#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๘
|
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เพื่อตกลงกันว่าจะออกตรวจประเมินยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางทั้ง ๒๓ จังหวัดในวันใดบ้าง ซึ่งจะต้องจัดสรรให้ลงตัวกัน ทั้งทางคณะกรรมการ ทางเจ้าของพื้นที่ และทางส่วนราชการ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะมาร่วมงานกัน
ในส่วนที่กระผม/อาตมภาพต้องเป็นคนนิสัยเสีย แอบบ่นเขาอยู่ในใจก็คือ บรรดาส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ยอมสละวันหยุดราชการมาร่วมงานนี้ ต้องเป็นวันราชการเท่านั้น ซึ่งกระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นการเบียดบังเวลาราชการอย่างหนึ่ง..! เนื่องเพราะว่าท่านสามารถที่จะสละวันหยุดราชการของตนเองได้ แต่ไม่มีใครยอมเสียสละ หากแต่ว่ามาเสียสละวันเวลาราชการ ที่ตนเองต้องดูแลรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ กระผม/อาตมภาพยังยินดีแทนชาวอำเภอทองผาภูมิของกระผม/อาตมภาพ ที่บรรดาผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ ตลอดจนกระทั่งนายกเทศมนตรี ต่างก็สละเวลาในวันหยุด มาดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความสงบสุขให้แก่ประชาชน ต้องบอกว่าคนทองผาภูมิสร้างบุญเอาไว้ดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการหรือว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเมื่อหัวเริ่มต้น หางก็อยู่เฉยไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องขยันตามไปด้วย ต่อให้มีการบ่น มีการว่า หรืออาจจะถึงขนาดแช่งชักหักกระดูก..! ก็คาดว่าในส่วนที่ท่านผู้ปกครองสละเวลาและความสุขส่วนตน มาสร้างความสงบสุขเป็นปึกแผ่นให้แก่ประชาชน สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น น่าจะมีบุญช่วยรักษามากกว่า..! ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะบ่นจะว่าก็แล้วแต่กำลังใจของท่าน แต่กระผม/อาตมภาพดีใจที่บรรดานักปกครองของเรายังมีบุคลากรดี ๆ แบบนี้อยู่อีกมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:29 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
อีกส่วนหนึ่งก็คือมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการในการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นนโยบายของประธานขับเคลื่อนหนกลาง คือพระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ.ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ. ๙, Ph.D.) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ท่านต้องการให้กรรมการหลักทั้ง ๑๕ รูป ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันศึกษาในหัวข้อที่แต่ละฝ่ายต้องตรวจประเมิน เพื่อที่จะได้มีความชำนิชำนาญเหมือน ๆ กัน ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นปีแรก แล้วปีถัด ๆ ไปก็จะหมุนเวียนไปตรวจประเมินในด้านอื่น
กระผม/อาตมภาพนั้นแต่เดิมรับผิดชอบในหมวดที่ ๓ คือ ด้านการปฏิบัติธรรมของชาวบ้าน มาปีนี้ต้องมาตรวจประเมินในหมวดที่ ๔ คือการจัดนิทรรศการ ว่าสอดคล้องกับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หรือไม่ ? ซึ่งปีนี้นั้นมีการกำหนดให้จัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับโครงการธรรมนาวา วัง ในพระราชดำริอีกด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ยังถือว่าเกี่ยวข้องอยู่กับงานเดิมซึ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติธรรม เพียงแต่ว่ามาดูแลในส่วนของการจัดนิทรรศการเท่านั้น ในการประชุมนั้น ทางฝ่ายคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) เป็นโครงการที่เกี่ยวเนื่องด้วยแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี จึงได้รับงบประมาณส่วนหนึ่งมาจากทางหน่วยราชการ แต่ว่าไม่พอต่อการใช้งาน กระผม/อาตมภาพจึงบริจาคเพิ่มเติมไปให้ในวันนี้เป็นจำนวนเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ซึ่งคณะกรรมการและอนุกรรมการต่าง ๆ ก็มีการบริจาคเพิ่มเติมช่วยเหลือกันอยู่ทุกปี โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสหรือว่าเป็นพระลูกวัด ที่มีแก่ใจในการทำงานในโครงการนี้ ท่านเองก็ต้องเดินทาง ถ้ากลับไม่ทันก็ต้องมีที่พัก มีอาหารเช้า อาหารเพล ดังนั้น..เงินในส่วนนี้จำนวนหนึ่งจึงได้ตัดแบ่งให้กับคณะอนุกรรมการวันละ ๑,๐๐๐ บาทต่อรูป ต่อคน ซึ่งจะว่าไปแล้ว แค่การเดินทางอย่างเดียวก็ไม่พอเพียงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายที่ทำงานแบบนี้ จึงต้องเสียสละ ด้วยการควักกระเป๋าตนเองเพิ่มเติมเข้าไปอยู่เสมอ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:32 |
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
จึงอยากจะบอกแก่ท่านทั้งหลาย ที่ไม่ได้เห็นการทำงานของพระภิกษุสงฆ์ว่า ที่ท่านแนะนำไม่ให้ญาติโยมถวายปัจจัยกับพระ โดยที่ตัวท่านเองก็ไม่เคยถวายเสียด้วยซ้ำไป ท่านเคยมาดูหรือไม่ว่าพระที่ท่านทำงานนั้นทุ่มเทกันขนาดไหน ? แม้กระทั่งไม่มีงบสนับสนุนแม้แต่บาทเดียว ก็ยังอาศัยงบประมาณจากส่วนที่ญาติโยมถวายมาด้วยศรัทธา ซึ่งในแต่ละปีต้องควักกระเป๋าโปะเข้าไปคนละหลาย ๆ หมื่นบาท..!
จากที่ได้พูดคุยกันไว้ก็คือถ้าเขามีเต็นท์นิทรรศการมา โดยเฉพาะเป็นสินค้าท้องถิ่น ต้องซื้อเขาอย่างน้อยเต็นท์ละ ๑,๐๐๐ บาท พูดง่าย ๆ ว่าควักกระเป๋ารวมกันให้ได้อย่างน้อยเต็นท์ละ ๑,๐๐๐ บาท เพื่อที่จะช่วยเหลือค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง หรือว่าเป็นกำลังใจแก่ผู้มาออกนิทรรศการว่า สินค้าของตนเองอย่างน้อยก็พอที่จะจำหน่ายได้ เขาจะได้มีกำลังใจในการผลิตสินค้าออกมาต่อไป เหล่านี้เป็นต้น เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" ท่านทั้งหลายมักจะเหมารวมพระภิกษุสามเณร โดยที่ไม่ได้ดูว่า ในส่วนที่เขาทำผิดทำพลาดนั้น มีทั้งบุคคลที่บวชเข้ามาเพื่ออาศัยพระศาสนาหากิน มีทั้งบุคคลที่บวชรับจ้างเข้ามาเพื่อทำลายพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ และดูท่าว่าเขาจะทำสำเร็จ เพราะทำให้ผู้ที่ปัญญาน้อย มองเห็นแต่ความผิดพลาดของพระภิกษุสามเณร แล้วก็เลิกให้การสนับสนุน เลิกให้การเคารพเลื่อมใส จนศาสนาของเราง่อนแง่นคลอนแคลน โดยที่ท่านไม่ได้ดูว่าส่วนใหญ่นั้นยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ แต่กระผม/อาตมภาพก็ไม่ตำหนิอะไรท่าน เนื่องเพราะว่าเรื่องพวกนี้เราต้องใช้กำลังใจ ตลอดจนกระทั่งปัญญาที่ค่อนข้างสูง ในการแยกแยะตัวบุคคลออกจากพระพุทธศาสนา และออกจากหลักธรรมด้วย ถ้าท่านแยกแยะไม่ได้เพราะว่ายังมีปัญญาน้อยอยู่ แทนที่กระผม/อาตมภาพจะมาโกรธเกลียดอาฆาตแค้นท่าน ก็จะกลายเป็นสงสารท่านทั้งหลายมากกว่า ว่าเรื่องแค่นี้ก็ยังแยกแยะไม่ออก แล้วเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญต่อชีวิตของท่าน จะไปแยกแยะผิดถูกให้ชัดเจนก็ไม่น่าจะเป็นไปได้..! ด้วยความที่เป็นการประชุมครั้งแรกของปี จึงมีวาระการประชุมค่อนข้างมาก เฉพาะเอกสารการประชุมก็หนาเกือบ ๑๐๐ หน้าแล้ว จึงลากยาวกันจนเลย ๔ โมงเย็น ทำให้กระผม/อาตมภาพที่อยู่ในห้องปรับอากาศนาน ๆ ก็ออกอาการมาลาเรียกำเริบตามเคย..! จึงอาศัยเวลาระหว่างการเดินทางกลับที่พัก ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าฉันยาลงไปแล้ว เกิดหมดสภาพขึ้นมา ท่านทั้งหลายอาจจะไม่ได้ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนกันก็ได้..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:35 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) | |
หนุ่มก่อสร้าง |
|
|