กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 18:15
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 530
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 26,085 ครั้ง ใน 1,018 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : เมื่อวานนี้ เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,192 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ความจริงกระผม/อาตมภาพน่าจะนอนสลบไสลไป จนกว่าจะได้ยินเสียงระฆังทำวัตรเช้าเลย..! แต่พอดีว่าประมาณ ๐๓.๑๕ น. ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จึงได้ตื่นเพราะเสียงฝน แล้วเดินจากที่พักไปยังสำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ล้างหน้าล้างตา แต่งองค์ทรงเครื่อง แล้วออกไปเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้า ร่วมกับพระภิกษุสามเณรทุกรูป

เพียงแต่ว่าฝนที่ตกอยู่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงระฆังเรียกบิณฑบาต จึงออกไปช้ากว่าพระภิกษุสามเณรถึง ๑๓ นาทีด้วยกัน แต่ด้วยความที่เป็นคนเดินเร็วมาก โดยปกติบุคคลทั่วไปจะใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงละ ๔ กิโลเมตร นี่หมายถึงคนที่เดินเก่งเป็นมาตรฐาน แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเคยเดินป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
๙๓ กิโลเมตร ๑๒ ชั่วโมงก็ทะลุแล้ว เฉลี่ยได้ประมาณ ๘ กิโลเมตร/ชั่วโมง นั่นเป็นภูมิประเทศขึ้นเขาลงห้วยอีกด้วย..!

ส่วนในทางราบนั้น ไม่ทราบว่าถ้าตนเองเร่งฝีเท้าแล้วจะได้กี่กิโลเมตร/ชั่วโมง ? แต่ว่าเดินไปทันพระภิกษุสามเณรที่หัวสะพานคอนกรีตทางฝั่งตลาด แล้วก็เลยนำทุกท่านออกบิณฑบาต โดยที่รอดจากฝนมาได้อย่างหวุดหวิด..!

เมื่อกลับมาฉันเช้าแล้ว ค่อยหอบเอาสัญญาบัตรพัดยศขึ้นรถ ตรงไปยังวัดเขื่อนวชิราลงกรณ โดยปกติแล้วถ้ามีการรับพระราชทานเลื่อน หรือพระราชทานตั้งพระครูสัญญาบัตรของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็จะมีการจัดงานฉลองให้ที่วัดปรังกาสี ของหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ แต่ด้วยเหตุที่ว่าระยะนี้ยังอยู่ในระหว่างจัดงานสวดพระอภิธรรม ถวายพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ (พูลศักดิ์ ปญฺญาวุโธ) อดีตรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ อยู่ที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณทุกคืน สถานที่ทุกอย่างก็จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว จึงได้ย้ายการฉลองจากวัดปรังกาสี ไปที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณแทน

เมื่อพวกเราพร้อมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย นำพระครูสัญญาบัตรทั้งเก่าและใหม่ ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรและญาติโยมที่มาร่วมงาน ทำการเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากที่กราบพระแล้ว ถึงได้ตั้งขบวนแห่รอบอุโบสถวัดเขื่อนวชิราลงกรณ โดยมีน้อง ๆ จากวงโยธวาทิต โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา เดินตามขบวน บรรเลงเพลงให้อย่างสนุกสนาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า วันนี้, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,192 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นครบ ๓ รอบแล้ว ค่อยตรงไปยังศาลาการเปรียญวัดเขื่อนวชิราลงกรณ โดยมีนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ มาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ครั้นได้เวลาแล้ว ท่านชาคริตก็อ่านตราตั้ง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสัญญาบัตรของกระผม/อาตมภาพ (ทจอ.ชพ.วิ.) ของหลวงพ่อสังวรณ์ (พระครูปิยสีลสังวรการ) จต.ชท. เจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ เจ้าอาวาสวัดวังหิน พระครูประภัสสรกาญจนคุณ จร.ชท. เจ้าอาวาสวัดสะพานลาวประชาสรรค์ และพระครูวิสุทธิ์กาญจนธรรม จร.ชท. เจ้าอาวาสวัดปากลำปิล็อก คณะสงฆ์นำโดยพระครูน้อย (พระครูกิตติชัยกาญจน์) เจริญชัยมงคลคาถา

เมื่อเสร็จการเจริญชัยมงคลคาถาแล้ว ก็เป็นการถวายปัจจัยไทยธรรม และกรวดน้ำรับพร หลังจากนั้นทั้งทางคณะสงฆ์และฆราวาส ก็มาถวายมุทิตาสักการะ ทั้งหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และหลวงพ่อพระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิที่เหลืออยู่เพียงรูปเดียว เข้ามาถวายมุทิตาสักการะด้วยกระเช้าใบใหญ่และซองปัจจัย

ต่อด้วยท่านชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ถวายทุเรียนลอยน้ำทองผาภูมิ ซึ่งท่านประมูลมาจากงานเทศกาลผลไม้ของดีทองผาภูมิ และสืบสานงานลานบ้านลานวัฒนธรรม โดยที่ทุเรียนลูกนี้ราคา ๓๐๐,๐๐๐ บาท..! เป็นที่น่าเสียดายว่า กระผม/อาตมภาพนั้นไม่สามารถจะฉันทุเรียนได้อีกแล้ว เนื่องเพราะว่ามีโควต้าปีละ ๑ เม็ดเท่านั้น ซึ่งฉันเข้าไปแล้ว ก็ต้องยอมความดันขึ้นไป ๒ วัน ๓ วัน จึงถวายให้กับทางคณะสงฆ์นำไปฉีกแบ่งกัน ในงานถวายภัตตาหารเพลวันนี้เลย..!

เมื่อถ่ายรูปร่วมกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัววิ่งลงมายังกาญจนบุรี ตอนแรกคิดว่าน่าจะทันขึ้นทางด่วนพิเศษสาย M ๘๑ แต่ปรากฏว่าไม่ทัน เนื่องเพราะว่าวันนี้เป็นวันอังคาร ซึ่งเขาไม่เปิด ทางด่วนสายนี้จะเปิดบ่าย ๓ โมงวันศุกร์ จนถึง ๙ โมงเช้าของวันจันทร์ทุกอาทิตย์ ระยะนี้ให้วิ่งฟรีไปก่อน จนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้วถึงจะเก็บค่าผ่านทาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า วันนี้, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,192 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงมาแวะฉันเพลด้วยข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ไทรโยค พร้อมกับโทรแจ้งเจ๊เรณู เจ้าของร้านอาหารไอซ์ ซึ่งเป็นขาประจำของวัดท่าขนุน ว่าให้เตรียมเมนูสำหรับงานฉลองสัญญาบัตรพัดยศของพระครูวิลาศกาญจนธรรมด้วย

หลังจากนั้นก็ได้เดินทางฝ่ารถติดเข้ามายังวัดอุทยาน ซึ่งจะเป็นที่พักของคืนนี้ แล้วก็ต้องไปประจำการที่พุทธมณฑลในโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ซึ่งมีการจัดกิจกรรมอยู่ถึง ๓ วันต่อเนื่องกัน โดยที่กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นทั้งคณะกรรมการหลัก เป็นทั้งคณะอนุกรรมการ และเป็นทั้งอนุกรรมการปฏิบัติงานเฉพาะของโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ พูดง่าย ๆ ว่าจะในฐานะตำแหน่งใหญ่ ตำแหน่งเล็ก ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้

ในระหว่างที่กำลังทำงานรออยู่ ปรากฏว่าคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ตลอดจนกระทั่งคุณหนึ่ง (นางสาวณิชชารีย์ จั่นแก้ว) และน้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์ ) ได้นำเอาผ้าไตรไทยธรรม ตลอดจนกระทั่งแจกันดอกไม้ มาถวาย เป็นการมุทิตาสักการะวันเกิดย้อนหลัง และมุทิตาในการเลื่อนสมณศักดิ์ของกระผม/อาตมภาพด้วย พร้อมกับมาแจ้งกำหนดการที่ได้นิมนต์กระผม/อาตมภาพไปยังประเทศภูฏาน ซึ่งทางเอ็นซีทัวร์จัดภายในปลายปีนี้ หลังออกพรรษาแล้ว

ในเรื่องของการจัดทัวร์หรือว่าเดินทางท่องเที่ยวนั้น กระผม/อาตมภาพถือสาหนักหนาว่า ไม่ว่าจะเงินสงฆ์หรือว่าเงินส่วนตัวจะไม่ใช้ไปในเรื่องนี้เป็นอันขาด จะไปก็ต่อเมื่อมีผู้ที่จ่ายค่าท่องเที่ยวให้เท่านั้น ซึ่งโดยมากผู้ที่นิมนต์ก็จะเป็นผู้จ่าย แต่ด้วยความที่ว่างานนี้ ทั้งมาดามเฮง (คุณสมหวัง งามพฤกษ์วานิชย์) หมอมุก (นางสาวรุจิรา งามพฤกษ์วานิชย์) และคุณจีน่า(นางสาวพลอยจุฑา งามพฤกษ์วานิชย์) ลูกสาว ร่วมกันจ่ายค่าเดินทางให้กระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) รวม ๒ ที่นั่ง โดยมีทิดแจ๊ค (นายกรชัย บันดาลศิริกุล) และน้องโอ (ปาริฉัตร อายุวัฒนะ) ปวารณาถวายมาด้วย แต่กระผม/อาตมภาพปฏิเสธไป เพราะว่าเจ้าภาพโอนเงินมาแล้ว ไม่เช่นนั้นผู้ที่รับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้จะต้องเป็นคุณนวลจันทร์ เพียรธรรมจากเอ็นซีทัวร์นั่นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า วันนี้, 01:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,192 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการไปต่างประเทศนั้น มีบุคคลบางประเภทที่ไอคิวเตี้ยไอเดียต่ำ ปัญญานิ่ม เห็นแก่ตัวสุด ๆ มีการตำหนิว่าทำไมกระผม/อาตมภาพจึงไปโดยที่มีน้องเล็กติดตามแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ได้พิจารณาว่างานที่ผ่านมานั้น กระผม/อาตมภาพให้โควต้าพี่มุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) พี่สาวของตนเองไปแทน ส่วนน้องเล็กนั้นต้องควักกระเป๋าเองหลายหมื่นบาทเพื่อที่จะเดินทางไปด้วย..!

การที่เราเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง นอกจากไม่รู้จักมุทิตายินดีในความดีของผู้อื่นแล้ว ยังออกแนวอิจฉาริษยาเข้าไปต่อว่าในโซเชียลต่าง ๆ อยู่ในลักษณะแสดงออกถึงกำลังใจที่ต่ำมากของตนเอง เนื่องเพราะว่าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ประกาศทริปไปซินเจียงเป็นเวลาหลายเดือน แต่ตนเองไม่สนใจที่จะจอง พอคนอื่นเดินทางไปแล้ว กระผม/อาตมภาพนำมาเล่าเรื่อง ก็เกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมา อยู่ในลักษณะที่ว่า "สวรรค์มีทางไม่รู้จักไป นรกไร้ประตูกลับตะกายมาเอง" เนื่องเพราะว่า
ในตอนที่กำลังเกิดโทสะ ตำหนิด่าว่าคนอื่นจากมุมมองแคบ ๆ ของตนเองนั้น ถ้าตายลงไปช่วงนั้น ก็จะมีทุคติเป็นที่ไปอย่างแน่นอน..!

บุคคลทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นบุคคลที่น่าสงสารมาก ตอนเขาประกาศทริปไม่คิดที่จะไป แต่พอเห็นคนอื่นไปแล้ว กลับมาร่ำร้องอยากจะไปและต่อว่า ทำไมตนเองถึงไม่ได้ไปด้วย ? ในส่วนของการไปประเทศภูฏานนี้ก็เช่นกัน คุณนวลจันทร์ประกาศทริปไว้นานแล้ว ก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้เต็มแล้ว ถ้าจะโวยวายเพื่อขอไปด้วยก็ไม่น่าสำเร็จอีกเช่นเคย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านก็ต้องเอาไฟนรกเผาใจตนเองไปอีกนาน..!

กระผม/อาตมภาพก่อนหน้านี้เดินทางน้อยมาก เพราะว่าคนไม่ทราบกติกาว่า กระผม/อาตมภาพจะไม่จ่ายเงินสงฆ์หรือเงินส่วนตัวเพื่อการท่องเที่ยว ในเมื่อมีคนรู้มากเข้า และแย่งกันจ่ายให้ ระยะหลังจึงเดินทางมากขึ้น แล้วตอนนี้ตำแหน่งพระสังฆาธิการก็หมดสิ้นไป เหลือเพียงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็น "ตำแหน่งตกงาน" ในสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานคณะสงฆ์ต่าง ๆ ถ้าไม่ได้เกี่ยวเนื่องถึงก็ไม่ต้องไปยุ่งด้วย จึงทำให้มีเวลาเดินทางมากขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), เทิด (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), เผือกน้อย (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), รับโชค (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้), หุ่นยนต์ (วันนี้)
  #6  
เก่า วันนี้, 01:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,192 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การเดินทางนั้นก็ไม่ได้เดินทางไปรื่นเริงบันเทิงใจเหมือนกับคนอื่น ๆ เนื่องเพราะว่าต้องภาวนาเพื่อที่จะอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านทั้งหลายที่ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ ต้องทรงกำลังใจ ติดต่อกับบรรดาท่านที่เราไม่เห็นตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็คือการซักซ้อมกรรมฐานไปด้วยนั่นเอง เป็นที่น่าเสียดายว่า ในทริป "จันทราประดับผืนทราย" นั้น ทางเจ้าที่ซึ่งรักษาบริเวณทะเลสาบจันทร์เสี้ยว กลางทะเลทรายหมิงซาซาน ไม่อนุญาตให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับท่านให้ทุกคนฟัง จึงกลายเป็นเรื่องที่เหมือนกับขาดด้วนไปเฉย ๆ..!

ส่วน "ท่านอูฐ" หรือว่า "ท่านซาอุด" ลูกชายของ "ท่านมูฮัมหมัด หัวหน้าเผ่าทรายทอง" นั้น ในอดีตชาตินับพันปีแล้วเป็นเพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพเอง ท่านเล่าว่าสมัยนั้นกระผม/อาตมภาพเป็น "หัวหน้าเผ่าอูฐขาว" ด้วยความที่ว่าหัวหน้าเผ่าคนเดิมตายในการรบ ตนเองที่เป็นลูกชายจึงต้องรับภาระขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนทางเผ่าทรายทองนั้น "ท่านหัวหน้ามูฮัมหมัด" ยังอยู่ แต่ด้วยความที่ว่าอายุไล่เลี่ยกัน จึงคบหากับ "ท่านซาอุด" มากกว่า แล้วสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะเล่าได้ชัดเจนทั้งหมด

แต่ว่าในส่วนที่แปลกก็คือว่า เมื่อขี่อูฐเดินในทะเลทรายหมิงซาซานนั้น เป็นตายเจ้าของอูฐก็ไม่ยอมมอบอูฐขาวตัวเดียวที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่น อย่างไรเสียก็ต้องให้กระผม/อาตมภาพขึ้นไปนั่งอูฐตัวนั้น จะว่าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่รู้ว่าในโลกนี้มีอูฐสีขาว เพราะว่าเห็นแต่สีน้ำตาลหรือว่าน้ำตาลปนดำเท่านั้น เมื่อได้ยิน "ท่านซาอุด" พูดถึงในเรื่องของ "เผ่าอูฐขาว" ก็ยังงง ๆ อยู่ คิดว่าเผ่านี้มีอูฐมาก แล้วคนแต่งตัวสีขาว เพื่อป้องกันอากาศร้อนหรืออย่างไร ?

พอมาเจออูฐสีขาวเข้าจริง ๆ ก็ได้แต่นั่งงง แต่ว่าเมื่อขึ้นหลังไปแล้ว กลับเกิดความคุ้นเคยมาก สามารถที่จะปล่อยมือเพื่อถ่ายรูปได้ โดยไม่ต้องเกาะกันชนิดแขนแทบเป็นตะคริวแบบคนอื่น..! มิหนำซ้ำเมื่ออูฐยังไม่ทันจะนั่ง ยังสามารถที่จะทิ้งตัวลงมาได้ ไม่เหมือนคนอื่นเขา ก็แปลว่าความคุ้นเคยในอดีตนั้นส่งผลมาถึงในปัจจุบันด้วย..!

แต่เรื่องพวกนี้ในเมื่อ "เล่าได้แค่ที่เล่า" ก็คือ "เขาอนุญาตเท่าไรก็บอกได้เท่านั้น" ก็เลยทำให้บางเรื่องเหมือนกับขาดหายไป หรือว่าเจตนาปกปิด แต่ไม่ใช่ เพราะว่าท่านทั้งหลายที่ฝึกทิพจักขุญาณได้อย่างแท้จริงนั้น จะประสบกับปัญหาใหญ่ที่ว่าบางเรื่องเรารู้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่เขาให้บอกแค่ ๑ แค่ ๒ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เก็บเรื่องเอาไว้ บางทีก็อกจะแตกตายเหมือนกัน..! แต่ว่าเรื่องพวกนี้เขาบอกอย่างไรต้องเป็นอย่างนั้นเท่านั้น ไม่เช่นนั้นถ้าใครไปฝ่าฝืนแล้วโดนลงโทษ ท่านทั้งหลายก็จะซาบซึ้งเองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง ? จึงต้องขออภัยในบางเรื่องที่พูดให้ชัดเจนไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องภาวะศึก ภาวะสงคราม ซึ่งพูดได้แค่ที่เคยบอกไปเท่านั้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 18 คน )
ชุณหพงศ์, เผือกน้อย, รับโชค

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:42



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว