กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-08-2025, 19:39
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,134
ได้ให้อนุโมทนา: 226,555
ได้รับอนุโมทนา 811,822 ครั้ง ใน 39,967 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-08-2025, 23:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,995
ได้ให้อนุโมทนา: 159,693
ได้รับอนุโมทนา 4,501,488 ครั้ง ใน 36,606 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุเต็ม ๙๓ พรรษา ย่างเข้า ๙๔ พรรษา ในนามของคณะสงฆ์และคณะศิษย์วัดท่าขนุน ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ทุกท่านจะเห็นว่าในงานทำบุญวันแม่ปีนี้ ญาติพี่น้องของกระผม/อาตมภาพลดน้อยลงไปอีกแล้ว จะว่าไปแล้ว การพลัดพรากจากกันเป็นเรื่องธรรมดา พี่ชายใหญ่กับพี่สาวใหญ่ ซึ่งเกิดกับแม่ใหญ่ที่เมืองจีน ก็เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่เขยใหญ่ที่เมืองจีน ก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน

ทางด้านเมืองไทย โยมแม่ของกระผม/อาตมภาพมีลูกทั้งหมด ๑๓ คน พี่ชายคนโตของแม่นี้คือพี่วิเชียรเสียชีวิตไปแล้ว พี่สาวคนโตคือพี่อรทัยเสียชีวิตไปแล้ว ถัดจากนั้นมาก็ยังมาพี่ประสิทธิ์เสียชีวิตไปอีกเช่นกัน ส่วนพี่บุญมานั้นเสียชีวิตเพราะว่าป่วยตั้งแต่ยังเด็ก ก็แปลว่าญาติพี่น้องหลัก ๆ แล้ว เหลือน้อยลงไปทุกวัน

เขาถึงได้กล่าวกันว่าเด็กกับคนแก่จะมีวัยวิกฤตของตนเอง เด็กจะมีวัยวิกฤตช่วยเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนผู้ใหญ่จะมีวัยวิกฤตช่วงเข้าสู่วัยร่วง..! ก็คือผู้คนรอบข้างลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งตนเอง สังขารก็แก่ชราไปทุกวัน

แม้ว่าเรื่องพวกนี้จะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่น้อยคนที่จะมีปัญญามองเห็น แล้วบุคคลที่มีปัญญามองเห็น ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับได้ทุกคน เนื่องเพราะว่าสติ สมาธิ ปัญญาจะต้องสมบูรณ์พร้อมจริง ๆ เมื่อเห็นความเป็นจริงของร่างกาย เห็นความเป็นจริงของโลกแล้ว ถึงจะยอมรับได้ ก็แปลว่าในงานทำบุญวันแม่ทุกปี ก็คงจะมีญาติรุ่นใกล้เคียงกันลดลงไปเรื่อย ๆ

สิ่งหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพระลึกรู้อยู่เสมอก็คือตนเองพร้อมที่จะตายตลอดเวลา เพราะว่าตอนนี้ก็ ๖๖ ปีเต็ม ย่าง ๖๗ ปี มาหลายเดือนแล้ว บรรดาญาติพี่น้องตอนนี้ก็ไม่มีคนไหนอายุต่ำกว่า ๖๐ ปี น้องสาวคนเล็กสุดอายุ ๖๐ ปีถ้วน ย่าง ๖๑ ปีแล้ว คนแก่ก็เหมือนกับผลไม้สุก รอวันที่จะหลุดร่วงจากขั้วไปเท่านั้น ดังนั้น..สิ่งเดียวที่จะเหลืออยู่ก็คือคุณงามความดี ที่เราจะสร้างสมไว้ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2025 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-08-2025, 23:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,995
ได้ให้อนุโมทนา: 159,693
ได้รับอนุโมทนา 4,501,488 ครั้ง ใน 36,606 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุสามเณร ถ้าหากว่าบวชเข้ามา ก็จะมีจำนวนหนึ่งที่เข้ามาเพราะว่าอยากดี อยากเด่น อยากดัง เหมือนครูบาอาจารย์ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิด แต่ว่าเราต้องดี เด่น ดัง แบบบุคคลผู้มีปัญญา ก็คือค่อยเป็นค่อยไป เพราะว่าบรรดาบุคคลที่เด่นดังขึ้นมาในขณะที่กำลังใจของตนเองยังสู้กิเลสไม่ได้นั้น ท่านทั้งหลายก็เห็นอยู่แล้วว่าไปไม่รอดสักราย..!

อย่างบรรดาอดีตพระเถระที่เสียท่า "สีกากอล์ฟ" แล้วต้องสึกหาลาเพศออกไปเป็น ๑๐ ราย คาดว่าเรื่องวุ่นวายในหมู่คณะสงฆ์ของเรา พรุ่งนี้น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะว่าสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม ซึ่งคณะทำงานก็คือข้าราชการในสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ออกข้อสรุปออกมาให้พวกเราดำเนินการ ก็จะนำข้อสรุปนี้ไปกราบเรียนกรรมการมหาเถรสมาคม คาดว่าจะได้มีมติออกมาอย่างเป็นทางการ

คราวนี้จากที่กระผม/อาตมภาพได้รับข่าวคราวมาจากสารพัดทิศทาง เมื่อกรองข่าวทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่าที่บรรดารัฐมนตรีก็ดี ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ดี ข้าราชการในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ตาม "ได้รับงานมา" เพื่อให้ดำเนินการตรงนี้..!

เรื่องราวนั้นเริ่มจากเจ้าคุณ (ก.) ต้องใช้ชื่อสมมติ ในวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งใกล้ชิดพระมหาเถระผู้มีอำนาจในมหาเถรสมาคม ต้องอาบัติปาราชิก โดนตัดตอนให้สึกหาลาเพศไป ประมาณว่าหายสาบสูญไปแบบเงียบ ๆ แต่ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณ (ข.) มีปัญหาขึ้นมาอีก ก็ได้รับคำสั่งแบบเดียวกัน ก็คือตัดตอนด้วยการให้สึกหาลาเพศไป

แต่ผู้ร่วมงานของท่านเจ้าคุณ (ข.) คือ ท่านเจ้าคุณ (ค.) กับ ท่านเจ้าคุณ (ง.) เกรงว่าเรื่องนี้จะจบง่ายไป เพราะทำงานร่วมกันมา แล้วโดนท่านเจ้าคุณ (ข.) บี้มาเยอะ..! จึงส่งข้อมูลให้กับทางด้านตำรวจและผู้สื่อข่าว ก็เลยกลายเป็นโยนระเบิดลงในส้วม..! ทำเอาเรื่องลุกลามใหญ่โต จนกระทั่งอดีตพระมหาเถระระดับเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด หรือเจ้าอาวาสพระอารามหลวง สึกหาลาเพศไปนับ ๑๐ รูป กลายเป็นเรื่องสะเทือนขวัญของพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา..!

ก็เลยมีผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งเห็นว่า โดยปกติแล้วฝ่ายตนเองนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ในเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ ก็ต้องอยู่ในลักษณะที่ว่า "ถ้ากูชั่ว พวกมึงก็เลว" จึงได้คบคิดกับดร.(จ.) กับดร.(ฉ.) ออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ออกมา แล้วก็ไปเสนอท่านรัฐมนตรี (ช.) พร้อมกับตำรวจผู้ดำเนินการ ก็คือท่าน (ซ.)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2025 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-08-2025, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,995
ได้ให้อนุโมทนา: 159,693
ได้รับอนุโมทนา 4,501,488 ครั้ง ใน 36,606 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดง่าย ๆ ว่าดำเนินการในลักษณะที่ตนเองมั่นใจว่า ฝ่ายของตนมีไวยาวัจกรดูแลเรื่องการเงิน โอกาสกระทบกระเทือนมีน้อยมาก ก็คือถ้าหากว่าตนเองเสียหาย อีกฝ่ายก็ต้องเสียหายมากกว่า จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ สะเทือนไปทั้งวงการคณะสงฆ์ไทย โดยที่สมเด็จพระสังฆราชท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย กว่าจะรู้ไฟก็ไหม้บ้านหนักแล้ว..! พระองค์จึงต้องออกมาระงับยับยั้งเรื่องราว จนกระทั่งกลายเป็นปาหี่เล่นขายของ ก็คือเรื่องต่าง ๆ จบลงเร็วกว่าที่คิด ถ้าอยู่ในลักษณะนี้แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นชั่วสุด ๆ..! เพราะว่าเท่ากับเอาไฟเผาพวกเดียวกันเอง แต่จะว่าไปแล้ว เราเห็นเขาเป็นพวก เขาจะเห็นเราเป็นพวกหรือเปล่า !?

เพียงแต่ว่าในระหว่างการดำเนินการนั้น ท่านรัฐมนตรี (ช.) ก็ต้องหาเสียงตามแบบนักการเมือง สัมภาษณ์อะไรก็ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" ส่วนท่านนายตำรวจ (ซ.) เห็นว่าเป็นโอกาสที่กูจะหาแสงได้ กูก็เปิดให้แถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวแทบทุกวัน..! แต่ความจริงการกระทำโง่ ๆ แบบนี้ก็ดีไปอย่าง ก็คือทำให้เรื่องใหญ่กว่าที่คิด เมื่อเกิดไฟไหม้บ้านขึ้นมา ท่านผู้ยิ่งใหญ่ก็คงจะรู้ว่าเกินกำลังที่กูจะรับไหวแล้ว ถึงได้กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช จนพระองค์ท่านต้องออกมายับยั้งเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

เราจะเห็นว่าแม้สถานการณ์ละเอียดอ่อนอย่างของพระพุทธศาสนา ก็ยังมีการฉวยโอกาส เหยียบกัน กระทืบกัน ข้ามหัวคนอื่นขึ้นไปเพื่อความเด่นดังของตนเอง จึงไปนึกถึงข้อเปรียบเทียบซึ่งมีผู้รู้กล่าวไว้ว่า พระพุทธศาสนาของเราเหมือนไก่ในเข่งตรุษจีน ก็คือพร้อมที่จะโดนเชือดอยู่แล้ว ก็ยังจิกยังตีกันอีก ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรงเดียวกันนั่นแหละ..! จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตั้งสติให้ดี ระลึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า "ถ้าฝ่ามือไม่มีบาดแผล ย่อมสามารถที่จะจับยาพิษได้โดยไม่ต้องกลัวเกรงอะไร"

ก็แปลว่าเราท่านทั้งหลายต้องเร่งปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกระทั่งคนเขายอมรับในคุณงามความดีนั้น ๆ และขอร้อง..! ให้เขายอมรับเพราะว่าเราดีจริง ไม่ใช่ให้เขายอมรับเพราะแรงโฆษณาหรือเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไป..! เพราะว่าลักษณะนั้นน่าจะไม่ใช่ภาวะของภิกษุสามเณร พูดง่าย ๆ ก็คือว่าถ้าเป็นนักการเมืองหรือฆราวาสก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าหากว่าอยู่ในผ้าเหลือง แถมยังมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต แบบนั้นก็คาดว่า
ท่านจะมีทุคติของเป็นที่ไปอย่างแน่นอน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2025 เมื่อ 21:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว