#1
|
|||
|
|||
![]()
จิตติดบุญ ดีกว่าจิตติดบาป
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้ ๑. “จิตติดบุญนั้นก็ยังดีกว่าจิตติดบาป จักไม่ให้ติดอะไรเลยนั้นเป็นอารมณ์ของพระอรหันต์ ทุกคนยังเข้าไม่ถึงจึงยังไม่สมควรพูดในที่นี้” ๒. “การละพันธะ-ภาระ และหน้าที่โดยเอากายไปทำแต่จิตไม่ติดนั้น มีแต่พระอรหัตผลเท่านั้นที่จักทำได้ จึงเป็นธรรมดาอยู่ดีในเรื่องจิตติดบุญนี้” ๓. “ในอดีตเจ้าจำได้ไหมที่เจ้าคิดว่าจักตัดจิตติดบุญนี้ให้ได้ ถูกท่านฤๅษีลองเอาทีเดียว เรื่องบุญสับผักตบเลี้ยงปลา เจ้ายังสอบตกรีบกระวีกระวาดไปทำทันใด” ๔. “เวลานี้ ทุกคนต่างศึกษากันมาพอประมาณแล้ว จึงพึงกำหนดรู้สิ่งไหนควรติด สิ่งไหนควรละ แม้ละได้ชั่วคราวก็ยังดี เพราะตราบใดที่ยังไม่ถึงพระอรหันต์ ก็ยังวางไม่ได้สนิทหรอก” ๕. “แต่อย่าลืมนะ พระอรหันต์ท่านยังทำบุญอยู่ ทำอย่างหนักด้วย คือทั้งให้ธรรมเป็นทาน ทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ทำบุญร่วมกับท่านด้วย การไม่ติดในบุญของท่าน มิใช่ไม่ทำบุญทำทาน จิตใจของท่านไม่คับแคบ ท่านเปิดกว้างไว้เสมอ ให้ทุก ๆ คนได้มีอานิสงส์ร่วมกับท่าน ให้มองจุดนี้เข้าไว้” ๖. “ปุถุชนไม่ทำบุญเพราะตระหนี่ขี้เหนียว แต่พระอริยเจ้าท่านทำบุญตลอด แต่เพื่อตัดความโลภ และเพื่อตัดความไม่ติดในบุญที่ทำนั้น ๆ ต่อไปในภายหน้า” ๗. “การเห็นทุกข์อันเกิดจากการทำบุญ ถ้าดูให้ชัดด้วยปัญญา คือ ทำบุญทำทานโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็เป็นการเบียดเบียนตนเองได้ นี่ก็เป็นธรรมดา เพราะอาศัยศรัทธาแต่ขาดปัญญา จึงทำตนให้เดือดร้อนในผลของบุญทานนั้น ๆ” ๘. “ถ้าพิจารณาก่อนทำบุญ ทำทานนั้นสักนิด ด้วยปัญญาก็จักไม่มีปัญหาอย่างนี้เกิดขึ้นแต่ประการใด” ๙. “พวกเจ้าก็ดูเอาไว้เป็นบทเรียน นิสัมมะ กรณัง เสยโย พิจารณาเสียก่อนแล้วจึงทำ ไม่ผิดหวังแน่” ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘ รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 16-06-2011 เมื่อ 10:38 |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|