#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
|
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่ทองผาภูมิยังคงอยู่ที่ ๒๐ องศาเซลเซียส
เมื่อวานนี้ หลังจากที่วางผางประทีปแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ออกไปที่หน้าวัด เพื่อที่จะไปรอชมการแสดงของเด็ก ๆ จากโรงเรียนต่าง ๆ แต่ว่ามีคณะของผู้ใหญ่แทรกเข้ามาด้วย โดยเฉพาะคณะของชมรมรักสุขภาพทองผาภูมินั้น ผู้แสดง ๑๔ ท่าน อายุรวมกันน่าจะประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ไม่มากก็น้อย..! กระผม/อาตมภาพชมการแสดงไป แจกรางวัลเด็ก ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นของโรงเรียนบ้านห้วยเขย่ง ซึ่งส่งเอาชุดสุดยอดของเขามาเลย ก็คือกลุ่ม BHK Power ซึ่งเป็นกลุ่ม Dancercise การออกกำลังแบบใหม่ ชนะเลิศถ้วยของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา ในการจัดงาน TO BE NUMBER ONE มา ต้องบอกว่าสมราคาเป็นอย่างยิ่ง และที่ชอบใจที่สุดก็คือตอนต่อตัวนั้น จะมียายหนูอยู่คนหนึ่ง ซึ่งรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์มาก แต่ว่าเป็นคนอ้วนประเภทแน่นไปทั้งตัว มักจะต้องเป็นฐานให้เพื่อน ๆ ขึ้นไปเหยียบอยู่ข้างบน ๔ คนบ้าง ๕ คนบ้าง จึงได้เห็นประโยชน์ของคนอ้วนในวันนี้เอง..! แต่ความจริงจะเรียก "ยายหนูอ้วน" ก็ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีพุง น่าจะเรียก "ยายหนูล่ำ" มากกว่า ส่วนทีมอื่น ๆ ที่มาของแต่ละโรงเรียนนั้น ในส่วนของโรงเรียนเพียงหลวง ๓ (บ้านเหมืองแร่อีต่อง) นั้น ต้องบอกว่าลำบากในการเดินทางเป็นที่สุด ขนาดชุดการแสดงต่าง ๆ ขนเอาคุณย่าคุณยายขึ้นไปเล่นขัดตาทัพแล้ว เด็ก ๆ ก็ยังมาไม่ถึง เพราะว่ากว่าที่คุณครูจะพาฝ่าโค้ง ๓๐๐ กว่าโค้งลงมาได้ เด็ก ๆ บางคนก็ถึงขนาดเมารถอ้วกแตกไปตาม ๆ กัน..! แต่เมื่อมาถึงแล้ว ด้วยสปิริตแรงกล้าก็เลยเต้นเสีย ๒ เพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลง "สาวปิล็อก" หรือว่า "ระบำพม่า" ก็ตาม ในส่วนของอำเภอทองผาภูมิ ด้วยความที่ติดกับเขตพม่า พี่น้องชาวมอญชาวพม่ามีอยู่มาก วัฒนธรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จึงประสานกลมกลืนจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2025 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ส่วนที่ฮาที่สุดและสามารถเรียกเสียงหัวเราะเสียงปรบมือกันแทบเวทีถล่มทลาย ก็คือทีมแอดเวนเจอร์ตลาดริมแคว ซึ่งนำโดยน้องเปิ้ล ไม่น่าเชื่อว่าคนที่รูปร่างอ้วนใหญ่น้ำหนักเป็น ๑๐๐ กิโลกรัมสามารถจะเต้นได้พริ้วขนาดนั้น..! แล้วที่ทุกคนทั้งปรบมือกระทืบเท้าด้วยความชอบใจก็คือ คุณเธอเต้นเพลงเปาบุ้นจิ้น..! เต้นอย่างชนิดที่ว่าเพื่อนร่วมทีมลงไปกุมท้องหัวเราะอยู่กับพื้น..เต้นด้วยไม่ได้..! กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วชอบใจ ก็เลยมอบรางวัลไปให้ ๒,๐๐๐ บาท ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปแบ่งปันกันอย่างไร ?!
เมื่อเสร็จพิธีก็ได้ทำการกล่าวขอบคุณและปิดงาน ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้มีการรวมกำลังกันทั้งกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ กรรมการชุมชนคุณธรรมทั้ง ๓ ชุมชุน ก็คือชุมชนคุณธรรมวังท่าขนุน ชุมชนคุณธรรมริมฝั่งแควน้อย และชุมชนคุณธรรมพัฒนาทองผาภูมิ ซึ่งส่งคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาช่วยงานตลอดทั้ง ๓ วันแล้ว ก็คงจะต้องลำบากกว่านี้อีกมาก ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลตำบลทองผาภูมิเจ้าของพื้นที่ก็ดี เทศบาลตำบลท่าขนุน พื้นที่ข้างเคียงก็ตาม ให้ความร่วมมือด้วยเป็นอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะท่านรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน คือนายสมเกียรติ นาคศรีโภชน์ ยืนเป็นหลักอยู่ตลอดงานทั้ง ๓ วัน ทำหน้าที่พิธีกรจนเสียงแหบเสียงแห้ง ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะพูดมากเกินไปหรือว่าพักผ่อนไม่พอจนหวัดกิน..! ส่วนทางด้านเทศบาลตำบลทองผาภูมิ นอกจากส่งเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดทุกวันแล้ว ทางตัวนายกเทศมนตรี ก็คือท่านศราวุธ ศรีทันดร ยังเป็นเจ้าภาพอาหารและน้ำดื่มตลอดงานอีกด้วย ขอเจริญพรขอบคุณในส่วนของโรงเรียนต่าง ๆ ที่ได้ส่งเอานักแสดงมาร่วมการแสดง โดยการประสานงานของผอ.ตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ซึ่งเป็นประธานฝ่ายจัดการแสดงในงานประจำปีครั้งนี้ กระผม/อาตมภาพเห็นผอ.ตูน พอเลิกงานก็วิ่งมาประจำอยู่ที่วัดเป็นหลัก เนื่องเพราะว่าเราจะเริ่มงานกันก็ต่อเมื่อ ๖ โมงเย็นไปแล้ว ทางด้านผอ.ตูนจึงมีเวลาจากงานประจำ ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ป้า สามารถปลีกตัวนำเอาเด็ก ๆ มาช่วยงานวัดได้ทุกคืน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2025 เมื่อ 02:10 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ในส่วนของอดีตนายกเทศมนตรี คือท่านประเทศ บุญยงค์ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และลูกชายคือคุณฑีฆพงศ์ บุญยงค์ ก็เพิ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ และเป็นสมาชิกรุ่นใหม่ไฟแดง แถมยังป้ายแดงอีกด้วย มากราบรายงานตัวยังไม่พอ ยังทำหน้าที่ติดต่อประสานงานในเรื่องของเวที เรื่องของแสง สี เสียง ตลอดระยะเวลางาน
ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือด้วยดี ตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิลงไปถึงส่วนราชการอื่น ๆ ถ้าไม่ได้ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ออกหน้า ก็คาดว่าบางส่วนราชการอาจจะไม่มาก็ได้ แต่ในเมื่อผู้บัญชาการใหญ่ในพื้นที่ช่วยออกหน้าให้ หน่วยราชการอื่น ๆ ก็ต้องมาเองโดยอัตโนมัติ เป็นการเห็นอย่างชัดเจนว่า บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการของเรานั้น ทำงานด้วยกันเป็นอย่างดียิ่ง ครั้นทำการปิดงานประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาท และทำบุญอุทิศอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง ๗ หัวเมืองแล้ว กระผม/อาตมภาพเข้าไปในวัด ปรากฏว่ายังไม่ทันจะ ๒ ทุ่มดี จึงต้องนำญาติโยมทั้งหลายทำการเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา ครั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้ไปดูไฟ ซึ่งเกิดจากการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ซึ่งปีนี้พระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร. อดีตเจ้าสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ได้ออกแบบเป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ มีลิงและช้างกำลังถวายน้ำและรวงผึ้ง แล้วแถมยังได้แนวคิดของท่านภีม (พระกวีวัธน์ สทฺทาธิโก) ซึ่งสองครั้งหลังนี่ ขอยึดพื้นที่หน้าอุโบสถ แปรรูปแปรอักษรออกมาได้งดงามกว่าเดิมหลายเท่า ก็ต้องขอบคุณบรรดาพระภิกษุของวัดท่าขนุน ที่ร่วมใจกันวางผางประทีป ร่วมใจกันนำญาติโยมเวียนเทียน แล้วยังต้องร่วมกันทำความสะอาดอีกด้วย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2025 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว ถึงเวลาตี ๓ กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งมาวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ส่วนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือพลขับประจำตัว น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) เพราะว่าไปก้ม ๆ เงย ๆ แก้ไขการวางผางประทีปเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางป่าเลไลยก์ ผุดลุกผุดนั่งจนกระทั่งแข้งขาอ่อน ทำให้กระผม/อาตมภาพไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะไปได้รอดปลอดภัยหรือไม่ ?
แต่ว่าคุณเธอก็กัดฟันทำหน้าที่จนไปส่งที่วัดไร่ขิงได้ทันทำวัตรเช้า ทำเอาบรรดาผู้บังคับบัญชาและผู้เข้าอบรมทำหน้างงเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าดูในเฟซบุ๊ก เพิ่งจะโพสต์รูปลงไปให้ดูว่าตามประทีปแปรรูปแปรอักษรออกมาสวยงามอย่างไร ? ปรากฏว่ายังไม่ทันไร เจ้าของงานมาร่วมสวดมนต์ไหว้พระแล้ว พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) หรือว่าหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ยังปรารภกันบรรดาผู้เข้าอบรมว่า "ให้ดูตัวอย่างที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีด้วย งานของท่านก็มาก แล้วอายุของท่านก็มากเช่นกัน แต่ว่านอกจากท่านจะถวายเงินมาสนับสนุนโครงการ ให้พวกท่านได้อยู่อบรมกันอย่างชนิดอยู่ดีกินดีถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาทแล้ว ท่านยังมาร่วมสวดมนต์ทำวัตรทุกครั้งที่มีเวลาว่าง จะไปหาพระสังฆาธิการที่ให้ใจกับพวกท่านขนาดนี้ได้ที่ไหนอีก ?" ครั้นเมื่อฉันเช้าเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็กราบขอตัว เนื่องเพราะว่าได้นัดกับคุณนายปุ๊ก (นางสาวพิกุลฉัตร พิจารณ์จิตร) และคุณนายโย (นางสาวทัศน์วรรณ พิพัฒน์รังสรรค์) ซึ่งทั้งสองท่านไปซื้อเอาเสื้อกันหนาวจากยุโรปมาให้ บอกว่าสามารถป้องกันอากาศติดลบได้ และเป็นเสื้อตัวบาง ใส่อยู่ข้างในก็ได้ ถ้าอากาศไม่หนาวหนักจนเกินไปจะใส่เป็นตัวนอกก็ได้ และแถมยังขนเอาข้าวปลาอาหารมาถวายเพลอีกมากมายมหาศาล พอที่จะเลี้ยงทหารทั้งกองทัพ..! แต่กระผม/อาตมภาพรับเอากล้วยหักมุกเผามา ๓ ผลเท่านั้น ฉันเป็นอาหารกลางวัน แล้วหลังจากนั้นพักผ่อนครู่หนึ่ง ก็ต้องวิ่งไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ซึ่งเจ้าประคุณเถอะ..วันนี้รถติดสาหัสสากรรจ์ดีนักแล..! เมื่อไปถึงปรากฏว่าบรรดาพระเกจิอาจารย์ที่เขานิมนต์ในงานนี้มีแค่ ๖ รูปเท่านั้น ที่คุ้นเคยกันอย่างยิ่ง ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณอิฏฐ์ (พระสมุทรวชิรโสภณ วิ.) วัดจุฬามณี ซึ่งท่านเองนอกจากจะมาก่อนเวลาแล้ว ยังคุยถึงเรื่องเก่า ๆ ในสมัยที่ท่านเริ่มเป็นเจ้าอาวาสใหม่ ๆ ต้องไปขอหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ช่วยทำนายให้ว่าการสร้างท้าวเวสสุวรรณแทนพระนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ? เมื่อได้รับคำรับรองว่ามาถูกทางแล้ว ต่อไปจะพาให้วัดเจริญรุ่งเรืองได้มาก ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อ แต่ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่หลวงพ่อท่านทำนายจริง ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2025 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
![]()
กระผม/อาตมภาพก็เล่าเรื่องหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ที่ธุดงค์ไปจนถึงสุโขทัยแล้ว พอได้ข่าวว่าหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี มีความรู้ความสามารถขนาดไหน ก็เปลี่ยนใจเดินทางกลับมา นั่งรถไฟออกไปแม่กลอง ไปอยู่ศึกษาวิชาการต่าง ๆ สายหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จากหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี
ครั้นมาถึงตอนหลวงปู่เนื่องมรณภาพ กระผม/อาตมภาพเองตอนนั้นก็ยังตกใจ เพราะว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงเข้าอุโบสถลงพระปาฏิโมกข์ด้วยกัน ท่านบอกว่า "น่าเสียดาย หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ท่านเป็นพระทองคำ แต่ว่าคนไม่ได้ไปขอฟังธรรมเลย มีแต่คนไปขอหวยกันทั้งนั้น..!" กระผม/อาตมภาพเองก็ยังรู้สึกว่าตนเองก็โง่ไปถนัดใจ เพราะว่าในสมัยเป็นฆราวาส พี่ก้อง (นายก้องเกียรติ เพชรชื่นสกุล) พี่ชายตนเองพาไปก็ไปขอหวยเช่นกัน..! แล้วหลวงพ่อท่านก็บอกว่าหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เป็นพระทองคำ คำว่าพระทองคำในความหมายของหลวงพ่อฤๅษีฯ คือผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบระดับสูงสุด มีคุณค่าเที่ยงแท้เหมือนทองคำที่ไม่เปลี่ยนแปลงอีกแล้ว กระผม/อาตมภาพเองก็ยังดีใจว่า ตนเองทันครูบาอาจารย์เกือบทุกรูปที่ได้กล่าวมา ครั้นถึงเวลาเขานิมนต์เข้าไปในวิหารหลวงพ่อโตพระศรีศากยมุนี เพื่อทำการปลุกเสกวัตถุมงคล ก็คือพระกริ่ง ๘๔ ปี พระพรหมวชิรมุนี และรูปพระสุนทรีวาณี กระผม/อาตมภาพกราบหลวงปู่เชิด - พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี (เชิด จิตฺตคุตฺโต ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคมแล้ว ก็เข้าที่ภาวนาอธิษฐานจิตตามหน้าที่ จนกระทั่งรูปของหลวงพ่อโตพระศรีศากยมุนีเคลื่อนมาอยู่บนกองวัตถุมงคล แล้วที่แปลกไปจากที่เคยมีก็คือ ปกติพอภาพพระมาก็จะขยายใหญ่ขึ้นจนกระทั่งคลุมกองวัตถุมงคลไว้ทั้งหมด แต่หลวงพ่อโตท่านยิ่งเคลื่อนมาก็ยิ่งเล็กลง ๆ จนกระทั่งเหลือประมาณองค์ ๙ นิ้วอยู่เหนือกองวัตถุมงคลเท่านั้น แต่ปรากฏว่าวัตถุมงคลทั้งหมดนั้น รวมแล้วยังอยู่ภายในฐานของท่าน เป็นแค่จุดเล็ก ๆ เท่านั้นเอง ก็เป็นเรื่องที่ท่านแสดงออกให้เห็นถึงความอัศจรรย์อย่างหนึ่งเช่นกัน..! ครั้นเสร็จพิธี ทำน้ำมนต์พรมรอบวัตถุมงคล และโปรยดอกไม้เป็นพุทธบูชา กราบลาหลวงพ่อโตพระศรีศากยมุนีแล้ว หลวงปู่เชิดท่านกลับไปพักผ่อนเสียก่อน จึงได้ลาบรรดาพระมหานาคที่ยังสวดพุทธาภิเษกไม่เสร็จ แล้วก็ฝ่ารถติดกลับสู่ที่พัก เตรียมที่จะเดินทางไปประเทศลาว ซึ่งทาง "เติมเต็ม ทราเวล" นัดเอาไว้ตี ๓ คืนนี้ จึงได้ทำการบันทึกเสียงระหว่างรถติด เพื่อไม่ให้ท่านทั้งหลายต้องรอฟังกันนาน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2025 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|