บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย"

[ตัวเล็ก]

วิหารอะรูมิไร้ (เพราะว่ามัคคุเทศก์หายตัวไป) ภายในแสดงเทคนิคการพิมพ์ตั้งแต่สมัยโบราณ








คุณโบตั๋นพาไปช็อปปิ้งที่ถนนคนเดิน บริเวณประตูเมืองโบราณจางเยว่


เวลา ๑๘.๒๕ น. (เมืองจีน) เดินทางเข้าที่พัก

[ตัวเล็ก]

เวลา ๑๘.๔๐ น. (เมืองจีน) เข้าพักที่โรงแรม Puyue Hotel เมืองจางเยว่ วันนี้ไม่มีอ่างให้แช่น้ำร้อน

[ตัวเล็ก]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๘

[ตัวเล็ก]

วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศ ๑๔ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้


รูปปั้นบนชั้นวางของ


เวลา ๐๖.๓๐ น. (เมืองจีน) ห้องอาหารยังไม่ยอมเปิด..!






เวลา ๐๗.๐๐ น. (เมืองจีน) ห้องอาหารเปิดตรงเวลาเป๊ะ เปิดปุ๊บคนจีนก็พุ่งเข้ามาปั๊บ..! ถ้ามัวแต่ถ่ายรูปอยู่ก็ไม่ต้องกิน..!


พริบตาเดียวก็วุ่นวายไปหมด..!


อิ่มแล้วไปเดินรับอากาศเย็นด้านนอก


รถบัสมารอรับอยู่แล้ว








บ้านนี้เมืองนี้นิยมรถสีดำ..?

[ตัวเล็ก]

เวลา ๐๘.๐๕ น. (เมืองจีน) เดินทางไปอุทยานภูเขาสีรุ้ง (ตันเสียตี่จื้อกงหยวน)


ขึ้นทางด่วน รีบคาดเข็มขัดนิรภัย


แสงแดดจัดจ้ามาก








เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังอุทยาน ผ่านด่านเข้าไปลานจอดรถ ผ่านคาราวานอูฐ ไปรอซื้อตั๋วเข้าชมอุทยาน










ระหว่างรอตั๋ว ๕๕๕










ผ่านการตรวจตั๋ว ไปขึ้นรถบัสของอุทยาน

[ตัวเล็ก]

บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๑ - อุทยานจางเย่วตันเสียตี่จื้อกงหยวน จุดที่ ๑


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๒ - อุทยานจางเย่วตันเสียตี่จื้อกงหยวน จุดที่ ๑


วิ่งไป ๑ นาทีก็ถึงจุดชมวิวแห่งแรก ถ่ายรูปหมู่แล้วเดินขึ้นไป


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๓ - จุดที่ ๔ ข้าม ๒ - ๓ ไปเลย


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๔ - จุดที่ ๔ ข้าม ๒ - ๓ ไปเลย


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๕ - จุดที่ ๔ ข้าม ๒ - ๓ ไปเลย












ทางชันอยู่นะ ก็จะออกอาการลิ้นห้อยหน่อย ๆ ขึ้นไปถึงก็เจอร้านถ่ายรูป "ท่านอูฐ" ก่อนเลย ๕๕๕

[ตัวเล็ก]

เดินจนทั่วอยู่คนเดียว จนไปเจอความลับกล้องวงจรปิดและลำโพงที่ซ่อนอยู่

[ตัวเล็ก]

กลับลงมาขึ้นรถ ข้ามจุดที่ ๒ และ ๓ ไปลงจุดที่ ๔
"ท่านอูฐ" บอกว่าให้ถ่ายรูปตรงหัวกวาง แต่คุณโบตั๋นบอกว่าไม่มี..!




ทีมงานเติมเต็ม ทราเวลขอถ่ายรูปด้วย เพื่อยืนยันว่ามีหัวกวางจริง ๆ


























ให้เวลา ๑ ชั่วโมง ต้องสู้กับคนจีนไป ๕๐ นาที..!












กลับออกมาจุดที่ ๒ ให้เวลา ๑๐ นาที ต้องสู้กับคนจีนไป ๘ นาที..!




ชมวิวแบบคนรวยมากกกก

[ตัวเล็ก]

กลับลงมาผ่านร้านขายของที่ระลึก เข้าร้านอาหารแทน

[ตัวเล็ก]

จานสุดท้ายไม่ใช่ขนม เป็นหม่านโถวหั่นชิ้นมา

[ตัวเล็ก]

เวลา ๑๒.๓๘ น. (เมืองจีน) ออกเดินทางไปด่านเจียยวี่กวน






แวะเติมน้ำมันก่อนขึ้นทางด่วนสีรุ้ง


หมู่บ้านนี้เลี้ยงวัวมากเป็นอันดับ ๑ ของมณฑลกานซู่






สร้างมาแพงมาก จงจ่ายมาซะดี ๆ..!

[ตัวเล็ก]

หลับ ๆ ตื่น ๆ จน ๑๕.๐๐ น. เมืองจีน แวะเข้าห้องน้ำ




ออกจากทางด่วน มุ่งหน้าต่อไปอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็จะถึงที่หมาย


เมืองเจียยวี่กวน เป็นเมืองสีเขียวมาก


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๖ - ด่านเจี่ยยวี่กวน


บันทึกการเดินทาง "จันทราประดับผืนทราย" Ep.๗ - ด่านเจี่ยยวี่กวน
















เวลา ๑๕.๓๐ น. (เมืองจีน) เข้าลานจอดรถ เดินตรงไปยังอาคารหลัก
ระหว่างรอซื้อตั๋ว เขาให้ดูวิดีโอแนะนำด่านเจียยวี่กวนในเบื้องต้นก่อน

[ตัวเล็ก]

หนุ่มน้อยลูกคนงาน นั่งทำการบ้านไปบ่นไป เลยได้กำลังใจจากพวกเราเพียบเลย..!
















ได้ตั๋วแล้วนั่งรถไฟฟ้าเข้าไปไกลทีเดียว มาจอดหน้าร้านขายของที่ระลึก ฮ่า..!




















ลงรถ ถ่ายรูปหมู่ แล้วเดิน..เดิน..เดิน
ไปเมืองจีนมีแต่เดินมาก..เดินมากกว่า และเดินมากที่สุด..!

[ตัวเล็ก]

เข้าไปถ่ายรูปหมู่หลังด่านแล้ว ก็เดิน..เดิน..เดิน..ไปจนถึงบริเวณศาลเจ้าพ่อกวนอู


















เข้าด่านชั้นที่สอง แล้วเดินขึ้นไปบนกำแพงป้องกัน คนอื่นขึ้นบันได "ท่านอูฐ" พาหลวงพ่อเดินขึ้นทางม้าวิ่ง..!

[ตัวเล็ก]

"ท่านอูฐ" พาหลวงพ่อเดินตรวจการณ์รอบใหญ่พื้นที่คุ้นเคย
มีแค่ "คุณนายสมหวัง" กับ "หมอมุก" ตามมา ที่เหลือนั่งคอยเป็นกำลังใจให้..!


















ลงทางม้าวิ่งมาให้กำลังใจทหารยาม แล้วออกนอกด่านไปตบตีแย่งชิงพื้นที่ถ่ายรูป
ค่อยมาขอใบผ่านแดนจากนายด่าน ซึ่งราคาไม่เท่ากันตามระดับความสำคัญ

[ตัวเล็ก]

ได้ใบผ่านแดนแล้วไม่ยอมออกนอกด่าน แต่เดินกลับมาขึ้นรถไฟฟ้า ทางซ้ายมือคือกำแพงเมืองจีนดั้งเดิม รถไฟฟ้าย้อนกลับไปที่ลานจอดรถบัส












ขากลับรู้สึกว่ารถวิ่งนิ่มกว่า ทิวทัศน์ก็สวยงามกว่า ?!

[ตัวเล็ก]

ขึ้นรถบัส วิ่ง ๑๐ นาทีมาถึงโรงแรมที่พัก
รูปสุดท้ายคือความลับในการพกของไปน้อย แต่ใช้ได้ทั้งปี..!

[ตัวเล็ก]

วันจันทร์ที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘


อุณหภูมิเช้านี้อยู่ที่ ๑๖ องศาเซลเซียส


"เสบียงบุญ" วันนี้




อยู่ในทะเลทราย การประดับตกแต่งห้องพักจึงต้องมีต้นไม้เอาไว้ให้เย็นตาเย็นใจ


ยังลดลงไปอีก..!














ห้องอาหาร "ท่านเปา" เปิด ๐๖.๔๕ น. เมืองจีน ตรงเวลาเป๊ะ ยังดีที่แทบจะไม่มีคนจีนเลย..!


















อิ่มแล้วลงมารอรถและดูการตกแต่งล็อบบี้ของโรงแรม


พลขับคนขยันและรถคู่ใจมารอพวกเราตามเคย


โรงแรม Nuojin และบริเวณใกล้เคียง ที่ต้องสร้างติด ๆ กันเพราะขึ้นอยู่กับน้ำประปาและไฟฟ้าด้วย


รถจีนสมัยนี้มีแต่สวย ๆ ทั้งนั้น




เวลา ๐๗.๓๕ น. (เมืองจีน) ออกเดินทางไปเมืองตุนหวง คุณโบตั๋นคงจะกินอาหารเช้าไม่อิ่ม ขึ้นรถมาก็ทำท่าจะกินไมโครโฟน..!

[ตัวเล็ก]

ออกมาได้ ๕ นาทีก็ต้องกลับรถ คุณนายสมหวังลืมโทรศัพท์..!
แต่พอเห็นรถขากลับก็เปลี่ยนใจ กลับรถเถอะ..ไม่เอาแล้ว..!




พ้นเมืองปุ๊บก็เป็นภูมิประเทศแบบทะเลทราย ยอดเขาหิมะทำลิบ ๆ ทางซ้ายนั่นคือฉีเหลียงซาน (คีเลี้ยงซัว)




ที่ไหนมีทะเลทราย ที่นั่นมีน้ำมัน..!






ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปเมืองตุนหวง






มองไปทางไหนมีแต่ฟ้าจรดทราย เขาเลยเอาแรงลมมาผลิตไฟฟ้า


อูลู่มู่ฉีที่เราจะไปในอีก ๒ วัน ยังห่างไปอีก ๙๙๐ กิโลเมตร

[ตัวเล็ก]

เวลา ๑๐.๓๘ น. (เมืองจีน) แวะเมืองปู้หลงจี๋ เพื่อเข้าห้องน้ำ แม้แต่รถบรรทุกเครื่องบินก็ยังแวะ..!












พลขับต้องพัก ๒๐ นาทีตามกฎหมาย จึงไปเดินสำรวจรถบรรทุกสินค้าแทน




มะ..ไปดูทรายกันต่อ..!


อีก ๑๕ กิโลเมตรจะถึงเมืองกวาโจว


ตุนหวงอีก ๙๓ กิโลเมตร


จุดพักรถเมืองกวาโจว




จากเหมาเกอปี้ (ทะเลทรายที่มีต้นหญ้า) มาเป็นเฮยเกอปี้ (ทะเลทรายสีเทา)


ก็อุตส่าห์ทนอยู่นะ..!


นั่งรถยังนั่งจนเบื่อ สมัยก่อนเขาเดินกันเป็นเดือนเป็นปีหรือหลาย ๆ ปี..!


เข้าใกล้ตัวเมือง เริ่มมีสีเขียว ๆ แล้ว


มีความพยายามปลูกต้นไม้สู้กับทะเลทราย






ออกจากทางด่วนเข้าสู่เมืองตุนหวง


เริ่มมีสีสันขึ้นเรื่อย ๆ


ตู้ควบคุมไฟจราจรซ่อนอยู่ข้างทาง


ประตูเข้าเมืองตุนหวง