#141
|
||||
|
||||
ดีค่ะ เจอนักท่องเที่ยวแบบนี้ พี่รัตน์จะได้ผอม ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#142
|
|||
|
|||
ทุกวันนี้ก็ผอมแล้ว
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 24-04-2010 เมื่อ 10:53 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#143
|
|||
|
|||
ดูนก ภาคสอง (บ่นไปตามเรื่อง)
คุณ ๆ รู้หรือเปล่าครับว่า กระผมแก้ปัญหาอย่างไร แขกได้ดูนกแต้วแล้วธรรมดาจริง ๆ คาตากันเลย แต่ผมก็ยังงงว่า สายตาฝรั่งไม่ดีเท่าสายตาคนไทยหรืออย่างไร นกยืดอกให้ถ่ายภาพ พี่แกยังมองไม่เห็น อธิบายตำแหน่งกันอยู่นานจน นกบินไปแล้ว......เวร! ผมเองไม่ใช่ผู้ที่ชำนาญการเป็นพิเศษอะไร อาศัย "ใจกล้า หน้าด้าน" เท่านั้นครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ กระผมขอบารมีพระท่านช่วยตลอด ในแต่ละพื้นที่ที่ทำงานก็พยายามจับภาพพระให้พอเบา ๆ เอาสบาย ๆ ในจิต ถือเป็นการทำกรรมฐานแบบลืมตาครับ แล้วก็อุทิศบุญถวายเทวดา และขอบารมีเทวดาท่าน ให้ท่านช่วยให้ท่านสงเคราะห์ งานนี้ตื่นตั้งแต่ตีสี่แทบทุกวัน เพราะต้องออกดูนก กันตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งแต่หกโมงเช้า ไล่ไปจนสิบเอ็ดนาฬิกา จึงตั้งใจทำกรรมฐานก่อนออกไปทำงานทุกครั้งครับ ส่วนวัตถุมงคลนั้น พกไปเต็มอัตราศึก เพราะไปอยู่ในพื้นที่ต่างศาสนา งานนี้ไม่ประมาทเป็นดีที่สุด หลังกรรมฐานทุกครั้งก็ ตั้งใจอุทิศให้ก็เหล่าเทวดาและความเป็นทิพย์ในบริเวณนั้น ๆ แต่เท่าที่กระผมเดินป่าเข้าไปในพื้นที่ต่าง ๆ มานั้น ต้องขอบอกว่า "บึงลับแล" เป็นสถานที่ ที่สัมผัสถึงความเป็นทิพย์ของเทวดา รุกขเทวดา ได้มากที่สุดเท่าที่กระผมเคยสัมผัสได้มา (อันนี้เป็นความคิดเป็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณครับ อย่าใช้ "ยานโตงเตง" แบบกระผม.....) เจอฝรั่งด่าเป็นชุดเหมือนกันครับ เวลาเขาไม่เห็นนกที่เขาต้องการ แต่วันไหนที่เขาเจอนก ที่เขาประทับใจ เขาก็ชม...เวร! ผมเองก็แทบจะประทับทรงหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน กะว่าจะทรง "นายขนมต้ม" ครับ นี้แหละครับ ด้วยความพยายามและด้วยการข่มจิตข่มใจด้วยธรรมะ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อย ๆ บรรเทาลงอย่างมีสติ ผมพาลงเรือแคนนู ไปดูนกบริเวณ คลองสก ตั้งแต่เช้าตรู่ สองวัน ด้วยความสวยงามขอธรรมชาติยามเช้า สายน้ำไหลเอื่อย ๆ หมอกจาง ๆ และควัน ตัดกับทิวเขาหินปูนรูปทรงประหลาด เสียงนก เสียงชะนี ร้องกันระงม ธรรมชาติบ้านเราที่ยังดีก็มีอยู่ แต่น่าเสียดายที่เสียหายไปก็มาก............ "มีสติกับขาดสติ มันอยู่ห่างกันนิดเดียวเท่านั้นครับ" เท่าแต่ว่าเราจะเลือกอยู่ทางด้านไหนครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 27-04-2010 เมื่อ 15:49 |
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#144
|
|||
|
|||
อย่างหนึ่งที่กระผมมีความรู้สึกโดยความคิดเห็นส่วนตัว ขอย้ำว่าโดยความคิดเห็นส่วนตัวครับ ว่าในป่าหรือในพื้นที่ใดก็ตาม ที่บุคคลในพื้นที่นั้น ขาดความเคารพในพระรัตนตรัยแล้ว พื้นที่นั้นหาความเจริญทางจิตใจของผู้คนได้ยากจริง ๆ
วันที่ห้าของการดูนก ได้ผ่านไปที่วัดถ้ำวราราม เห็นความเจริญคืบหน้าของการปรับปรุงศาลาการเปรียญให้เป็นพระอุโบสถแล้ว ก็สร้างความชื่นใจเป็นยิ่งนัก บุญที่ทุกท่านได้ร่วมสร้าง ก่อร่างสร้างผลให้เห็นเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน เสียที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปดูภายใน ว่ามีการปรับปรุงไปถึงไหน......ฝรั่งเขารีบไปดูนก งานนี้กระผมต้องยอมรับว่า กระผมขาดความชำนาญในเรื่องการหา "นกแต้วแล้วทุกชนิด" ขอย้ำว่า ฝรั่งท่านนี้เขาต้องการดู "นกแต้วแล้วทุกชนิด" ในโลกนี้มีนกแต้วแล้ว ๑๒ ชนิด ในประเทศไทยพบ ๖ ชนิด ในเขตพื้นที่ป่าใหญ่แห่ง เขาประ-บางคราม งานนี้เลยต้องขอคุยกับฝรั่งกันแบบเจอกันครึ่งทาง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด กระผมเองยอมจ่ายค่าแรงของกระผมในส่วนที่เหลือนับเป็นวันกันไปเลย เพื่อจะไปจ้างนักวิจัยที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาประ-บางคราม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เพื่อให้ผู้ที่มีความชำนาญในพื้นที่และรู้ข้อมูลในเชิงลึก เป็นผู้พาแขกไปดูนกแทน ซึ่งนี่คือความรับผิดชอบของกระผม ที่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับแขกและด้วยความเข้าใจว่า เขาข้ามน้ำข้ามทะเลมา ก็เพื่อความประสงค์ในการถ่ายภาพนกชนิดนี้ งานนี้เงินค่าแรงส่วนของกระผมส่วนหนึ่ง ยังต้องจัดจ่ายเป็นสินน้ำใจในโครงการวิจัยนกแต้วแล้วท้องดำให้กับหัวหน้าอุทยานท่านด้วย ยังดีที่ยังมีการวิจัยนกประเภทนี้ เพื่อการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ สุดท้ายทุกอย่างก็จบด้วยมิตรภาพที่ดีและตั้งอยู่บนความสุขของทุก ๆ คน นี้คือการแก้ปัญหาแบบมีสติและดีที่สุดแล้วที่กระผมทำได้ในงานนี้
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 07-01-2012 เมื่อ 04:00 |
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#145
|
|||
|
|||
นึกถึงบทบาทของ "นายไข่" ในภาพยนตร์ "มหาลัยเหมืองแร่" ขึ้นมาเลยครับ
|
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#146
|
|||
|
|||
มหาลัยเหมืองแร่ เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง ที่ถ่ายทอดให้เห็นความเป็น "ปักษ์ใต้" ในยุคการทำเหมืองแร่ดีบุกที่เฟื่องฟูที่สุด ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้เห็นความหมายของคำว่า "ฝนพังงา ฟ้าภูเก็ต" คือสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้เลย ได้อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน ภาพเหล่านี้กำลังจะหายไปครับ เพราะฝนก็มาไม่ถูกต้องตามฤดูกาลเหมือนแต่ก่อน ฟ้าใส ๆ ที่ภูเก็ตก็กำลังเปลี่ยนไป เพราะสภาพของสวนยางโดนแทนที่ด้วยหมู่บ้านและคฤหาสน์หลังโต ๆ ราคาแสนแพง ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด เพื่อรอขายเอากำไรจากชาวต่างชาติ ได้มาแต่เม็ดเงินที่ตกอยู่เฉพาะในกลุ่มนายทุน แต่สูญเสียอะไรต่อมิอะไรไปอีกหลายอย่าง ที่ยากจะหวนคืนได้
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#147
|
|||
|
|||
ขออภัยขอรับ มันมีความรู้สึกร่วมไปกับบทภาพยนต์ "นายไข่" ในเรื่องมหาลัยเหมืองแร่ มากไปหน่อยขอรับว่าจะเขียนเรื่อง "ธรรมะของนกโพระดก" ก็กำลังเตรียมขอข้อมูลอยู่ขอรับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 27-04-2010 เมื่อ 16:08 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#148
|
|||
|
|||
เอามงคลสูตรให้จบก่อนดีไหมพี่ อิอิอิ...
|
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#149
|
|||
|
|||
ถ้าจะเรียน "สูตรน้ำอัดลมโบราณ" เอาดอกไม้ธูปเทียนมาด้วยนะครับ พร้อม "โคโยตี้" มาเต้นแก้บนหนึ่งชุดใหญ่ครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#150
|
|||
|
|||
เอาขุนแผนโคโยตี้ก็จะดีกว่านะครับท่านพี่...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เทวคันธี : 29-04-2010 เมื่อ 08:28 |
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#151
|
|||
|
|||
แทบทุกวันตอนเช้าก่อนแปดโมง ผมจะนำปิ่นโตรุ่นเก่าแบบสังกะสี ขับ "รถเครื่อง" (ภาษาท้องถิ่นของภูเก็ต ที่ใช้เรียกรถจักรยานยนต์) ขับออกจากบ้านไปคนเดียวบ้าง ถ้าโอกาสดีก็ไปทั้งครอบครัว แวะซื้ออาหารแล้วนำไปตักบาตรถวายหลวงพี่
ทัดฤทธิ์: หลวงพี่ครับ วันพระนี้น้ำมันตามประทีปพอหรือไม่ขอรับ หลวงพี่ : เอาตามมีตามเกิดนะโยม ทัดฤทธิ์: กระผมนำรูป หลวงพ่อเงินไหลมาไปลงในกระทู้แล้วขอรับ ขอบารมีท่านช่วยขอรับ ต่อไปเรื่องน้ำมันตามประทีป หลวงพี่จะได้เบาใจได้ขอรับ หลวงพี่: บารมีองค์สมเด็จท่านช่วยอยู่แล้วโยม นั้นสิ! เวลาอาตมาไปเช็ดทำความสะอาดหรือไปกราบใกล้ ๆ พระองค์ท่าน อาตมารู้สึกอยู่........... ทัดฤทธิ์: หลวงพ่อเล็กสอนพวกกระผมเสมอว่า ให้ช่วยกันทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา อย่ารอให้เป็นแต่หน้าที่ของพระของเณร เราเป็นฆราวาสก็ช่วยได้ หลวงพี่: สาธุ พุทโธ ๆ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 06-05-2010 เมื่อ 04:19 |
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#152
|
|||
|
|||
มันน่าจะเปลี่ยนเป็นชื่อ "เทวขันที" นะครับท่าน
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#153
|
|||
|
|||
.....ขอบคุณที่แนะนำนะพี่...
|
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#154
|
|||
|
|||
อุตตรเถราปทานที่ ๖ (๕๕๖)
ว่าด้วยบุพจริยาของพระอุตตรเถระ [๑๔๖] พระผู้มีพระภาคสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สุเมธะ ทรงประกอบด้วยพระวร- ลักษณะ ๓๒ ประการ ทรงพอพระทัยในความ วิเวกเสด็จเข้าไปยังหิมวันตประเทศ พระมุนี ผู้เป็นบุรุษสูงสุด ทรงประกอบ ด้วยพระกรุณา ผู้เลิศ ครั้นถึงหิมวันตประเทศ แล้ว ประทับนั่งขัดสมาธิ. ในกาลครั้งนั้น ข้าพเจ้า เกิดเป็นวิทยาธร สามารถแม้เหาะไปในอากาศได้ ถืออาวุธวิเศษ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เทวคันธี : 06-05-2010 เมื่อ 13:45 |
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#155
|
|||
|
|||
คือตรีศูลอันคมฉกาจนัก ในเวลานั้น ข้าพเจ้า กำลังเหาะท่องเที่ยวไปในอัมพร. พระพุทธเจ้า ทรงยังป่าหิมวันต์ให้สว่าง กระจ่างแจ้งอยู่ เสมือนกองไฟที่ลุกโพลงอยู่บน ยอดภูเขา เสมือนแสงแห่งดวงจันทร์ที่กำลังเต็ม ดวง หรือเสมือนต้นพญาสาละที่มีดอกกำลังบาน เต็มต้นฉะนั้น. จิตของข้าพเจ้าเลื่อมใส เพราะได้เห็น พระพุทธเจ้า ผู้กำลังเสด็จออกมาจากป่า มีพระ- พุทธรังสีกำลังซ่านออก ดุจดังแสงไฟที่กำลังเผา ไหม้ป่าต้นอ้อฉะนั้น. ข้าพเจ้าได้ถือเอาดอกไม้ ๓ ดอก คือ ดอกทานตะวัน ดอกกรรณิการ์ และดอกเทว- คันธีมาบูชาพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐ. เพราะอานุภาพของพระพุทธเจ้า ในขณะ นั้น ดอกไม้ทั้งสามดอกของข้าพเจ้า ได้ทำขั้ว ขึ้นเบื้องบน เอาดอกลงเบื้องล่าง ทำเป็นดังร่ม บังเงาให้พระศาสดา. เพราะกรรมที่ข้าพเจ้า ได้กระทำมาดี แล้วนั้น ประกอบกับที่ข้าพเจ้าตั้งเจตนาไว้ดี ฯลฯ ที่มา พระไตรปิฎก ใน http://www.palungjit.com/tripitaka/d...hp?cat=7200285 ... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เทวคันธี : 06-05-2010 เมื่อ 13:44 |
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#156
|
|||
|
|||
วันเวลามันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน นี้ก็ใกล้วัน วิสาขบูชา เข้ามาแล้วทุกขณะ กระผมตั้งกระทู้เชิญชวนมหาชนถวายน้ำมันตามประทีป แต่ในอีกมุมหนึ่งของประเทศไทย ขวดแก้วใส่น้ำมันก๊าซแถมบรรจุเศษผ้าแล้วจุดไฟลอยว่อนไปกลางอากาศไปตามแต่วัตถุประสงค์ของผู้ขว้าง มันช่างเป็นมุมที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง........
ย้อนกลับมาดูผลกระทบแล้วมันจะมีงานมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องหรือไม่......มันก็ต้องพยายามพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ดีจะได้มีเวลาภาวนาให้เยอะ ๆ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคมจนถึง ๕ มิถุนายน เป็นเวลาเก้าวัน ที่จะได้ตั้งจิตตั้งใจในการตามประทีปบูชาพระรัตนตรัยและพระบรมสารีริกธาตุ ตลอดจนการปฏิบัติภาวนา ซึ่งกระผมเอง ก็กำลังวางแผนเรื่องของการปฏิบัติในช่วงเก้าวันนั้นควบคู่ไปด้วย หากกำลังใจมันเต็ม ก็ว่าจะถือศีลแปดเก้าวัน ก็คงจะได้นำเขียนบอกกล่าวเล่าให้ฟังตามเรื่องตามราวต่อไปครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 19-05-2010 เมื่อ 13:12 |
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#157
|
|||
|
|||
สรุปยอดเงินทำบุญถวายน้ำมันตามประทีป ๒๘,๕๗๕.๔๔ บาทครับ วันนี้กระผมได้สั่งซื้อ น้ำมันมะพร้าวตรากระต่ายขาวจำนวน ๔๗ ปี๊บ เรื่องที่น่าตกใจคือ ราคาปรับเป็น ๖๒๓ บาทต่อปี๊บ แต่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสบุญ ก็คือกระผมจะได้ร่วมทำบุญเพิ่มเติมอีกครับ พรุ่งนี้กระผมต้องขนน้ำมันทั้งหมดขึ้นท้ายรถกระบะ นำไปถวายท่านบนเขา การเตรียมงาน หรือหากจะพูดถึงการตามประทีปบูชาพระรัตนตรัยและพระบรมสารีริกธาตุนั้น โดยเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแล้ว ต้องมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการจัดเตรียมทำความสะอาดสถานที่ การทำความสะอาดโคมแก้วประทีปแต่ละดวง หลวงพี่ท่านสอนเสมอว่า "แก้วที่สะอาดโยมจะเห็นว่า เวลาตามประทีปนั้น แสงจะนวลสว่างใสสะอาดตา สะอาดใจ สำคัญนะโยม ได้อานิสงส์มากด้วย" กระผมเลยถือโอกาส ถวายโคมแก้วจำนวน ๑ โหล ก็ขอทุกท่านร่วมโมทนาครับ งานทุกอย่างหลวงพี่ท่านจะลงมือทำเอง จะมีลูกมือช่วยบ้างก็ตามแต่ว่าใครจะว่างขึ้นมาช่วย งานนี้เก้าคืน ก็ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะเร่งปฏิบัติภาวนา ช่วงนี้กระผมตื่นขึ้นไปปฏิบัติบนเขาตั้งแต่ตีสี่ สังเกตอารมณ์ใจหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า แต่ละวันที่ไปนั่งสมาธินั้น วันไหนวันพระหลวงพี่ท่านตามประทีปครบทุกดวง อารมณ์ใจที่นั่งภาวนากลางศาลาที่ตามประทีปก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง วันไหนที่หลวงพี่ตามประทีปแค่รอบ ๆ พระประธานอารมณ์ในการภาวนาก็เป็นอีกแบบ หลวงพี่ : "โยมนี่ถือว่ามายุคหลัง ๆ แล้ว เมื่อก่อนตอนทุ่มตรง หลวงพี่ต้องให้ญาติโยม ออกจากศาลาให้หมด ช่วงนั้นยุคบุกเบิก ความเป็นทิพย์ตรงนี้เขายังดุอยู่...แต่ถ้ากลางค่ำกลางคืนโยมจะขึ้นมาภาวนาก็มาได้ตามสะดวกเลยนะ มาเถอะถึงเวลาของโยมแล้ว ตั้งใจปฏิบัติได้แล้ว" ทัดฤทธิ์: และแล้วคืนหนึ่ง ช่วงตีห้ากว่า ๆ ช่วงที่กำลังภาวนา "แบบเข้าด้ายเข้าเข็ม" ซวบ! ซวบ! ซวบ! เสียงเหมือนฝีเท้าคนเดินแล้วก็หยุด ดังอยู่ในเขตแนวป่าทางด้านขวามือของผม ซึ่งปกติบางทีผมเกิดอารมณ์แบบอยากจะลองใจตัวเอง แทนที่จะนั่งหลับตา ผมก็ภาวนาแบบลืมตาแทน มองไปที่แนวต้นกล้วยป่า ซึ่งอยู่ข้าง ๆ แนวหน้าต่างบานใหญ่ ความมืดกับกอกล้วยกอใหญ่ แล้วอาบด้วยแสงจากดวงประทีปที่ส่องออกไป "โอ้...."มันพาจิตนาการกระเจิดกระเจิงไปต่อไหนถึงไหน "จิตที่ส่งออกแบบไร้สติ" อันนี้หลวงพ่อท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่าไม่ดี แถมในใจยังคิดแบบขาดสติอีก "ออกมาสิ พ่อจะเป็นลมให้ดู" แต่แล้วก็ไม่เจออะไรสักที แต่วันนี้เจอเสียงฝีเท้าเข้าไป อารมณ์มันกระเจิงเลย ต้องรีบดึงกลับมาให้อยู่กับคำภาวนา เอาความนิ่งกับคำภาวนาเข้าข่ม อยู่ ๆ มันก็มีเสียง แกรก ๆ ดังขึ้นอีก แล้วก็เงียบไป ช่วงไม่กี่คำภาวนา ก็มีเสียงเหมือนคนเอาอะไรเคาะถังพลาสติก......แทนที่จิตมันจะกระเจิงคราวนี้มันกับดิ่ง "ในใจก็คิดไปว่า ตายก็ตายวะ หมามันยังไม่กลัวผีเลย แถมคาบเอากระดูกผีมาแทะกินอีก อายหมาบ้างสิ" อยู่ ๆ ในจิตมันก็มีตัวสติขึ้นมาแบบไม่คาดคิด มันลำดับเหตุการณ์ออกหมด จนรู้แน่ว่า เป็นเสียงของพม่าที่เดินกรีดยางและเก็บน้ำยาง อยู่บริเวณใกล้แนวเขตศาลานั้นเอง เล่ามาเนิ่นนาน อยู่ ๆ ระบบความคิดมันตัดลงแบบดื้อ ๆ เข้าไปสู่ความนิ่ง แถมจิตมันรู้ขั้นตอนด้วยว่ามันตัด ตอนนี้เป็นแบบนี้บ่อยมากครับ "นิ่งเป็นตัด ขยับเป็นพิจารณา"
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 27-05-2010 เมื่อ 09:21 |
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#158
|
|||
|
|||
วันกระผมได้นำน้ำมันจำนวน ๔๗ ปี๊บ ไปถวายหลวงพี่ท่านแล้ว ขนขึ้นท้ายรถกระบะ ๔ เที่ยว เล่นเอาเหนื่อย แต่อิ่มบุญครับ
พรุ่งนี้จะถ่ายภาพมาให้ทุกท่านร่วมโมทนาครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#159
|
|||
|
|||
ผ่านช่วงนี้ไปได้ ขอให้พี่รัตน์มีชีวิต จิตใจ และสติปัญญา รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลแจ่มใส เงินทองไหลมาไม่ขาดสายจากการที่ได้อานิสงส์ไปเติมน้ำมันนะครับ
__________________
๑۩۞۩๑ ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่าน ๑۩۞۩๑ ช่วยกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และโปรดหลีกเลี่ยงการนำภาษาพูดมาใช้เป็นภาษาเขียนด้วย ขอเชิญร่วมบุญธรรมทานเว็บไซต์"วัดท่าขนุน"
|
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทิดตู่ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#160
|
|||
|
|||
ขอบคุณมากครับ ทิดตู่ ช่วงนี้ต้องเร่งปฏิบัติขึ้นอีก งานทางโลกไม่ค่อยมี ก็ถือเอางานทางธรรมมาพิจารณาและภาวนาต่อไปครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|