กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-05-2025, 15:58
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,976
ได้ให้อนุโมทนา: 225,406
ได้รับอนุโมทนา 803,552 ครั้ง ใน 39,511 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-05-2025, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,512
ได้ให้อนุโมทนา: 158,287
ได้รับอนุโมทนา 4,484,315 ครั้ง ใน 36,121 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่วัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร ถนนเจริญเมือง ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร

เมื่อวานนี้ระหว่างที่นั่งรอขึ้นเครื่องอยู่ ทิดดอย (นายภาณุพงศ์ วังประภา) ก็ได้แจ้งให้ทราบว่า ทางสายการบินประกาศเลื่อนเที่ยวบิน พูดง่าย ๆ ก็คือเสียเวลาในการเดินทางอีกแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงนึกถึงท่านสุวัณณนาคราช ซึ่งดูแลพระบรมธาตุเชิงชุมอยู่ บอกกับท่านว่า "ขออาศัยสิทธิคนป่วย ไม่อยากที่จะเสียเวลารอนาน ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าประคองสังขารไม่อยู่ ก็คงจะต้องอับอายขายหน้าชาวบ้านเขา..!"

ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านสุวัณณนาคราชไปทำวิธีไหน ? จึงทำให้เจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องก่อนเวลาถึง ๒๕ นาที..! แล้วก็มาลงที่สนามบินสกลนครตรงเวลา ทั้ง ๆ ที่ตลอดทางนั้นก็ต้องฝ่าพายุฝนจนเครื่องสั่นสะท้านไปทั้งลำ ยังคิดว่าจะลงสนามบินสกลนครได้หรือไม่ ? แต่เมื่อกัปตันประกาศว่าทางด้านสกลนครอากาศแจ่มใส แม้ว่ารู้สึกใจชื้นขึ้น แต่ก็ไม่ไว้วางใจ จนกระทั่งลงแตะพื้นแล้วถึงได้รู้สึกว่าโล่งใจไปที..!

หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร นำรถมารอรับพวกเราอยู่แล้ว เมื่อไปถึงวัดพระบรมธาตุเชิงชุม กระผม/อาตมภาพก็เข้าไปกราบหลวงพ่อองค์แสน ตลอดจนกระทั่งองค์พระบรมธาตุ

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อย เข้าสู่ที่พักแล้ว มารับการกราบจากครูบาแก้ว สนฺติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสว่าง (ท่าช้าง) เมืองปากงึม แขวงกำแพงเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งพอทราบว่ากระผม/อาตมภาพมาเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการหล่อรอยพระพุทธบาท ๔ รอยจำลองทองคำ ก็ได้นำคณะญาติโยม นำเอาทองคำ ๑ กิโลกรัมมาร่วมบุญครั้งนี้ด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2025 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-05-2025, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,512
ได้ให้อนุโมทนา: 158,287
ได้รับอนุโมทนา 4,484,315 ครั้ง ใน 36,121 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับศรัทธาของพี่น้องชาว สปป.ลาว ที่นอกจากจะร่วมหล่อพระพุทธรูปเนื้อเงิน พระพุทธรูปเนื้อนาก และพระพุทธรูปเนื้อทองคำ ให้กับทางวัดโพธิ์ศรีสว่าง (ท่าช้าง) แล้ว ยังอุตส่าห์ร่วมมาหล่อรอยพระพุทธบาท ๔ รอยจำลองทองคำ ให้กับทางวัดพระบรมธาตุเชิงชุมอีกด้วย ซึ่งทองคำ ๑ กิโลกรัมนั้น ถ้าคิดเป็นเงินกีบแล้วก็มากมายมหาศาลหลายพันล้านกีบ..! จนบางคนเขียนตัวเลขไม่ถูกเสียด้วยซ้ำไป แต่ทางคณะญาติโยมก็เต็มอกเต็มใจถวายมาร่วมบุญ ต้องบอกว่าทุกท่านเป็นบุคคลที่รู้ว่าอะไรเป็นบุญ จึงได้ตั้งใจทำมาในลักษณะนี้

ดังที่กระผม/อาตมภาพได้บอกไปเมื่อวานนี้แล้วว่า ตนเองทำบุญก็ทำแบบเอาบุญ ก็คือไม่ได้คิดว่าทำแล้วบุคคลอื่นจะคิดอย่างไร หรือจะเอาไปทำอย่างไร โดยเฉพาะการที่ได้ร่วมบุญกับอดีตหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าคณะภาค ๑๔ มาโดยตลอด กระผม/อาตมภาพเองไม่ได้รู้สึกกระทบกระเทือนอะไร เพราะเข้าใจดีอยู่แล้วว่า บุคคลเราถ้าหากว่ายังไม่สามารถที่จะละกิเลสได้ ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าหักห้ามใจตนเองไม่อยู่ ท้ายที่สุดก็จะต้องทำผิดทำพลาดจนได้

เพียงแต่ในส่วนที่สลดใจที่สุดก็คือว่า พุทธศาสนิกชนของเราเอง โดยเฉพาะบรรดานักบวชลาพรต ซึ่งพอเกิดเรื่องขึ้นกับพระพุทธศาสนา ก็ช่วยกันถล่ม ช่วยกันกระทืบ ช่วยกันขยำขยี้ซ้ำเติม เหมือนกับเกรงว่าพระพุทธศาสนาของเราจะบอบช้ำไม่เพียงพอ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมาก..!

เหตุเพราะว่าอันดับแรกเลย ท่านทั้งหลายเคยอาศัยพระพุทธศาสนามาในระยะหนึ่ง แสดงว่าการศึกษานั้นไม่ได้ช่วยทำให้ท่านสามารถแยกแยะหลักธรรมในพระพุทธศาสนาออกจากตัวบุคคลได้เลย แล้วแถมยังเอากิเลสมาอวดคนอื่นเขาอีก ก็คือพยายามทำให้คนอื่นเขาเห็นว่าตัวตนเองนั้นเป็นคนดีแบบไหน ทั้ง ๆ ที่บางท่านตอนที่บวชอยู่ก็ทำผิดทำพลาด ทำความเสียหายให้คนอื่นเห็นอยู่เช่นกัน

บางคนถึงขนาดมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากสังคม ให้แยกแยะว่าส่วนที่ทำดีก็คือความดี ส่วนที่ทำชั่วก็คือความชั่ว แต่เอาแค่เรื่องของอดีตหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มอย่างเดียว ท่านสร้างความดีให้กับคณะสงฆ์อย่างมากมายมหาศาล แต่ว่ากลับไม่มีคนเคยเห็นคุณงามความดีตรงนี้ของท่านเลย เมื่อถึงเวลาก็ช่วยกันขยี้ ช่วยกันกระหน่ำซ้ำเติม เพื่อที่จะยกตัวเองให้สูงขึ้นมา ให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองนั้นเป็นคนดี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2025 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-05-2025, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,512
ได้ให้อนุโมทนา: 158,287
ได้รับอนุโมทนา 4,484,315 ครั้ง ใน 36,121 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพไม่ได้สลดใจแค่นักบวชลาพรต เพราะคิดว่าท่านอาจจะบวชน้อยเกินไป จนกระทั่งทำให้คุณงามความดีในพระพุทธศาสนายังไม่ทันจะซึมเข้าเลือดเข้าเนื้อของท่าน เมื่อไม่เห็นคุณงามความดีแล้วมาช่วยกันทำลายพระพุทธศาสนา ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของบุคคลที่ไม่มีความกตัญญู เนื่องเพราะว่าความกตัญญูนั้นไม่ใช่เฉพาะบุคคล หากแต่เกี่ยวข้องกับสถานที่ หรือว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่เคยมีบุญมีคุณกับเราด้วย ในเมื่อท่านเป็นคนอกตัญญูก็ช่างท่านเถิด..!

แต่บรรดาบุคคลที่คิดว่าตนเองเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ว่ามา "คอมเม้นต์" อยู่ในลักษณะช่วยกันกระทืบซ้ำด้วยความสนุกสนาน อยากจะให้ท่านรู้เหลือเกินว่า สิ่งหนึ่งประการใดที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะย้อนกลับมาสนองตัวตนของท่านเอง ถึงเวลานั้น ท่านจะรู้สึกตัวก็อาจจะสายไปเสียแล้ว..!

องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงฝากภาระธุระในพระพุทธศาสนา เอาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ปัจจุบันนี้ในสายเถรวาทของเราถือว่าไม่มีภิกษุณีแล้ว ครั้นจะสงเคราะห์แม่ชีเข้ามาด้วยก็ยาก เพราะว่าศีลต่างกันมากเหลือเกิน

ในส่วนของภิกษุก็กะพร่องกะแพร่ง ไม่เหมือนกับสมัยพุทธกาลที่มากไปด้วยพระอริยบุคคล แต่ถึงกระนั้น ในสมัยพุทธกาลเราก็ยังมีพระเทวทัต มีพระโกกาลิกะ มีพระอุปนันทศากยบุตร เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา จนกระทั่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบัญญัติศีลขึ้นมาถึง ๒๒๗ ข้อ เราท่านจะเห็นว่าแม้ในสมัยพุทธกาล คนเราก็ยังเป็นคน ตราบใดที่เป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส ถ้าไม่สามารถที่จะหักห้ามใจตนเองได้ ท้ายที่สุดก็จะต้องทำผิดทำพลาด แล้วก่อให้เกิดความเสียหายกับตนเอง หรือว่าพระพุทธศาสนาที่เป็นส่วนรวม

แต่ว่าท่านทั้งหลายที่เป็นอุบาสก อุบาสิกา มีหน้าที่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา นอกจากด่าเอามัน ด่าเอายอดไลค์แล้ว ท่านทั้งหลายได้สร้างสิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นคุณูปการกับพระพุทธศาสนาบ้าง ? นอกจากเอาแต่ด่าอย่างเดียวว่าคนอื่นทำผิดทำพลาด แล้วการป้องกันไม่ให้คนทำผิดทำพลาดนั้นเป็นอย่างไร ท่านทั้งหลายเคยชี้แจงบ้างหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2025 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-05-2025, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,512
ได้ให้อนุโมทนา: 158,287
ได้รับอนุโมทนา 4,484,315 ครั้ง ใน 36,121 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะท่านที่เป็นอดีตนักบวชลาพรต ท่านได้ศึกษาไปถึงสาราณียธรรมหรือไม่ว่า ? เวลาคิดถึงผู้อื่น ก็ให้คิดถึงด้วยความเมตตา กล่าวถึงผู้อื่น ก็ให้กล่าวถึงด้วยความเมตตา ทำกับผู้อื่น ก็ให้ทำด้วยความเมตตา ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตามากระทืบซ้ำเติมคนล้ม อยู่ในลักษณะที่ปฏิบัติผิดไปจากโบราณที่ว่า "คนล้มอย่าข้าม"..!

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็หนักใจมาก เพราะว่าสังคมของเราวิปริตผิดเพี้ยนไปหมด กลายเป็น "หัวดำอยากสวด หัวขาวอยากร้อง" อยู่ในลักษณะตรงกันข้าม ก็คือเป็นฆราวาสแต่ว่าสั่งสอนพระภิกษุสามเณร..!

ท่านทั้งหลายที่รับหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย หรือว่าวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาก็ช่างเถิด นั่นเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องสั่งสอนให้ความรู้อยู่แล้ว แต่ว่าการที่ท่านซึ่งมาสั่งสอนบุคคลที่เป็นนักบวชอยู่ โดยที่คิดว่าตนเองรู้มาก ตนเองรู้ดีกว่า ตนเองศึกษามาสูงกว่า อยากจะถามกลับว่าท่านศึกษามาดีแล้วจริงหรือ ? ถ้าหากว่าศึกษาดี ปฏิบัติดี เหตุใดจึงไม่สามารถบวชถวายชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา หากแต่ว่ายังสร้างกรรมอันน่ารังเกียจ ด้วยการมากระหน่ำซ้ำเติมพระพุทธศาสนาอยู่แบบนี้..!

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่กระผม/อาตมภาพพูด ก็คงจะเลือนหายไปกับสายลมในเวลาอันไม่นาน เพราะว่าไม่ถูกใจคน ไม่สะใจคน ก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้ระลึกถึงว่า กรรมชั่วแม้เพียงเล็กน้อยที่เราทำ ท้ายที่สุดก็จะกลับมาสนองตัวเราเอง เมื่อไม่สามารถที่จะกล่าววจีสุจริตได้ ก็อย่าได้กล่าววจีทุจริตเลย เพราะว่าบุคคลที่เป็นแฟนคลับ หรือที่สมัยนี้เรียกว่า FC ก็จะเห็นว่าท่านเป็นไอดอล แล้วท้ายที่สุดก็จะใช้วจีทุจริตเหล่านี้ เป็นการทำลายหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นโทษที่รุนแรงมาก..!

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะได้สติ และละเว้นจากสิ่งชั่ว ตั้งหน้าตั้งตากระทำแต่สิ่งดี อย่างน้อย ๆ จะได้มีภพภูมิที่มั่นคงสำหรับตัวเอง
ต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2025 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว