กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 21:55
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 616
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 29,188 ครั้ง ใน 1,105 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,585
ได้ให้อนุโมทนา: 160,865
ได้รับอนุโมทนา 4,522,810 ครั้ง ใน 37,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่โรงแรม ดิ อิมพีเรียล กุสินารา อยู่ที่ ๑๑ องศาเซลเซียส แต่รู้สึกว่าหนาวเหน็บเจ็บผิวเลยทีเดียว จึงสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าทำไมอากาศที่พุทธคยากับที่นี่เท่ากัน แต่เรารู้สึกว่าหนาวไม่เท่ากัน ?

ประมาณ ๖ โมงครึ่ง ห้องอาหารก็เปิดให้พวกเราเข้าไปใช้บริการได้ หลังจากที่รับประทานเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าเราจะต้องกลับมารับประทานอาหารกลางวันกันอีกรอบหนึ่ง แต่ว่าทางเอ็นซีทัวร์ก็ขอให้ทุกคนวางกระเป๋าเพื่อให้เขาขนขึ้นรถใหญ่ไปก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้ามาวางกระเป๋าตอนช่วงอาหารกลางวัน ก็จะยุ่งยากวุ่นวายมาก

เมื่อเดินออกมานอกโรงแรมเท่านั้นแหละ หมอกก็มาอย่างชนิดมืดฟ้ามัวดิน ทำให้อากาศอุ่นขึ้นมาทันที แสดงว่า "มหามาตา" กับบริวารอยากให้พวกเรารู้ว่าอากาศที่แท้จริงนั้นเย็นแค่ไหน ? เมื่อถึงเวลารับรู้แล้วก็เป็นอันว่าส่งความชื้นมาให้ ทำให้อากาศอุ่นขึ้นมา

พวกเรานั่งรถบัสไปไม่ถึง ๒ นาทีก็มาถึงบริเวณสาลวโนทยาน ซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราเดินฝ่าสายหมอกที่มืดฟ้ามัวดินเข้าไป จนถึงทางด้านในบริเวณมหาวิหารพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน และสถูปครอบสถานที่ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลังจากฟังท่านเจ้าคุณกอล์ฟ - พระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล บรรยายแล้ว พวกเราก็แห่ผ้าขึ้นไป เพื่อที่จะห่มถวายหลวงพ่อปางปรินิพพาน เมื่อเข้าไปถึงข้างใน ปรากฏว่ามีพระภิกษุหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง เป็นทิเบต เป็นพม่าก็ตาม นั่งสมาธิอยู่แล้วหลายรูป แต่ขอโทษเถอะ...พวกเราเดินสวด อิติปิ โสฯ วน ๓ รอบกันหน้าตาเฉย ซึ่งทุกคนก็เห็นว่าเป็นปกติเสียด้วย..!

เมื่อถวายผ้าห่มแก่พระพุทธเจ้าปางปรินิพพานแล้ว พวกเราก็มานั่งเจริญพระพุทธมนต์ ตลอดจนกระทั่งกราบขอขมาพระรัตนตรัยและนั่งกรรมฐาน เสร็จแล้วทางด้านเจ้าหน้าที่ซึ่งเกรงใจท่านเจ้าคุณกอล์ฟ ก็อนุญาตให้กระผม/อาตมภาพเข้าไปปิดทองหลวงพ่อปางปรินิพพานได้ เพียงแต่ว่าช่องเปิดให้มุดเข้าไปนั้นอยู่ทางด้านพระเศียร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า วันนี้, 00:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,585
ได้ให้อนุโมทนา: 160,865
ได้รับอนุโมทนา 4,522,810 ครั้ง ใน 37,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพรู้สึกอย่างชัดเจนเลยว่า "ไม่สมควรที่จะไปปิดทองบริเวณพระเศียรขององค์ท่าน" แต่ในเมื่อรับแผ่นทองมาแล้ว จึงปิดที่พระเขนยแทน แต่ปิดเท่าไรก็ปิดไม่ติด เปลี่ยนมาปิดที่พระเศียรบริเวณพระเกศาด้านหลังก็ปิดไม่ติด จึงส่งให้กับทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) ซึ่งติดตามอยู่ทางด้านนอกรั้ว บอกว่า "เก็บเอาไว้ทำเป็นมวลสารก็แล้วกัน..!"

เมื่อตั้งท่าจะกลับออกมา เจ้าหน้าที่ชี้ว่าไปปิดทางด้านปลายพระบาทก็ได้ เมื่อไปถึง กราบขอขมาแล้วสามารถที่จะปิดทองได้อย่างใจ ทำเอากระผม/อาตมภาพต้องเชื่อในความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อปางปรินิพพานไปโดยปริยาย

ครั้นกราบขอขมาพระรัตนตรัย และถวายดอกบัวเป็นพุทธบูชาแล้ว ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้ถวายบูชาบ้าง เนื่องเพราะว่ามีคณะทั้งพระทั้งโยมหลายคณะ ทั้งพระไทยนำญาติโยมมา และพระพม่าก็มากันด้วย ต่างคนต่างแห่ผ้าขึ้นมาแน่นไปหมด กระผม/อาตมภาพไม่อยากดูบุคคลที่ร้องห่มร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจที่มาไม่ทันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ตามท่านเจ้าคุณกอล์ฟออกไปทางด้านหลัง โดยที่ส่งเงินแบงค์ย่อยทั้งหมดให้ทิดเฟิร์สหยอดตู้ถวายหลวงพ่อปางปรินิพพานไปเลย

เมื่อมาถึงทางด้านหลัง ท่านเจ้าคุณกอล์ฟก็แจ้งให้ทราบว่า บริเวณสถูปด้านหลังนี่แหละ ที่ครอบพระแท่นปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระหว่างไม้สาละทั้งคู่เอาไว้ เพียงแต่ว่าภายหลังต้นสาละได้ล้มไปแล้ว

กระผม/อาตมภาพกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็นำทุกคนเดินประทักษิณ สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเสียสามรอบ จากนั้นควักเงินเพื่อที่จะให้เป็นรางวัลแก่บรรดาผู้ที่ดูแลสถานที่ ทำความสะอาด และปูผ้าให้พวกเรา ซึ่งทั้ง ๆ ที่เหลือแต่ใบละ ๕๐๐ รูปี แต่ควักออกมากลายเป็นแบงค์ย่อยไปเสียนี่..! ไม่ทราบเหมือนกันว่าเทวดาขี้เหนียว หรือไม่อยากทำให้คนที่นี่เขาเสียนิสัยก็ไม่รู้ ?

เมื่อลงมาข้างล่างแล้ว ก็มาถ่ายรูปหมู่กันบริเวณ "มุมมหาชน" ซึ่งใคร ๆ มาก็ต้องถ่ายรูปกันตรงนี้ หลังจากนั้นแล้วก็เดินออกนอกประตูข้ามถนนไป เพื่อไปยังบริเวณที่เรียกว่า "มถากัวร์" ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้ทิ้งยาอมฤตาธิคุณ ที่ตั้งใจปรุงถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพระองค์ท่านฉันเข้าไปแล้ว จะแสดงอาการโรคออกมาอย่างชัดเจน ทำให้สามารถปรุงยาที่ถูกต้องกับโรคได้

แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่รับ เนื่องเพราะว่าได้ปลงอายุสังขารแล้ว ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงนำยาลงไปทิ้งที่บ่อน้ำแห่งนี้ ระหว่างที่เราเดินไปบ่อน้ำ ได้ผ่านบริเวณที่น่าจะเป็นป้ายรถเมล์ มีรูปวาดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลักษณะการ์ตูน น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ กระผม/อาตมภาพจึงได้ถ่ายรูปไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า วันนี้, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,585
ได้ให้อนุโมทนา: 160,865
ได้รับอนุโมทนา 4,522,810 ครั้ง ใน 37,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นไปถึงบริเวณอาคารแล้ว ถึงได้เห็นว่ามีพระพุทธรูปสมัยคุปตะ ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ พ.ศ. ๑๑๐๐ องค์ใหญ่สวยงามอยู่บริเวณขอบบ่อ เจ้าหน้าที่บอกให้ระมัดระวังในการเดินเข้าไปกราบสักการะถึงองค์พระพุทธรูปด้านใน เพราะว่าต้องเลาะขอบบ่อแคบ ๆ เข้าไป แล้วบอกให้พวกเราทยอยกันเข้ามา

แต่ปรากฏว่ามีคณะชาวทิเบตแห่เข้ามาด้วย ก็เลยเบียดกันไปคนละทิศคนละทาง ทำให้เข้ามาได้ไม่ถึงครึ่ง เมื่อกราบถวายสักการะและถ่ายรูปหมู่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ล้วงกระเป๋าส่งให้กับคนเฝ้าเป็นรางวัล ปรากฏว่าเป็นแบงค์ ๒๐๐ รูปีใหม่เอี่ยมอีกแล้ว เทวดาแถวนี้รู้สึกว่าขี้เหนียวเอาเสียจริง..!

เมื่อเดินออกมาทางด้านนอก พวกเราก็เดินทางต่อไปยังมกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งแม้ว่าจะปรักหักพังไปแล้ว แต่มีสิ่งสำคัญคือพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ด้านใน เมื่อพวกเราไปถึง ก็ได้ทำการเวียนประทักษิณ สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย แล้วกราบขอขมาและถ่ายรูปหมู่รวมกัน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมายังโรงแรม ดิ อิมพีเรียล กุสินารา เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งทางด้าน "คุณสุโภชน์" เจ้าของโรงแรม มาดูแลพวกเราด้วยตนเอง และขอถ่ายรูปร่วมกันเอาไว้ด้วย

เมื่ออิ่มแล้วพวกเราก็ขึ้นรถ เพื่อที่จะเดินทางอีก อย่างน้อย ๆ ก็ ๖ - ๗ ชั่วโมง เพื่อไปยังเมืองสาวัตถี เมื่อขึ้นรถมาได้ พวกเราก็ได้สวดมนต์กันเพื่อความเป็นศิริมงคล และเพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ด้วย มีการผ่านด่านเก็บเงินลักษณะด่านทางด่วนบ้านเรา แต่รถก็วิ่งได้ช้ามาก เหตุก็เพราะว่าบริเวณนั้นโดนบีบถนนเหลือแค่ด้านเดียว แล้วให้รถฝั่งตรงข้ามวิ่งสวนมา เพราะว่าอีกฝั่งหนึ่งนั้นเขากำลังทำถนนใหม่กันอยู่

ประมาณบ่ายสามโมงของอินเดีย พวกเราวิ่งมาจนถึง Anand Resort ได้แวะเข้าห้องน้ำ ก็แปลว่าจะต้องใช้บริการของเขาไปด้วย ก็คือสั่งชานมกันบ้าง สั่งน้ำร้อนน้ำชาอื่น ๆ กันบ้าง กระผม/อาตมภาพนั้นเจอน้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) ช่วยสั่งชาดำให้ ๒ แก้ว แต่เจ้าประคุณเถอะ...มันไม่ใช่ชาดำปกติ เนื่องเพราะว่าเขาใส่น้ำตาลมาหวานเจี๊ยบยังไม่พอ ยังเป็นน้ำขิงอีกต่างหาก..! ฉันเข้าไปคำหนึ่งก็สะอึกทีหนึ่งเพราะความเผ็ดร้อนของขิง..! จะวางทิ้งก็ไม่ได้ "มหามาตา" บอกว่า "กรุณาฉันให้หมด ไม่เช่นนั้นแล้วกลางคืนจะสู้หนาวไม่ได้" กระผม%อาตมภาพจึงได้กัดฟันสู้ทนฉันไปจนหมด แล้วก็ขึ้นรถวิ่งกันต่อไป

ถนนหนทางรู้สึกว่าคับแคบลง และเข้าสู่บริเวณที่ดูเหมือนบ้านนอกสุด ๆ สองข้างเป็นท้องนารกร้างบ้าง เป็นไร่ผักบ้าง เป็นบ้านคนบ้าง จนกระทั่งเย็นย่ำค่ำสนธยา ประมาณ ๔ โมงเย็น ก็ผ่านบริเวณ "ตลาดเย็น" ที่พวกเขาเอาข้าวเอาของมาค้าขายกันอยู่ พวกเราดูว่าเขาจะมีสินค้าอะไรบ้าง ? แต่ดันเป็นจังหวะรถไม่ติดเสียอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า วันนี้, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,585
ได้ให้อนุโมทนา: 160,865
ได้รับอนุโมทนา 4,522,810 ครั้ง ใน 37,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นถึงเวลา ๕ โมงครึ่ง พระครูธรรมธรวรัญญู อคฺควชิโร, ดร. พระธรรมทูตสายอินเดีย โ€“ เนปาล ท่านก็นำพวกเราทำวัตรค่ำ ปรากฏว่าเมื่อสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรไปยังไม่ทันจะจบ รถก็แวะให้เข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำกันอีกรอบหนึ่ง พวกเราจึงหยุดเอาไว้แค่การสวดจบ โดยที่ยังไม่ได้ขึ้น "ภุมมานัง เทวานัง" แต่ว่าห้องน้ำมีอยู่ห้องเดียวสำหรับพระและญาติโยม ๕๐ กว่ารูป/คน ก็เลยต้องรอคิวกันยาวเหยียด..!

ครั้นออกมาด้านนอกแล้ว กระผม/อาตมภาพพยายามบริหารแข้งบริหารขาที่ขดมาครึ่งค่อนวันแล้ว เสียง "มหามาตา" บอกว่า "กรุณาขึ้นรถแล้วสวดต่อให้จบด้วย" ทำเอาต้องยอมรับสภาพแต่โดยดี ครั้นสวดมนต์จบพอดีกับรถออกจากบริเวณนั้น วิ่งตรงไปยังเมืองสาวัตถี ถนนหนทางมืดสุด ๆ แต่คนขับก็ตาดีใช้ได้ หลบทั้งรถใหญ่ หลบทั้งรถเล็ก และสวนรถที่เปิดไฟสูงมาชนิดไม่คิดจะหลบให้เลยเป็นจำนวนมาก..!

จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑ ทุ่มตรงของทางด้านประเทศอินเดีย พวกเราก็มาถึงโรงแรมแพลตตินั่ม เมื่อขึ้นไปถึงห้องพัก กระผม/อาตมภาพก็สะดุ้งเฮือก เนื่องเพราะว่าเขาเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ จนต้องโวยวายว่าให้เปลี่ยนเป็นความเย็น ไม่ใช่ความร้อนแบบนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้รีบวิ่งเข้ามาปรับอุณหภูมิให้

เมื่อปิดประตูและเข้าห้องน้ำกำลังถ่ายหนักอยู่ เสียงเคาะประตูปัง ๆ ก็ดังขึ้น เมื่อบอกว่าอยู่ในส้วม ข้างนอกก็น่าจะไม่ได้ยิน บอกว่า "โยมนวลจันทร์ (คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานคณะกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์) เองค่ะ" แล้วกดกริ่งซ้ำเข้าไปอีก ทำให้กระผม/อาตมภาพต้อง "เด็ด" การถ่ายหนักทิ้งก่อน ล้างก้นเสร็จเรียบร้อย ค่อยออกมาเปิดประตู

โยมนวลจันทร์บอกว่า "ห้องพักชั้น ๔ เขามีอ่างให้แช่น้ำร้อนได้ จะย้ายห้องหรือไม่เจ้าคะ ?" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่" แล้วก็ปิดประตูไปเลย เพิ่งจะปิดประตู ไฟฟ้าก็ดับ เดี๋ยวดับเดี๋ยวติด ทำเอาหมดอารมณ์ คืนนี้น่าจะเฮฮาปาร์ตี้กันแน่นอน ถ้ายังติด ๆ ดับ ๆ อยู่อย่างนี้ จึงรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้สำหรับทุกคนได้ฟัง หลังจากนี้ก็จะได้ชำระสะสางร่างกาย แล้วนอนพักเสียที

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า วันนี้, 09:47
ทายก's Avatar
ทายก ทายก is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2012
สถานที่: อุดรธานี
ข้อความ: 17
ได้ให้อนุโมทนา: 250,245
ได้รับอนุโมทนา 21,700 ครั้ง ใน 1,319 โพสต์
ทายก is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
ครั้นถึงเวลา ๕ โมงครึ่ง พระครูธรรมธรวรัญญู อคฺควชิโร, ดร. พระธรรมทูตสายอินเดีย โ€“ เนปาล ท่านก็นำพวกเราทำวัตรค่ำ ปรากฏว่าเมื่อสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรไปยังไม่ทันจะจบ รถก็แวะให้เข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำกันอีกรอบหนึ่ง พวกเราจึงหยุดเอาไว้แค่การสวดจบ โดยที่ยังไม่ได้ขึ้น "ภุมมานัง เทวานัง" แต่ว่าห้องน้ำมีอยู่ห้องเดียวสำหรับพระและญาติโยม ๕๐ กว่ารูป/คน ก็เลยต้องรอคิวกันยาวเหยียด..!

ครั้นออกมาด้านนอกแล้ว กระผม/อาตมภาพพยายามบริหารแข้งบริหารขาที่ขดมาครึ่งค่อนวันแล้ว เสียง "มหามาตา" บอกว่า "กรุณาขึ้นรถแล้วสวดต่อให้จบด้วย" ทำเอาต้องยอมรับสภาพแต่โดยดี ครั้นสวดมนต์จบพอดีกับรถออกจากบริเวณนั้น วิ่งตรงไปยังเมืองสาวัตถี ถนนหนทางมืดสุด ๆ แต่คนขับก็ตาดีใช้ได้ หลบทั้งรถใหญ่ หลบทั้งรถเล็ก และสวนรถที่เปิดไฟสูงมาชนิดไม่คิดจะหลบให้เลยเป็นจำนวนมาก..!

จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑ ทุ่มตรงของทางด้านประเทศอินเดีย พวกเราก็มาถึงโรงแรมแพลตตินั่ม เมื่อขึ้นไปถึงห้องพัก กระผม/อาตมภาพก็สะดุ้งเฮือก เนื่องเพราะว่าเขาเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ จนต้องโวยวายว่าให้เปลี่ยนเป็นความเย็น ไม่ใช่ความร้อนแบบนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้รีบวิ่งเข้ามาปรับอุณหภูมิให้

เมื่อปิดประตูและเข้าห้องน้ำกำลังถ่ายหนักอยู่ เสียงเคาะประตูปัง ๆ ก็ดังขึ้น เมื่อบอกว่าอยู่ในส้วม ข้างนอกก็น่าจะไม่ได้ยิน บอกว่า "โยมนวลจันทร์ (คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานคณะกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์) เองค่ะ" แล้วกดกริ่งซ้ำเข้าไปอีก ทำให้กระผม/อาตมภาพต้อง "เด็ด" การถ่ายหนักทิ้งก่อน ล้างก้นเสร็จเรียบร้อย ค่อยออกมาเปิดประตู

โยมนวลจันทร์บอกว่า "ห้องพักชั้น ๔ เขามีอ่างให้แช่น้ำร้อนได้ จะย้ายห้องหรือไม่เจ้าคะ ?" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่" แล้วก็ปิดประตูไปเลย เพิ่งจะปิดประตู ไฟฟ้าก็ดับ เดี๋ยวดับเดี๋ยวติด ทำเอาหมดอารมณ์ คืนนี้น่าจะเฮฮาปาร์ตี้กันแน่นอน ถ้ายังติด ๆ ดับ ๆ อยู่อย่างนี้ จึงรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้สำหรับทุกคนได้ฟัง หลังจากนี้ก็จะได้ชำระสะสางร่างกาย แล้วนอนพักเสียที

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีรัง วิโสทะเย"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 4 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทายก ในข้อความที่เขียนด้านบน
คนไกลบ้าน (วันนี้), ประยงค์ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้)
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
ป๋อม, มณฑนา

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว