#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๘
|
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงหอประชุมใหญ่พุทธมณฑล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ก่อน ๗ โมงเช้าเล็กน้อย
เหตุที่รีบไปขนาดนี้ก็เพราะว่าวันนี้มีพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระครูสัญญาบัตร ซึ่งได้รับพระราชทานตั้งและได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ประจำปี ๒๕๖๗ ซึ่งมาทำพิธีกันในวันนี้ ถ้าหากว่าช้า จำนวนพระครูสัญญาบัตรซึ่งเข้ารับพระราชทานตั้ง และพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ทั้งหมด ๖๑๖ รูป คิดเสียว่ามีโยมติดตามรูปละ ๒ คนโดยเฉลี่ย ก็จะมีคนจำนวนเกือบ ๒,๐๐๐ คน ดังนั้น..เรื่องที่จอดรถก็เป็นอันว่าเลิกคิดกันไปเลย ไหนจะบรรดาเจ้าคณะปกครอง ซึ่งต้องมาให้กำลังใจสำหรับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองอีก ถ้าไปช้าอาจจะไม่มีที่จอดรถเลยก็ได้ กระนั้นก็ตาม เมื่อไปถึงปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประจำจุดกันหมดแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงต้องใช้บัตรคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในการผ่านเข้าไปจอดบริเวณข้างหอกลอง หน้าหอประชุมใหญ่พุทธมณฑล หลังจากนั้นอีกไม่นาน การจลาจลทางด้านจราจรก็เกิดขึ้น แต่กระผม/อาตมภาพได้ทำการลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ถามว่า "หลวงพ่อได้เอาพัดเก่ามาด้วยหรือไม่ครับ ?" ได้บอกเขาไปตามตรงว่า "เพิ่งกลับมาจากประเทศจีน ยังไม่ได้กลับวัดเลย จึงไม่ได้นำพัดมา" เจ้าหน้าที่ท่านบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ" แล้วลงทะเบียนให้เสร็จสรรพ การลงทะเบียนเดี๋ยวนี้เป็นอะไรที่เร็วสุด ๆ ไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ต้องกรอกแบบฟอร์มแล้วก็เซ็นชื่อ ซ้ำยังต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชน หรือว่าสำเนาหนังสือสุทธิด้วย แต่ตอนนี้แค่ส่งบัตรประจำตัวประชาชนพระไปให้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการกรอกเข้าระบบไปเลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:26 |
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อได้บัตรลำดับที่นั่งมาเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เข้าไปในห้องรับพระเถระ หลบอยู่หลังโซฟาตัวยาว นอนภาวนาสะกดอาการกำเริบของไข้มาลาเรีย ซึ่งทำท่ามาแบบไม่รู้เวล่ำเวลา จนกระทั่งครู่ใหญ่ผ่านไป เพิ่งภาวนาได้ อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ได้ประมาณ ๓ จบ ยังไม่ครบชุดตามที่ตั้งใจเอาไว้ แต่รู้สึกว่ามีคนมาหา จึงต้องลุกขึ้นมากวักมือเรียกให้เขารู้ว่า "อยู่ทางด้านนี้"
ระยะในการรับพระราชทานตั้งและพระราชทานเลื่อนสัญญาบัตรพัดยศนั้น พรรคพวกเพื่อนฝูงที่ไม่มีเวลาไปร่วมงานฉลอง ก็มักจะมาดักถวายมุทิตาสักการะกันบริเวณหน้างานแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องรับแล้วรับอีก พร้อมกับขอบพระคุณพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ไม่ลืมกัน พร้อมทั้งบอกว่า "วันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ถ้าเป็นไปได้ ก็ให้ไปร่วมงานฉลองกันที่วัดท่าขนุนด้วยนะครับ" จนกระทั่งยังไม่ทันจะ ๑๐ โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ประกาศให้ไปฉันเพล เนื่องเพราะว่าต้องมีการรับพระราชทานผ้าไตรเสียก่อน กระผม/อาตมภาพเข้าไปถึงก็เจอบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูง ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อย่างเช่นว่าหลวงพ่ออ้น (พระครูกาญจนธีรวงศ์) เจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญผล พระครูปริยัติอมรกิจ วัดเขาเม็งอมรเมศร์, พระครูกาญจนวิริยธรรม วัดบ้านทวน ซึ่งได้รับพระราชทานตั้งใหม่ในปีนี้ นั่งลงในวงแล้วก็ฉันอาหารกันไปคุยกันไป อิ่มเอาตอน ๑๑ โมงตรงพอดี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นิมนต์ให้เข้าไปในหอประชุมใหญ่ กระผม/อาตมภาพโล่งใจมาก เนื่องเพราะว่าถ้าตามลำดับยศที่ได้รับพระราชทานใหม่ก็ต้องนั่งแถวหน้าเลย แต่ว่าเขาเอาบรรดาผู้ที่ได้รับพระราชทานตั้งขึ้นหน้าก่อน ส่วนที่ได้รับพระราชทานเลื่อนนั่งต่อแถวไป กระผม/อาตมภาพจึงอยู่ลำดับที่ ๓๕๕ ทางด้านซ้ายก็คือหลวงพ่อแป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) ทางด้านขวาก็คือหลวงพ่อพระครูนิวิฐธรรมาภรณ์ วัดท่าเรือ ดำเนินสะดวก ซึ่งทั้งสามรูปได้รับพระราชทานเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรเทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ฝ่ายวิปัสสนาธุระทั้งหมด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : เมื่อวานนี้ เมื่อ 05:42 |
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็นิมนต์ผู้ได้รับพระราชทานตั้งทั้งหมด เข้ารับพระราชทานผ้าไตรเสียก่อน ผู้ที่ได้รับพระราชทานเลื่อน ไม่ได้รับผ้าไตรพระราชทานแบบนั้น ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสาธิตว่า ถึงเวลารับพระราชทานสัญญาบัตร รับพระราชทานพัดยศนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง ? มือจะต้องจับบริเวณไหน ? เหล่านี้เป็นต้น
จนกระทั่งประมาณ ๑๓.๓๐ น. พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ. ๘) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ผู้แทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ก็มาถึง ครั้นนำไหว้พระและเข้าประจำที่ รับการถวายสักการะจากทั้งพระเถระเจ้าคณะปกครอง ตลอดจนกระทั่งข้าราชการระดับสูงแล้ว ก็เริ่มพิธีพระราชทานตั้งสัญญาบัตรพัดยศเสียก่อน จนกระทั่งครบ ๓๐๐ กว่ารายแล้วก็มีการหยุดพัก เพื่อให้บรรดาพระเถระผู้ทำการเจริญชัยมงคลคาถาได้หยุดพักครู่ใหญ่ แล้วก็เข้าสู่พิธีพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ต่อไป กระผม/อาตมภาพรับแล้วลงมาทางด้านล่าง คุยกันอยู่พักหนึ่งก็ต้องขอตัวหนี เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อแป๊ะช่วยเจิมสัญญาบัตรด้วยน้ำหมากเสียจนลายพร้อย..! ออกมาถึงด้านนอกแล้วรู้สึกว่าตัดสินใจได้ถูก เพราะว่าทั้งคนทั้งรถแน่นขนัดไปหมด รอจนเสร็จพิธีมีหวังไม่ได้ออกเดินทางง่าย ๆ น่าจะติดอยู่ข้างในกัน อย่างน้อยก็คงจะไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง..! สำหรับวันนี้ทางด้านคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ นัดหมายให้นำสัญญาบัตรพัดยศไปไว้ที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อร่วมกันฉลองในวันพรุ่งนี้ โดยที่หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้มาทาบทามตั้งแต่ก่อนจะเข้าหอประชุมใหญ่ว่า "รบกวนหลวงพ่อเล็กจัดปัจจัยไทยธรรมให้ด้วยนะครับ" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ได้ครับ..พระเจริญชัยมงคลคาถา ๑๐ รูปใช่หรือไม่ ?" ท่านบอกว่า ""รวมเลขาฯ แล้ว ๑๓ รูปครับ พร้อมทั้งรองเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะอำเภอก็เป็น ๑๕ รูป..!" สรุปว่างานนี้ไม่ใช่คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิฉลองให้ แต่เป็นพระครูวิลาศกาญจนธรรม วัดท่าขนุน เป็นเจ้าภาพฉลองให้..! ฟังดูแล้วก็เป็นอะไรที่ขำดีอยู่เหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:33 |
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
เรื่องของยศ เรื่องของตำแหน่งนั้น กระผม/อาตมภาพถือในหลักที่ว่า "ยศช้าง ขุนนางพระ" ได้มาก็ไม่ดีใจ เสียไปก็ไม่เสียใจ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเห็นความอนิจจัง ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ ซึ่งพระองค์ท่านให้ข้อธรรมคำสอนเอาไว้ชัดเจนว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง และสลายไปในที่สุด
ถ้าเราไปยึดถือสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง เราก็จะมีแต่ความทุกข์ แต่ถ้าหากว่ารู้เห็นตามความเป็นจริงว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มาได้ก็ไปได้ ไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง ที่พึ่งที่ระลึกของเราก็คือหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ต้องคอยพิจารณาอยู่เสมอ ให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายให้เพื่อรับเป็นภาระธุระในพระพุทธศาสนา อำนวยความสะดวกให้ในตอนทำงาน จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลาย แม้ว่าจะไม่ยินดี แต่ก็เป็นกำลังใจให้กับท่านทั้งหลายที่ยังยินดียินร้ายอยู่ และโดยเฉพาะบรรดาลูกศิษย์ที่ดีใจมากกว่าครูบาอาจารย์หลายเท่า..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น รับมาแล้ว บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ดี ลูกศิษย์ลูกหาก็ตาม พากันพลอยยินดีด้วย กระผม/อาตมภาพเห็นเขาดีใจ ก็พลอยดีใจด้วย เนื่องเพราะว่ากำลังใจที่เกาะในด้านความดี มีปีติอยู่นั้น อย่างน้อยก็มีกามาวจรสวรรค์เป็นที่ไป..! แต่ก็ได้แต่หวังว่า ท่านทั้งหลายจะสามารถสร้างกำลังใจให้สูงกว่านี้ มั่นคงกว่านี้ เพื่อคติคือที่ไปหลังจากสิ้นชีวิตแล้ว จะได้มั่นคงและสูงส่งกว่านี้ หรือว่าถ้าสามารถปล่อยได้วางได้ทั้งหมด ไม่ยินดีในสิ่งที่ควรยินดี ไม่ยินร้ายในสิ่งที่ควรยินร้าย ยอมรับในกฎของกรรมได้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง เราท่านทั้งหลายก็จะมีโอกาสหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้ ดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี ครูบาอาจารย์ที่ท่านหลุดพ้นแล้วก็ดี ตั้งความปรารถนาดีต่อพวกเราทั้งหลายเอาไว้นั่นเอง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:35 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
แก้ว |
|
|