#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๗
|
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ วันศุกร์สิ้นเดือนก็เหมือนกับสิ้นใจ คนกรุงเทพฯและปริมณฑลคงต้องล้างผลาญน้ำมันกันในการจราจรอีกมากมายมหาศาล กว่าจะเข้าถึงที่พักของแต่ละคน
วันนี้กระผม/อาตมภาพขอสัตตาหะกรณียะในท่ามกลางสงฆ์ เพื่อออกเดินทางในช่วงเข้าพรรษาไปกิจธุระสำคัญ คือเป็นกรรมการในการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบที่วัดบางสะแก หมู่ที่ ๖ ตำบลบางสะแก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม วิ่งลัดเลาะไปตามที่ "กูเกิ้ลแม็พ" บอกเอาไว้ ซึ่งขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ฟังอยู่ในขณะนี้ว่า ถ้าใครใช้ "กูเกิ้ลแม็พ" ต้องทำใจ เนื่องเพราะว่า "พี่กู" นั้นมีสันดานชอบ "โชว์พาวฯ" ตามภาษาวัยรุ่น ก็คือจะพาไปในเส้นทางที่ซับซ้อนที่สุด เพื่ออวดว่าตัวเองรู้มาก แต่พอขากลับก็มักจะให้ออกในทางใหญ่ ซึ่งถึงได้รวดเร็วกว่า ทุกครั้งที่เจอมาก็เป็นเช่นนี้..! กระผม/อาตมภาพไปถึงที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางสะแกประมาณเก้าโมงครึ่ง เจอรถจอดระเกะระกะไปหมด ยังไม่ทันจะจอดรถเข้าที่ พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ และพระเดชพระคุณพระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี กรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านศีล ๕ หนกลางก็มาถึง กระผม/อาตมภาพจึงไปสอบถามบรรดาเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ปรากฏว่าแต่ละคนล้วนแล้วแต่ออกอาการ "แบ๊ะ..แบ๊ะ" ก็คือไม่รู้ว่าหน้าที่ใครจัดการจราจร เนื่องเพราะว่าตำรวจจราจรยังมาไม่ถึง ตามกำหนดการนั้นก็คือจะเริ่มงานตอนเที่ยงครึ่ง กระผม/อาตมภาพก็แทบจะเกาหัวตัวเอง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า "เริ่มเที่ยงครึ่งแปลว่าทุกคนจะมาถึงเที่ยงครึ่งหรืออย่างไรพ่อคุณ ?" ก็เลยไปตะโกนบอกให้ทุกคน "เคลียร์" รถออกจากบริเวณหน้างานโดยเร็วที่สุด เพื่อที่ให้คณะกรรมการฯ มีที่จอดรถ ปรากฏว่ามีบุคคลผู้หนึ่งมาช่วยบอกให้รถทุกคนถอยออกไปหาที่จอดใหม่ แล้วเอากรวยมากั้นบริเวณนั้นเอาไว้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพมารู้ทีหลังว่าท่านนั้นก็คือท่านนายกฯ วิชัย กรรมาชีพ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสะแก ต้องขอเจริญพรขอบคุณท่านนายกฯ วิชัยมา ณ ที่นี้ด้วย ตอนแรกเห็นท่านยกโต๊ะ แบกเก้าอี้ ยังคิดว่าเป็นกรรมกรที่เขาเรียกตัวมาใช้งาน ที่ไหนได้..กลายเป็นนายก อบต.ลงไปทำงานด้วยตนเอง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2024 เมื่อ 02:03 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ครั้นเมื่อเข้าไปกราบพระประธานในโบสถ์วัดบางสะแก ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกด้านหนึ่งของโดมจัดงาน เนื่องเพราะว่าการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านบางสะแกใหญ่นี้ ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบางสะแกของท่านนายกฯ วิชัย อนุญาตให้ใช้ศาลาโดมขององค์การบริหารส่วนตำบลบางสะแกในการตรวจประเมิน ในส่วนของวัดก็เลยดูเงียบ ๆ เหงา ๆ ได้มีโอกาสเจอหลวงปู่พระครูสมุทรวรากร เจ้าอาวาสวัดบางสะแก ท่านก็เฒ่าชะแรแก่ชรา จนออกอาการเดินแถข้างเหมือนกับปูทะเล กราบเรียนถามว่า "หลวงปู่ยังไหวหรือครับ ?" ท่านบอกว่า "ยังเดินได้อยู่..!"
กระผม/อาตมภาพดูแล้วก็ถอนหายใจ เนื่องเพราะว่าตนเองนั้นต้องตรวจประเมินในด้านของการปฏิบัติธรรม อันดับแรกเลย วัดบางสะแกแห่งนี้ไม่ได้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด อันดับที่สอง ไม่มีการจัดการปฏิบัติธรรมอย่างเป็นระบบระเบียบอะไรเลย นอกจากทำบุญตามวันสำคัญของทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น ยังนั่งปลงอนิจจังว่า "กูจะเอาคะแนนที่ไหนถวายหลวงปู่ดีวะ..?!" แต่โชคดีที่ว่าเมื่อเดินดูนิทรรศการต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่เห็นอยู่นั้นพอที่จะเป็นหน้าเป็นตาได้ เนื่องเพราะว่าบ้านบางสะแกแห่งนี้ มีประชากรทั้งหมดแค่ ๑๒๘ คนเท่านั้น..! เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ และเป็นหมู่บ้านที่เจอศึกเจอสงครามมาก่อนตั้งแต่สมัยอยุธยา สมกับชื่อจังหวัดสมุทรสงคราม วัดแต่ดั้งเดิมนั้นโดนทหารพม่ารื้อศาลา รื้อกุฏิ เพื่อเอาไม้ไปทำสะพานข้ามแม่น้ำ จนกระทั่งไม่เหลืออะไรไว้เลย ต้องมาสร้างวัดกันใหม่ กลายเป็นวัดบางสะแกที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ ในเมื่อผ่านศึกผ่านสงครามมา ก็แปลว่าเป็นลูกหลานวีรชนนั่นเอง กระผม/อาตมภาพเห็นบรรดาพระเถระที่ทนงานที่ยังยุ่ง ๆ อยู่ เพราะว่าจัดเตรียมเอาไว้สำหรับเวลาเที่ยงครึ่งไม่ไหว เผ่นหนีไปหาร้านอาหารนั่งกันหมดแล้ว กระผม/อาตมภาพขี้เกียจตามไป เนื่องเพราะเล็งที่โรงทานวัดอินทารามของเจ้าคุณหลวงพ่อแดง - พระเมธีวัชรประชาทร (ประยูร นนฺทิโย), ผศ., ดร. ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ และเป็นที่ปรึกษาคณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมาด้วยกัน จึงไปขอวุ้นเส้นผัดไทยมา ๒ กล่องฉันแทนอาหารเพล
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2024 เมื่อ 02:07 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
เมื่ออิ่มแล้วก็มาเดินดูนิทรรศการซึ่งเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่าง แล้วก็มาเจอของดี ก็คือมีการทำน้ำผึ้งชันโรงด้วย โดยที่บริเวณนี้เขาเลี้ยงชันโรงเอาไว้เพื่อช่วยผสมเกสรต้นส้มโอ ไม่น่าเชื่อว่าบางสะแกแห่งนี้มีส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ซึ่งค่อนข้างจะรสชาติดีมาก แต่ว่ายังไม่ติดตลาด ท่านกำนันตำบลบางสะแก คือนายมนัส บุญพยุง พยายามที่จะสนับสนุนอยู่
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวันนี้สิ่งของที่ถวายเป็นที่ระลึกแก่คณะกรรมการนั้น เป็นตะกร้าสานจากทางมะพร้าว บรรจุเอาไว้ด้วยขนมสดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ฝอยทอง สังขยามะพร้าวอ่อน ขนมตาล หรุ่ม เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงไม่มีโอกาสช่วยท่านกำนันมนัส โฆษณาส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่บางสะแกนี้ได้ ในส่วนของน้ำผึ้งชันโรงนั้น ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าเป็นของดีที่หายากมาก ชันโรงเป็นผึ้งขนาดเล็กที่สุดซึ่งไม่มีเหล็กไน เป็นที่น่าสงสารว่าถ้ามีผู้บุกรุกเข้าไปขโมยน้ำผึ้งถึงรัง ชันโรงก็ได้แต่ตอมหึ่ง ๆ ประท้วงอยู่เท่านั้น ไม่สามารถที่จะป้องกันรังของตนเองได้เลย กระผม/อาตมภาพดูแล้วว่า น้ำผึ้งชันโรงขวดหนึ่งประมาณ ๒๐๐ ซีซี เขาจำหน่ายขวดละ ๒๕๐ บาท จึงช่วยซื้อประเดิมให้เขามา ๔ ขวด เหตุที่คนอื่นรู้สึกว่าราคาแพง แต่กระผม/อาตมภาพไม่รู้สึกว่าแพง ก็เพราะว่าชันโรงที่เขาเลี้ยงไว้ประมาณ ๒ รังเป็นอย่างน้อย ถึงจะได้น้ำผึ้ง ๑ ขวด และปีหนึ่งก็เก็บได้ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ว่าบุคคลที่ทำอย่างจริงจัง และมีผู้รู้คุณค่าของน้ำผึ้งชันโรงว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ก็มาหาซื้อกันจนพอที่จะทำเป็นอาชีพได้ ครั้นเมื่อบรรดาพระเถระฉันเพลกันเสร็จแล้วก็เข้ามาบริเวณหน้างาน ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง ก็ได้นำพวกเรา ตลอดจนกระทั่งพระเถระของจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อพระเทพสุเมธี (ทวี อภิปสนฺโน ป.ธ. ๓) เจ้าอาวาสวัดเกตการาม เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ฝ่ายธรรมยุต หลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ - พระราชภาวนาวชิราจารย์ วิ. (สุรศักดิ์ อติสกฺโข ป.ธ. ๕) เจ้าอาวาสวัดประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ฝ่ายมหานิกาย ตลอดจนกระทั่งรองเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะอำเภอทั้ง ๓ อำเภอเดินชมนิทรรศการกัน โดยมีนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นำเอารองผู้ว่าราชการจังหวัด ๒ ท่าน ปลัดจังหวัด และนายอำเภออีก ๓ อำเภอมาทั้งหมด เรียกว่าให้ใจกับงานนี้อย่างสุด ๆ หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ก็มากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง จึงทำให้หลวงพ่อเจ้าคุณประเทือง (พระธรรมวชิรสุนทร) ได้ช่วยซื้อขนมในงาน แจกจ่ายให้กับบรรดาข้าราชการกันอย่างสนุกครึกครื้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2024 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อตรวจเยี่ยมงานต่าง ๆ และให้รางวัลเด็ก ๆ แล้ว ก็เป็นพิธีกรรมพิธีการตรวจประเมินตามตารางที่ได้กำหนดเอาไว้ กระผม/อาตมภาพที่ตอนแรกคิดว่า "จะเอาคะแนนที่ไหนให้เขาดี ?" แต่เมื่อมาถึงตรงนี้ เห็นความพร้อมเพรียงของทั้งทางคณะสงฆ์ ที่ยกพหลพลโยธากันมาหมดทั้งจังหวัด และความพร้อมเพรียงของฝ่ายราชการ ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนำเอารองผู้ว่า ฯ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการมาทั้งหมด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ยังมีท่านนายก อบต. ท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาโดยพร้อมเพรียงกัน ตอนนี้ก็ต้องมายับยั้งชั่งใจว่า "ตกลงว่าคะแนนที่เรามีอยู่จะพอให้เขาหรือไม่ ?"
เนื่องเพราะว่าการกระทำในลักษณะแบบนี้ เป็นการที่ทุกคนแปลงศีลเป็นธรรมไปแล้ว ก็คือแทนที่จะเป็นโครงการรักษาศีล ๕ ก็กลายเป็นโครงการจังหวัดศีลธรรม โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม มีนโยบายให้ข้าราชการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าวัดกัน อย่างน้อยเดือนละ ๑ วันพระ ต้องมีการถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ ส่งรายงานด้วยว่าตนเองเข้าวัดไหน ? วันพระไหน ? เมื่อมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นผู้นำขนาดนี้ จึงทำให้หมู่บ้านงานสะแกนั้น "สเกลงาน" ใหญ่จนกลายเป็นจังหวัดคุณธรรม หรือจังหวัดศีลธรรมไปแล้ว จากที่ไม่รู้ว่าจะให้คะแนนอย่างไร ก็กลายเป็นว่า คะแนนที่มีอยู่น่าจะไม่พอให้..! เมื่อทำการตรวจประเมินแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ฝากใบตรวจประเมินเอาไว้ให้กับ ดร. พระครูทวี - พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์, ดร. (ทวี รตนเมธี) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง แล้วตนเองก็รีบเผ่นออกจากงานอย่างด่วนจี๋ เนื่องเพราะว่า ๔ โมงเย็นแล้ว..! ทางด้านนี้ก็เป็นที่เลื่องลือกันอย่างยิ่งว่าถนนพระราม ๒ ต่อกาญจนภิเษกนั้น รถติดสาหัสสากรรจ์ตามโครงการสร้างถนน ๗ ชั่วโคตรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว..! ประกอบกับเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจซ้ำเข้าไปอีก กระผม/อาตมภาพจึงต้องรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้แต่เนิ่น ๆ ส่วนตนเองนั้นจะกลับถึงที่พักคืนนี้ตอนไหนก็ต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2024 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|