กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 16:28
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 595
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 28,431 ครั้ง ใน 1,083 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,408
ได้ให้อนุโมทนา: 159,988
ได้รับอนุโมทนา 4,515,754 ครั้ง ใน 37,022 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ฝนฟ้าเว้นให้ในช่วงได้อรุณ กระผม/อาตมภาพจึงนำพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนออกบิณฑบาตโดยที่ไม่เปียก แต่ถึงฝนจะตกก็ตาม ทางวัดท่าขนุนก็ไม่ได้เว้นว่างจากการบิณฑบาต พูดง่าย ๆ ว่าสถานการณ์จะหนักหนาสาหัสขนาดไหน วัตรปฏิบัติที่เคยทำของพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน ก็จะไม่ขาดลงไป

การที่เรากระทำความดีอย่างใดอย่างหนึ่งโดยต่อเนื่องตามกันไม่ขาดสาย ย่อมบังเกิดเป็น "ฤทธิ์" ขึ้นมาเอง คำว่า "ฤทธิ์" ในที่นี้ ตามความรู้สึกของพวกเราก็คือ อำนาจวิเศษบางอย่างที่เหนือกว่าคนอื่น แต่ถ้าดูในภาษาบาลีแล้ว คำว่า "ฤทธิ์" มาจาก "อิทธิ" ที่แปลว่า "สำเร็จ" ดังนั้น..ต่อให้ฝนตกหนักขนาดไหนก็ตาม วัดวาอารามอื่นเขาไม่ออกบิณฑบาต แต่พระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนมี "ฤทธิ์" สามารถออกบิณฑบาตได้ตามปกติ..!

เพียงแต่ว่าวันนี้เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ญาติโยมจึงใส่บาตรมากกว่าปกติ ทำเอากว่าที่จะเดินกลับวัด บาตรก็หนักจนไหล่ลู่ไปตาม ๆ กัน..! แต่ก็รู้สึกยินดีที่ว่าญาติโยมพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ไม่ได้ว่างเว้นจากการสร้างบุญสร้างกุศลสำหรับตัวเอง ซึ่งในเบื้องต้นนั้น ถ้าหากว่าท่านกระทำเป็นปกติ ในสายตาของบุคคลทั่วไปก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่า ท่านเป็นผู้ที่อยู่ในศีลกินในธรรม ใครเห็นก็เกิดความรักใคร่เมตตา เพราะรู้ว่าท่านเป็นคนดี สิ่งนี้จัดเป็น "ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์" คือ ประโยชน์ที่เห็นทันตาในชาติปัจจุบันนี้

แล้วถ้าหากว่าท่านกระทำจนเคยชินแล้วย่อมมีสุคติเป็นที่ไป ทานที่ท่านทำย่อมส่งผลให้ชาติต่อไปของท่านเป็นผู้อุดมสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติทั้งปวง ศีลที่ท่านรักษาก็นำพาให้ท่านไปเกิดเป็นบุคคลผู้ที่มีรูปสวย มีจิตใจที่ดีงาม ภาวนาที่ท่านได้กระทำ ก็จะนำพาให้ท่านเป็นผู้มีปัญญามาก ต่อให้เกิดอุปสรรคหนักหนาขนาดไหนในทางโลก ก็แก้ไขให้ลุล่วงไปได้ หรือถ้ามีอุปสรรคในทางธรรม ก็จะมีดวงปัญญาญาณอันแก่กล้า สามารถพิจารณารู้แจ้งแทงตลอดถึงข้อธรรมนั้น และเข้าถึงมรรคผลในส่วนที่ตนเองต้องการได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 2 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #3  
เก่า วันนี้, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,408
ได้ให้อนุโมทนา: 159,988
ได้รับอนุโมทนา 4,515,754 ครั้ง ใน 37,022 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในการประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนที่ทำกันจนเป็นปกติ เท่ากับว่าเป็นการช่วยกันประคับประคองรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ เป็นเนื้อนาบุญให้ญาติโยมทั้งหลายได้สร้างบุญสร้างกุศลเพื่อความสุขของตนเอง ทั้งในชาติปัจจุบันนี้ ชาติต่อ ๆ ไป แล้วยังเป็นบันไดให้ท่านก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานด้วย

ส่วนในช่วงบ่าย กระผม/อาตมภาพได้นำพระภิกษุวัดท่าขนุนจำนวน ๓๖ รูป เนื่องเพราะว่ามีผู้ที่อยู่เวรยามอีกต่างหาก และมีพระภิกษุผู้เจ็บไข้อีกด้วย จึงเหลือพระภิกษุลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์แค่ ๓๖ รูปเท่านั้น การทบทวนพระปาฏิโมกข์นั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำให้ทราบว่าศีลพระ ๒๒๗ ข้อมีอะไรบ้าง ? เราฟังแล้วก็จะได้ทบทวนตามไปว่าตนเองได้ละเมิดในข้อไหนบ้าง ? ถ้าหากว่าเป็นลหุกาบัติ (อาบัติเบา) ก็จะได้แสดงคืนในท่ามกลางสงฆ์

การทบทวนพระปาฏิโมกข์เท่ากับเป็นการรักษาพระวินัยซึ่งเป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสามเณรก็ดี แม่ชีหรืออุบาสกอุบาสิกาก็ดี จะทรงความเป็นพระภิกษุสามเณร แม่ชีหรืออุบาสกอุบาสิกา เอาไว้ได้ก็ด้วยศีล ที่ท่านต้องระมัดระวังรักษาให้สมบูรณ์บริบูรณ์ แล้วหลังจากนั้น ในส่วนของสมาธิและปัญญา ก็เป็นส่วนที่ท่านทั้งหลายจักต้องขวนขวายเพื่อความก้าวหน้าแห่งตนยิ่ง ๆ ขึ้นไป

เมื่อทบทวนพระปาฏิโมกข์เสร็จแล้ว ออกจากอุโบสถมา ก็ได้มอบหมายให้พระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน นำผู้เข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันพระใหญ่นี้ วางผางประทีปจำนวนอย่างน้อย ๑๐,๐๐๐ ดวง เพื่อตามถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ หรือที่ทุกท่านเรียกกันง่าย ๆ ว่า "วันลอยกระทง"

ความจริงวันลอยกระทงนั้นมาจากวัฒนธรรมอินเดียในการตามประทีปที่เรียกว่า "ดีปวาลี" แต่ว่าเมื่อมาถึงบ้านเราเมืองเรา ก็มีการปรับ เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมและสังคมไทย จึงเป็นการลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ที่ริมน้ำนัมมทานที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #4  
เก่า วันนี้, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,408
ได้ให้อนุโมทนา: 159,988
ได้รับอนุโมทนา 4,515,754 ครั้ง ใน 37,022 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนวัดท่าขนุนของเรานั้นมีกิจกรรมพิเศษ ก็คือเพิ่มการตามประทีปขึ้นมา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในครั้งนี้ ก็เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเสด็จสวรรคตไปแล้วอีกด้วย

หลังจากนี้ก็จะเป็นการตามประทีป โดยที่ทุกท่านก็ใจคอไม่ค่อยจะดี เพราะว่าฟ้ามืดแทบจะติดหนังหัวมาเลย แต่กระผม/อาตมภาพนั้นสบายใจมาก เนื่องเพราะได้แจ้งแก่เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาฟ้าดินทั้งหลายแล้วว่า "ในครั้งนี้นั้นได้ตั้งใจตามประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา หากท่านทั้งหลายต้องการอนุโมทนาในส่วนบุญส่วนกุศลครั้งนี้ ก็ขอได้โปรดอำนวยความสะดวก ให้สามารถตามประทีปถวายได้อย่างสะดวก และปราศจากอุปสรรคด้วยเถิด"

ซึ่งเชื่อได้เลยว่า
ไม่ว่าจะเป็นเทวดา นางฟ้า หรือพรหมก็ตาม ทุกท่านล้วนแล้วแต่ยินดีในบุญกุศลทั้งสิ้น ดังนั้น..ในงานวัดท่าขนุนส่วนใหญ่แล้ว ถ้าไม่ใช่ "เหลือบ่ากว่าแรง" จริง ๆ ก็มักจะได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษเสมอมา เพื่อที่ให้เราท่านทั้งหลายได้สร้างบุญสร้างกุศลอย่างเต็มที่ แล้วเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็จะได้มีส่วนอนุโมทนาไปด้วย

ปกติถ้าตามประทีปเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมีการทำวัตรค่ำ ซึ่งการทำวัตรค่ำของวัดท่าขนุนนั้น ทำครั้งละ ๒ รอบ แต่ว่าถ้าในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันลอยกระทง ซึ่งมีการตามประทีปถวายเป็นพุทธบูชานั้น เราก็จะใช้เวลาในการตามประทีป จึงเหลือการทำวัตรค่ำเพียงรอบเดียวเท่านั้น

เพียงแต่ว่าในวันลอยกระทงปี ๒๕๖๘ นี้ ทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ โดยท่านนายศราวุธ ศรีทันดร ได้ร่วมกับชุมชนจัดการสวดพระอภิธรรม ถวายแก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่บริเวณท่าน้ำเทศบาลแทนการลอยกระทง

ดังนั้น..พระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนทั้งหลายจึงจะไปสวดพระอภิธรรมที่ท่าน้ำเทศบาล แทนการทำวัตรค่ำรอบที่เหลืออยู่ แล้วหลังจากกลับมาแล้ว จึงจะได้ลอยกระทงถวายเป็นพุทธบูชาต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว