่ามีอะไรบ้าง เนื่องเพราะว่าชาวบ้านช่วยกันนำมาคนละถ้วย คนละปิ่นโต เมื่อเอามาแจกจ่ายให้กับพระเถระทั้งหลายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับดวงว่าอะไรจะมาลงที่ตรงหน้าตนเอง..!
กระผม/อาตมภาพเห็นอาหารถ้วยหนึ่ง หน้าตาเหมือนซุปหน่อไม้ ไม่มีใครตัก ก็เลยลองตักมาชิมดูตามประสาคนไม่กลัวอาหารแปลก ๆ ผลปรากฏว่าเป็นไก่เส้น ลักษณะปิ้งแล้วฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆ ยำมาอย่างดี ต้องบอกว่าอร่อยจนลืมโลกไปเลย..! เรื่องพวกนี้ถ้าเราไม่ลองก็คงไม่รู้ แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพไม่เคยรังเกียจอาหารอะไรเลย พูดง่าย ๆ ว่าถ้ามนุษย์กลืนลงไปได้ก็ส่งมาเถอะ..! ยกเว้นอาหารต้องห้ามตามพระวินัยแล้ว ที่เหลือกระผม/อาตมภาพฉันทั้งนั้น ฉันเพื่อให้มีประสบการณ์ว่า "อาหารชนิดนี้กูก็กินมาแล้ว..!" หลังจากที่ทางเจ้าภาพถวายภัตตาหารกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เข้าโบสถ์เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ อยู่ในลักษณะว่าไปถึงถิ่นไหนก็ต้องเข้ากราบผู้ใหญ่ก่อน ในเมื่อเข้าวัดก็ต้องกราบพระประธานกันก่อน เจริญพระพุทธมนต์และถ่ายรูปหมู่กันแล้ว ถึงได้ขึ้นสู่ศาลาในการตรวจยกชุมชนบ้านโพธิ์เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ พิธีกรรมในวันนี้ก็เป็นไปคล้ายคลึงกับที่อื่น แต่ส่วนที่ไม่ค่อยคล้ายคลึงก็คือ ตัวนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองควายก็ดี กำนันตำบลคลองควายก็ดี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองควายก็ดี เป็นพ่อลูกกัน..! ต้องบอกว่าชุมชนนี้อย่างไรก็ต้องรักใคร่สามัคคีกันมาก เนื่องเพราะว่าฝ่ายปกครองท้องถิ่นนั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่รักสามัคคีกันย่อมเป็นไปไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:20 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อท่านผู้ว่าฯ นำปฏิญาณตนว่า จะนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและศีล ๕ ไปเป็นเครื่องดำเนินชีวิตแล้ว พวกเราก็เริ่มทำการตรวจประเมินตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าครั้งนี้ กระผม/อาตมภาพจะเลื่อนมาตรวจประเมินในหมวดที่ ๔ ก็คืองานนิทรรศการ เพื่อที่จะดูว่านิทรรศการที่จัดนั้น เกี่ยวข้องกับการรักษาศีล ๕ อย่างไรบ้าง ?
ครั้นเมื่อได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่บุคคลที่ร่วมงาน โดยเฉพาะส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งชุมชนบ้านโพธิ์ วัดสุราษฎร์รังสรรค์แห่งนี้นั้น จะว่าไปแล้วเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมสูงมาก กระผม/อาตมภาพจึงแนะนำทางวัฒนธรรมจังหวัดให้ทำเรื่องยกขึ้นเป็นชุมชนคุณธรรม คาดว่าคงจะข้ามในระดับส่งเสริมพัฒนาคุณธรรมไปเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ หรืออาจจะเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่นไปเลยก็ได้ และให้คำแนะนำทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ให้สนับสนุนงบประมาณในด้านการจัดปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ไม่ว่าจะเป็นการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมก็ดี หรือว่าโครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรมก็ตาม เพราะว่าเขาทำกันเป็นปกติแล้ว เราแค่สนับสนุนงบประมาณเข้ามา งานทั้งหมดก็เป็นของเราไปด้วย และโดยเฉพาะให้ อบต.ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาแนะนำพระปลัดจักรกฤษณ์ เจ้าอาวาส ว่าควรที่จะเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลอย่างไร เนื่องเพราะว่าถ้าเราเขียนโครงการแล้วไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาของทางองค์การบริหารส่วน หรือว่าไม่เข้ากับแผนนั้นแผนนี้ของเขา เขาก็ไม่สามารถที่จะอนุมัติงบประมาณให้ได้ พูดง่าย ๆ ว่าในเมื่อวัดเป็นของชุมชน แล้วองค์การบริหารส่วนตำบลก็ดูแลชุมชนอยู่ ก็ขอให้เจียดงบประมาณมาสนับสนุนวัด ที่จะช่วยกันพัฒนาชุมชน สร้างความปรองดองสมานฉันท์และสมัครสมานสามัคคีในหมู่ชาวบ้านต่อไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:28 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
บรรดาข้าราชการต่าง ๆ ก็กล่าวคำขอบคุณที่ทางคณะกรรมการฯ มาให้กำลังใจและให้คำแนะนำ จะได้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยังชื่นใจ เนื่องเพราะว่ามีบุคคลบางพวกวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) นั้น เป็น "ปาหี่คุณธรรมระดับชาติ" สิ้นเปลืองงบประมาณเปล่า ๆ ควรที่จะเอาเงินไปสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร หรือว่าเด็ก ๆ จะดีกว่า..!
กระผม/อาตมภาพอยากจะให้ท่านทั้งหลายมาเห็นภาพนี้ ที่ทางวัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการ ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมา อวดให้คนอื่นเขารู้ว่าในท้องถิ่นของเรามีอะไรบ้าง ? โดยเฉพาะความรักใคร่สามัคคีและปรองดองสมานฉันท์ตามโครงการ ท่านจะเห็นว่ามีโครงการใดบ้างที่สามารถรวบรวม วัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการเข้ามาได้ทั้งหมด นอกจากโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นี้ ดังนั้น..ในเมื่อไม่สามารถที่จะตีความคำว่า "ปรองดองสมานฉันท์โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา" ได้ถูกต้อง ต่อให้ท่านทั้งหลายทุ่มเทงบประมาณไปช่วยเหลือในด้านอื่นมากเท่าไรก็ตาม ก็เป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" เสียเปล่า ๆ..! อย่างเช่นว่ามีการทุ่มงบประมาณลงไปในเรื่องของ Soft Power ถึง ๕,๐๐๐ ล้านบาท ขณะที่โครงการของเรานั้น เป็นการไปขุดเอา Soft Power ของทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลออกมา เพื่อที่จะแปรเป็นมูลค่า สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาหมู่บ้าน หรือว่าชุมชนนั้น ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าคิดกันอย่างไม่ลำเอียงแล้วจะเห็นว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณน้อยมาก แต่ว่าได้ผลมากมายมหาศาล โดยเฉพาะคณะกรรมการทั้งหมด ต้องเสียสละเดินทางมา และเดินทางกลับ โดยไม่มีงบประมาณสนับสนุนอื่นใด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:30 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
![]()
กระผม/อาตมภาพเองนั้น ก่อนหน้าใช้รถยนต์ติดแก๊สอยู่ เดินทางไปกลับ งบประมาณครั้งละ ๑,๐๐๐ บาทก็ยังพอเหลือบ้าง แต่ว่าในปัจจุบันนี้ รถยนต์ไปเข้าอู่ซ่อม ยืมรถคนอื่นเขาใช้ เติมน้ำมันทีหนึ่งก็ ๒,๐๐๐ กว่า ๓,๐๐๐ บาท วิ่งไปก็ใจหายไป เพราะว่างบประมาณจากที่ไปกลับอยู่ในวงเงินประมาณ ๑,๐๐๐ บาท หรือ ๑,๐๐๐ บาทนิด ๆ ตอนนี้กลายเป็น ๒,๐๐๐ ถึง ๒,๐๐๐ กว่าบาทไปแล้ว กว่าที่รถยนต์จะเสร็จ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ งวดนี้ รายจ่ายของกระผม/อาตมภาพน่าจะมากกว่าปีก่อนหลายเท่า..!
ในขณะเดียวกัน รถยนต์ที่ซ่อมอยู่ ช่างก็ประมาณงบออกมาแล้วว่าอยู่ที่ ๖๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าท่านสมหมาย สุภาษิต รองผู้อำนวยการส่วนเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งครั้งก่อน กระผม/อาตมภาพพูดผิดไปเป็นท่านสมหมาย ภาษี ต้องขออนุญาตขออภัยต่อท่านสมหมาย ภาษีมา ณ ทีนี้ด้วย ท่านสมหมาย สุภาษิตใช้รถยนต์รุ่นเดียวกัน พังลักษณะเดียวกัน บอกมาว่าค่าซ่อม ๖๐,๐๐๐ บาทเหมือนกัน..! ก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้กัน ประมาณว่าต่างคนต่างหาค่าซ่อมกันเอาเองตามอัธยาศัย..! เมื่อถึงเวลาถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางฝ่าฝนพรำกลับเข้าสู่ที่พัก พรุ่งนี้ต้องไปตรวจยกชุมชนรักษาศีล ๕ ของจังหวัดสมุทรปราการต่อ วันนี้เมื่อถึงที่พักแล้ว ก็รีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:32 |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|