#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศทองผาภูมิยังคง "ผีเข้า ผีออก" ก็คือนึกจะหนาวก็หนาว นึกจะฝนก็ฝนตกเอาดื้อ ๆ ในลักษณะแบบนี้ ถ้าคนเราร่างกายไม่แข็งแรง จะเจ็บไข้ได้ป่วยง่ายที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลรักษาสุขภาพกันเอง
กระผม/อาตมภาพใช้คำว่า "อากาศเอื้อให้หมอรวย" ซึ่งคำนี้พูดไปแล้วก็เหมือนประชดประชัน แต่ว่าก็เป็นความจริง เนื่องเพราะว่าผู้คนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องหาหมอหายา ดังนั้น..ในเรื่องของสุขภาพร่างกาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลกันชนิด "หัวไม่วาง หางไม่เว้น" โดยเฉพาะบุคคลที่ร่างกายไม่แข็งแรง หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่แล้ว ต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นบางทีก็อาจจะเสียชีวิตกันได้ง่าย ๆ..! กระผม/อาตมภาพเองต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่มีความรู้สึกว่าอยากไป เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า "ภูฏาน" หรือว่าในชื่อเดิมคือ "ภูฐาน" นั้น นับถือพระพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งที่แตกแขนงไปจากพุทธศาสนามหายานแบบทิเบต ด้วยความที่ในอดีตชาติ กระผม/อาตมภาพเคยบวชเป็นพระทิเบตอยู่หลายต่อหลายชาติ โดยเฉพาะในช่วงนั้นได้เกิดร่วมกับหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ จนฺทวํโส (พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน มากที่สุด หลวงปู่ท่านถ้าหากว่าไม่เกิดเป็นพ่อ ก็เกิดเป็นครูบาอาจารย์ที่คอยถ่ายทอดวิชาการต่าง ๆ ให้ จึงมีความเคารพนับถือท่านชนิดข้ามชาติข้ามภพมาจนถึงปัจจุบัน..! อาจจะด้วยความที่เกิดที่ประเทศทิเบตมามาก ถ้าหลายต่อหลายท่านสังเกตการเดินทางของกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็จะเห็นว่าไปที่ไหนก็ตาม แทบจะไม่หลุดจากวัฒนธรรมทิเบตเลย ก็คือเปะปะไปทางด้านไหน ก็จะเจอวัดวาอาราม หรือว่ารูปแบบวัฒนธรรมของทิเบตอยู่เสมอ แม้กระทั่งตนเองก็ยังแปลกใจว่า ในเรื่องของบุญของกรรมนั้น มีอานุภาพชนิดข้ามชาติข้ามภพมาจนขนาดนี้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 23:55 |
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ดังนั้น..ในเมื่อความผูกพันในลักษณะแบนี้เกิดขึ้น และภูฏานก็รับเอาพระพุทธศาสนาสายวัชรยานจากทิเบตเข้าไป โดยเฉพาะมีความเคารพในองค์ "พระปัทมสัมภวะ" หรือที่ภาษาทิเบตเรียกว่า "คุรุรินโปเช" จึงทำให้เป็นประเทศหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพอยากจะเดินทางไป เพื่อศึกษาในส่วนของพระพุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า ตามที่บริษัทเอ็นซีทัวร์ได้จัดเอาไว้ให้นั้น เราจะได้พบพานกับอะไรบ้าง ?
เนื่องเพราะว่าบางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเห็น บางอย่างก็เป็นส่วนที่ตาเรามองไม่เห็น บางทีบางอย่างก็ทำเอากระผม/อาตมภาพปรับตัวเองไม่ค่อยจะถูกเหมือนกัน บางท่านเคยสังเกตว่า สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังรับสังฆทานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ "บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ" ก็ดี ที่ "บ้านวิริยบารมี" หรือว่า "บ้านเติมบุญ" ก็ตาม บางจังหวะบางเวลาที่ญาติโยมมาหาและตั้งใจจะถามปัญหา หลายคนสังเกตว่ากระผม/อาตมภาพขยับแว่นแล้ว ขยับแว่นอีก มองแล้วมองอีก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเคยนั่งคุยกับอากาศให้คนเขาแปลกใจมากแล้ว..! ดังนั้น..จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า บุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้น เรามองเห็นแล้วคนอื่นเห็นด้วยหรือเปล่า ? ไม่เช่นนั้นแล้ว..ถ้าเผลอไปคุยกับอากาศให้คนอื่นเห็นอีก ดีไม่ดีจะว่ากระผม/อาตมภาพเพี้ยนถึงระดับต้องเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญาก็เป็นได้..! หลายอย่างก็เป็นสิ่งที่พวกเราบางทีไม่สามารถที่จะใช้ตรรกะทั่ว ๆ ไปในการที่จะคิดว่า คาดว่า เนื่องเพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น กระผม/อาตมภาพเองถึงแม้ว่าอธิบายได้ แต่ว่าอธิบายไปแล้ว บางทีก็เหนื่อยใจ เนื่องเพราะเหมือนกับเป็นเต่าแล้วไปอธิบายให้ปลาฟังว่า สภาพบนบกนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งปลาอย่างเก่งก็พยายามที่จะเดาเอาว่า ต้นไม้ที่สูงหลาย ๆ วาบนบกนั้น มีสภาพเหมือนกับต้นอะไรในน้ำบ้าง ซึ่งเดาให้ตายก็ไม่มีทางที่จะเหมือนได้ เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พูดไปแล้วบางทีก็เหนื่อยเปล่า จึงจำเป็นที่จะอยู่ในลักษณะที่ว่า "รู้แล้วเราสามารถพูดได้เท่าไร" เนื่องเพราะว่าบางอย่างถึงเขาจะบอกมาอย่างเต็มที่ แต่ก็อาจจะกำชับกำชาว่าห้ามพูดต่อ หรือว่าพูดได้แค่นี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 23:59 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ในส่วนของบุคคลที่ฝึกปรือด้านทิพจักขุญาณมา จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูงว่า "เรื่องที่เรารู้นั้น เราสามารถพูดได้เท่าไร" ซึ่งก็มักจะพูดออกไปในลักษณะที่พอเหมาะพอดี แต่ความเสียหายมักจะมาเกิดทีหลัง เนื่องเพราะจะมีบรรดาลูกศิษย์แสนรู้มาคอยขยายความให้..!
อย่างเช่นที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเล่าว่า ท่านเคยเกิดในสมัยโน้นบ้าง ในสมัยนี้บ้าง แล้วก็มีคนมาฟันธงว่าหลวงพ่อเป็นในหลวงรัชกาลนั้น เป็นในหลวงรัชกาลนี้ โดยที่หลวงพ่อท่านไม่ได้พูดสักคำว่าท่านเป็น แต่ในเมื่อลูกศิษย์ไปฟันธงในลักษณะแบบนั้น ถ้าหากว่ามีผู้ที่จะเอาเรื่องขึ้นมา ก็มีหวังอาจจะโดนฟ้องในมาตรา ๑๑๒ เอาได้ง่าย ๆ เนื่องเพราะว่าอยู่ในลักษณะของการแอบอ้างและโหนสถาบัน..! ดังนั้น..บรรดาลูกศิษย์ที่โง่แล้วขยัน มักจะไปขยายความคำพูดของครูบาอาจารย์ในลักษณะที่อวดว่า "กูฉลาด กูรู้ว่าเรื่องนี้ความจริงเป็นอย่างไร" แล้วก็ไปพูดมากกว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านพูด สร้างความเสียหายให้กับครูบาอาจารย์เป็นอย่างมาก เนื่องเพราะว่าคนที่ไม่เชื่อ เขาก็ตำหนิติเตียนด่าว่าเอาได้..! ส่วนไอ้เจ้าตัวผู้ "หาเหาใส่หัว" หาเรื่องเดือดร้อนให้ครูบาอาจารย์ นอกจากไม่รู้สำนึกผิดแล้ว ยังรู้สึกภูมิใจมาก ที่มีโอกาสได้แสดงความโง่ของตนเองด้วยการขยายคำพูดครูบาอาจารย์ให้คนอื่นเขาฟัง จึงเป็นเรื่องที่ครูบาอาจารย์ต้องปวดหัวกันมาก เพราะว่าบุคคลประเภทนี้ก็มีมากเสียด้วย ก็คือจะอยู่ในลักษณะ "อวดรู้" แล้วในขณะเดียวกันก็ "อวดเก่ง" ไปในตัว กลายเป็นว่าไม่ได้พิจารณาว่าตนเองนั้นแบก "ตัวกู ของกู" ไปเท่าไร การ "อวดรู้" หรือ "อวดเก่ง" นั่นก็คือสักกายทิฏฐิล้วน ๆ แถมยังแสดงความโง่ด้วยการขยายความ "อวดรู้" "อวดเก่ง" ของตนเองออกไปอีกต่างหาก ทำให้บุคคลที่เลื่อมใส อาจจะเข้าใจผิดตามไปด้วย ส่วนบุคคลที่ไม่เลื่อมใสก็ตำหนิด่าว่าครูบาอาจารย์ของตน จนกลายเป็นโทษกับเขาไปอีกต่างหาก พูดง่าย ๆ ว่าไม่เคยพิจารณาว่ากาย วาจา ใจ ของตนที่แสดงออกนั้น จะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นอย่างไรบ้าง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:02 |
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
เรื่องบางเรื่องเรารู้อยู่แก่ใจก็พอ แต่ดันไปอธิบายขยายความ จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนหนึ่ง เขาพูดแบบดูถูกดูแคลนว่า "มโน" พูดง่าย ๆ ว่าก็คือนึกและทึกทักไปเอง ทำให้วิชาการและความรู้บางอย่าง ซึ่งมีคุณค่าเลิศเลอชนิดเพชรยอดมงกุฎ ทำให้เราสามารถพิสูจน์คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกี่ยวกับภพภูมิต่าง ๆ ตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงสูงสุดว่ามีจริง สามารถที่จะเข้าถึงได้ แต่ว่ากลายเป็นสิ่งที่ไร้ราคา เพราะความที่ตนเองนั้น นอกจากไม่ขยันหมั่นฝึกซ้อมให้ดีแล้ว ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองรู้ ตนเองเห็นนั้น สามารถพูดได้เท่าไร
แค่นั้นยังไม่พอ ตนเองไม่รู้ไม่เห็น แต่ไปขยายคำพูดของคนอื่น โดยเฉพาะคำพูดของครูบาอาจารย์ ในลักษณะ "อวดรู้" และ "อวดเก่ง" ทำให้ครูบาอาจารย์เสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก จนทุกวันนี้ถ้าพูดถึงเรื่องเหล่านี้ บางทีสายตาผู้ฟังก็จะมองแบบดูถูกดูแคลนไปด้วย ทำให้เราเองสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับตนเองยังไม่พอ ยังไปสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับคนอื่นเขาอีก ส่วนเรื่องที่ไปภูฏานแล้ว จะพบจะเห็นอะไรที่ต่างจากปกติไปบ้าง กระผม/อาตมภาพก็จะพยายามนำมาบอกกล่าว ให้ท่านทั้งหลายได้รู้ได้ทราบเท่าที่จะสามารถบอกได้ ในส่วนไหนที่ไม่ได้กล่าว ไม่ได้พูดถึง ก็ไม่ต้องเสียเวลามาไต่ถาม เนื่องเพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะพูดได้นั่นเอง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:04 |
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
![]()
__________________
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีรัง วิโสทะเย" ![]() |
สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
วุฒิชัย |
|
|