กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-01-2025, 18:48
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-01-2025, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนเรียกง่าย ๆ กันว่า "วันไหว้" ก็คือจะเป็นวันที่ไหว้เจ้าตามความเชื่อของคนจีนกัน ซึ่งในระยะหลังมีผู้รู้หลายท่านที่ต้องบอกว่ารู้ไม่จริง ไปตำหนิด่าว่าบุคคลที่ไหว้เจ้าว่าเป็นพุทธภาษาอะไรถึงไปไหว้ผีแบบนั้น !?

ที่กระผม/อาตมภาพใช้คำว่าเป็นผู้รู้แต่รู้ไม่จริง ก็เพราะว่าไปเอาศาสนาพุทธกับลัทธิหยูของขงจื๊อมาปะปนกัน เนื่องเพราะว่าคนจีนนั้นโดนครอบงำด้วยลัทธิหยูของขงจื๊อมาเป็นพัน ๆ ปี โดยเฉพาะเน้นในเรื่องของความกตัญญู จึงต้องมีการไหว้บรรพบุรุษ มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็ยังสอนในเรื่องของเทวตานุสติ คือการระลึกถึงคุณงามความดีของเทวดา ตั้งแต่ต่ำ ๆ เลยคือต้องมีหิริ - โอตตัปปะ รู้จักละอายชั่วกลัวบาป สูงขึ้นไปกว่านั้นก็ต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์

ถ้าจะเอาสูงกว่านั้นก็ต้องทรงสมาธิภาวนาได้ ถ้าถึงขนาดพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพาน คือเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิงนั้น ก็ต้องตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน เข้าสู่พระนิพพานได้ เพียงแต่ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เชื่อมั่นในศักยภาพของพุทธศาสนิกชนว่า สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นเทวดาได้ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาชั้นต้น เทวดาเบื้องกลาง และเทวดาชั้นสูงสุด แต่ศาสนาอื่นนั้นมักจะมองเทวดาเป็นผู้มีอำนาจ ที่ต้องคอยประจบเอาใจ จึงมีการกราบไหว้บวงสรวง ร้องขอวิงวอนต่าง ๆ

ประเทศไทยของเรานั้น มีพี่น้องเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย แม้กระทั่งภายในพระบรมราชจักรีวงศ์ ก็ยังมีงานสังเวยพระป้ายทุกปี เนื่องเพราะว่าเชื้อสายกษัตริย์ไทยนั้นมีเชื้อจีนแทรกอยู่ด้วย

ดังนั้น..ในเรื่องของการไปตำหนิว่าเป็นพุทธทำไมถึงไหว้ผี ต้องบอกว่าคนตำหนิค่อนข้าง
ที่จะ "ไอคิวเตี้ย ไอเดียต่ำ ปัญญานิ่ม" เอาเรื่องของศาสนาพุทธไปปะปนกับลัทธิหยูของจีน และไม่ได้ดูผลตรงที่ว่า ความกตัญญูกตเวทีนั้นเป็นสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญไว้มาก

ไม่ว่าจะเป็นนิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี หรือว่าภูมิ เว สัปปุริสานัง กตัญญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นฐานสำคัญของบุคคลทั้งหลาย ในเมื่อ "จับแพะชนแกะ" แถมยังชนไม่ถูกแล้วยังไปตำหนิคนอื่น ก็เป็นเรื่องที่ท่านผู้พูดเหล่านั้นควรที่จะศึกษาเรียนรู้ให้ลึกซึ้งกว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2025 เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-01-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเทศไทยของเราในปัจจุบันสืบเชื้อสายขึ้นไป จะมากจะน้อยก็ต้องมี "อากง อาม่า" กันแทบทั้งนั้น เนื่องเพราะว่าคนจีนเมื่อมาอยู่ในประเทศไทย ได้รับความสะดวกสบาย จากที่องค์พระมหากษัตริย์ของเราเป็นผู้ที่ใจกว้าง ให้ความสงเคราะห์ต่อบุคคลเสมอหน้ากัน ก็เลยแต่งงาน ปะปนจนกระทั่งกลืนกลายมาถึงปัจจุบัน ทำให้ประเพณีต่าง ๆ ของจีนมีปะปนอยู่ในประเพณีไทยเป็นปกติ

แม้แต่กระผม/อาตมภาพ สมัยก่อนบวช ก็ยังไหว้เจ้าที่บ้านให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วถึงเข้าวัดไปถวายสังฆทาน ต้องบอกว่า
ถ้าเราแยกแยะออกว่าอะไรเป็นแบบธรรมเนียมจีน อะไรเป็นแบบธรรมเนียมไทย อะไรเป็นศาสนาพุทธ อะไรเป็นลัทธิหยูของขงจื๊อ เราก็จะไม่เสียเวลาไปตำหนิใคร

เนื่องเพราะว่าเรื่องของจารีตประเพณีนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ครอบงำประชากรส่วนใหญ่ที่เคารพนับถือ ต้องบอกว่าสำคัญรองลงมาจากกฎหมายบ้านเมืองทีเดียว เนื่องเพราะว่าบางที่ยึดถือจารีตประเพณีเคร่งครัด แต่ไปขัดกับกฎหมายบ้านเมือง เขาก็ปฏิบัติตามจารีตนั้น โดยที่ไม่ได้ใส่ใจกฎหมายเลยก็มี ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราต้องแยกแยะให้ออก

ในขณะเดียวกัน เรื่องของการไหว้เจ้าไหว้ผีอะไรก็ตาม บางอย่างก็แฝงเอาไว้ด้วยหลักธรรมที่เราคิดไม่ถึง อย่างเช่นว่าอปจายนมัย การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น ในเมื่อเทวดาท่านมีศักดานุภาพสูงกว่า เราก็ให้ความเคารพให้ความนับถือ หรือว่าในเรื่องของผี ซึ่งมีผู้ที่อดอยากอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเปรต อสุรกาย หรือว่าบรรดาสัมภเวสีที่ไม่มีญาติพี่น้องทำบุญให้ ประเพณีจีนนั้นเมื่อถึงเวลาหน้าสารทก็จะมีการไหว้ผี ที่คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "ไป้ห่อเฮียตี๋" ซึ่งก็คือการไหว้พี่น้องอันประเสริฐ

กระผม/อาตมภาพได้รับการไหว้วานจากผู้ใหญ่ ให้เป็นคนไปปักธูปเชิญผีไม่มีญาติทั้งหลายเหล่านี้ มากินอาหารที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งเราต้องเดินไปในทิศทั้ง ๔ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ปักธูปเชิญเขาแล้วก็เดินกลับมายังบริเวณที่ตั้งสำรับ ซึ่งเมื่อได้รับการฝึกมโนมยิทธิแล้วก็เห็นว่า บรรดาเปรต อสุรกาย หรือว่าสัมภเวสีไร้ญาติเหล่านั้น แห่กันมากินข้าวปลาอาหารที่เตรียมไว้ให้แบบมืดฟ้ามัวดิน..!

แล้วที่เป็นอัศจรรย์ก็คืออาหารที่เหลือเหล่านั้น เมื่อเราเอามากินดู ปรากฏว่าจืดชืดไร้รสชาติไปเลย พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านอธิบายว่า ในส่วนของโอชะ คือรสชาติที่เป็นนามธรรมนั้น โดนพวกผีกินไปหมดแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เปลือกที่เป็นส่วนหยาบทิ้งไว้ให้เรา จึงจืดชืดไร้รสชาติ แทบไม่มีใครอยากที่จะกินต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2025 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-01-2025, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาเปรต อสุรกาย หรือว่าสัมภเวสีเหล่านั้นน่าสงสารมาก ถ้าหากว่าเป็นอาหารที่มีเจ้าของ เขาก็โดนควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ของโลกเขา ไม่สามารถที่จะแตะต้องได้ถ้าเจ้าของไม่อนุญาต ถ้าเป็นสิ่งที่เจ้าของทิ้งแล้ว ไม่ต้องการแล้ว เขาถึงมีสิทธิ์ที่จะกินได้ ก็แปลว่าตรุษที สารทที ถ้าหากว่ามีการไหว้ผี เชิญเขามากิน เขาถึงมีโอกาสได้กินเต็มที่สักครั้งหนึ่ง ที่เหลือก็ต้องอด ๆ อยาก ๆ ไปตามภพตามภูมิที่ตนเองต้องเสวยกรรมอยู่

ดังนั้น..การเมตตาต่อสรรพสัตว์ร่วมโลกนี้ ต้องถือว่าเป็น "อัปมัญญาพรหมวิหาร" รูปแบบหนึ่ง จึงมีการทำข้าวปลาอาหารอย่างดี แล้วเชิญท่านทั้งหลายเหล่านี้มากินด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ท่านตำหนิว่าเขาเป็นพุทธแล้วไปไหว้ผี นอกจากเป็นการเข้าใจผิด เอาศาสนาพุทธไปปนกับลัทธิขงจื๊อแล้ว ยังไม่เห็นหลักธรรมที่แฝงอยู่ในการกระทำทั้งหลายเหล่านี้อีกต่างหาก..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ท่านทั้งหลายว่ากล่าวไป นอกจากจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เนื่องเพราะว่าไปตำหนิในสิ่งที่เป็นจารีตประเพณี ที่เขาถือกันมาเป็นพันปี ตลอดจนกระทั่งเอาไปปะปนกับศาสนาพุทธแบบ "จับแพะชนแกะ" ซึ่งเรื่องของศาสนาหรือความเชื่อแบบนี้ เมื่อถึงเวลานานไป ก็ย่อมกลืนเข้าหากัน

อย่างเช่นว่าบ้านเราสมัยก่อน สถาบันหลักคือพระมหากษัตริย์ กระทำสิ่งหนึ่งประการใด ก็เป็นไปตามหลักการของศาสนาพราหมณ์ฮินดู ซึ่งมีความเชื่อว่าองค์พระมหากษัตริย์คือสมมติเทพ มาระยะหลังก็มีการนำเอาพิธีพุทธไปนำหน้า อย่างเช่นว่าก่อนจะจัดพิธีแรกนาขวัญ ก็จะต้องมีการสมาทานศีล เจริญพระพุทธมนต์ก่อน เหล่านี้เป็นต้น เป็นการปรับให้พุทธนำหน้าแล้วเอาพราหมณ์ตามหลัง

ในเรื่องของขงจื๊อก็เหมือนกัน ท่านที่มีความเข้าใจ ถึงเวลาไหว้เจ้าตามประเพณีแล้ว ก็ทำบุญให้ทานตามหลักของศาสนาพุทธ ไม่ได้มีอะไรขัดกันเลย
นอกจากบรรดาท่านที่กำลังใจต่ำ แถมยังความรู้ไม่ชัดเจน แต่อวดอ้างว่าเป็นผู้รู้ ก็ไปกล่าวตำหนิคนอื่นเขา ในเมื่อกำลังใจของตนไม่เปิดกว้างพอ มองไม่เห็นความเป็นจริงในสังคมบ้านเรา แล้วซ้ำไปตำหนิการกระทำสิ่งดี ๆ ของคนอื่น

เรื่องพวกนี้ก็เท่ากับว่าท่านนั้นกำลังที่จะหาเวรหากรรมใส่ตัวเอง
ก็ปล่อยให้ท่านไปตามทางของท่าน ส่วนเราเองทำสิ่งใดที่เห็นว่าดี ไม่ละเมิดศีล ไม่ละเมิดธรรม ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราก็กระทำของเราไป โดยที่ยึดเอา ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลัก จะได้ไม่ออกนอกทางไปไกล จนให้เขาตำหนิได้เหมือนอย่างทุกวันนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2025 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว