#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (เมื่อวานนี้), คนไกลบ้าน (เมื่อวานนี้), เถรี (วันนี้), พุทธภูมิ (เมื่อวานนี้), มุ่งมั่น (เมื่อวานนี้), รัตตัญญู (เมื่อวานนี้), ลุงยามธรรมดา (เมื่อวานนี้), ศุภชัยรู้แผน (เมื่อวานนี้), สุธรรม (วันนี้)
|
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่เมืองธรรมศาลาช่วงเช้าอยู่ที่ ๑๗ องศาเซลเซียส
เมื่อวานนี้ที่ร้านอาหารนั้น พวกเราได้ฉันและรับประทานกันอิ่มหนำสำราญมาก ข้าวปลาอาหารที่เขานำมาให้พวกเรา เป็นเพราะว่ารู้ว่าพวกเรามาจากเมืองไทยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ถ้วยแรกก็คือต้มยำกุ้ง แต่เขาทำมารสอ่อนจนกลายเป็นซุปสำหรับกินก่อนอาหารมื้อหลัก ในส่วนอื่น ๆ ก็ยังมียำมะละกอ ซึ่งก็คือส้มตำของบ้านเรานั่นเอง คาดว่าเป็นการศึกษาจากยูทูบ หรือว่าเห็นคนอื่นเขาทำแล้วทำตาม ดังนั้น ส้มตำจึงมีเครื่องขาด ๆ เกิน ๆ โดยเฉพาะรสชาติยังห่างไกลจากบ้านเรา ๘๔,๐๐๐ ลี้เป็นอย่างน้อย แต่กระผม/อาตมภาพก็กวาดจนหมดเกลี้ยง เนื่องเพราะว่าเป็นผัก ซึ่งตนเองนั้นถนัดในเรื่องของผักผลไม้มากกว่า อาหารหวานนั้นมีกุหลาบจามุน ซึ่งเป็นของหวานขึ้นชื่อของทางประเทศอินเดีย แต่พวกเราส่วนหนึ่งซึ่งเกรงความหวานกันแล้วก็เลยพยายามที่จะหลีกเลี่ยง โต๊ะของกระผม/อาตมภาพซึ่งมีพระอยู่ ๔ รูป ก็คือมีหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร ท่านพันแสน (พระอธิการธรรมชัย อคฺคธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดศิลาวาส (ปิงโค้ง) จังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี จึงได้สั่งกุหลาบจามุนมาแค่ ๒ ถ้วย ซึ่งก็มีถ้วยละลูกเดียวเท่านั้น ทำการแบ่งครึ่งกันอย่างยุติธรรม มีเสียงฉันไปบ่นไปว่าหวานตัดขากันเลย เมื่ออิ่มแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางออกจากรัฐปัญจาบ มุ่งหน้าไปทางรัฐหิมาจัลประเทศของอินเดียตอนเหนือ การเดินทางในช่วงแรกก็ยังไม่กระไรนัก แต่พอมาหยุดทำหนังสือเพื่อผ่านรัฐเข้าไปแล้ว หนทางก็เริ่มคดเคี้ยวขึ้นเขา จากจุดประมาณพักกึ่งกลางทางที่พวกเราแวะเข้าห้องน้ำและเติมกาแฟกันสำหรับบางคนแล้วนั้น หนทางต้องบอกว่าเละเทะมากเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่ารัฐบาลอินเดียพยายามที่จะเร่งรัดสร้างหนทางในรัฐชายขอบนี้ให้มีสาธารณูปโภคที่สะดวกสบาย แต่การก่อสร้างไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นโครงการ ๗ ชั่วโคตรแบบถนนพระราม ๒ บ้านเราหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ขึ้นเขาลงห้วยแล้ว ยังมีการก่อสร้างแบบนี้เข้าไปอีก จึงทำให้รถไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้ แถมยังกระแทกกระทั้นกันไปโครม ๆ อีกต่างหาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|