#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘
|
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น "วันหาหมอ" ของกระผม/อาตมภาพ แต่ว่าเรื่องที่อยากพูดถึง ไม่ใช่สุขภาพที่ชำรุดทรุดโทรมตามประสาคนแก่ หากแต่เป็นเรื่องดังที่ทำเอาวุ่นวายไปทั้งประเทศ ก็คือเรื่อง "การอายัดบัญชีเงิน" เนื่องเพราะคิดว่าเชื่อมโยงกับบรรดา "บัญชีม้า" ต่าง ๆ
คำว่า บัญชีม้า ในที่นี้ ถ้าแปลง่าย ๆ ก็คือบัญชีซึ่งมิจฉาชีพเปิดขึ้นมาเอง หรือหลอกให้คนอื่นช่วยเปิดให้ เพื่อรองรับเงินส่วนที่เขาจะพึงได้จากการทุจริต สิ่งที่ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด ก็เพราะว่าถ้าเกิดเขาพิจารณาแล้วสงสัยว่า ท่านมีเงินโอนซึ่งหาที่มาไม่ได้เข้ามา แล้วชี้แจงไม่ได้อีกต่างหากว่ามาจากใคร ? ก็จะมีการอายัด ก็คือไม่ให้ท่านเบิกจ่ายบัญชีนั้น เพื่อส่งให้ตำรวจทำการตรวจสอบ คราวนี้ความบรรลัยเกิดขึ้นตรงที่ว่า เมื่อส่งให้พนักงานสอบสวนไปแล้ว ธนาคารแจ้งว่าตนเองไม่ได้มีภาระหน้าที่ในการติดตามเรื่องให้ อยากรู้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ต้องติดต่อพนักงานสอบสวนเท่านั้น..! แล้วส่วนหนึ่งก็โดนอายัดกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับคนดี ๆ จนวุ่นวายไปหมด จึงเกิดกระแสการถอนเงินสดมาเพื่อถือไว้ในมือ ป้องกันว่าถ้าวันร้ายคืนร้าย ธนาคารอายัดบัญชีของท่าน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร อย่างน้อยก็จะได้มีเงินสดเอาไว้ใช้งาน อีกส่วนหนึ่งก็บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ที่ยกเลิกการจ่ายเงินด้วยวิธีสแกน เพราะเกรงว่าเงินที่จ่ายมานั้น อาจจะเป็นเจ้าของบัญชีม้าตัวจริง แต่ว่าไปซื้อข้าวแกงสักถุงหนึ่ง แล้วสแกนจ่ายมา ตำรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วว่ามาจากบัญชีม้า แจ้งธนาคารอายัด ความบรรลัยก็เกิดขึ้นกับผู้ทำมาหากินสุจริต..! ต้องบอกว่าเรื่องพวกนี้ไม่ควรที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้นมาในบ้านในเมืองของเรา แต่ก็เกิดขึ้นมาจนได้ เพราะการทำงานด้วยความหวังดี ปรารถนาดี ในลักษณะอย่างนี้เอง เพียงแต่ท่านทั้งหลายรู้ว่าบัญชีใครคือบัญชีม้า จะสีดำสนิท สีเทา หรือว่าสีเกือบเทาก็ตาม ท่านก็จัดการอายัดบัญชีทั้งหลายเหล่านั้นให้หมด แล้วก็ใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ออกหมายเรียกตัวมาทำการสอบสวน ถ้าหาความเชื่อมโยงไม่ได้ ก็สั่งยกเลิกการอายัด ให้เขาได้ใช้งานต่อไป แต่ถ้าหากว่าพบว่าเป็นบัญชีที่ข้องเกี่ยวกับงานทุจริตจริง ๆ ก็ทำการยึดเป็นทรัพย์ของแผ่นดินไปเลย ไม่ใช่เหวี่ยงแหมั่วไปหมดแบบนี้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:43 |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
อย่าลืมว่าเจ้าของบัญชีม้า หรือผู้ทุจริตก็เป็นคนธรรมดา ต้องกินต้องใช้ตามปกติ ไม่ใช่ว่าการกินการใช้ของเขาไปเชื่อมโยงกับคนอื่น แล้วคนนั้นจะเป็นผู้ทุจริตด้วย เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันมาก ถ้าเอาหลักการของตุลาการมาใช้ก็คือ ยอมปล่อยคนผิด ๑๐ คน ดีกว่าการจับคนไม่ผิด ๑ คน เหล่านี้เป็นต้น
แล้วกระผม/อาตมภาพมากล่าวถึงเรื่องพวกนี้เพราะอะไร ? ก็เพราะว่าทางด้านวัดท่าขนุนนั้น มีการทำบุญผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบรรดาท่านเจ้าของบัญชีม้าต่าง ๆ ถ้าหากว่าท่านวันดีคืนดีเกิดมีใจเป็นกุศล โอนเงินมาทำบุญสัก ๑๐๙ บาท ๙๙ บาท หรือว่าโอนให้ทุกวัน ๆ ละ ๙ บาท กระผม/อาตมภาพก็จะกลายเป็นผู้ทุจริตไปในทันที..! แต่ว่าถึงท่านอายัดบัญชีวัดหรือว่าบัญชีของกระผม/อาตมภาพไป กระผม/อาตมภาพก็ไม่เดือดร้อน เหตุที่เป็นเช่นนั้น ถ้าท่านทั้งหลายได้ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ย้อนหลังไปถึงปีที่แล้ว ก็จะได้ยินกระผม/อาตมภาพบอกว่า ให้ถือเงินสดเอาไว้บ้าง โดยเฉพาะธนบัตรใบเล็ก ก็คือใบละ ๒๐ บาท ๕๐ บาท หรือว่า ๑๐๐ บาท เพื่อความสะดวกในการใช้งานเวลาฉุกเฉิน กระผม/อาตมภาพไม่ใช่บุคคลที่แนะนำคนอื่นแล้วตนเองไม่ได้ทำเอง หากแต่ว่าทำเองด้วย เนื่องเพราะเชื่อมั่นในความรู้ของตนว่า สิ่งหนึ่งประการใดที่พระก็ดี ครูบาอาจารย์ก็ดี ท่านบอกท่านกล่าวมา เป็นสิ่งที่พึงกระทำ พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ได้ฟังคำสอนเป็นคำสอน หากแต่ฟังคำสอนเป็นคำสั่ง ก็คือเป็นสิ่งที่เราต้องยึดถือและปฏิบัติตาม จึงได้มีปัจจัยสำรองเอาไว้จำนวนหนึ่ง ต่อให้โดนปิดบัญชีไปสัก ๓ เดือน ๖ เดือน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ว่าท่านที่ไม่ได้เตรียมการเอาไว้ แล้วตอนนี้เร่งไปเบิกเงินสด จึงเดือดร้อนกันไปหมด..! ส่วนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีนโยบายไม่เก็บเงินสดเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะมีบรรดาโสณทุจริตทำการปล้นชิงได้ ส่วนใหญ่แล้วก็จะส่งเงินเข้าคลังกันหมด ตรงส่วนนี้ก็เลยทำให้ท่านทั้งหลายยิ่งตื่นตระหนกเข้าไปอีก ก็คือพอไปขอเบิกเงินสด ก็ต้องมีการจองคิว มีการรอเวลา บางธนาคารใช้วิธีรอว่ามีคนฝากเงินสดแล้ว ค่อยนำมาทยอยจ่ายให้กับท่านที่เบิก ถ้าวันนั้นมีคนฝากน้อย ก็จะเดือดร้อนกันหนักเข้าไปอีก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:47 |
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ฉันชื่อวรัญญา (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (เมื่อวานนี้), นิรันตราย (เมื่อวานนี้), ปราโมทย์ (เมื่อวานนี้), เผือกน้อย (วันนี้), พุทธภูมิ (เมื่อวานนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
|
#4
|
||||
|
||||
![]()
แต่จะว่าไปแล้ว บางทีกระผม/อาตมภาพก็อยากจะสมน้ำหน้าธนาคารอยู่เหมือนกัน ก็คือว่าหน้าที่ของท่าน ต้องเก็บรักษาเงินของลูกค้าไว้ให้ปลอดภัย แล้วยังนำเอาเงินของลูกค้าไปปล่อยกู้ หาประโยชน์ในทุกวิถีทาง แต่พอถึงเวลามีปัญหาขึ้นมา แทนที่ท่านจะช่วยลูกค้าแก้ปัญหา กลับใช้วิธีอายัดบัญชี เบิกไม่ได้ จ่ายไม่ได้ แถมยัง "โบ้ย" ภาระไปให้เจ้าพนักงานสอบสวนอีกต่างหาก เรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าท่านทั้งหลายมีใจในการบริการลูกค้าอย่างแท้จริง จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านสมควรแล้วที่จะต้องปวดหัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของญาติโยมทั้งหลายนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตื่นตระหนก แล้วก็เร่งถอนเงินสดออกมา เรื่องพวกนี้กว่าจะมาถึงเราไม่ใช่ง่าย ๆ ใช้วิธีค่อย ๆ ทยอยถอนออกทีละเล็ก ทีละน้อย ผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ ที่เรียกว่าเอทีเอ็มก็ได้ หรือว่าจะถอนโดยบัญชีหน้าเคาน์เตอร์ก็ได้ ถ้าทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เรื่องตื่นตระหนกเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ทุกท่านจะต้องทำตัวเป็นบุคคลที่พร้อมอยู่เสมอว่า ถ้ามีภัยพิบัติก็ดี มีสงครามก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้ไม่ประมาท ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้ อย่างน้อยก็ให้มีกระเป๋าเป้สักใบหนึ่งติดตัว มีเสื้อผ้าสำรองสัก ๒ ชุด อาหาร น้ำและยาเล็กน้อย เงินสดติดกายไว้นิดหน่อย อาวุธป้องกันตัว ไม่ว่าจะเป็นประเภทมีดหรือปืนตามที่เรามีหรือถนัด เครื่องยังชีพต่าง ๆ ที่จำเป็น อย่างเช่นว่าไม้ขีด ไฟแช็ก ตลอดจนกระทั่งเบ็ดตกปลา อะไรเหล่านี้เป็นต้น ท่านลองไปเสาะหาดู แล้วก็เตรียมการเอาไว้ ในส่วนของที่จะหมดอายุได้ เช่นบรรดาอาหารแห้ง หรือว่ายา ถึงเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน เราก็เปลี่ยนใหม่ทีหนึ่ง ถึงเวลาเราฉุกเฉินขึ้นมา คว้าเป้สะพายหลังได้ ก็ออกจากที่พักได้ทันที โดยที่ไม่มีอะไรจะต้องมาเดือดร้อนวุ่นวายเหมือนกับคนอื่น อย่างน้อย ๆ เราก็อยู่ไปได้ ๓ วัน ๕ วัน เรื่องพวกนี้ถ้ารอจนเหตุเกิดขึ้นแล้วเราค่อยไปเตรียมตัว ส่วนใหญ่มักจะเตรียมการไม่ทัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:49 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
กระผม/อาตมภาพชื่นชมครูอี๊ด (นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ) หรือในชื่อที่คนอื่นรู้จักก็คือพนมเทียน ท่านสอนลูกสาวไว้ว่า กลางคืนอย่าใส่ชุดนอน หากแต่ว่าให้ใส่เสื้อยืด กางเกงวอร์ม แล้วก็มีบัตรประจำตัวประชาชนติดกระเป๋าเอาไว้ พร้อมกับกุญแจสถานที่สำคัญในบ้าน และที่สำคัญต้องมีอาวุธติดตัวไว้ด้วย..!
ครูอี๊ดสอนทั้งลูกสาวและลูกชายให้ยิงปืนใช้ปืนเป็น อยู่ในลักษณะระดับสุดยอดเสียด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้ามีอะไรฉุกเฉินต้องวิ่งออกจากบ้านกะทันหัน อย่างน้อยหลักฐานสำคัญก็คือบัตรประจำตัวประชาชนก็ติดตัว และมีอาวุธไว้ป้องกันตัวด้วย ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น ในฐานะที่เคยอยู่ป่าอยู่ดงมา การเตรียมพร้อมในลักษณะที่พร้อมรับมือกับการหลงป่าก็ดี สถานการณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ ก็ตาม ก็จะมีอาหาร น้ำ ยารักษาโรค เครื่องมืออื่น ๆ อย่างเช่น เข็ม ด้าย เบ็ดตกปลา ตลอดจนกระทั่งมีดพับ มีดพกอะไรก็ตาม ที่ช่วยเหลือให้เราอยู่ในป่าได้ โดยเฉพาะบรรดาไฟแช็กแก๊สต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราอย่างน้อยก็ก่อไฟได้ ติดตัวเอาไว้เป็นเป้เล็ก ๆ กะทัดรัด ถึงเวลาฉวยขึ้นหลังได้ จะวิ่งไปทางไหนก็ไปเถอะ..! คนอื่นเอาตัวรอดไม่ได้ อย่างน้อยเราก็อยู่ต่อไปได้ ๒ วัน ๓ วัน หรือถ้าหากว่ากินน้อย อดเก่ง อย่างกระผม/อาตมภาพ เป้ใบเดียวก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์แล้ว เป็นเรื่องที่เราไม่ประมาท เตรียมการเอาไว้ให้พร้อม เหตุอะไรที่เกิดขึ้น เราก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ระยะหนึ่ง แล้วค่อยไปหาหนทางอื่น ๆ ในกาลข้างหน้าต่อไป สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:51 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) | |
คลังมงคล, สุภชัย |
|
|