กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-09-2025, 20:00
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 573
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,626 ครั้ง ใน 1,061 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-09-2025, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,452 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพได้จัดการประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๘ ซึ่งท่านที่เข้าร่วมประชุมก็เห็นแล้วว่า ในส่วนของคณะกรรมการนั้น มีบางท่านที่ขัดแย้งกัน

สาเหตุหลักก็มาจากเรื่องของการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีการถือเขาถือเรา เป็นคู่แข่งซึ่งกันและกัน เมื่อถึงเวลาเกิดการแพ้ชนะกันขึ้น ก็ไม่มีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของชุมชน หากแต่อยู่ในลักษณะ "ตั้งแง่" เข้าใส่กัน ความสามัคคีในชุมชนจึงลดน้อยถอยลง ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะอยู่ในระดับ "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" วันนี้กระผม/อาตมภาพจึงปล่อยให้พวกเขาระบายกันในที่ประชุมอย่างเต็มที่..!

ส่วนหนึ่งที่ท่านทั้งหลายถ้าอยู่ในเหตุการณ์อย่างนั้น ต้องระมัดระวังให้จงหนักก็คือ กำลังใจของเราเอง อย่าได้มีการ "เลือกที่รักมักที่ชัง" อย่า "ถือหาง" ข้างใดข้างหนึ่ง ต้องทรงความเป็นกลางเอาไว้ให้ได้ ทำใจเหมือนกับคนดูละคร อย่ากระโดดลงไปเล่นด้วยตนเอง เพราะว่าทันทีที่เราเล่นด้วยตนเอง ก็แปลว่าจิตใจได้รับการปรุงแต่งไปทาง รัก โลภ โกรธ หลง แล้ว โอกาสที่สูญเสียความยุติธรรมจะมีมาก

เป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องพยายามฝึกให้ได้ หัดให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้า รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้น เท่ากับเราเอาไฟมาเผาใจตนเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องของคนอื่น เรื่องของชุมชน แต่คนที่แบกทุกข์แบกโทษกลายเป็นตัวเรา ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง..!


ไม่ว่าสถานการณ์หนักหนาขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือการรักษากำลังใจของตนเองให้อยู่ในด้านดีให้ได้ ซึ่งต้องใช้ทั้งสติ สมาธิ และปัญญา อย่างพร้อมมูล ไม่เช่นนั้นแล้ว เผลอเมื่อไรเราก็จะกระโดดลงไปเป็นผู้เล่น ตราบใดที่เรายังสามารถรักษาความเป็นผู้ดูเอาไว้ได้ สถานการณ์ต่าง ๆ ก็จะไม่หนักหนาจนเกินไป เพราะว่าเราจะมีสติสมาธิอยู่เฉพาะหน้า ถ้าอะไรที่เริ่มหนักหนาเกินไป เราก็จะต้องลงไปเบรก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2025 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-09-2025, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,452 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเช่นวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพ เตือนคณะกรรมการ "ร้านค้าชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน" ที่ไปกล่าวถึงหนทางและวิธีการบริหารของ "ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน" ซึ่งเป็นกรรมการคนละชุดกัน ก็คือถ้าหากว่าเราจะอยู่ในลักษณะ "สาดโคลน" เข้าหากัน ก็เปื้อนทั้งสองฝ่าย ในเมื่อไม่ใช่หน้าที่ของเรา จะไปล่วงเกินในลักษณะ "ล้วงลูก" งานคนอื่นนั้นไม่ถูกต้อง

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเมื่อ
กระผม/อาตมภาพมอบอำนาจหน้าที่ให้ใครทำแล้ว ก็จะมอบความไว้วางใจให้ตัดสินใจทำไปเลย โดยมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น ถ้าหากว่ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน พวกท่านสามารถที่จะประชุมปรึกษาหารือแก้ไขกันได้ด้วยตนเอง กระผม/อาตมภาพก็ปล่อยเป็นภาระของทุกคนไปอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเห็นว่าไม่รอดจริง ๆ ก็จะชี้ทางออกบอกทางถูกให้ ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ เราจะไม่เสียความยุติธรรม แล้วคนก็ตำหนิเราไม่ได้

เพียงแต่ว่าสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว มักจะเอากิเลสเข้ามาปนกับหน้าที่การงาน จะอยู่ในลักษณะหวงอำนาจ รวบอำนาจไว้เพียงคนเดียว ซึ่งถ้ากล่าวถึงอดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิรูปหนึ่ง ตอนที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าคณะตำบลชะแลเขต ๒ ซึ่งต้องดูแลถึง ๕ วัดและ ๗ สำนักสงฆ์ ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลประมาณครึ่งอำเภอ..! แค่วิ่งส่งหนังสือจากวัดแรกถึงวัดสุดท้าย รวมระยะทางถึง ๑๔๒ กิโลเมตร..! จึงขอให้ท่านตั้งรองเจ้าคณะตำบลมาช่วยงาน ๑ รูป ท่านไม่ยอมตั้งให้ บอกว่า "ผมไม่ชอบให้ใครมาแบ่งอำนาจ" ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่งานของท่าน แล้วก็ไม่ใช่แบ่งอำนาจจากตำแหน่งหน้าที่ของท่าน แต่ท่านยืนยันในลักษณะแบบนั้นเอง

ทุกท่านก็จะเห็นว่า ปกติของมนุษย์เราจะเป็นเช่นนั้น จึงต้องมองโลกในลักษณะของการดูหนังดูละคร ใครจะมีบทบาทอะไรก็ปล่อยเขาเต้นไป ใครจะมีข้อแก้ตัวอย่างไร เราก็รับฟังไว้ พยายามเสาะหาแก่นสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเราให้ได้ ถ้าทำในลักษณะนี้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของเราถึงจะมีมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2025 เมื่อ 00:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-09-2025, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,452 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าทำไม่ได้เมื่อไร เปลี่ยนจากคนดูไปเป็นคนเล่น ท่านทั้งหลายก็จะเหมือนกับนักมวยที่ชกอยู่บนเวที พี่เลี้ยงเห็นช่องว่างรอยโหว่ ตลอดจนกระทั่งวิธีการเอาชนะในการต่อสู้ แต่ตะโกนบอกไปให้ตาย นักมวยหลายคนก็ทำไม่ได้..! เพราะว่าเวลาขึ้นไปชกด้วยตนเองแล้ว การที่จะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงก็ยาก จึงเป็นแนวทางที่ทุกคนควรที่จะนำไปทดลองปฏิบัติดู เพียงแต่ว่าต้องสร้างกำลังใจของตนเองให้มั่นคงให้ได้ก่อน

เหมือนอย่างสมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ แล้วคณะสงฆ์เขาคิดว่ากระผม/อาตมภาพมักใหญ่ใฝ่สูง ต้องการจะเป็นเจ้าคณะอำเภอ จึงมีการปลุกม็อบทั้งชาวบ้านและคณะสงฆ์มาประท้วง กระผม/อาตมภาพก็ทำหน้าที่พิธีกรไปเลย ก็คือคอยสอบถามและส่งไมโครโฟนให้ทีละรูป ทีละคน ว่าใครต้องการจะพูดเรื่องอะไรก็ว่ามา ปล่อยให้ว่ากันได้เต็มที่..!

ทำเอาพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ซึ่งตอนนั้นคือพระครูปลัดปรีชา จิรนาโค โกรธจนหัวล้านแดงแทนกระผม/อาตมภาพเอง..! บอกว่า "มันด่าอาจารย์ขนาดนั้น แล้วยังไปทนฟังมันอยู่ได้..!" แต่กระผม/อาตมภาพไม่มีความรู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่า "ต้องทน" พูดง่าย ๆ ก็คือขณะที่เราวางแล้ว แต่คนอื่นกลับไปแบกแทน..!

การที่เราจะ "วาง" ได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยปัญญา เห็นว่า "ธรรมดาของโลกเป็นอย่างนั้น" ในเมื่อธรรมดาของโลกเป็นอย่างนั้น เราจะไปกระโดดโลดเต้น รัก โลภ โกรธ หลง ตามไปก็เหนื่อยเปล่า ทำเป็นคนดูว่าแต่ละคนมีบทบาทอย่างไร ? คิดเห็นกับเราอย่างไร ? จะดีกว่า หรือไม่ก็ถ้ายังอยู่ในระดับที่แบกอยู่ ก็ต้องแบกแล้วรู้สึกว่าหนักน้อยที่สุด ด้วยการทรงสมาธิภาวนาให้เป็นปกติ ถ้าตราบใดที่จิตเราไม่หลุดจากการภาวนา รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะเกิดไม่ได้..!

แต่ว่าตรงจุดนี้ต้องระวัง เพราะว่าถ้าหากเราเผลอไปปรุงแต่งทีหลัง กิเลสจะมาเป็นฟ้าถล่มดินทลายตอนนั้น ตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมาเองก็คือตอนเป็นฆราวาส มีเจ้าถิ่นเมาแล้วมาถีบประตู ร้องด่าทักทายให้ออกไปชกกัน กระผม/อาตมภาพก็ทรงอารมณ์ใจเยือกเย็น ไปค่อย ๆ เกลี้ยกล่อมให้เขากลับบ้าน เพียงแต่ระยะเวลายาวนานเกินไป น้องชายก็คือพระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล ก็เลยดึง
กระผม/อาตมภาพออกมา แล้วเตะมันสลบคาตีนไปเลย..! กระผม/อาตมภาพก็ยังอุตส่าห์เมตตาแบกมันไปส่งที่บ้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2025 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-09-2025, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,452 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่พอตอนกลับมาแล้ว นอนต่อไม่ได้ ไม่ทราบว่าสภาพจิตหลุดจากการภาวนาตอนไหน โกรธจนมือสั่นตีนสั่นไปหมด..! คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ถ้าตอนนั้นกูเตะมันซะเองจะดีที่สุด..!" นั่นก็คือลักษณะที่เราปล่อยให้สติ สมาธิ หลุดจากการภาวนา แล้ว รัก โลภ โกรธ หลง ตีกลับ ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่มักจะเจอในลักษณะแบบนี้

ดังนั้น..ถ้าจะแบกให้เบาด้วยการใช้สมาธิช่วย ถึงเวลาแล้วต้องไปพิจารณาต่อด้วย ก็คือใช้ปัญญาเข้ามาดูว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราโกรธเขา เขาก็ตาย เราไม่โกรธเขา เขาก็ตาย อยู่ได้ไม่นานหรอก ซึ่งวิธีการคิดเพื่อคลายกำลังใจของตนเองนั้น กระผม/อาตมภาพสามารถบอกเป็นแนวทางเท่านั้น แต่วิธีการเฉพาะหน้าแต่ละคนต้องไปคิดเอาเอง ต้องไปทำเอาเอง เพราะว่าสถานการณ์และกำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน

โดยเฉพาะถ้าอยู่ในฐานะประธาน ต้องเป็นผู้ตัดสินความ จะเข้าข้างคนใดคนหนึ่งก็ไม่ได้ ถ้าชมฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องไม่กดอีกฝ่ายหนึ่งลง ถ้าจะว่ากล่าวฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องโดนด้วย ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ เราถึงจะปกครองคนได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2025 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว