|
กระทู้ธรรม รวมข้อธรรมะจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติ |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๑.
หากจิตเกาะงานทางโลก ตายแล้ว.. ตายอีก ก็ต้องกลับมาทำงานนั้นใหม่ อย่างไม่รู้จบ |
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๒.
ถ้าไม่ฝืนความจริงเสียอย่างเดียว จิตก็สงบ วางอารมณ์ ยอมรับกฎของกรรมได้ หากทำได้ก็เรียกว่าเข้าถึงอริยสัจ จักพ้นทุกข์ได้ก็ที่ตรงนี้ |
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๓.
บุคคลใดใช้ปัญญาพิจารณากฎของกรรมตามความเป็นจริงแล้ว จักได้ชื่อว่าเข้าถึงอริยสัจ สามารถตัดสังโยชน์ได้ง่าย |
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๔.
กฎของกรรมหรืออริยสัจนั่นแหละ ตัวเดียวกัน ให้รู้ว่าโลกนี้เป็นทุกข์ โลกนี้ไม่เที่ยง ยึดถืออันใดมิได้ กฎของกรรมเกิดขึ้นมาได้เพราะเรายึดถือทุกข์ |
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#125
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๕.
หลักการของการปฏิบัติธรรม จักต้องรู้อารมณ์อยู่ตลอดเวลา ได้บ้าง ตกบ้าง ก็ไม่เป็นไร เพราะการกำหนดรู้อารมณ์ คือผลของการปฏิบัติ และผลจักเป็นของจริง ต้องถูกกระทบก่อนเสมอ แล้วจบลงที่ว่ามันทุกข์ มันเป็นอริยสัจ |
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#126
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๖.
ให้พิจารณาว่า อะไรเกิดขึ้นเป็นที่ขัดข้องแล้ว ล้วนแต่เป็นความทุกข์ทั้งสิ้น นี่คืออริยสัจหรือกฎของกรรม |
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#127
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๗.
บุญบารมีเต็ม คือรักษาไว้ซึ่งกำลังใจให้เต็ม อยู่ในการตัดสังโยชน์เป็นปกติ ทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพานจุดเดียว เอาทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมฐานหมด |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#128
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๘.
จิตที่เย็นสนิท คือจิตที่พิจารณากฎของกรรม แล้วยอมรับความเป็นจริงของขันธ์ ๕ โดยไม่ดิ้นรน |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#129
|
|||
|
|||
![]() ๑๒๙.
บุคคลใดที่ต้องการจักไปพระนิพพานในชาตินี้ บรรดาเจ้าหนี้เก่า ๆ ก็จักตามทวงตามเล่นงานอย่างไม่ลดละ หากทนไม่ได้ก็ไปไม่ได้ ต้องวางอารมณ์ยอมรับกฎของกรรมให้เป็นธรรมดาให้ได้ การพ่ายแพ้เป็นของธรรมดา แต่จงอย่าถอย จิตก็จักไม่ดิ้นรนมาก ไม่ช้าไม่นาน กฎของกรรมก็จักคลายตัวไปเอง |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#130
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๐.
ทุกอย่างที่ทำให้จิตมีอารมณ์กังวลอยู่ ล้วนแต่เกี่ยวเนื่องด้วยการเกาะติดขันธ์ ๕ ทั้งสิ้น เช่น เศรษฐกิจไม่ดี, การเจ็บป่วย ต้นเหตุ เพราะจิตไม่ยอมรับนับถือกฎของกรรม |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#131
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๑.
ใช้ทุกขเวทนาให้เป็นประโยชน์ เอาทุกข์นั่นแหละ สอนจิตให้ยอมรับความไม่เที่ยงของโลก และขันธโลก (ร่างกาย) ทุกขสัจหรือทุกข์กาย ต้องกำหนดรู้จึงจักรู้ว่าเป็นทุกข์ แล้วลงตัวธรรมดา ว่ามันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้เอง ไม่มีใครฝืนได้ |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#132
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๒.
การเจ็บป่วยจึงเป็นของดี จักได้ไม่ประมาทในความตาย เพราะไม่มีใครเอาสมบัติของโลกไปได้ รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน เป็นทางลัดเข้าสู่พระนิพพานได้ง่าย ๆ |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#133
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๓.
การรู้เป็นเพียงแค่เข้าใจเท่านั้น ของจริงอยู่ที่ผลของการปฏิบัติ การรู้คือมรรค การปฏิบัติเพื่อตัดโกรธ-โลภ-หลง คือผล |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#134
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๔.
จิตฟุ้งอยู่ในสัญญา เพราะมัวไปยุ่งกับเรื่องของผู้อื่น จิตชอบจำแต่ความเลวของผู้อื่น อันเป็นภัยที่กลับมาทำร้ายจิตตนเองให้เศร้าหมอง ขาดเมตตากับกรุณาจิตตนเอง ชอบจุดไฟเผาตนเอง |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#135
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๕.
ฟุ้งเลว ให้แก้ที่ฟุ้งดี จำเลวให้แก้ที่จำดี ฟุ้งออกนอกตัวเป็นกิเลส ฟุ้งอยู่กับตัวเป็นพระธรรม หากฟุ้งเข้าหาอริยสัจ เข้าหาพระธรรมเป็นธัมมวิจัย.. ไม่ใช่นิวรณ์ |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#136
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๖.
ฟุ้งเรื่องอะไร ให้พยายามแก้เรื่องนั้น โดยใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหา หากแก้ไม่ไหว จงใช้อานาปานุสติเข้าระงับจิตให้สงบ แล้วจึงใช้อริยสัจ ธรรมของตถาคตต้องหยุดอารมณ์จิตให้สงบก่อน จึงจักเห็นการเคลื่อนไหวของกิเลสได้ตามความเป็นจริง |
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#137
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๗.
จิตของผู้มีปัญญา จักเป็นจิตที่รู้เท่าทันความจริงในอริยสัจอยู่เสมอ พระอรหันต์ท่านทรงอธิปัญญา ก็อยู่ที่ตรงนี้ |
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#138
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๘.
อย่าหนีความโกรธ เพราะเป็นกิเลสที่ต้องละด้วยสมถะและวิปัสสนา (กสิณ ๔ และพรหมวิหาร ๔) ให้คิดว่าคือครูทดสอบอารมณ์จิต จึงต้องแก้ที่จิตตน อย่าไปแก้ที่บุคคลอื่น |
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#139
|
|||
|
|||
![]() ๑๓๙.
พุทธานุสติอย่าทิ้งไปจากจิต เมื่อรู้ว่าอารมณ์โทสะจริตยังเด่นอยู่ จงอย่าทิ้งพระ อย่าไปไหนคนเดียว อย่าอยู่คนเดียว ให้อยู่กับพระ พระอรหันต์ทุกองค์ท่านยังไม่ทิ้งพระ แล้วเราเป็นใคร |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#140
|
|||
|
|||
![]() ๑๔๐.
การพิจารณาร่างกายอยู่เสมอ เป็นอุบายไม่ให้จิตส่งออกนอกกาย เป็นวิปัสสนาญาณที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา เป็นอริยสัจ ให้ดูอาการของจิต ที่เกาะติดร่างกายนี้ว่าเป็นเราเป็นของเรา นี้แหละเป็นสำคัญ |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|