กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-05-2025, 20:00
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,983
ได้ให้อนุโมทนา: 225,260
ได้รับอนุโมทนา 801,673 ครั้ง ใน 39,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-05-2025, 23:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,126 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจและไว้อาลัย ที่พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ (พูลศักดิ์ ปญฺญาวุโธ) เจ้าอาวาสวัดเขื่อนวชิราลงกรณ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้มรณภาพลงเมื่อตอน ๔ โมงเย็นวันนี้เอง

ต้องบอกว่าด้วยความที่อยู่ด้วยกันมานาน ถ้าถามว่านานขนาดไหน ? กระผม/อาตมภาพมาทองผาภูมิปีแรกก็คือปี ๒๕๓๒ พูดง่าย ๆ ว่ามาถึงตอนที่ท่านบวชใหม่ ๆ เลย เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าอย่างเมื่อวานที่มหาจุก (พระมหาอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ ป.ธ. ๔) เห็นว่าหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ต้องนำพระเณรในวัดมากราบกระผม/อาตมภาพก่อน ก็เพราะว่าทั้งสองท่านบวชไล่ ๆ กัน แล้วตอนนั้น กระผม/อาตมภาพได้ ๘ พรรษาเข้าไปแล้ว

ด้วยความที่อยู่กันมานาน รู้ใจกันดี ทำงานเข้าขากันดี จนกระทั่งพระสังฆาธิการอำเภออื่น ๆ ปรารภว่า "ทำไมอำเภอทองผาภูมิเขารักกันแท้วะ ?" ก็เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าไม่มีการอิจฉาริษยากัน ไม่มีการแย่งยศแย่งตำแหน่งกัน อยู่ที่ไหนเราก็รักกันได้ ถือว่าเป็นการสูญเสียเจ้าคณะปกครองระดับสูงของอำเภอทองผาภูมิไปอีกรูปหนึ่ง

ส่วนที่สองขอแสดงความยินดีกับนักเรียนบาลี สำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีวัดท่าขนุน ตั้งแต่พระมหามนูรักษ์ ฐิตคุโณ ที่สอบผ่านในรอบแรก แล้วก็มาพระมหาสุบรรณรักษ์ ปญฺญาวุฑฺโฒ พระมหาวสุพล อภิปุญฺโญ สอบผ่านในรอบที่สองในส่วนของประโยค ๔ แล้วก็มาในส่วนของพระมหาสรายุทธ์ ปณฺฑิโต ที่สอบผ่านประโยค ๓ เป็น "พระมหา" อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว

ส่วนพระโชคชัย กิตฺติโก พระราวิน อรุโณ และพระสุรศักดิ์ อินฺทโก ก็สอบประโยค ๑ - ๒ ได้ ปีนี้วัดเราส่ง ๑๑ รูป สอบผ่านได้ ๗ รูป ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่นัก โดยเฉพาะปีนี้ ประโยค ๑ - ๒ ของจังหวัดกาญจนบุรี ส่ง ๔๐ กว่ารูป มีแต่ของวัดท่าขนุนเท่านั้นที่สอบผ่าน ในส่วนที่เหลือก็ต้องใช้ความเพียรพยายามกันต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2025 เมื่อ 23:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2025, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,126 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนพรุ่งนี้จะมีการเคลื่อนศพของหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ มาที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ขอมอบหมายให้เลขาฯ จุก นำเพื่อนพระสัก ๓ - ๔ รูป ไปช่วยกันจัดสถานที่ตั้งแต่ช่วงเช้าเลย ถ้าเขาไม่มีข้าวปลาอาหารเลี้ยง ปัจจัยที่กระผม/อาตมภาพมอบไปให้ สามารถใช้สั่งอาหารมาเลี้ยงกันได้

ในเรื่องของการคณะสงฆ์นั้นอยู่กันด้วยความเสียสละและน้ำใจ ความเสียสละของเราก็คือต้องเอางานส่วนรวมเป็นใหญ่ อย่างที่กระผม/อาตมภาพบอกกับพวกเราทุกคนว่า ถืองานคณะสงฆ์เป็นใหญ่ ไม่เอาในเรื่องของญาติโยม เนื่องเพราะว่าโดยเฉพาะญาติโยมทั่ว ๆ ไป ความต้องการของเขาไม่มีที่สิ้นสุด ขนาดกระผม/อาตมภาพฉันเพลอยู่ เขายังบอกว่า "ไม่เป็นไร ขอเวลาแค่ ๕ นาที"
กระผม/อาตมภาพจึงบอกว่า "นั่นไม่เป็นไรของมึง แต่ของกูนั้นเป็นมากเลย เพราะว่ากำลังกินอยู่..!" ในเมื่อเป็นในลักษณะเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงไม่อยากให้ญาติโยมมาก่อกรรมทำเข็ญกับพระมากมายนัก วิธีที่ดีที่สุดก็คืออย่าไปยุ่งด้วยเลย หมดเรื่องหมดราวไป..!

โดยเฉพาะหลายท่านในระยะนี้ ลากลับบ้านกันตามสิทธิ์ของตนเอง ขอให้ระมัดระวังและสังเกตเอาไว้ด้วย การระมัดระวังข้อแรกก็คือส่วนใหญ่ทางบ้านจะเอาเรื่องร้อนหู ร้อนตา ร้อนใจ มายัดเยียดให้กับพระเณรของเรา ถ้าหากว่าของเราพลอย
ไปมีอารมณ์ร่วมไปด้วย เดี๋ยวก็ต้องสึกหาลาเพศกันหมด..!

อีกส่วนที่ต้องระวังก็คือเมื่อกลับมาแล้ว ต้องมาเข้าระเบียบวินัยของทางวัด ซึ่งเป็นการบังคับฝึกฝนตนเอง เรารู้สึกว่าอยากจะไปอีกหรือไม่ ? ถ้ารู้สึกว่าอยากจะไปอีก เพราะว่าอิสระดี ไม่ต้องทำอะไรตามระเบียบแบบตอนอยู่ที่วัด ขอให้รู้ว่าท่านกำลังหาที่ตาย..! เนื่องเพราะว่าเท่ากับเปิดโอกาสให้กิเลสกินเราได้ในทุกรูปแบบ..!

ขนาดอยู่วัด สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐานกันอยู่ทุกวัน กำลังยังไม่พอที่จะสู้กิเลส ถึงเวลาแล้วเรากลับไปปล่อยตัวตามสบาย อาจจะเป็นเพราะว่าเห็นครูบาอาจารย์ท่านทำ หรือว่าเห็นรุ่นพี่ท่านทำ โปรดทราบไว้ด้วยว่า "นั่นคือตัวของท่าน ไม่ใช่ตัวของเรา" ของท่านเองถ้าปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง พอมีหลักเกณฑ์มีอะไรแล้ว ท่านสามารถที่จะผ่อนคลายตัวเองได้ แต่ของเราเองที่ยังเป็นผู้ใหม่อยู่ ถ้าไปผ่อนคลายแต่แรก มักจะเอาตัวไม่รอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2025 เมื่อ 23:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-05-2025, 23:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,126 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่พวกเราบวชเข้ามา ส่วนที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดก็คือ รักษากำลังใจของตนเอง อย่าให้ความเศร้าหมองต่าง ๆ เข้ามากินใจของเราได้ โดยเฉพาะต้องมีความเป็นกลางต่อทุกคน

อย่างวันนี้บรรดาผู้สมัครเพื่อลงรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ทั้งของตำบลทองผาภูมิและตำบลท่าขนุน เข้ามากราบขอพร กระผม/อาตมภาพก็ให้ไปตามปกติ แต่ส่วนที่ให้เป็นข้อคิดเลยก็คือว่า "ทำอย่างไรที่หลังเลือกตั้งแล้ว พวกเราจะกลับมารักกันได้เหมือนเดิม ในฐานะคนในชุมชนเดียวกัน เพราะว่าตอนเลือกตั้งก็ฟาดฟันกันไปมาก"

ถ้าเรามองเจตนาดีว่าทุกคนตั้งใจจะเข้ามาช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือชุมชนของเรา ก็แปลว่าทุกคนหวังดีปรารถนาดีต่อประชาชน แล้วในเมื่อความปรารถนาเหมือนกัน ทำไมหลังเลือกตั้งแล้วถึง "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" ? ทำไมถึงกลับไปรักกันเหมือนเดิมไม่ได้ ? เพื่อที่จะช่วยกันทำให้ชุมชนของเราเจริญขึ้น ด้วยความที่บุคคลระดับนั้นอายุมากแล้ว เป็นผู้มีอิทธิพล จึงไม่มีใครกล้าพูดกล้าตักเตือน ก็คงจะมีแต่กระผม/อาตมภาพ ที่ฟาดกันแบบไม่ไว้หน้ามาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้..!

เนื่องเพราะว่าถ้าพระของเราไม่เป็นกลางนี่จะเสียหายมาก ทุกท่านจะเห็นว่าทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งระดับประเทศ คือ ผู้แทนราษฎร หน่วยงานของคณะสงฆ์ หรือว่าส่วนราชการที่กำกับดูแลคณะสงฆ์ จะมีคำสั่งลงมาทุกครั้งว่า "ไม่ให้พระภิกษุสามเณรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง" แต่เรื่องพวกนี้ก็ทำได้เฉพาะบุคคลที่ละอายชั่วกลัวบาปเท่านั้น ในส่วนที่เหลือถ้ายังคิดถึงแต่พวกพ้องหรือว่าญาติโยมของตนเอง ก็อดที่จะช่วยเหลือกันไม่ได้

กระผม/อาตมภาพยังดีว่าจนป่านนี้ยังสามารถรักษาความปรารถนาดั้งเดิมของตน ก็คือเราเป็นพระ เป็นศูนย์กลางของชุมชน ไม่ควรที่จะไปเข้าข้างทีมใดทีมหนึ่ง หรือคณะใดคณะหนึ่ง ถ้าหลายท่านสังเกตจะเห็นว่า ไม่ว่าคนจะร่ำรวยหรือยากดีมีจน จะยิ่งใหญ่หรือต่ำต้อยขนาดไหน ถ้ามาถึง กระผม/อาตมภาพรับเขาเสมอกัน พวกท่านก็จะเห็นนายพลนายพัน หรือว่าคุณหญิงคุณนายก็ต้องมานั่งแปะกับพื้นเหมือนกัน จนกระทั่งหลายต่อหลายท่านไม่พอใจที่ไม่ให้เกียรติ ไม่ให้การต้อนรับที่ดีกว่านี้ แล้วก็ไม่มาอีกเลย ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ดีใจมากที่เป็นอย่างนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2025 เมื่อ 00:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-05-2025, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,126 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าการเอาใจญาติโยมนั้นเราอาจจะศีลขาดโดยไม่รู้ตัว พระพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้ว่า "ห้ามมิให้ภิกษุประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์"

ถ้าพวกท่านสังเกตจะเห็นว่า ในปัจจุบันนี้พวกเราน่าจะถึง ๗๐ - ๘๐ เปอร์เซ็นต์เลยที่ประจบคฤหัสถ์ โดยเฉพาะบางนิกายถึงขนาดใช้วิธีผูกใจ โทรไปหากันได้ทุกวัน หรือว่าทุกอาทิตย์ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเรื่องไม่มีราวอะไร แต่ว่าเพื่อไม่ให้เขาลืมตัวเอง..!

ถึงเวลาทางครอบครัวเขามีงานบวช งานแต่ง งานศพ ก็จะรีบไปร่วมบุญด้วยทั้งหมด เจตนาก็คือเพื่อที่จะดึงเขาเอาไว้กับวัดตัวเอง ถ้าลักษณะอย่างนี้ เป็นกระผม/อาตมภาพ ถือว่าตั้งใจประจบคฤหัสถ์ไปแล้ว..! เราบวชเข้ามา สิ่งที่จะทำให้เราเป็นพระหรือไม่เป็นพระ อยู่ที่ศีล ถ้าไม่สามารถรักษาศีลได้ ความเป็นพระของเราก็บกพร่องไป รักษาได้น้อย ความเป็นพระก็เหลือน้อย รักษาได้มาก ความเป็นพระก็มีมาก

กระผม/อาตมภาพถึงได้ให้โอวาทในงานอบรมพระนวกะอยู่เสมอว่า "ทุกวันนี้ไม่ได้มีความปรารถนาอะไรมาก นอกจากบวชพระภิกษุเข้ามาแล้ว ขอให้ชาวบ้านไหว้ได้เต็มมือก็พอ" จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายต้องตระหนักถึง "สมณสารูป" ว่าเราเป็นพระ ต้องวางตัวอย่างไร ก็แค่เป็นไปตามกรอบของศีลและเสขิยวัตรเท่านั้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือ "สมณสัญญา" เราต้องนึกอยู่เสมอว่า "บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกริยาใด ๆ ที่เป็นของสมณะ เราต้องทำอาการกริยานั้น ๆ"

ทุกท่านจะเห็นว่าการเป็นพระเป็นเณรจริง ๆ แล้วงานไม่มาก แต่ด้วยความที่โดนกิเลสชักจูงบ้าง ศึกษามาไม่ครบบ้าง จนทำให้กลายเป็นทำผิดทำพลาด อันดับแรกเลยคือ
สร้างความเสียหายให้กับตนเอง ก็คือบวชเข้ามาแล้ว ยิ่งห่างมรรคห่างผลออกไปทุกที เพราะว่าการปฏิบัติในตอนเป็นพระของเรา ถ้าหากว่าทำดี อานิสงส์ก็มีเป็นแสนเท่า แต่ถ้าหากว่าทำชั่ว ก็โดนลบเป็นแสนเท่าเหมือนกัน กลายเป็นซ้ำเติมตัวเองให้ตกต่ำลงไปทุกวัน..!

อันดับต่อไปก็คือ เราทำอะไรอยู่ในสายตาชาวบ้านเขาเสมอ ชาวบ้านรอบวัดนี่แทบจะรู้ดีที่สุดว่า พระเณรแต่ละรูปมีความประพฤติปฏิบัติอย่างไร ถ้าหากว่าเราทำดีทำถูก ทำเป็นร้อยครั้ง เขาจะชมสักครั้งก็ยาก แต่ถ้าทำผิดเมื่อไรก็ โดน "ทัวร์ลง" ทันที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2025 เมื่อ 15:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-05-2025, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,126 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจึงต้องตระหนักทั้งใน "สมณสารูป" และ "สมณสัญญา" ของเราอยู่เสมอ เป็นพระบวชใหม่จำเป็นต้องระมัดระวัง รักษาตนให้อยู่ในกรอบของศีลและการปฏิบัติธรรมเอาไว้ ยังไม่จำเป็นจะต้องไปคบค้าสมาคมกับใครก็ได้ ถ้าท่านทั้งหลายสามารถอยู่ได้ไปนาน ๆ รู้จักคนแค่ปีละคนสองคน สมมติว่า ๑๐ ปีผ่านไป ไอ้ ๑๐ คน ๒๐ คนนั้นผลัดกันมา ท่านก็ไม่ต้องกินไม่ต้องนอนแล้ว..!


อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์โลกและประเทศชาติไม่ดีเอามาก ๆ ถ้าใครคิดจะสึกหาลาเพศไปเพื่อหางานหาการอะไรทำ ก็อยู่ต่อไปก่อนเถอะ..! ถ้าใครสึกไปช่วงนี้แล้วหางานทำได้ นั่นต้องเป็นสุดยอดฝีมือที่เขาต้องการจริง ๆ ประเภททั่ว ๆ ไปก็ไป "เตะฝุ่น" "วิจัยฝุ่น" เสียเปล่า..! อยู่สร้างกุศลให้กับตนเอง พอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยสึกหาลาเพศไป อาศัยบุญอาศัยกุศลที่เราสร้างในตอนเป็นพระ ซึ่งเท่ากับว่าเราสะสมคุณงามความดีไปเรื่อย

เรื่องของบุญกุศลก็เหมือนกับคนมีเงิน ถึงเวลาใครมีบุญมาก ทำอะไรก็สะดวกคล่องตัวไปหมด เหมือนกับคนมีเงินมาก ทำอะไรก็สะดวกคล่องตัวไปหมด แต่เรื่องพวกนี้ก็ว่ากันไม่ได้ โบราณเขาบอกแล้วว่า "ฝนจะตก แดดจะออก พระจะสึก ขี้จะแตก" ไม่มีใครห้ามได้ พวกท่านจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพไม่เคยห้ามพระที่สึกเลยแม้แต่รายเดียว คือถ้าใจเขาไม่คิดที่จะอยู่แล้ว ห้ามไปก็เท่านั้นเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2025 เมื่อ 00:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว