#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ อากาศช่วงเช้ามืดอยู่ที่ ๒๒ องศาเซลเซียส กระผม/อาตมภาพต้องลงไปนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ เจริญกรรมฐานกันตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง หลังจากนั้นแล้วจึงได้ออกบิณฑบาตตามปกติ
เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันเสาร์จึงมีโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาร่วมใส่บาตรกันเยอะมาก โดยเฉพาะรถยนต์จอดกันจนกระทั่งในตลาดทองผาภูมิแทบจะไม่มีที่เหลือ ต้องวนหาที่จอดกันค่อนข้างจะไกลทีเดียว ประกอบกับวันนี้มีการแสดงของเด็ก ๆ โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิให้ผู้ที่มาใส่บาตรได้ชมกันด้วย เป็นการฟ้อนโคม ซึ่งอาศัยเสียงสะล้อซอซึงตามแบบของภาคเหนือประกอบการฟ้อน เด็ก ๆ ทั้งหลายโชคดีที่วันนี้อากาศไม่หนาวมาก เนื่องเพราะว่าชุดเปิดไหล่นั้น กระผม/อาตมภาพไปเจอที่สำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทองของครูบาเหนือชัย โฆสิโต "นักบุญแห่งขุนเขา" มาแล้ว ว่าการแต่งตัวตามแบบไตลื้อของล้านนานั้น ผู้หญิงนุ่งผ้าเปิดไหล่ ส่วนผู้ชายไม่ใส่เสื้อ เจออากาศประมาณ ๑๐ องศาเซลเซียสก็ได้เดินสั่นงั่ก ๆ ไปตาม ๆ กัน..! หลังจากฉันเช้าเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ต้องมานำญาติโยมผู้บวชปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นนี้ ทำพิธีบวชและรับศีลกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งการบวชนั้นก็ไม่ค่อยจะพร้อมเพรียงกัน เพราะว่าบางส่วนเริ่มรับศีลแล้ว บางส่วนก็ยังเข้ามาไม่ถึงศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย แสดงว่าเป็นคนใหม่ที่ไม่รู้ว่าทางวัดท่าขนุนตรงต่อเวลาขนาดไหน เมื่อถึงเวลาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไม่เคยรอใครเสียด้วย จึงขอให้ทุกคนทำความเข้าใจด้วยว่า ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องมีเลยก็คือสัจจบารมี ความจริงจังจริงใจต่อสิ่งที่เราทำ ก็คือจะต้องเป็นคนตรงต่อเวลา ตรงต่อกำหนดการทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะวัดผลได้อย่างชัดเจนว่า ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมแล้ว สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้หรือไม่ ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2024 เมื่อ 01:51 |
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ครั้นฉันเพลเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้รับข้อมูลด่วน ให้ไปร่วมประชุมที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด และรองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ตลอดจนงานสมโภชหิรัญบัฏ ของพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) ท่านเจ้าคุณอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องรีบนำญาติโยมสมาทานพระกรรมฐานช่วงบ่าย แล้วมอบหมายให้พระวิปัสสนาจารย์วัดท่าขนุนนำปฏิบัติธรรมแทน ยังไม่ทันจะเก็บของขึ้นรถเสร็จเรียบร้อย พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ก็โทรมาถามว่า "วันนี้หลวงพ่อจะเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิหรือไม่ ?" จึงได้ตอบไปว่า "กำลังจะออกจากวัด" ครั้นเดินทางไปถึงสถานที่ประชุม คือศาลาเอนกประสงค์วัดปรังกาสี หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ก็ได้นำเข้าสู่การประชุมวาระที่ ๑ พอดี ซึ่งวาระการประชุมที่สำคัญนั้นก็คือ เรื่องของการอบรมบาลีก่อนสอบที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตลอดจนกระทั่งเรื่องของการอบรมพระอุปัชฌาย์ประจำปี ๒๕๖๘ แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า ถ้าหากเป็นอำเภออื่นแล้ว ในเรื่องของการขอพระอุปัชฌาย์นั้น ทุกคนต่างพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้ได้มา แต่ว่าของอำเภอทองผาภูมินั้น โดยสิทธิ์ของพระอุปัชฌาย์แล้วจะเป็นของเจ้าคณะตำบลก่อน แต่ว่าทองผาภูมิของเราซึ่งมี ๑๐ ตำบลคณะสงฆ์ มีเจ้าคณะตำบลที่ยังไม่ได้เป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ ก็คือ ตำบลลิ่นถิ่น เขต ๑ ของหลวงพ่อพระครูโกศลกาญจนวัฒน์ ตำบลลิ่นถิ่น เขต ๒ ของหลวงพ่อพระครูปิยสีลสังวรการ ตำบลหินดาด ของหลวงพ่อพระครูสีลกาญจนคุณ ตำบลท่าขนุนเขต ๑ ของหลวงพ่อพระครูพิสุทธิ์กาญจนาภรณ์ ก็แปลว่า ๑๐ ตำบลนั้นยังขาดพระอุปัชฌาย์ไปเป็นครึ่ง ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2024 เมื่อ 01:53 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ยังมีตำบลชะแลเขต ๒ ของหลวงพ่อพระครูสถิตกาญจนวงศ์อีกด้วย จึงพิจารณาผ่านไปจนถึงสิทธิ์รองลงไปก็คือเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม หวยจึงไปออกที่พระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. (ปรีชา จิรนาโค) เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี (วัดวังปะโท่) เนื่องเพราะว่าความรู้ อายุกาลพรรษาทุกอย่าง ได้ตามกำหนดกฎเกณฑ์ทั้งหมด ในเมื่อคุณสมบัติครบถ้วนและเจ้าคณะตำบลไม่รักษาสิทธิ์ของตนเอง ก็กลายเป็น "ส้มหล่น" ลงมาสู่ท่านพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร.
อีกวาระหนึ่งก็คือการที่พิจารณาหาบุคคลซึ่งจะมาทดแทนตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพได้รับมติจากมหาเถรสมาคม แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ถ้าหากว่าได้รับบัญชาสมเด็จพระสังฆราชเมื่อไร ก็จะพ้นจากตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิทันที อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ปีหน้าท่านก็จะเกษียณอายุเนื่องเพราะอายุครบ ๘๐ ปี ก็แปลว่ากระผม/อาตมภาพและรองเจ้าคณะอำเภอวัดเขื่อนวชิราลงกรณ จะพ้นจากตำแหน่งไล่ ๆ กันทั้งสองรูป เมื่อพิจารณากันอย่างโปร่งใส ก็คือว่ากันในท่ามกลางที่ประชุม ก็ได้เสนอให้ท่านพระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์ เจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๑ เจ้าอาวาสวัดพุทโธภาวนา เลื่อนขึ้นเป็นรองเจ้าคณะอำเภอรูปที่ ๑ ท่านพระครูสุจิณบุญกาญจน์ เจ้าคณะตำบลห้วยเขย่ง เจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ เตรียมเป็นรองเจ้าคณะอำเภอรูปที่ ๒ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านพระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์ ท่านเป็นมหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าคณะตำบลอาวุโสที่มีความรู้ทางโลกสูงสุด ก็คือจบปริญญาโท สูงกว่าหลวงพ่อพระครูสุจิณบุญกาญจน์ เจ้าคณะตำบลห้วยเขย่ง โดยเฉพาะทั้งสองท่านเป็นเจ้าคณะตำบลอาวุโส ที่ตั้งแต่เจ้าคณะอำเภอท่านยังเป็นเลขานุการอำเภออยู่ จนกระทั่งท่านเลื่อนมาเป็นรองเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะอำเภอในปัจจุบัน ทั้งสองท่านก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนคลายไปไหน ซึ่งเรื่องพวกนี้ทางอำเภออื่นเขารู้สึกชื่นชมในอำเภอทองผาภูมิมากว่า ในเรื่องของยศ ของตำแหน่ง ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีฟาดฟันกันเหมือนกับที่อื่น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2024 เมื่อ 01:55 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
ความจริงแล้วถ้าหากว่าเราปกครองกันอย่างโปร่งใส มีอะไรก็ว่ากันท่ามกลางที่ประชุมให้รู้กันชัดเจนไปเลย ในลักษณะแบบนี้ก็ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร เหลืออยู่แต่ว่าเมื่อเสนอชื่อไปตามลำดับชั้นแล้ว ผู้บังคับบัญชาสูงสุดซึ่งมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายจะเลือกใครเท่านั้น ต่อให้พวกเราเสนอขึ้นไปแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าท่านนั้นจะต้องได้รับตำแหน่งแน่นอน กระผม/อาตมภาพจึงได้เตือนไปว่า อย่าไปมั่นใจว่าตำแหน่งนี้จะต้องเป็นของเรา เนื่องเพราะว่าเราเห็นว่าเหมาะสม แต่ว่าผู้บังคับบัญชาอาจจะมีคนในดวงใจอยู่ก็ได้ ซึ่งทุกท่านก็รับทราบกันตามนี้
แล้วขณะเดียวกันก็เข้าใจกันชัดเจนว่า ตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้นก็คือภาระงานมากขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แต่ละท่านที่ล้วนแล้วแต่สมถะ รักสงบ จึงไม่ได้ปรารถนาที่จะได้ยศได้ตำแหน่งอะไรมากมายไปกว่านี้ บางท่านก็ถึงขนาดจะถอนตัวแต่กลางคันก็มี เป็นเรื่องที่พวกเรา "ร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออก" ที่อื่นเขาแย่งกันจะเป็นจะตาย แต่ที่ทองผาภูมิต่างคนต่างเกี่ยงให้คนอื่นเป็นแทน..! แม้กระทั่งทุกวันนี้ เวลาประชุมคณะสงฆ์จังหวัด หรือว่าคณะสงฆ์ภาค ก็มักจะมีเพื่อนพระสังฆาธิการแซวกันว่า "ทำไมอำเภอ รองอำเภอทองผาภูมิเขารักกันนักวะ ? ไปไหนก็ผูกแพไปด้วยกัน ไม่เห็นจะทิ้งกันเลย" กระผม/อาตมภาพก็ได้เรียนไปตรง ๆ ว่า "ถ้าหากว่าไม่แย่งตำแหน่งกัน ก็รักกันได้ทุกอำเภอแหละครับ" เล่นเอาคนฟังทำหน้าพิกลไปตาม ๆ กัน..! เมื่อปิดประชุมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ร่วมทำบุญกับท่านพระครูกาญจนสิทธิคุณ เจ้าคณะตำบลสหกรณ์นิคม เจ้าอาวาสวัดหินดาดผาสุการาม ซึ่งท่านจะหล่อพระประธานองค์ใหญ่ไว้ในวิหาร ได้นิมนต์กระผม/อาตมภาพเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่สองเดือนก่อนว่า ให้ไปช่วยนั่งปรก อธิษฐานจิต คุมธาตุในงานหล่อพระให้ด้วย กระผม/อาตมภาพถวายปัจจัยร่วมหล่อพระกับท่าน ๑๐,๐๐๐ บาท กำชับไว้ว่า "อย่าใส่ซองคืนมาเป็นอันขาด งานนั่งปรก ผมนั่งให้ฟรี" ทุกท่านก็อนุโมทนาร่วมกัน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2024 เมื่อ 01:58 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|