อานิสงส์ของการนอนฟังธรรม กับอานิสงส์ของการจัดบวชพระ

[ทิดตู่]

ถาม อานิสงส์ของการนอนฟังธรรม กับอานิสงส์ของการจัดบวชพระ ?

ตอบ การนอนฟังธรรมก็ต้องดูด้วยว่าใจเราไปอยู่ที่จุดไหน ถ้าหากว่าสามารถน้อมใจไปตามธรรมได้ ธรรมะนั้นบอกให้ปฏิบัติอย่างไร เราน้อมจิตน้อมใจไปตามนั้นได้ ตัดสินใจว่าเราจะทำดังนั้น เราจะเป็นอย่างนั้น เราก็จะได้ความดีไปตามแต่ลำดับของกำลังใจที่เราทำอยู่

ถ้าหากว่าไม่ได้อะไรเลย ฟังธรรมแล้วหลับไปเฉย ๆ ตอนนั้นจิตเกาะความดีอยู่ ถึงตายก็ยังไปในที่ดีได้

การบวชพระ ถ้าหากเป็นการบวชที่เรียกว่า ไม่ได้เบียดเบียนคนอื่นเขา ไม่ได้เลี้ยงเหล้าไม่ได้เลี้ยงยาที่ผิดศีลธรรม อานิสงส์นั้นผู้บวชถ้าเกิดเป็นเทวดา จะมีอานิสงส์อยู่ได้ ๖๐ กัป ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ได้อานิสงส์นั้น ๓๐ กัป ผู้ที่เป็นเจ้าภาพได้อานิสงส์ ๑๕ กัป คนที่ไปช่วยงานได้อานิสงส์ ๘ กัป

แค่ ๘ กัป ก็อยู่กันจนลืมโลกแล้ว นี่แค่บวชสำเร็จเป็นพระเฉย ๆ ถ้าหากว่าเขาสามารถทำความดีเป็นพระอริยเจ้าได้ ก็ยิ่งมีอานิสงส์มากขึ้นอีกเป็นหลายเท่า

จากหนังสือ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๖๔ เดือนมิถุนายน ๕๒ หน้าที่ ๖๓

[เถรี]

พูดถึงเรื่องการฟังธรรม ต้นเดือนที่ผ่านมามีคนมาถามปัญหาหลวงพ่อ ประมาณว่า เวลาท่านเมตตาเทศน์ให้ฟังแล้วทำเป็นไม่สนใจ เขาถามว่าจะเกิดโทษหรือไม่ ?

หลวงพ่อบอกว่า ถ้าหากว่าตั้งใจฟัง น้อมจิตอยู่ในธรรมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัย

และอีกอย่างหนึ่งที่เถรีพอจะจำได้ก็คือ เวลาพระท่านแสดงธรรม ถึงแม้ในที่นั้นจะมีพระรูปอื่นอยู่ด้วยก็ตาม ท่านจะไม่แสดงธรรมแข่งกัน ท่านจะให้เกียรติกัน แม้แต่ฆราวาสก็เช่นเดียวกัน เถรีเคยเห็นหลวงพ่อดุพวกที่คุยเสียงดังจนกลบเสียงเวลาท่านเทศน์