|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#141
|
||||
|
||||
![]()
“จงกรมก็อีกคำหนึ่ง ใช้ ร.เรือ บาลีเขาว่า 'จงฺกม' (อ่านว่า จัง-กะ-มะ) ก็คือลักษณะการเดินกลับไปกลับมา คนไทยเรามาลงเมื่อไรก็จงกลม ถ้าพิมพ์ผิดตัวหนึ่ง ก็กลายเป็นวงกลมไปเลย ต้องใช้ 'ร.เรือ' แต่ไปใช้ 'ล.ลิง' กัน
แบบเดียวกับใส่บาตรแล้วบิณฑบาต บิณฑบาตนี่คือ ปิณฺฑ + ปาต มาจากบาลี แล้วไม่มี ร.เรือ แต่ใส่บาตร 'บาตร' นี้แปลงเป็นไทยแล้วมี ร.เรือ เขาก็เลยให้เคล็ดง่าย ๆ ว่า บิณฑบาตพระไม่รอเรา แปลว่าไม่ต้องมี ร.เรือ ใส่บาตรเราต้องรอพระ ดังนั้น เอาร.เรือ ใส่ไปด้วย เคล็ดลับจำง่าย ๆ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:48 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#142
|
||||
|
||||
![]()
โยมสร้างธงมหาพิชัยสงครามมาถวาย “ขอมอบคืนจ้ะ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งไว้นักหนาเลยว่า นอกจากท่านแล้วไม่ต้องไปทำ พระร่วงท่านไม่สงเคราะห์ อย่าไปทำส่งเดช ธงมหาพิชัยสงครามนอกจากหลวงพ่อท่านแล้ว คนอื่นทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำอะไรต้องศึกษาก่อนจ้ะ จะไปทำส่งเดชไม่ได้ เพราะว่าครูบาอาจารย์ท่านสั่งห้ามไว้แล้ว”
ถาม : แล้วทำอย่างไรดีคะ ? ตอบ : เอาไปบรรจุฐานพระ ฐานโบสถ์ ฐานอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีที่ไหนให้บรรจุก็เอาไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:49 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#143
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์ชูสองนิ้วที่คีบเข็มเล่มหนึ่งให้ดู “นี่มึงลงทุนขนาดนี้เลยหรือ ?”
ถาม : อะไรหรือครับ ? ตอบ : มีผู้หวังดีส่งมา อันนี้ไม่เป็นไร อันนี้เสื่อมสภาพแล้ว เล่นให้ต้องคว้าต่อหน้าต่อตาชาวบ้านเลย มีผู้หวังดีปรารถนาดีส่งมาให้ ลงทุนมากไป ไม่รู้ว่าอาตมาเป็นจอมยุทธ ถึงเวลาก็หนีบด้วยสองนิ้ว พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่วันอังคารก็วันเสาร์ ก็เห็นใจนะ เรียนวิชาพวกนี้แล้วร้อน เขาก็ต้องปล่อยไปเรื่อย แต่อาตมาชอบมีดไม้ปืนโบราณ ส่งแบบนั้นมาบ้างก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:50 |
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#144
|
||||
|
||||
![]()
โยมนำพานมาขอรับเข็มที่มีคนส่งมาหาพระอาจารย์ เพื่อเอาไปทำส่วนผสมในการสร้างมีดหมอ
ถาม : อันนี้ไม่ได้ลอยมาตามลม ? (ลมเพลมพัด) ตอบ : ก็คงประเภทที่ว่าเขารักเคารพมาก เขาอยากจะถวาย..! เราเป็นพระ ถึงเวลาเขาถวายก็รับเอาไว้ด้วยความยินดี ถาม : อย่างนี้อานิสงส์ก็ได้คืนร้อยเท่าพันเท่า ? ตอบ : ทำอย่างนั้นไม่ได้ ทำอย่างนั้นเดี๋ยวเขาตาย สมัยนี้เขาไม่เก่ง สมัยก่อนถ้าหากว่าส่งไปแล้วพลาด เขาเรียกกลับคืน สมัยนี้ส่งเป็นอย่างเดียว เป็น One way ticket. หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กวาดกวาดพื้นอยู่ ยกไม้เท้าตีเปรี้ยง บอกลูกศิษย์ เฮ้ย..มันส่งมาให้ เอาไปกินหน่อย เขาเสกเนื้อมาก้อนเบ้อเร่อเลย จะให้เข้าท้อง หลวงปู่ท่านตีตกลงมา ให้ลูกศิษย์เอาไปกินกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:52 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#145
|
||||
|
||||
![]()
สมัยก่อนเวลาเจอพวกไสยศาสตร์ ด้วยความที่ไม่ชอบให้ใครมากวน ไม่ชอบให้ใครมารังแก ก็จะสวนเลย ปรากฏว่าพอปะทะกันไประยะหนึ่ง ก็สู้เขาไม่ได้ ที่สู้เขาไม่ได้ก็เพราะว่า เวลาเขาเดือดร้อน เขาจะไปหาคนที่เก่งกว่า ถ้าหาคนที่เก่งกว่าไม่ได้ เขาก็ไประดมพวกเขามา แล้วก็ผลัดกันทำ เขาเล่นแบ่งผลัดกัน เป็นยามรักษาความปลอดภัยเลย ที่นี้เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ผลัดกันทำอย่างนี้ ส่วนอาตมาเองไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน ท้ายสุดก็เผลอ..โดนจนได้
เคยมีอยู่ระยะหนึ่งที่โดนหนัก ๆ เข้า จนต้องทำเป็นตายไปเลย ก็คือมาอย่างไรก็ช่าง กูทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างเดียว เขาก็คิดว่าทางเราน่าจะตายไปแล้ว ถึงได้เลิก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:53 |
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#146
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : แล้วถ้าอย่างนี้เราแผ่เมตตาไปล่ะคะ ?
ตอบ : แผ่แล้วเขาจะรับไหมเล่า..? ถาม : ถ้าขอขมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรือคะ ? ตอบ : จะช่วยอะไรล่ะ ? ถาม : ก็ขอขมากรรมที่เคยพลั้งพลาดต่อเขาในชาติก่อน ๆ ? ตอบ : ถึงเวลามือปืนจะมายิงกบาล แล้วเราก็ “ขอขมากรรมนะ” ก็คงจะได้อยู่หรอก...! ถาม : ถ้าอย่างนั้นเราจะขอขมาไปทำไมละคะ ? ตอบ : เพื่อให้เราไม่ไปผูกโกรธผูกอาฆาตกับเขา ส่วนเขาจะผูกโกรธผูกอาฆาตต่อไปหรือเปล่า เราก็ไม่ยุ่งแล้ว ก็แปลว่าที่โดนล่ามอยู่สองฝั่ง เราไม่เอากับเขาแล้ว เราปลดทิ้งแล้วส่วนเขาจะมายึด มาเกาะ มาจองเวรจองกรรมต่อไปก็เรื่องของเขา คือเราปลดใจออกมาจากความชั่วตรงนั้น ส่วนเขาจะปลดหรือไม่ปลด ก็เป็นเรื่องของเขา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:55 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#147
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การถวายสังฆทานช่วยให้เขาปลอดภัยจากการไปนรกได้บ้างไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ไม่ได้ดูอย่างนั้น จะไปดูว่าเขาทำบุญให้ใครแล้วคนนั้นมารับหรือเปล่า อย่างนั้นก็เคยมี แต่ถ้าประเภทคนทำแล้วไปไหน ต้องรอคนนั้นตายก่อน..เสียเวลา ถาม : ในกลุ่มเรามีบ้างไหมครับที่ถวายสังฆทานแล้วยังตกนรก ? ตอบ : โอ๊ย...ตกกันเป็นปกติ อย่าลืมว่าสังฆทานเป็นแค่ทาน ที่มั่นคงกว่านั้นก็คือ ศีล สมาธิ ยังเอาไม่ค่อยจะอยู่ บางคนกรรมเก่าเขาแรง พอถึงวาระสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่จิตทรงสมาธิอยู่ ยังมีเสียงรบกวนให้หลุดได้ มีอยู่ทางเดียวที่จะรอดจริง ๆ คือต้องถึงความเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ไม่อย่างนั้นแค่ถวายสังฆทานหวังจะรอดนรกนี่..โอกาสน้อยสุด ๆ โอกาสพลาดยังมี ยังมีเยอะมาก ดีแล้วที่ถามเพราะว่าบางคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน การถวายสังฆทานไม่ใช่ตัวค้ำประกันว่าเราจะไม่ลงนรก ดีไม่ดีจะเป็นตัวพาเราลงนรก เพราะดันไปประมาทว่าเราทำบุญแล้ว และต่อไปก็สร้างแต่กรรม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 10:55 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#148
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ลูกห้าเดือนแล้วครับ ตอนคลอดมีคนถามว่าไปทำอะไรมา ยันต์เต็มเลย ?
ตอบ : ก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แม่ไปเป่ายันต์มาเท่านั้นเอง น่าจะถ่ายวีดิโอเอาไว้ ถึงเวลางานเป่ายันต์ก็เอาไปฉายให้เขาดู จะได้รู้กันว่าที่ทำไปนั้นมีผลจริง ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:20 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#149
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ช่วงนี้เราเดินทางไปไหนได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้...จะเดินทางไปไหนก็ไป แค่ระวังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน ถ้าจะไปก็ควรไปอิหร่าน อิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จะได้รู้ว่าเราสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะไหม...! ถาม : กลับมาก็ให้นั่งพิจารณาไปอีก ๑๔ วัน ? ตอบ : ก็เท่ากับเก็บตัวปฏิบัติธรรม..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:21 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#150
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ในพระคาถาเงินล้าน บางที่ก็ขึ้นด้วยนาสังสิโม บางที่ก็ขึ้นด้วยสัมปะจิตฉามิ อย่างไหนถูกกันแน่คะ ?
ตอบ : อาตมาไม่ได้ยินด้วยตัวเอง แต่เขาบอกว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกให้ตอนอยู่ที่บ้านสายลม แต่คราวนี้คาถาตัวนี้ไม่มีผลกับอาตมา เพราะว่าใช้มาก่อนอยู่แล้ว คือด้วยความที่เคยภาวนาว่าสัมปะฏิจฉามิ สัมปะจิตฉามิมาตลอด พอถึงเวลาตัวคาถาเงินล้าน สัมปะฏิจฉามิก็ต้องต่อด้วยสัมปจิตฉามิเป็นปกติ กลายเป็นว่าใส่ลงไปก่อนที่หลวงพ่อท่านจะบอก ในเมื่อใส่ไปก่อน สัมปะจิตฉามิของอาตมาก็เลยอยู่ข้างใน ไม่เคยไปอยู่ข้างหน้า อาจจะเป็นเพราะว่าอาตมารีบใส่ก่อนก็เลยรวยก่อนกระมัง ? คือช่วงที่หลวงพ่อให้ทำคาถาอภิญญา ภาวนาจนชิน พอถึงเวลาก็เลยใส่ลงไปโดยอัตโนมัติ พอใส่ลงไปอัตโนมัติก็ใช้จนชินแล้วก็ไปเรื่อยเปื่อย ปรากฏว่าพอตอนหลังเห็นเพื่อนคนอื่นเขาใส่ ซึ่งโดยธรรมเนียมของหลวงพ่อ ท่านบอกว่าถ้ามาทีหลังให้อยู่ข้างหน้า ก็เลยเอาไปไว้หัว ก็เลยเป็นสัมปะจิตฉามิขึ้นหัว แต่ว่าอาตมาก็ยังคงขึ้น พรัหมมา จะ มหาเทวา อยู่เหมือนเดิม เพราะใส่ไว้ข้างในอยู่แล้ว มีนาสังสิโมห้อยท้ายไว้ เรื่องของคาถาอยู่ที่ความมั่นใจ ในเมื่อเรามั่นใจก็ใช้ไปเถอะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:23 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#151
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์ให้พรผู้พิการทางสายตาที่มาถวายสังฆทานว่า “ขอให้พ้นทุกข์ไว ๆ มีพระนิพพานเป็นที่ไปกันทุกคนนะจ๊ะ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:24 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#152
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์พูดถึงสินค้าชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนว่า “ข้าวของที่เป็นงานฝีมือของชุมชนของเราขายไม่แพง โดยเฉพาะครั้งที่บอกว่าลงไป ๑๕ นาทีแล้วหมดนั่นเสื้อทอมือ เขาขายกันตัวละ ๔๐๐-๕๐๐ บาท อาตมาเห็นก็สะดุ้ง เฮ้ย...เขาขายกัน ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ บาท ทำไมขายกันอยู่แค่ ๔๐๐-๕๐๐ บาท ?
เขาบอกว่าเขาได้ค่าแรงแล้ว อาตมาก็กลืนน้ำลายเอื๊อก...! เขาลืมไปว่าหลวงพ่อซื้อด้ายไปให้เขาไปตั้งหลายหมื่นบาท เขาคิดแค่ค่าแรงของเขาเท่านั้น เขาไม่มีต้นทุน เพราะด้ายเป็นของหลวงพ่อ อาตมาเองก็น้ำตาจิไหล...! ขายของเอาแค่ค่าแรงพอ ไม่ได้นึกถึงค่าด้ายที่อาตมาให้ไปเลย พวกของชุมชนมีเสน่ห์ตรงความเป็นธรรมชาตินี่แหละ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:25 |
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#153
|
||||
|
||||
![]()
“อาตมาพยายามสนับสนุนเรื่องงานฝีมือชาวบ้าน เพราะว่าถ้าเรามีตลาดให้เขา ชาวบ้านมีที่จำหน่ายได้เขาก็จะทำ ถ้าเขาทำแล้วไม่มีตลาดให้ขาย ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม คราวนี้หลายท่านก็ไม่มีทุน ไม่มีเครื่องมือ อาตมาก็ต้องลงทุนซื้อพวกเครื่องทอผ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปให้เขา แล้วก็ยังต้องให้คณะที่เต็มใจ สละเวลาไปสอนวิธีทอผ้าให้เขา แล้วยังต้องช่วยกันออกแบบลาย
งานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนที่ขึ้นมาเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบที่มีผลงานโดดเด่น เกิดจากบารมีหลวงปู่สาย เพราะว่าบรรดาคณะทำงานเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ทั้งหมด ทีนี้พออาตมาไปเป็นเจ้าอาวาสก็เลยเบาแรงไปเยอะ มีหน้าที่อย่างเดียวก็คือ ทำอย่างไรถึงจะยกหลวงปู่ให้เด่นขึ้นมาได้ ถ้ายกหลวงปู่ให้เด่นขึ้นมา เขาก็จะไม่รู้สึกว่าหลวงปู่ไม่อยู่ เพราะฉะนั้น..ทุกวันนี้เข้าศาลาเมื่อไร เขาก็ตรงดิ่งไปกราบหลวงปู่ได้เลย อาตมาสร้างเรือนไทยตรีมุขตั้งสังขารท่านไว้ในศาลา”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2020 เมื่อ 11:27 |
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#154
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หนูฝึกมโนมยิทธิมา ครั้งแรกขอเครื่องยืนยันแล้วได้ ครั้งที่สองขอแล้วไม่ได้ เป็นเพราะอะไร แล้วหนูต้องแก้ไขตรงไหนคะ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเขาให้เชื่ออารมณ์แรกแล้วอย่าขี้สงสัย จะขี้สงสัยได้ต้องคล่องตัวพอแล้ว ไม่อย่างนั้นถึงเวลาแล้วกำลังใจของเราจะไม่นิ่ง พอไม่นิ่งก็จะพลาด ถาม : มีคนพาหนูไปฝึกสมาธิ เป็นครั้งแรกที่เห็นพระพุทธเจ้า (เป็นภาพแบบพระพุทธรูป) ได้ด้วยจิต ไม่ใช่แค่การคิด แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วค่ะ หนูควรทำอย่างไรต่อดี ? ตอบ : เลิกอยาก...อยากเป็นอย่างนั้นเมื่อไร กำลังใจไม่มั่นคงก็เข้าถึงไม่ได้ คือบางส่วนเป็นความอยากแต่เราไม่รู้ ให้สังเกตว่าถึงเวลาเราทำแล้วต้องการแบบนั้นอีก นั่นคืออยาก ถ้าอยากใจจะฟุ้งซ่าน ไม่นิ่ง เหมือนน้ำกระเพื่อม พอน้ำกระเพื่อม สะท้อนเงาอะไรก็เบลอ ๆ หลายท่านก็อยาก แล้วสงสัยว่าถ้าไม่อยากแล้วจะทำไปทำไม ? อยากได้..ไม่ห้าม แต่ตอนปฏิบัติต้องลืมความอยากให้ได้ แค่นั้นแหละ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2020 เมื่อ 22:04 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#155
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หนูหายใจไม่เต็มปอดบ่อย ๆ หมอบอกเป็นอาการเครียดไม่รู้ตัว หนูตามลมหายใจไม่ได้ หนูเลยแยกไม่ออกว่าเป็นเพราะหนูป่วยหรือเพราะจิตฟุ้งซ่าน ควรแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : เรื่องของสมาธิอยู่ที่ลมหายใจของเรา จะยาวจะสั้นไม่ใช่สาระ หายใจเข้ายาวรู้ว่าหายใจเข้ายาว หายใจออกยาวรู้ว่าหายใจออกยาว หายใจเข้าสั้นรู้ว่าหายใจเข้าสั้น หายใจออกสั้นรู้ว่าหายใจออกสั้น รู้ตามธรรมชาติของลมหายใจที่เป็นอยู่ จะสั้นจะยาวอย่างไรก็เรื่องของลม เรามีหน้าที่แค่รู้ ถาม : ถ้ารู้สึกอึดอัดล่ะคะ ? ตอบ : ถ้ารู้สึกว่าอึดอัดก่อนที่จะนั่งภาวนา ก็หายใจยาว ๆ สัก ๔ -๕ ครั้งระบายลมหยาบทิ้งไปก่อน แล้วก็ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ค่อย ๆ ตามดูไป ถาม : หนูเข้าใจมาตลอดว่า..."เครียด = ตั้งใจ" เลยเดินสายกลางไม่เป็น เวลาปฏิบัติเลยเครียด ควรแก้ไขอย่างไรคะ? ตอบ : ถ้าหากว่าจะแก้ เรามีหน้าที่ปฏิบัติ จะได้หรือไม่ได้ช่างมัน ทำกำลังใจไว้อย่างนี้ จะได้ไม่ต้องไปเครียด คือถ้าได้ก็กำไร ถ้าไม่ได้ก็เท่าทุน ไม่มีขาดทุน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2020 เมื่อ 22:05 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#156
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หนูสู้ทิฐิตัวเองไม่ได้ค่ะ ชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าชาวบ้านตลอด ด่าตัวเองอย่างไรก็ไม่สำนึก พยายามเจียมตัวก็ไม่ได้ ต้องแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : ค่อย ๆ ละไปทีละน้อย เรื่องของสักกายทิฐิ หรือมานะถือตัวถือตน เป็นสังโยชน์คือกิเลสใหญ่มาก ระดับพลเอกประมาณว่ายืมนาฬิกาเพื่อนได้ที ๒๐ กว่าเรือนอะไรอย่างนั้น..! ในเมื่อกิเลสใหญ่ขนาดนั้น เราต้องค่อย ๆ ละไป แรก ๆ พอรู้ตัวก็พยายามหักห้ามใจตัวเองก่อน ว่าเราเองจะถือทิฐิถือมานะขนาดไหน หรือว่าไม่ถือทิฐิไม่ถือมานะขนาดไหน ท้ายสุดตายเหมือนกันหมด พยายามสรุปลงตรงนี้ แล้วจะค่อย ๆ ลดลงไป คือเจ้า ๑๐ ตัวนี้ ถ้าตัดขาดก็คือจบเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2020 เมื่อ 22:05 |
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#157
|
||||
|
||||
![]()
ในเรื่องของคำถาม ควรจะเป็นลักษณะอย่างนี้ คือเราทำแล้วติดขัดตรงไหน ก็มาถาม จะได้แก้ไขตรงจุดนั้นได้ หลายคนถามฟุ้งซ่านไปเรื่อย
วันก่อนท่านเจก็มาถามว่าออกไปธุดงค์ ไปเจอชาวบ้านเอาก้อนแร่บางอย่างมา เอาตะปูวางลงไปพักเดียว ตะปูป่นเป็นผงหมดเลย เรียกว่าแร่อะไร ? ถามแล้วได้ประโยชน์อะไรวะ ? แค่รู้ว่ามันคืออะไรขึ้นมาแค่นั้นเอง แล้วช่วยให้ละกิเลสได้ไหม ? ส่งคำถามมาเป็นหน้ากระดาษ หลวงพ่อขยำทิ้งลงถังขยะไปเลย ไม่ได้ตอบสักข้อหนึ่ง ตอบไปแล้วกูเหนื่อย แล้วไม่ได้อะไรเลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2020 เมื่อ 10:43 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#158
|
||||
|
||||
![]()
เอาอะไรที่เป็นอรรถเป็นธรรมบ้าง เวลามีน้อย คำว่า เวลามีน้อยก็คือ ชีวิตนี้ของเรามีน้อย ตายลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้ จะไปรู้เรื่องนอกทุ่งนอกท่า รู้แล้วไม่ช่วยในการละกิเลส เกิดตายแล้วลงอบายภูมิ ก็ขาดทุนอีก ภาษาโบราณเรียกว่า เสียชาติเกิด เกิดมาชาติหนึ่งแล้วเอาดีไม่ได้
อาตมาถือว่าโชคดี ดีมาก ๆ เลย ตรงที่ว่าตั้งแต่เด็กลุยเอาไว้เยอะ ข้อสงสัยอะไรทุกอย่าง ได้รับการพิสูจน์ทราบแล้ว ไม่ว่าจากการค้นคว้าตำรา สอบถามครูบาอาจารย์ หรือผ่านการปฏิบัติมาด้วยตนเอง ฉะนั้น..พอบวชเข้ามาก็มุ่งตรงอย่างเดียว ถ้าไม่มีเวลาระยะที่ยาวนานตั้งแต่สมัยเด็กมา คาดว่าก็คงเสียเวลามานั่งถามโน่นถามนี่เหมือนกัน คราวนี้โยมบางคนถาม อาตมาเสียดายเวลาแทน เดี๋ยวออกไปเจอคนจามใส่หน้าพอดี อีก ๑๔ วันตาย...! แล้วจะไปถามอะไรอีก ฉะนั้น..รีบ ๆ ทำจุดที่ตัวเองติดไว้ ต้องผ่านไปให้ได้ภายใน ๑๔ วัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2020 เมื่อ 10:44 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#159
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเด็ก ถ้าเรานำเขาเข้าทางธรรมได้เร็วเท่าไร ก็เป็นประโยชน์แก่เขามากเท่านั้น อาตมาถือว่าโชคดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทุกอย่างเอื้อต่อการปฏิบัติธรรมตั้งแต่รู้ภาษา เริ่มรู้ภาษาเพิ่งจะขวบกว่าสองขวบ พ่อก็อุ้มพาดบ่าคอพับคออ่อนสวดมนต์อยู่ทุกวัน หลับบ้างตื่นบ้าง จำได้หมดว่าพ่อสวดอะไร ถึงเวลาไปโรงเรียนเมื่อนำสวดมนต์ได้ ครูจึงให้เป็นหัวหน้าชั้น
พอไปเรียน สมัยนั้นยังหยุดวันโกนวันพระอีก ในเมื่อหยุดวันโกนวันพระ ถึงเวลาวันโกนครึ่งวัน ครูก็ให้เลิกเรียน พาไปวัด ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดวัด ล้างถ้วยล้างจาน ถูศาลา อาตมาหลับทุกวัน ทำงานเสร็จแล้วหลับ บรรยากาศวัดน่านอนมาก โดยเฉพาะกระดานเวลาถูลื่น ๆ นี่เย็นอย่าบอกใคร เลื้อยลงไปได้ ลมโกรกมาก็หลับ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นเรื่องสมาธิ รู้อยู่อย่างเดียวว่าบรรยากาศเอื้อให้นอน แต่ความจริงบรรยากาศเอื้อเฟื้อให้ฝึกสมาธิ เรียกว่าเป็นสัปปายสถาน คือสถานที่เหมาะสม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2020 เมื่อ 02:08 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#160
|
||||
|
||||
![]()
"ถึงเวลาวันพระ แม่ทำกับข้าวใส่ปิ่นโต ให้พี่สาวเอาไปทำบุญที่วัด คราวนี้สมัยก่อนผู้หญิงออกจากบ้าน ถ้าไม่ไปกับพ่อแม่พี่น้องตัวเอง เขาก็ไม่ให้ไป อาตมาก็ต้องตามพี่สาวไปวัด ไม่ได้ไปเป็นผู้คุมพี่สาวอย่างที่แม่หวังหรอก ถึงเวลาหนุ่มเขาก็ซื้อไก่ปิ้งให้ ๑ ไม้ "เอ้า..ไอ้หนูไปกินไกล ๆ ทางโน้น" ไปนั่งแทะไก่ย่างอยู่ไกลลิบ ทางนี้เขาจีบอะไรกันก็ไม่รู้ ดังนั้น..ไม่มีประโยชน์อะไรให้อาตมาไปกับพี่สาว หนุ่ม ๆ เขารู้วิธีจัดการกับตัวเกะกะ
ดังนั้น...ในเมื่ออยู่ในสถานที่เอื้ออำนวย แล้วก็ชอบด้วย ก็เลยปฏิบัติได้ก้าวหน้า หลวงปู่หลวงพ่อสมัยนั้น พอขึ้นไปเป็นระดับเจ้าอาวาสต้องมีดี ในเมื่อมีดีเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ ใครที่ดีกว่าดังกว่าก็จะมีชื่อเสียง ที่ไม่ดีไม่ดังในความรู้สึกของคนทั่ว ๆ ไปก็ยังพึ่งได้ทุกรูป เพราะว่าสมัยโน้นเขาบังคับเรียน ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ เวทมนต์คาถาอะไร อย่างน้อยชาวบ้านเดือนร้อนมาต้องเป็นที่พึ่งของเขาได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2020 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|