กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 16:42
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 593
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 28,367 ครั้ง ใน 1,081 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 21:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,367
ได้ให้อนุโมทนา: 159,878
ได้รับอนุโมทนา 4,514,294 ครั้ง ใน 36,980 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อคืนสายการบินดรุกแอร์พาคณะของกระผม/อาตมภาพแวะไปสนามบินบักโดกรา ประเทศอินเดียก่อน เพื่อรับส่งผู้โดยสารที่นั่น ทำการเติมน้ำมัน แล้วถึงได้บินกลับมาสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

จากที่คำนวณเอาไว้ว่าน่าจะถึงประเทศไทยตอนประมาณ ๒ ทุ่มครึ่ง จึงกลายเป็นว่ามาถึงประเทศไทยประมาณ ๓ ทุ่มครึ่ง แล้วก็ต้องเดินเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ มาประทับหนังสือเดินทางเพื่อกลับเข้าประเทศ แล้วออกไปรอรับกระเป๋าที่สายพาน ๘ ทำเอาเดินกันจนขาลากไปเลย

แต่ก็เป็นการดีว่าหลังจากที่ขึ้นลงเขารังเสือมาแล้ว แข้งขาระบม จนกระทั่งพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ต้องขอเอาแผ่นแปะบรรเทาอาการปวดจากญาติโยมมาแปะเสียรอบตัว ทำให้การเดินที่นี่ของพวกเรากลายเป็นการฟื้นกล้ามเนื้อของตนเองใหม่ แล้วการเดินเร็ว ๆ โดยที่ไม่ต้องระวังว่าจะขาดออกซิเจนหรือไม่ ก็ทำให้กระผม/อาตมภาพเดินอย่างมีความสุขมาก..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในสถานที่สูงตั้งแต่ ๓,๐๐๐ เมตรขึ้นไป ออกซิเจนค่อนข้างจะเจือจาง เมื่อร่างกายรับเข้าไปไม่พอ ก็จะเกิดการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ในกล้ามเนื้อของเรา ทำให้เมื่อยล้าได้ง่าย

ส่วนที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือตอนที่กระผม/อาตมภาพไปประเทศทิเบต และอีกครั้งหนึ่งก็คือไปเสฉวนตะวันตกที่อุทยานย่าติง การเดินขึ้นที่สูงในระดับความสูงจากน้ำทะเล ๔,๐๐๐ กว่าเมตรนั้น เดินแค่ ๒ ก้าว ๓ ก้าว ก็ต้องอ้าปากหอบหายใจแล้ว แข้งขาอ่อนล้าไปหมด เพราะว่ากล้ามเนื้อขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงนั่นเอง ถึงได้มีการวัดออกซิเจนกันเป็นระยะ ๆ ถ้าหากว่าใครออกซิเจนต่ำกว่า ๘๐ หัวหน้าทัวร์ในช่วงนั้นก็จะไม่ยอมให้พวกเราเดินทางต่อ หากแต่ว่าให้พักรอคณะหรือว่าเดินกลับไปข้างล่างเลย..! เป็นต้น

กระผม/อาตมภาพกลับมาถึงที่พักด้วยรถที่พระครูสมุห์ต้นไม้ (พระครูสมุห์กรณ์พัฒน์ กนฺตวณฺโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอุทยาน และคุณปิง (นายณัฐภาคย์ องค์วรวิทย์) อุตส่าห์ตามไปรับที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มาถึงวัดอุทยานตอน ๕ ทุ่มเศษ ทำงานอะไรนิดหน่อยเพื่อป้องกันไม่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วลืม จากนั้นก็นอนยาวสลบไสลไปจนกระทั่งเกือบตี ๓ ถึงได้ตื่นขึ้นมาตรวจแก้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน แล้วเก็บข้าวของต่าง ๆ ขึ้นรถ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 22:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,367
ได้ให้อนุโมทนา: 159,878
ได้รับอนุโมทนา 4,514,294 ครั้ง ใน 36,980 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนถึงตี ๕ น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พลขับประจำวัดท่าขนุน และลูกปุ๊ก (นางสาวสุมาลี ตีรเลิศพานิช) ก็มาถึง พวกเราขนข้าวของขึ้นรถแล้ว ได้วิ่งมาขึ้นทางด่วนพิเศษสายเอ็ม ๘๑ ตรงไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องเพราะว่าต่อให้เหนื่อยยากลำบากขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าวันนี้มีพิธีเปิดการอบรมก่อนสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง)

เมื่อไปถึงวัดราษฎร์ประชุมชนาราม หรือว่าวัดท่ามะขาม กระผม/อาตมภาพก็ช่วยทุกคนขนข้าวของลงจากรถจนหมด เพราะว่าวันนี้ต้องนำรถของวัดท่าขนุนไปเข้าศูนย์ฯ เพื่อเช็คระยะ ๕๒๐,๐๐๐ กิโลเมตร ครั้นอุ่นอาหารที่เหลือจากเครื่องบินซึ่งเขามอบให้ตอนกลางคืน มาฉันเป็นอาหารเช้า จากนั้นทางด้านน้องเล็กก็พาลูกปุ๊กของกระผม/อาตมภาพ หรือว่าพี่ปุ๊กของน้องเล็ก ไปทำการซักผ้าที่ร้านซักผ้าใกล้วัด ส่วนตัวเองก็วิ่งต่อไปเพื่อนำรถวัดไปเข้าศูนย์ฯ

กระผม/อาตมภาพไปหาพระครูบ่าว (พระครูกาญจนปริยัติคุณ) เจ้าอาวาสวัดท่ามะขาม เพื่อจะขออนุญาตให้คนขับรถวัดท่ามะขามไปส่งกระผม/อาตมภาพที่วัดใต้ด้วย แต่ปรากฏว่าเจอพระผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ของวัดท่าขนุน มาอยู่ที่นี่กันเป็น ๑๐ รูป ทุกครั้งที่มีการสอบ ท่านพระครูบ่าวก็จะยินดีรับน้อง ๆ จากวัดท่าขนุนมาพัก มาอยู่ มากินที่นี่ เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงไม่ต้องเสียเวลาไปขออนุญาตท่าน พอประมาณ ๘ โมงเช้า ทุกคนพร้อมแล้ว ทิดหนุ่ย (นายสถาพร อินสกุล) อดีตนักบิณฑ์ฯ วัดท่าขนุน ก็ขับรถพาพวกกระผม/อาตมภาพไปยังวัดใต้

แต่ด้วยเหตุที่ว่าเมื่อวานและวันนี้ ตลอดจนกระทั่งวันต่อ ๆ ไป ทางวัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) นั้น มีงานใหญ่ต่อเนื่องกันถึง ๔ งาน ก็คือ งานรับกฐินพระราชทาน

งานถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

งานทอดกฐินตกค้างทุกวัดของจังหวัดกาญจนบุรี และ งานอบรมก่อนสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ในวันนี้

จากที่เคยอบรมภายในศาลาการเปรียญ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) จึงต้องย้ายมาที่ใต้ถุนอาคารใหม่ โรงเรียนอนุบาลวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) แทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 22:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,367
ได้ให้อนุโมทนา: 159,878
ได้รับอนุโมทนา 4,514,294 ครั้ง ใน 36,980 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกระผม/อาตมภาพไปถึง ปรากฏว่าปลัดโย (พระปลัดรัชชานนท์ ติกฺขปญฺโญ) หัวหน้าฝ่ายพิธีการประจำวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เดินตาตี่มาจัดสถานที่ เนื่องเพราะว่าเมื่อวานนี้งานด่วนก็คือ จัดสถานที่ถวายน้ำสรงพระบรมศพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แล้วยังต่อด้วยการเตรียมงานทอดกฐินตกค้าง ให้กับวัดที่ขาดการจองกฐินของจังหวัดกาญจนบุรีอีก จึงไม่ได้หลับไม่ได้นอน ยังดีว่ากระผม/อาตมภาพเองได้หลับมาบ้างแล้ว

เมื่อบรรดาผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) มาถึง ก็เริ่มลงทะเบียนเข้ารับการอบรม บรรดาเพื่อนพระสังฆาธิการมาก็ทักทายเป็นการใหญ่ว่า "เมื่อคืนตอนหัวค่ำยังส่งรูปจากประเทศภูฏานมาให้ดู ทำไมตอนนี้มานั่งอยู่ที่นี่แล้ว ?"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่นึกในใจว่า
"ตรงนี้เป็นหน้าที่ ในเมื่อเป็นหน้าที่เราก็ต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด" แล้วก็เข้าไปถวายปัจจัยสนับสนุนงานอบรมก่อนสอบแก่พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นการถวายในนามส่วนตัว เนื่องเพราะว่าในส่วนของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้น กระผม/อาตมภาพได้ให้พระมหาพัฒน์ ฐิตาจาโร ป.ธ. ๓ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ทำการโอนไปให้แล้ว

เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. ทำพิธีเปิดและให้โอวาทแล้ว ก็ต่อด้วยพระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙, ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) จากนั้นก็ถึงคิวที่กระผม/อาตมภาพต้องขึ้นไปให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับการอบรมก่อนสอบ

กระผม/อาตมภาพบอกกับทุกคนสั้น ๆ ว่า ในเมื่อขาดการเตรียมตัวก็ต้องรู้จักวิธี "มู" กันบ้าง แล้วก็มอบพระคาถาไปให้ ก็คือพระคาถาสุนทรีวาณี (นางฟ้าผู้พิทักษ์พระไตรปิฎก) ซึ่งบรรดานักเรียนสายบาลีภาวนากันเป็นประจำ มีความเชื่อว่าถ้าทำพระคาถานี้ขึ้น จะสามารถสอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคได้อย่างแน่นอน พระคาถามีว่า "มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภวะ สุนทะรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง"

ในปัจจุบันนี้ บุคคลที่เป็นที่รู้จักในคณะสงฆ์ และใช้พระคาถานี้อยู่เป็นประจำ ก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ. ๖) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร นั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,367
ได้ให้อนุโมทนา: 159,878
ได้รับอนุโมทนา 4,514,294 ครั้ง ใน 36,980 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หรือใครจะใช้พระคาถาเสริมปัญญาของโบราณ ก็ให้ภาวนาว่า "ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ" ก็ได้

หรือถ้าทุกท่านรู้สึกว่ายาวเกินไป ก็ใช้พระคาถาตาทิพย์ หรือที่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงเรียกว่าคาถาท่านปู่พระอินทร์ ก็ว่า "สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ"
โดยก่อนทำข้อสอบให้คว่ำกระดาษคำถามลง หลับตานึกขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด ขอให้ทำข้อสอบนี้ได้ถูกต้องและถูกใจกรรมการผู้ตรวจด้วย หลังจากนั้นก็ภาวนาพระคาถานี้ ๓ จบ ถ้าเปิดขึ้นมาอ่านปัญหาแล้วยังคิดว่าทำไม่ได้ทั้งหมด ก็ให้คว่ำกระดาษลง ภาวนาอีก ๗ จบ หลังจากนั้น ความรู้สึกของตนเองบอกว่าให้ทำอย่างไรก็ทำตามนั้น

กระผม/อาตมภาพตอนสอบนักธรรมชั้นเอก (สนามหลวง) ได้ป่วยเป็นมาลาเรียขึ้นสมอง จนกระทั่งแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน ไม่สามารถที่จะอ่านหนังสือได้ แต่ในเมื่อลงชื่อขอสอบไปแล้ว จึงต้องใช้พระคาถาท่านปู่พระอินทร์นี้ แต่ว่าท่านเติมพระคาถามาให้ด้วย กลายเป็น "สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู"

เมื่อกระผม/อาตมภาพทำข้อสอบไปแล้ว ด้วยความที่ตนเองเป็นคนจำแม่น จึงมาเปิดตำราดูว่าเราตอบถูกหรือเปล่า ? ปรากฏว่าตอบได้ตรงทุกคำ เหมือนกับเปิดตำราลอกเอาเลยทีเดียว ซึ่งถ้าโดนจับทุจริต ก็ไม่ทราบจะแก้ตัวอย่างไรเหมือนกัน เพราะว่าถ้าคุณไม่ได้ลอกตำราแล้วทำไมเขียนตรงทุกคำแบบนี้ ?!

เมื่อสอนวิธี "มู" ให้กับทุกคนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็บอกตรง ๆ กับทุกคนว่า "ขออนุญาตลาไปนอน" ทำเอาบรรดาผู้เข้าสอบหัวเราะไปตาม ๆ กัน..! หลังจากนั้น จึงได้กราบขอตัวจากบรรดาพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครองทั้งหลายที่มาร่วมงาน เดินทางกลับไปฝากท้องที่วัดท่ามะขาม แล้วก็นอนสลบไสลสมกับความตั้งใจของตนเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
ยั่งยืน

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว