กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-12-2024, 19:06
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-12-2024, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ จากเสียงธรรมฯ เมื่อวานนี้ท่านทั้งหลายก็จะเห็นได้ว่าในส่วนของโลกอื่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วเขาเคารพกฎของกรรม ถ้าหากว่าไม่มีบุญสัมพันธ์ไม่มีกรรมสัมพันธ์กันแล้ว เขาก็จะปล่อยวาง ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย

จากที่ท่านสุวัณณนาคราชจะต้องโยงเรื่องไปจนถึงท่านมณิอักขินาคราชผู้เป็นนาย ก็เพื่อจะดึงเอากรรมสัมพันธ์ตรงที่ว่า กระผม/อาตมภาพได้ไปพบกับเจ้านายตนเองมา ๒ ครั้งแล้ว จะได้อ้างถึงเพื่อขอความช่วยเหลือในการร่วมบูรณะยอดพระบรมธาตุเชิงชุมในส่วนที่ ๔ ได้

เรื่องพวกนี้ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องกฎของกรรม ก็จะเกิดความสงสัยว่า "ทำไมถึงต้องดึงเรื่องยาวไปจนขนาดนั้น คุยกันตรง ๆ เลยไม่ได้หรือ ?" ขอบอกว่าถ้าไม่มีบุญสัมพันธ์ ไม่มีกรรมสัมพันธ์ให้อาศัยตรงนั้นแล้ว บางทีแม้กระทั่งการพบการเจอกันยังไม่มีโอกาสเลย..!

อย่างที่กระผม/อาตมภาพลงไปภาคใต้นับ ๑๐ ปี แต่ว่าก็ไม่ได้พบไม่ได้เจอเรื่องที่บรรดาโลกทิพย์บ้านโคกอิฐ ซึ่งมาขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งวาระกรรมของเขาทั้งหลายเหล่านั้นผ่านไป จึงได้มาขอให้กระผม/อาตมภาพบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ให้ช่วยกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะได้ไปเกิดเสียที..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเรื่องของวาระบุญวาระกรรมนั้น เหมือนกับวงกลมที่มีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่ละวงต่างมีช่องของตนเองอยู่ กว่าที่จะหมุนให้ช่องมาตรงกันได้นั้น บางทีก็เป็นระยะเวลาไม่กี่ปี บางทีก็ต้องเป็นระยะเวลาหลายสิบปี หลายครั้งก็เป็นระยะเวลาหลายชาติ..!

อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยเล่าเรื่องกรรมนิมิตว่า เคยเกิดเป็นนางสิงห์ไปล่าสัตว์ แม้ว่าจะเป็นไปโดยสัญชาตญาณ และต้องอาศัยเลือดเนื้อผู้อื่นในการดำรงชีวิตตัวเอง แต่ก็เป็นการเข่นฆ่าสังหารทำลายชีวิตของผู้อื่นอยู่ดี เมื่อถึงเวลาแล้ว กรรมส่วนนั้นจึงมาสนองในชาติปัจจุบันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2024 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-12-2024, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านจะเห็นว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพยังเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่เลย หลังจากที่มาเกิดเป็นคน และเพียรพยายามสร้างคุณงามความดีเอาไว้ ก็ห่างไกลจากการเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานมาเรื่อย ๆ จนนับชาติไม่ถ้วน กรรมที่ทำเอาไว้ในสมัยที่เป็นสัตว์เดรัจฉานเพิ่งจะมาสนองเอาได้ในชาตินี้ หรือว่าเคยเกิดเป็นนักรบในสมัยสามก๊ก ได้ทำลายชีวิตข้าศึก แล้วระยะเวลาที่ยาวนานหลายร้อยปีนั้น ก็เพิ่งจะมาโดนกรรมสนองในชาติปัจจุบัน เหล่านี้เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงต้องระมัดระวังให้ดี เพราะว่าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงสอนให้เราเชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าคนเราทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว เหล่านี้เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเราไม่สร้างคุณงามความดีให้ต่อเนื่องเอาไว้ ปล่อยให้ความชั่วส่งผลเมื่อไร ชีวิตของเราก็จะตกอับ ตกต่ำ หรือพูดง่าย ๆ ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าไปเลย..!

ตอนนั้นท่านจะมาอาศัยสิ่งหนึ่งประการใดเพื่อช่วยเหลือตนเองก็ไม่ทันเสียแล้ว เนื่องเพราะว่าอกุศลกรรมนั้นมีกำลังมากกว่า ก็ย่อมจะส่งผลไปจนกว่าที่จะหมดกำลังตรงนั้นลง แล้วจะมีกุศลกรรมเข้ามาแทรก หรือว่าจะโดนอกุศลกรรมอื่น ๆ ส่งผลต่อ ก็ต้องแล้วแต่ว่าท่านได้ทำกรรมประเภทใดเอาไว้บ้าง

ในกรรมทั้งหมด ๑๒ ประเภทที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ ไม่ว่าจะให้ผลตามความหนักเบา ให้ผลตามวาระ ให้ผลยักย้ายถ่ายเทในลักษณะสนับสนุนหรือตัดรอน มีเพียงอโหสิกรรมเท่านั้นที่ทำให้ท่านทั้งหลายได้หมดสิ้นกระแสลง ซึ่งตรงนั้น นอกจากโจทก์และจำเลยจะมาขอขมาต่อหน้ากัน แล้วต่างเอ่ยปากอโหสิกรรมต่อกันเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วก็เหลืออีกวิธีเดียว ก็คือปฏิบัติตนจนกระทั่งกลายเป็นพระอรหันต์ กรรมหนักทั้งหลายเหล่านั้นก็จะกลายเป็นอโหสิกรรมโดยสิ้นเชิง แต่ว่าเศษของกรรมนั้นก็ยังจะมาส่งผลให้กับท่านทั้งหลาย ถ้ายังทรงกายสังขารนี้อยู่

เรื่องของบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องสลับซับซ้อนของอีกโลกหนึ่ง ในเมื่อจำเป็นที่จะต้องต่อสายเพื่อให้เข้าถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างกรรมดีหรือว่ากรรมชั่วก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์เก่าประการหนึ่ง สามารถอ้างอิงถึงจนกระทั่งได้อาศัยกระทำบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์ใหม่อีกทางหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2024 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-12-2024, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนนี้ที่ท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมบุญ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองหลวงพ่อโต วัดศรีธรรโมทยะ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกาก็ดี ร่วมบูรณะยอดพระบรมธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร ในส่วนที่ ๔ ขององค์พระบรมธาตุก็ตาม เมื่อท่านบูชาเอาพระขุนแผนเกราะเพชรไปแล้ว อย่าลืมว่าทางด้านโน้นเขาจำเฉพาะพระ ไม่ได้จำว่าท่านทำบุญตรงนี้ เนื่องเพราะว่าถ้าไปจำในส่วนบุญแล้ว ท่านอื่นที่แทรกเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับองค์พระไป ก็อาจจะมาอ้างถึงตรงนี้ได้

ก็แปลว่าถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้มีพระขุนแผนเกราะเพชรติดตัวไป อีกฝ่ายหนึ่งก็อาจจะทำไม่รู้ไม่ชี้ ขี้เกียจรับภาระของท่านไปเลย ในส่วนของกระทู้ที่ร่วมฉลองและบูรณะ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อโตหรือว่าองค์พระบรมธาตุเชิงชุมก็ตามจะหมดสิ้นลงแค่นั้น ไม่ว่าจะจำนวนพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดทองคำ หรือว่าตะกรุดนากก็ตาม

ส่วนที่ท่านทั้งหลายคิดไม่ถึง แต่ถ้าคิดถึงจะรู้สึกอัศจรรย์ก็คือ ทำไมทางด้านโน้นถึงได้รู้ว่ากระผม/อาตมภาพมีวัตถุมงคลชุดนี้เหลืออยู่ ? แล้วสามารถที่จะระบุยอดลงมาอย่างชัดเจนได้ด้วย โดยเฉพาะพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดนากนั้น หมดเพียงแค่นั้นจริง ๆ ส่วนที่เหลือก็คือพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดทองคำ กระผม/อาตมภาพยักย้ายถ่ายเทส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะไป
ร่วมทอดผ้าป่าสร้างโรงเรียนการกุศลสุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัย จังหวัดเพชรบุรี ในส่วนประถมศึกษา ซึ่งได้ให้ทุนเริ่มต้นไปไว้แล้ว

แล้วในขณะเดียวกัน ในส่วนนี้นอกจากจะเป็นวิหารทานก็คือสร้างโรงเรียนแล้ว ยังเป็นในส่วนของธรรมทาน ก็คือสร้างเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้ด้วย แปลว่ากุศลบุญใหญ่ตรงจุดนี้ ท่านสามารถที่จะอ้างอิงและอุทิศส่วนกุศลให้ท่านมณิอักขินาคราช ตลอดจนกระทั่งบริวารทั้งหลาย แล้วขอความสะดวกปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปประเทศศรีลังกา หรือว่าเดินทางไปสักการะองค์พระบรมธาตุเชิงชุมก็ตาม เนื่องเพราะว่าบุญใหญ่แบบนี้ ในโลกอื่นเขาต้องการทั้งสิ้น มีแต่พวกเราเท่านั้นที่บางทีก็นึกไม่ถึง เนื่องเพราะว่าการสร้างบุญสร้างกุศลในพระพุทธศาสนานั้น ต้องยกวิหารทานและธรรมทานเป็นที่สุด

ความจริงถ้ากล่าวถึงในมหากัมมวิภังคสูตรนั้น จักสิ้นสุดลงแค่วิหารทานเท่านั้น ก็คือการที่ได้ถวายสังฆทานเป็น ๑๐๐ ครั้ง ก็สู้วิหารทาน ๑ ครั้งไม่ได้ เพียงแต่ว่ามีบาลีเสริมมาว่า สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ การให้ธรรมเป็นทานนั้นชนะทานทั้งปวง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2024 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 21-12-2024, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราท่านก็ต้องเข้าใจว่า ธรรมทานนั้นก็คือการให้ความรู้ทุกประเภท แม้กระทั่งต่ำสุดคือความรู้ทั่วไปในการสอน ก.ไก่ ข.ไข่ ให้กับเด็ก ๆ ก็ดี ตลอดจนกระทั่งธรรมทานสูงสุด ก็คือให้ความรู้ในการปฏิบัติธรรมจนเป็นพระอริยเจ้าหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานก็ตาม จัดอยู่ในส่วนของธรรมทานทั้งสิ้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วิหารทานบวกกับธรรมทานจึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะสร้างกันง่าย ๆ และโรงเรียนการกุศลสุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัยนั้น ก็สร้างมาหลายสิบปีเต็มที เปลี่ยนผู้ถือครองใบอนุญาตโรงเรียนการกุศลในพระพุทธศาสนามาจนถึงท่านเจ้าคุณกล้า - พระวชิรวาที, ผศ., ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ วรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ก็ถือว่าเป็นรูปที่ ๕ เข้าไปแล้ว

ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าร่วมบุญตรงส่วนนี้ ก็จะได้มีส่วนของบุญใหญ่ และรับเอาพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดทองคำชุดสุดท้ายไป ก็แปลว่าหมดเกลี้ยงจากคลังวัดท่าขนุนโดยสิ้นเชิงแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าใครเร็วใครได้ กระผม/อาตมภาพเองก็คงต้องหาเอาไว้ติดตัวบ้างเหมือนกัน เพราะว่าท่านบอกแล้วว่า "จำพระไม่จำคน" ในเมื่อจำพระไม่จำคน ก็จำเป็นที่จะต้องมีพระติดตัวเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว