|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#181
|
||||
|
||||
"งานนี้พระครูวิโรจน์กาญจนเขต อดีตพระมหานัทกฤต ทีปงฺกโร ให้หมอเจาะสันหลัง ก่อนจะไปให้หมอเจาะ โทรมา "หลวงพ่อครับ ขอเป็นวัณโรคนะครับ ไม่เป็นมะเร็ง" "เออ..ของอย่างนี้เลือกได้ด้วยนะ" ไม่ทราบว่าไปติดเชื้ออะไรมา ตอนนี้ผอมกะหร่องเลย
ท่านบอกว่าที่ท่านเลือกวัณโรค เพราะว่าสมัยนี้วัณโรครักษาง่าย แต่มะเร็งยังไม่มียาอะไรรักษาได้แน่นอน ท่านก็เลยบอกว่า "หลวงพ่อครับ ขอเป็นวัณโรคนะครับ ไม่เอามะเร็ง" หุ่นผอม ๆ แบบนี้ก็น่าจะมะเร็งรับประทาน ตอนนี้น้ำหนักคงจะเหลือไล่ ๆ อาตมา แล้วเทอมนี้ให้ท่านช่วยสอนวิชาวิสุทธิมรรคศึกษาแทนด้วย ยังถามท่านว่าไหวไหม ? "ยังไหวครับ" "ถ้าไหวก็ไปสอน" ทีนี้ถ้าหากว่าเป็นวัณโรคก็คงจะได้ใส่หน้ากากสอน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:41 |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#182
|
||||
|
||||
โยมเอาวัตถุมงคลมาให้ดู "องค์นี้น่าจะเป็นผงมหาโสฬส ลองไปหาข้อมูลดู เพราะว่าเนื้อเป็นสีขาว ผงคลุกรักออกสีน้ำตาลเข้มจนดำ เป็นเนื้อผงมหาโสฬสก็ถือว่าโชคดี หายากกว่าหลายเท่า ที่เขาต้องคลุกรักเพราะว่าต้องการเพิ่มเนื้อ จะได้สร้างได้มากองค์ขึ้น
คุณลองคิดดูว่าต้องใช้ชอล์กค่อย ๆ เขียน ค่อย ๆ ลบ กว่าจะได้ผงพอทำพระองค์หนึ่งนี่นานแค่ไหน ? แล้วยังเสกอีก ๓ ปี กว่าจะเขียนเสร็จ กว่าจะสร้างพระ กว่าจะเสกเสร็จ ไม่หนี ๔ - ๕ ปีเข้าไปแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:42 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#183
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เตือนว่า "เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งแต่เนิ่น ๆ นะ ตุนน้ำเอาไว้ในบ้านบ้าง หาถัง ๕๐ ลิตร ถัง ๑๐๐ ลิตร ถังสีฟ้า ๆ มาใส่น้ำไว้สัก ๒ - ๓ ถัง เผื่อน้ำมาไม่พอใช้ จะได้มีใช้อีกสักวันสองวัน ญาติโยมยังไม่เจอความอนาถของคนเมืองแบบอาตมา สมัยประมาณปี ๒๕๑๙ - ๒๕๒๐ เข้ากรุงเทพฯ มา จะหุงข้าว ต้องลุกขึ้นมารองน้ำตั้งแต่ตี ๔ ถึงจะมีน้ำพอหุงข้าว ถ้าจะซักผ้าก็ต้องตื่นมารองน้ำตั้งแต่ตี ๒
สมัยนั้นน้ำหายาก โทรศัพท์หายาก วางมัดจำ ๓,๐๐๐ บาท ขอโทรศัพท์บ้าน ๑๐ ปียังไม่ได้เลย พอองค์การโทรศัพท์เริ่มฟื้นตื่น ออกหมายเลขโทรศัพท์บ้านสองล้านหมายเลขมาได้ไม่กี่วัน มือถือก็ตามมา โทรศัพท์บ้านตายเกลี้ยง..! ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า ตายโคม ตายโคมก็คือไข่กำลังจะฟักเป็นตัวแล้วตายคาไข่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:43 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#184
|
||||
|
||||
"เทคโนโลยีแต่ละอย่างไปเร็วมาก ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือทำหน้าที่แทนโทรทัศน์ แทนโทรศัพท์ แทนคอมพิวเตอร์ แทนเครื่องคิดเลข แทนนาฬิกา แทนกล้องถ่ายรูป เพราะฉะนั้น..อย่างอื่นที่ว่ามานี่จวนจะตายหมดแล้ว
ความเจริญเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ให้เขาสนับสนุนให้เรามีความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติธรรม หรือการดำเนินชีวิตทางโลก แต่อย่าให้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:44 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#185
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้เรื่องการกีฬาของบ้านเราค่อนข้างจะตกต่ำ ๘ ปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลไทยตกรอบแรกซีเกมส์ แต่ขอโทษ..เขมรเข้ารอบไปแล้ว
เราจะเห็นว่าในระดับเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นกีฬามหาวิทยาลัยโลก หรือในระดับที่ยังใช้นักศึกษาแข่งขันอยู่ ของเราสู้ได้ทั้งโลก แต่พอถึงระดับชาติ ระดับผู้ใหญ่เมื่อไร เรื่องของผลประโยชน์จะเข้ามา เพราะว่ามีผู้สนับสนุน มีเงินเดือน มีเงินพิเศษ ในเมื่อมีผลประโยชน์เข้ามา ก็เลยทำให้ทุกอย่างต่อรองกันด้วยผลประโยชน์ ถมเท่าไรไม่รู้จักเต็ม แล้วความก้าวหน้าจะมีมาจากไหน ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:45 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#186
|
||||
|
||||
โยมมาขอพรปีใหม่ "ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๓ ไม่ว่าท่านจะปรารถนาสิ่งใด ถ้าหากว่าเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรมวินัยแล้วไซร้ ขอให้ความปรารถนานั้นจงสำเร็จทุกประการด้วยเทอญ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:45 |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#187
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พรุ่งนี้ต้องหนีงานตรงนี้ ไปรับรางวัลอีกแล้ว รางวัลหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ไม่น่าเชื่อว่าทำไปทำมาจนเป็นต้นแบบ แต่การเป็นต้นแบบนั้นไม่ค่อยดี เพราะว่าคนไปดูงานแต่ละครั้ง ทางเราจะมีค่าใช้จ่ายสามหมื่นสี่หมื่น ต้องเลี้ยงเขา ต้องเรียกคนเอางานมาให้เขาดู ต้องมีรางวัลนักแสดง แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ควักได้ก็ควักไปเรื่อย บางคนก็ไม่เกรงใจเลย พาเด็กนักเรียนมาดูงาน ๓๐๐ คน ตาย..! เด็ก ๓๐๐ คนนี่กินกระจายขนาดไหน ? แต่ก็เอาเถอะ..อย่างน้อยถ้าสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขาได้ก็ทำไป
ปัจจุบันนี้อาตมารับรางวัลค่อนข้างมาก ของพรุ่งนี้เป็นชิ้นที่ ๑๐ ของปีแล้ว ๑๒ เดือนรับ ๑๐ รางวัลนี่โหดเกินไปไหม ? ก็เพราะว่าทำงานต่อเนื่องมาหลายปี ก็เหมือนกับว่าช่วงนี้เป็นช่วงออกดอกออกผล หน่วยงานต่าง ๆ ทุกหน่วยงานที่เคยมาร่วมมือกันเห็นผลงานตรงนี้ ก็ขอรางวัลโน้นให้ ขอรางวัลนี้ให้ ความจริงจะว่าไปแล้วก็ดี เพราะว่ารางวัลที่ได้มา ทำให้บุคลากรที่เราใช้งานอยู่เขามีกำลังใจ แต่ถ้าถามลำพังตัวเองแล้ว เขาจะให้หรือไม่ให้อาตมาก็ทำ ทำจนเข้าเส้นเลือดระดับ "ลิซึ่ม" ไปแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:48 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#188
|
||||
|
||||
"ในเรื่องของการทำความดีที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตรัสไว้ว่า ต่อให้เป็นการปิดทองหลังพระ ถ้าเราปิดไปนานมากพอ ก็จะล้นออกมาข้างหน้าแล้วคนเขาเห็นเอง
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่อาตมาทำเพราะต้องการรางวัล แต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก เพื่อความสุขของคนหมู่มาก ทำเพื่อค้ำจุนพระศาสนา ถึงเวลาคนเขาเห็น กลายเป็นรางวัลมา ก็ถือว่าเป็นผลตอบแทนทางโลก ๆ แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่านั้น ก็คือการที่คนส่วนใหญ่เข้าถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ของพระพุทธเจ้า เพราะว่านั่นถึงจะเป็นประโยชน์ที่แท้จริง คราวนี้เรื่องของการช่วยคนเข้าถึงธรรม จะวัดเป็นรูปธรรมได้ยาก ในเมื่อวัดเป็นรูปธรรมได้ยาก ก็ทำให้คนไม่สามารถที่จะให้เป็นรางวัลอะไรออกมายืนยันได้ ไม่อย่างนั้นอาตมาน่าจะได้อีกหลายรางวัล..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:50 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#189
|
||||
|
||||
โยมถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าหนักตัก ๓ เซนติเมตร "พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ ต้องบอกว่าเป็นการสร้างแบบธรรมะจัดสรร ที่บอกว่าเป็นธรรมะจัดสรร เพราะว่าครั้งแรกอาตมาสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก ๑ เซนติเมตร โยมเขาบอกว่า ถ้าได้ใหญ่กว่านี้สัก ๓ เท่าจะกำลังสวย อาตมาก็พาซื่อ ขยายหน้าตักเป็น ๓ เซนติเมตร
ปรากฏว่าหน้าตัก ๓ เซนติเมตรใหญ่กว่าเป็น ๑๐ เท่า ถือว่าเป็นเรื่องของธรรมะจัดสรร ท่านอาจจะอยากได้ขนาดนี้ เพราะว่าเห็นชัดเจนดี แล้วก็สร้างได้แค่ไม่กี่องค์ เพราะว่าใช้เนื้อเงินเยอะกว่าหลายเท่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:50 |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#190
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาบอกว่าคนจบปริญญาเอกพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง อาตมาเองก็ยังสงสัยว่าตัวเองพูดแล้วคนอื่นรู้เรื่องหรือเปล่า ? ที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะว่าหลายคนขึ้นแล้วลงไม่เป็น สมัยก่อนอาตมาบรรยายร่วมกับ ดร.โกมล แพรกทอง ท่านเป็นคนที่มีความรู้ในสาขาของตนลึกซึ้งมาก แต่เวลาไปบรรยายท่านใช้คำสูง อย่างเช่นว่า อุปโภคบริโภค เศรษฐกิจ ชาวบ้านมีแต่กะเหรี่ยงล้วน ๆ รู้จักแต่ "ออมี ออที" แล้วจะไปทำอย่างไร ? อาตมาก็ต้องไปแปลเป็นไทยให้เขาฟังอีกที ว่าที่พูดมานั้นท่านหมายถึงอะไร"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:51 |
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#191
|
||||
|
||||
"ที่เขาบอกว่าบางคนจบปริญญาเอกแล้วพูดไม่รู้เรื่อง ก็คือลักษณะอย่างนี้ ติดวิชาการมากเกินไปจนใช้ภาษาชาวบ้านไม่เป็น
สมัยก่อนที่ยังทำงานอยู่ส่วนเผยแผ่จริยธรรมของกรมป่าไม้ เวลาบรรยายให้ทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ดี หรือว่าการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยก็ดี บางทีอาตมามีแค่ชั่วโมงถึงสองชั่วโมง แต่พอพูดไปพูดมา พวกวิทยากรเขาบอกว่า "หลวงพ่อว่ายาวไปเลยครับ" โดนไป ๖ - ๗ ชั่วโมงก็มี เพราะว่าคนอื่นพูดแล้วชาวบ้านฟังไม่รู้เรื่อง นั่งหลับกันหมด แต่อาตมาก็ชอบนะ เพราะว่าได้ค่าพูดชั่วโมงละ ๘๐๐ บาท..! เขาเรียกว่าขึ้นแล้วลงไม่เป็น เหลียวหลังไม่เป็น การปฏิบัติธรรมที่ดีต้องเหลียวหลังแลหน้า มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง ถามว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับหลักธรรม ? ก็คือหลักวิมังสา ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ทำอะไรไปถึงไหน ? ยังเหลืออีกเท่าไร ? ตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:53 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#192
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนตอนท่านเจ้าคุณอนันต์ท่านยังเป็นพระครูปลัดอยู่ ท่านบอกกับบรรดาพระน้อง ๆ ว่า “ถ้าพวกคุณอยากธุดงค์แบบมีเสือมีช้างก็ไปหาท่านเล็กนะ” เจอไป ๒ รุ่นเท่านั้นแหละ ไม่มีใครไปอีกเลย โดยเฉพาะรุ่นของท่านโย
อาตมาถามพวกเขาว่า “ไปธุดงค์ คุณจะฉันหรือไม่ฉัน ? ถ้าจะฉัน ผมจะได้แบกเสบียงไปเผื่อ ถ้าไม่ฉัน ก็ไม่ต้องเอาไป” พวกท่านบอกว่า “ตามใจหลวงพี่ครับ” “ถ้าตามใจผม ก็ไม่ต้องฉัน” หายเข้าป่าไป ๓ วัน พวกท่านบอกว่า “หลวงพี่กลับเถอะครับ ไม่มีแรงจะเดินแล้ว” เดินออกมาเหลืออีกประมาณ ๑๖ กิโลเมตรจะถึงถนน ท่านเป็ดก็ไม่ไปแล้ว บอกว่า “ผมยอมตายอยู่ตรงนี้แหละ เดินไม่ไหวแล้ว..!” ส่วนท่านสหชาติเดินตามมาจนเหลืออีกประมาณ ๓ - ๔ กิโลเมตรจะถึงถนน ก็หมดสภาพ อาตมาก็เลยต้องแบกกลดสะพายบาตรและย่าม ๓ ชุด ออกมาข้างนอกคนเดียว มาถึงก็บอกชาวบ้านที่ขี่มอเตอร์ไซค์ว่า “รบกวนเข้าไปช่วยเก็บพระให้ที อาตมาทำพระหล่นอยู่ในป่า ๒ รูป..!” พอพักฟื้นดี กลับไปวัดท่าซุง ข่าวที่ว่า “หลวงพี่เล็กพารุ่นน้องไปฝึกธรรมปีติ” ก็ระบือลือลั่น..! ก็ถามแล้วว่าจะกินไหม ? ดันมาบอกว่าตามใจ ตามใจก็ไม่ต้องกิน เพราะฉะนั้นได้โปรด...ต้องการอะไรให้บอกตรง ๆ อย่าให้อาตมาตัดสินใจแทน ตัดสินใจแทนเมื่อไรก็จุกเมื่อนั้นแหละครับ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:57 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#193
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่อาตมามาบวช สาเหตุหนึ่งก็เพราะว่าเลี้ยงหลานมา ๓๒ คน ก็คือมีพี่ ๘ คน ความจริงพี่มี ๙ คน แต่ว่าพี่ ๘ คนที่แต่งงานไป เขาหาหลานมาให้ช่วยเลี้ยง ๓๒ คน เฉลี่ยคนละ ๔ มีพี่มุกดาคนเดียวที่ร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก แต่งงานแล้วก็แท้ง ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเลี้ยงคนที่ ๓๓ - ๓๔ คราวนี้พอเลี้ยงเยอะ ๆ แล้วเบื่อ เลี้ยงมาจนเข็ด หนีไปบวชดีกว่า..!
ต้องบอกว่าเป็นบุญของพี่มุกดา เป็นสุดยอดลูกสะใภ้ รับหน้าที่การงานแทนทุกอย่าง แทบจะแบกครอบครัวของสามีไว้ทั้งครอบครัว แต่พอถึงเวลาไม่มีลูก ครอบครัวคนจีนเขาอยากได้ลูก เขาก็หาสะใภ้รองให้ทางบ้าน พี่มุกดาก็คงประมาณว่า ทำให้ทุกอย่างแล้วยังมาทำกันอย่างนี้อีก ในเมื่ออยากได้ลูกนักก็ให้เขาทุกอย่าง จึงถอนตัวออกมาจากครอบครัวนั้น แต่ปรากฏว่าด้วยความที่ทำงานแทนเขาทุกอย่าง จนกระทั่งคนที่มาแทนทำไม่ได้ พอถึงเวลาพี่เขาถอนตัวออกมา กิจการก็เลยล่มไม่เป็นท่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:42 |
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#194
|
||||
|
||||
"ไม่มีครอบครัวได้ ถือว่าโชคดี อาตมาได้ยินบางคนพูดแล้วใจหาย เขาบอกว่า เลี้ยงลูกชาย ถ้าไม่ติดยา ไม่เป็นตุ๊ด ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เลี้ยงลูกสาว ถ้าไม่ท้องก่อนเรียนจบก็ถือว่าประสบความสำเร็จ โห...ทำไมสังคมเราไปได้ไกลขนาดนี้..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:43 |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#195
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในแต่ละวันการรักษากำลังใจของเราสำคัญที่สุด อย่าให้กำลังใจไหลตาม รัก โลภ โกรธ หลง โดยเฉพาะว่าเราต้องคลุกคลีตีโมง ทำกิจการงานต่าง ๆ กำลังใจของเราต้องให้นิ่งสงบเหมือนกับน้ำก้นบ่อลึก ๆ ส่วนผิวน้ำต้องกระเพื่อมไปตามแรงลมบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าต้องปฏิสัมพันธ์กับบุคคล หรือว่าปฏิบัติหน้าที่การงานของตัวเอง ก็ให้ผิวหน้าของบ่อน้ำเป็นไปตามสภาพของทางโลก ส่วนกำลังใจก็ให้นิ่งสงบเหมือนกับน้ำก้นบ่อ ไม่ไหลไปตาม รัก โลภ โกรธ หลง โดยเฉพาะไม่หวั่นไหวไปกับโลกธรรม ๘"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:44 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#196
|
||||
|
||||
มีโยมเอาพระหลวงปู่ปานมาให้ดู "ปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื้อไม่ใช่ พิมพ์ไม่ใช่ คือผิดเนื้อ ผิดพิมพ์ อย่างอื่นไม่ต้องคิด ของหลวงปู่ปานจะบางกว่านี้สักหุนกว่า ๆ อันนี้หนาเกินไป ที่ว่าไม่สวย ไม่ชอบ ไม่เล่น ไม่ใช่อาตมา สำหรับอาตมาเก๊คือเก๊ แท้คือแท้ จบแค่นั้น
พระหลวงปู่ปานใช้ดินท้องนาทำ เนื้อจะไม่แน่นเปรี๊ยะเงาวับแบบนี้ ผิดเนื้อผิดพิมพ์ก็เป็นอันว่าจบกัน เพราะว่าผิดอย่างเดียวก็ไปไม่รอดแล้ว นี่ผิดหมดเลย คือถ้าทั่ว ๆ ไปใช้ได้ เพราะหลวงปู่ปานท่านให้พรเอาไว้ว่า ของท่านจะใหม่จะเก่า จะจริงจะปลอม ถ้านึกถึงท่าน มีอานุภาพเหมือนกันหมด คราวนี้เขาให้มาใช้หนี้คุณ ในเมื่อใช้หนี้ก็โปรดเอาของจริงมาด้วย เพราะว่าเงินของเราคือเงินแท้ ถ้าไม่ได้ใช้หนี้พระแบบนี้เอาไปใช้งานได้ นึกถึงหลวงปู่ท่านก็ใช้ได้เหมือนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:45 |
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#197
|
||||
|
||||
มีโยมซื้อมีดจากต่างประเทศมาถวาย "บ้านเราทำได้ดีกว่าตั้งเยอะ คราวหน้าของพวกนี้อย่าไปซื้อ แพงโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะเงินมาร์กของเยอรมันแพงมาก บ้านจ่าตุ่มทำได้สวยกว่านี้เยอะ ไปต่างประเทศไม่ต้องเอาของฝากมาให้อาตมา เอาชีวิตรอดกลับมาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:45 |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#198
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงถ้าอากาศหนาวขนาดนี้สัก ๔ เดือน ก็คงประหยัดเครื่องปรับอากาศไปได้เยอะ คราวนี้ต้องลุ้นกันขาดใจว่าจะได้กี่วัน
ทองผาภูมิ ๕ - ๖ ปีที่ผ่านมา ไม่เคยต่ำกว่า ๑๔ องศาเซลเซียส มาปีนี้ได้ ก่อนนี้ถ้าหากว่าเป็นธันวาคม มกราคมจะอยู่ที่ ๗ - ๘ องศามาตลอด คราวนี้สภาพของโลกร้อนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำลงนี่น่ากลัว เพราะว่าจะต่ำก็ต่อเมื่อความชื้นในอากาศน้อย ถ้าความชื้นในอากาศน้อย โอกาสที่จะเกิดภัยแล้งมีสูงมาก ความชื้นในอากาศถ้ามีน้อย จะดึงความชื้นจากตัวเราออกไป ยิ่งโดนดึงออกไปเร็วเท่าไรก็ยิ่งหนาวมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น..คนที่ไปอยู่ในเขตหนาว ๆ หมอถึงเตือนว่าให้พยายามจิบน้ำตลอดทั้งวัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:46 |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#199
|
||||
|
||||
ถาม : (พูดถึงดวงดาวอื่น)
ตอบ : ที่อื่นเขาสบายเกินจนไม่รู้ว่าทุกข์เป็นอย่างไร ถ้าพระพุทธเจ้าไปตรัสรู้ก็คงสอนคนที่นั่นไม่ได้ ที่นี่เขาเรียกมงคลจักรวาล เพราะว่าเป็นจักรวาลที่มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ สุขทุกข์ปนกันไปจนกระทั่งเขาเห็นชัดเจน จึงเข้าถึงธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ที่อื่นส่วนใหญ่สบายเกิน อายุก็ยืนนาน พอบอกว่าไม่เที่ยง บอกว่าเป็นทุกข์ เขาฟังไม่รู้เรื่อง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:47 |
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#200
|
||||
|
||||
ถาม : จะเปิดร้าน เป็นอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : ก็ต้องบอกว่าดี คราวนี้สำคัญที่ว่าอันดับแรกคือทำเล อันดับที่สองทำเองหรือเปล่า ? ถ้าหวังอาศัยคนอื่นก็มีสิทธิ์เจ๊ง ประการสุดท้าย เงินทุนยืดยาวพอไหม เพราะว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ค่อยดี ถาม : ทำเลปลอดภัยไหมเจ้าคะ ? ตอบ : ทุ่มเทไปเลย ถาม : ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ? ตอบ : นิดหน่อยก็แก้ได้ แล้วจะไปสนใจอะไรกับมัน ปัญหามีไว้แก้ ที่แน่ ๆ คือมีไว้พิสูจน์ว่าเรามีฝีมือหรือเปล่า ถ้าแก้ได้ก็มีฝีมือ ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไร้ฝีมือ เพราะฉะนั้น..ปัญหายิ่งเยอะยิ่งดี แก้ไขไป ได้ประสบการณ์ สนุกกับชีวิตอีกต่างหาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 11:48 |
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|