#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗
|
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงเช้าเมื่อออกบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าโชคดีมากเพราะว่าวันนี้ฝนไม่ตกในตอนเช้า
แต่ว่าหลังจากที่ฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่งตัวใหม่ ออกเดินทางไปยังหน้าวัดทองผาภูมิ บริเวณลานหน้าหลวงพ่อ ภปร.พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ เพื่อร่วมการต้อนรับน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอัญเชิญมาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สามประสบ อำเภอสังขละบุรี เพื่อเตรียมทำการเสกถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา ปรากฏว่าแดดจัดมาก ทำเอาขบวนต้อนรับนั้นถึงกับมีบุคคลเป็นลม ต้องหอบหิ้วกันไปปฐมพยาบาลกันอยู่หลายราย..! ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ท่าน ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน ท่านศราวุธ ศรีทันดร นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิมาทำการต้อนรับกระผม/อาตมภาพ แล้วช่วยกันตรวจดูความพร้อมและซักซ้อมขบวนรำเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งประกอบไปด้วยนักแสดงจากโรงเรียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา โรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ โรงเรียนบ้านไร่ป้า โรงเรียนบ้านห้วยเสือ เป็นต้น จำนวนทั้งสิ้น ๗๒ คน แต่งกายเป็นชนเผ่าและชาติพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไทย มอญ พม่า กะเหรี่ยง ม้ง ซึ่งชนเผ่าเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีอยู่ในอำเภอทองผาภูมิทั้งสิ้น ครั้นเวลาประมาณ ๐๘.๓๙ น. ขบวนอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์จากอำเภอสังขละบุรีก็มาถึง ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ และคณะทำการอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประดิษฐานอยู่เบื้องหน้าหลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ เมื่อทำการต้อนรับแล้ว ก็ได้อัญเชิญขึ้นรถไปส่งให้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ที่ตั้งขบวนรอรับอยู่ ณ ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน จากจุดนี้ ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี จะทำหน้าที่นำน้ำศักดิ์สิทธิ์ลงไปสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี โดยมีการจัดการต้อนรับที่บริเวณเขตอำเภอไทรโยคอีกที่หนึ่ง กว่าที่จะเข้าสู่การต้อนรับที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) กระผม/อาตมภาพขอตัวออกจากขบวน วิ่งนำออกไปก่อน เพื่อเดินทางไปยังวัดอินทาราม หมู่ที่ ๑ ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อร่วมงานเปิดหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้องเรียนวัดอินทาราม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2024 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
เมื่อไปถึง ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ (ละเอียด สุทนฺโต) เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ (พระอารามหลวง) ท่านเดินทางมาถึงก่อนแล้ว
พระเดชพระคุณพระราชสมุทรวชิรโสภณ, ผศ. ดร. (โสภณ ธมฺมโสภโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะ ๑๕ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอกก็มาถึงแล้ว พระเดชพระคุณพระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ. (สุรศักดิ์ อติสกฺโข ป.ธ.๕) เจ้าอาวาสวัดประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งได้รับเลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นราชก็มาถึงแล้ว กระผม/อาตมภาพเข้าไปถวายกระเช้าแสดงความยินดีกับหลวงพ่อแดง - ท่านเจ้าคุณพระเมธีวัชรประชาทร, ผศ. ดร. (ประยูร นนฺทิโย) เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ ที่ปรึกษาคณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมกับถวายทุนการศึกษา เพื่อช่วยการศึกษาหน่วยวิทยบริการวัดอินทารามแห่งนี้ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท จากนั้นก็นั่งคุยกับพรรคพวกเพื่อนฝูงเพื่อรอเวลา จนกระทั่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม เดินทางมาถึง หลังจากทำการเปิดหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ ห้องเรียนวัดอินทารามแล้ว พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณฯ ก็ได้ทำการมอบเกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์ต่อหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ ห้องเรียนวัดอินทารามแห่งนี้ และมอบประกาศนียบัตรการปกครองท้องถิ่น (ป.บท.) แก่บรรดานิสิตรุ่นแรกของห้องเรียนวัดอินทาราม ซึ่งเรียนจบระดับประกาศนียบัตรแล้ว จะเข้าศึกษาต่อในสาขารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยต่อไป กระผม/อาตมภาพต้องขอตัวออกเดินทาง กลับยังวัดท่าขนุนเลย เนื่องเพราะว่ามีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ทั้ง ๔ หน คือหนเหนือ หนใต้ หนกลาง และหนตะวันออก โดยที่กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนหนกลาง ในที่นี้ก็จะมีการประชุมเพื่อตกลงในเรื่องต่าง ๆ กัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2024 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
โดยเฉพาะในส่วนของงบประมาณที่จะใช้ในการตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบของหนต่าง ๆ และกำหนดวันในการออกตรวจประเมิน ซึ่งทางหนกลางของกระผม/อาตมภาพนั้น ได้กำหนดไว้เรียบร้อยแล้วว่า เราจะเริ่มการตรวจประเมินในภาค ๑, ภาค ๒, ภาค ๓, ภาค ๑๓, ภาค ๑๔ และ ภาค ๑๕ โดยเริ่มวันที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ไปสิ้นสุดลงวันที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
หลังจากนี้ก็น่าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกันอีกหลายวาระด้วยกัน เพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทางคณะสงฆ์ได้ทำ MOU ร่วมกับทางกระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยนั้น มีทั้งโครงการหมู่บ้านศีลธรรม เนื่องเพราะว่าของเขานั้นมีบรรดาผู้ถือศาสนาอื่น ๆ อยู่ด้วย ถ้าใช้โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งเป็นโครงการที่เขาเห็นว่าเป็นของศาสนาพุทธอย่างเดียว อาจจะไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องแปลงเป็นโครงการหมู่บ้านศีลธรรม ตลอดจนกระทั่งโครงการหมู่บ้านยั่งยืน และโครงการอื่น ๆ ที่จะต้องกระทำร่วมกันไปกับโครงการหมู่บ้านศีล ๕ เมื่อมีการขับเคลื่อนพร้อมกัน ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและสูญเสียงบประมาณซ้ำซ้อนกัน จึงทำให้ต้องรีบกำหนดการแต่เนิ่น ๆ และแจ้งให้ทางกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะด้านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอท้องถิ่น ที่เราจะไปตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ เพื่อที่เขาทั้งหลายเหล่านั้น จะได้เตรียมพร้อมในการสรรหาเวลาว่าง มาให้ตรงกันกับกำหนดการของทางคณะสงฆ์ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องปวดหัวของบรรดาผู้ประสานงาน แต่ทางคณะสงฆ์ก็ไม่ได้กำหนดตายตัวถึงขนาดนั้น ถ้าหากว่ามีงานด่วนของทางกระทรวงมหาดไทย ก็ให้ส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือว่าปลัดอำเภออาวุโส มาดำเนินงานแทนได้ แต่ด้วยความที่ว่าท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้น ให้ความสำคัญกับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เป็นอย่างมาก ก็คงจะพยายามสับหลีกให้คลาดกันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะได้ดำเนินโครงการร่วมกันไปอย่างมีคุณภาพ กระผม/อาตมภาพในระหว่างเดินทาง จึงต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังก่อน เมื่อไปถึงวัดท่าขนุนแล้วก็ต้องรีบเข้าประชุมเลย เนื่องเพราะว่าคงจะเลยเวลาประชุมไปสักเล็กน้อย สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2024 เมื่อ 02:27 |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|