กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 17:36
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,194
ได้ให้อนุโมทนา: 226,571
ได้รับอนุโมทนา 815,481 ครั้ง ใน 40,243 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,313
ได้ให้อนุโมทนา: 159,820
ได้รับอนุโมทนา 4,512,908 ครั้ง ใน 36,926 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศทองผาภูมิยังคง "ผีเข้า ผีออก" ก็คือนึกจะหนาวก็หนาว นึกจะฝนก็ฝนตกเอาดื้อ ๆ ในลักษณะแบบนี้ ถ้าคนเราร่างกายไม่แข็งแรง จะเจ็บไข้ได้ป่วยง่ายที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลรักษาสุขภาพกันเอง

กระผม/อาตมภาพใช้คำว่า "อากาศเอื้อให้หมอรวย" ซึ่งคำนี้พูดไปแล้วก็เหมือนประชดประชัน แต่ว่าก็เป็นความจริง เนื่องเพราะว่าผู้คนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องหาหมอหายา ดังนั้น..ในเรื่องของสุขภาพร่างกาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลกันชนิด "หัวไม่วาง หางไม่เว้น" โดยเฉพาะบุคคลที่ร่างกายไม่แข็งแรง หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่แล้ว ต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นบางทีก็อาจจะเสียชีวิตกันได้ง่าย ๆ..!

กระผม/อาตมภาพเองต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่มีความรู้สึกว่าอยากไป เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า "ภูฏาน" หรือว่าในชื่อเดิมคือ "ภูฐาน" นั้น นับถือพระพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งที่แตกแขนงไปจากพุทธศาสนามหายานแบบทิเบต

ด้วยความที่ในอดีตชาติ กระผม/อาตมภาพเคยบวชเป็นพระทิเบตอยู่หลายต่อหลายชาติ โดยเฉพาะในช่วงนั้นได้เกิดร่วมกับหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ จนฺทวํโส (พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน มากที่สุด หลวงปู่ท่านถ้าหากว่าไม่เกิดเป็นพ่อ ก็เกิดเป็นครูบาอาจารย์ที่คอยถ่ายทอดวิชาการต่าง ๆ ให้ จึงมีความเคารพนับถือท่านชนิดข้ามชาติข้ามภพมาจนถึงปัจจุบัน..!

อาจจะด้วยความที่เกิดที่ประเทศทิเบตมามาก ถ้าหลายต่อหลายท่านสังเกตการเดินทางของกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็จะเห็นว่าไปที่ไหนก็ตาม แทบจะไม่หลุดจากวัฒนธรรมทิเบตเลย ก็คือเปะปะไปทางด้านไหน ก็จะเจอวัดวาอาราม หรือว่ารูปแบบวัฒนธรรมของทิเบตอยู่เสมอ แม้กระทั่งตนเองก็ยังแปลกใจว่า ในเรื่องของบุญของกรรมนั้น มีอานุภาพชนิดข้ามชาติข้ามภพมาจนขนาดนี้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 23:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,313
ได้ให้อนุโมทนา: 159,820
ได้รับอนุโมทนา 4,512,908 ครั้ง ใน 36,926 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในเมื่อความผูกพันในลักษณะแบนี้เกิดขึ้น และภูฏานก็รับเอาพระพุทธศาสนาสายวัชรยานจากทิเบตเข้าไป โดยเฉพาะมีความเคารพในองค์ "พระปัทมสัมภวะ" หรือที่ภาษาทิเบตเรียกว่า "คุรุรินโปเช" จึงทำให้เป็นประเทศหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพอยากจะเดินทางไป เพื่อศึกษาในส่วนของพระพุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า ตามที่บริษัทเอ็นซีทัวร์ได้จัดเอาไว้ให้นั้น เราจะได้พบพานกับอะไรบ้าง ?

เนื่องเพราะว่าบางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเห็น บางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเรามองไม่เห็น บางทีบางอย่างก็ทำเอากระผม/อาตมภาพปรับตัวเองไม่ค่อยจะถูกเหมือนกัน

บางท่านเคยสังเกตว่า สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังรับสังฆทานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ "บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ" ก็ดี ที่ "บ้านวิริยบารมี" หรือว่า "บ้านเติมบุญ" ก็ตาม บางจังหวะบางเวลาที่ญาติโยมมาหาและตั้งใจจะถามปัญหา หลายคนสังเกตว่ากระผม/อาตมภาพขยับแว่นแล้ว ขยับแว่นอีก มองแล้วมองอีก

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเคยนั่งคุยกับอากาศให้คนเขาแปลกใจมากแล้ว..! ดังนั้น..จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า บุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้น เรามองเห็นแล้วคนอื่นเห็นด้วยหรือเปล่า ? ไม่เช่นนั้นแล้ว..ถ้าเผลอไปคุยกับอากาศให้คนอื่นเห็นอีก ดีไม่ดีจะว่ากระผม/อาตมภาพเพี้ยนถึงระดับต้องเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญาก็เป็นได้..!

หลายอย่างก็เป็นสิ่งที่พวกเราบางทีไม่สามารถที่จะใช้ตรรกะทั่ว ๆ ไปในการที่จะคิดว่า คาดว่า เนื่องเพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น กระผม/อาตมภาพเองถึงแม้ว่าอธิบายได้ แต่ว่าอธิบายไปแล้ว บางทีก็เหนื่อยใจ เนื่องเพราะเหมือนกับเป็นเต่าแล้วไปอธิบายให้ปลาฟังว่า สภาพบนบกนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งปลาอย่างเก่งก็พยายามที่จะเดาเอาว่า ต้นไม้ที่สูงหลาย ๆ วาบนบกนั้น มีสภาพเหมือนกับต้นอะไรในน้ำบ้าง ซึ่งเดาให้ตายก็ไม่มีทางที่จะเหมือนได้ เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พูดไปแล้วบางทีก็เหนื่อยเปล่า จึงจำเป็นที่จะอยู่ในลักษณะที่ว่า
"รู้แล้วเราสามารถพูดได้เท่าไร" เนื่องเพราะว่าบางอย่างถึงเขาจะบอกมาอย่างเต็มที่ แต่ก็อาจจะกำชับกำชาว่าห้ามพูดต่อ หรือว่าพูดได้แค่นี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 23:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,313
ได้ให้อนุโมทนา: 159,820
ได้รับอนุโมทนา 4,512,908 ครั้ง ใน 36,926 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของบุคคลที่ฝึกปรือด้านทิพจักขุญาณมา จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูงว่า "เรื่องที่เรารู้นั้น เราสามารถพูดได้เท่าไร" ซึ่งก็มักจะพูดออกไปในลักษณะที่พอเหมาะพอดี แต่ความเสียหายมักจะมาเกิดทีหลัง เนื่องเพราะจะมีบรรดาลูกศิษย์แสนรู้มาคอยขยายความให้..!

อย่างเช่นที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเล่าว่า ท่านเคยเกิดในสมัยโน้นบ้าง ในสมัยนี้บ้าง แล้วก็มีคนมาฟันธงว่าหลวงพ่อเป็นในหลวงรัชกาลนั้น เป็นในหลวงรัชกาลนี้ โดยที่หลวงพ่อท่านไม่ได้พูดสักคำว่าท่านเป็น แต่ในเมื่อลูกศิษย์ไปฟันธงในลักษณะแบบนั้น ถ้าหากว่ามีผู้ที่จะเอาเรื่องขึ้นมา ก็มีหวังอาจจะโดนฟ้องในมาตรา ๑๑๒ เอาได้ง่าย ๆ เนื่องเพราะว่าอยู่ในลักษณะของการแอบอ้างและโหนสถาบัน..!

ดังนั้น..บรรดาลูกศิษย์ที่โง่แล้วขยัน มักจะไปขยายความคำพูดของครูบาอาจารย์ในลักษณะที่อวดว่า "กูฉลาด กูรู้ว่าเรื่องนี้ความจริงเป็นอย่างไร" แล้วก็ไปพูดมากกว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านพูด สร้างความเสียหายให้กับครูบาอาจารย์เป็นอย่างมาก เนื่องเพราะว่าคนที่ไม่เชื่อ เขาก็ตำหนิติเตียนด่าว่าเอาได้..!

ส่วนไอ้เจ้าตัวผู้ "หาเหาใส่หัว" หาเรื่องเดือดร้อนให้ครูบาอาจารย์ นอกจากไม่รู้สำนึกผิดแล้ว ยังรู้สึกภูมิใจมาก ที่มีโอกาสได้แสดงความโง่ของตนเองด้วยการขยายคำพูดครูบาอาจารย์ให้คนอื่นเขาฟัง จึงเป็นเรื่องที่ครูบาอาจารย์ต้องปวดหัวกันมาก เพราะว่าบุคคลประเภทนี้ก็มีมากเสียด้วย ก็คือจะอยู่ในลักษณะ "อวดรู้" แล้วในขณะเดียวกันก็ "อวดเก่ง" ไปในตัว กลายเป็นว่าไม่ได้พิจารณาว่าตนเองนั้นแบก "ตัวกู ของกู" ไปเท่าไร

การ "อวดรู้" หรือ "อวดเก่ง" นั่นก็คือสักกายทิฏฐิล้วน ๆ แถมยังแสดงความโง่ด้วยการขยายความ "อวดรู้" "อวดเก่ง" ของตนเองออกไปอีกต่างหาก ทำให้บุคคลที่เลื่อมใส อาจจะเข้าใจผิดตามไปด้วย ส่วนบุคคลที่ไม่เลื่อมใสก็ตำหนิด่าว่าครูบาอาจารย์ของตน จนกลายเป็นโทษกับเขาไปอีกต่างหาก พูดง่าย ๆ ว่าไม่เคยพิจารณาว่ากาย วาจา ใจ ของตนที่แสดงออกนั้น จะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นอย่างไรบ้าง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,313
ได้ให้อนุโมทนา: 159,820
ได้รับอนุโมทนา 4,512,908 ครั้ง ใน 36,926 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องบางเรื่องเรารู้อยู่แก่ใจก็พอ แต่ดันไปอธิบายขยายความ จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนหนึ่ง เขาพูดแบบดูถูกดูแคลนว่า "มโน" พูดง่าย ๆ ว่าก็คือนึกและทึกทักไปเอง ทำให้วิชาการและความรู้บางอย่าง ซึ่งมีคุณค่าเลิศเลอชนิดเพชรยอดมงกุฎ ทำให้เราสามารถพิสูจน์คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกี่ยวกับภพภูมิต่าง ๆ ตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงสูงสุดว่ามีจริง สามารถที่จะเข้าถึงได้ แต่ว่ากลายเป็นสิ่งที่ไร้ราคา เพราะความที่ตนเองนั้น นอกจากไม่ขยันหมั่นฝึกซ้อมให้ดีแล้ว ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองรู้ ตนเองเห็นนั้น สามารถพูดได้เท่าไร

แค่นั้นยังไม่พอ ตนเองไม่รู้ไม่เห็น แต่ไปขยายคำพูดของคนอื่น โดยเฉพาะคำพูดของครูบาอาจารย์ ในลักษณะ "อวดรู้" และ "อวดเก่ง" ทำให้ครูบาอาจารย์เสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก จนทุกวันนี้ถ้าพูดถึงเรื่องเหล่านี้ บางทีสายตาผู้ฟังก็จะมองแบบดูถูกดูแคลนไปด้วย
ทำให้เราเองสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับตนเองยังไม่พอ ยังไปสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับคนอื่นเขาอีก

ส่วนเรื่องที่ไปภูฏานแล้ว จะพบจะเห็นอะไรที่ต่างจากปกติไปบ้าง กระผม/อาตมภาพก็จะพยายามนำมาบอกกล่าว ให้ท่านทั้งหลายได้รู้ได้ทราบเท่าที่จะสามารถบอกได้ ในส่วนไหนที่ไม่ได้กล่าว ไม่ได้พูดถึง ก็ไม่ต้องเสียเวลามาไต่ถาม เนื่องเพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะพูดได้นั่นเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า วันนี้, 13:49
ทายก's Avatar
ทายก ทายก is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2012
สถานที่: อุดรธานี
ข้อความ: 17
ได้ให้อนุโมทนา: 247,533
ได้รับอนุโมทนา 21,551 ครั้ง ใน 1,278 โพสต์
ทายก is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
ดังนั้น..ในเมื่อความผูกพันในลักษณะแบนี้เกิดขึ้น และภูฏานก็รับเอาพระพุทธศาสนาสายวัชรยานจากทิเบตเข้าไป โดยเฉพาะมีความเคารพในองค์ "พระปัทมสัมภวะ" หรือที่ภาษาทิเบตเรียกว่า "คุรุรินโปเช" จึงทำให้เป็นประเทศหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพอยากจะเดินทางไป เพื่อศึกษาในส่วนของพระพุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า ตามที่บริษัทเอ็นซีทัวร์ได้จัดเอาไว้ให้นั้น เราจะได้พบพานกับอะไรบ้าง ?

เนื่องเพราะว่าบางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเห็น บางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเรามองไม่เห็น บางทีบางอย่างก็ทำเอากระผม/อาตมภาพปรับตัวเองไม่ค่อยจะถูกเหมือนกัน

บางท่านเคยสังเกตว่า สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังรับสังฆทานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ "บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ" ก็ดี ที่ "บ้านวิริยบารมี" หรือว่า "บ้านเติมบุญ" ก็ตาม บางจังหวะบางเวลาที่ญาติโยมมาหาและตั้งใจจะถามปัญหา หลายคนสังเกตว่ากระผม/อาตมภาพขยับแว่นแล้ว ขยับแว่นอีก มองแล้วมองอีก

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเคยนั่งคุยกับอากาศให้คนเขาแปลกใจมากแล้ว..! ดังนั้น..จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า บุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้น เรามองเห็นแล้วคนอื่นเห็นด้วยหรือเปล่า ? ไม่เช่นนั้นแล้ว..ถ้าเผลอไปคุยกับอากาศให้คนอื่นเห็นอีก ดีไม่ดีจะว่ากระผม/อาตมภาพเพี้ยนถึงระดับต้องเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญาก็เป็นได้..!

หลายอย่างก็เป็นสิ่งที่พวกเราบางทีไม่สามารถที่จะใช้ตรรกะทั่ว ๆ ไปในการที่จะคิดว่า คาดว่า เนื่องเพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น กระผม/อาตมภาพเองถึงแม้ว่าอธิบายได้ แต่ว่าอธิบายไปแล้ว บางทีก็เหนื่อยใจ เนื่องเพราะเหมือนกับเป็นเต่าแล้วไปอธิบายให้ปลาฟังว่า สภาพบนบกนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งปลาอย่างเก่งก็พยายามที่จะเดาเอาว่า ต้นไม้ที่สูงหลาย ๆ วาบนบกนั้น มีสภาพเหมือนกับต้นอะไรในน้ำบ้าง ซึ่งเดาให้ตายก็ไม่มีทางที่จะเหมือนได้ เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พูดไปแล้วบางทีก็เหนื่อยเปล่า จึงจำเป็นที่จะอยู่ในลักษณะที่ว่า
"รู้แล้วเราสามารถพูดได้เท่าไร" เนื่องเพราะว่าบางอย่างถึงเขาจะบอกมาอย่างเต็มที่ แต่ก็อาจจะกำชับกำชาว่าห้ามพูดต่อ หรือว่าพูดได้แค่นี้
__________________
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีรัง วิโสทะเย"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทายก ในข้อความที่เขียนด้านบน
เด็กใต้ (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้)
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
วุฒิชัย

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว