|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
||||
|
||||
![]()
"อาตมาจึงสรุปได้ว่าเราไม่ได้บ้า ตอนเด็ก ๆ ตกใจมากว่าทำไมฟันขึ้นที่เพดานปาก เรื่องของเรื่องที่เล่าให้ฟังก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้แก่แล้วไม่รู้ว่าจะหลุดไปเมื่อไร ถึงเวลาหลุดแล้วจะเอามาให้ประมูลกัน ...(หัวเราะ)...
คนที่ได้ฟันอาตมาที่หลุด ๒ ซี่ไปคือหมอฟัน หมอถอนเสร็จแล้วไม่คืนด้วย เป็นหมอที่อุทัยธานี ด้วยความที่อาตมาเข้าใจผิดเพราะว่าฟันผุ หมอบอกต้องรักษารากฟัน ลำบากหน่อยเพราะต้องไปบ่อย อาตมาไม่ค่อยมีเวลา และคิดว่าฟันน้ำนมของเราตรงส่วนนี้ยังไม่เคยหลุด ถอนแล้วน่าจะขึ้น ลืมไปว่าตัวเองอายุ ๒๐ กว่าแล้ว จะไปขึ้นอะไร จำไว้ว่าถ้าอายุเกินเกณฑ์แล้ว ฟันน้ำนมต่อให้ไม่หลุดก็กลายเป็นฟันแท้ไปแล้ว บางคนพออายุมาก ๆ เข้าเหมือนกลับไปเป็นหนุ่มอีกที มีบางคนมีฟันชุดที่ ๒ ที่ ๓ ด้วย อาตมาถ้าอยู่จนถึงฟันชุดใหม่ขึ้นก็คงต้องตะบันน้ำกิน อาตมาเป็นคนอายุสั้น ตายตั้งแต่ยังไม่ทันจะบวช ในอดีตหลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่า อาตมาเป็นทหารฆ่าเขามาทุกชาติ กรรมปาณาติบาตหนักมาก แต่ปรากฏว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่รอดต่อมาได้ ตอนนี้กำลังรออยู่ว่า ถ้าหมดอายุราชการแล้วไม่เซ็นต่อก็หมดเรื่องไป หลวงปู่ปานมรณภาพตอนอายุ ๖๓ ปีเองนะ อาตมาเหยียบ ๖๐ ปีแล้ว ขออย่าให้อยู่เกินหลวงปู่เลย เบื่อเต็มทีแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-05-2018 เมื่อ 07:46 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : พวกคำสอนของพระพุทธเจ้าเราเอาไปพิมพ์บนเสื้อขาวจะเหมาะสมไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นหนังสือก็พอไหว เพราะว่าเป็นธรรมทาน แต่พิมพ์ที่เสื้อนี่ไม่แน่ใจ เพราะว่าไม่ใช่สถานที่อันเหมาะสม เกิดเอาไปซักปนกับของต่ำก็ยุ่งอีก ถาม : เสื้อกระโถนข้างธรรมมาสน์มีธรรมทาน ? ตอบ : กระโถนข้างธรรมมาสน์มีอะไร ? เกี่ยวอะไรกับหลักธรรม ? ที่เราว่ามาก็คือที่เอาธรรมะพระพุทธเจ้าไปพิมพ์ติด ถาม : แล้วถ้าเป็นเสื้อยันต์เกราะเพชรละคะ ? ตอบ : เสื้อยันต์ก็แยกซัก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:45 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
||||
|
||||
![]()
ถาม :ทำงานไปด้วย และสวดคาถาเงินล้านไปด้วย ควรจะแบ่งเวลาอย่างไรบ้าง ?
ตอบ : เวลางานใจอยู่กับงาน เวลาว่างใจอยู่กับการภาวนา ถ้าหากว่าเวลางานนึกขึ้นมาได้จะภาวนาก็ไม่เป็นอะไร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:46 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : คนที่สมัครหลายชื่อ หลาย ๆ ล็อกอินในเว็บบอร์ด ผิดศีลธรรมหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้เอาไปโกงชาวบ้านเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ตัวตนจะมากขึ้น กลายเป็นยึดติดมากขึ้น ถาม : อย่างตั้งชื่อหลายชื่อเพื่อมากดถูกใจในเพจหน้าร้านมาก ๆ จะได้หรือเปล่าคะ ? ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้ทำให้คนอื่นเสียผลประโยชน์ก็ไม่ผิด ถ้าหากว่าเสียผลประโยชน์ ก็เข้าข่ายหลอกลวง ถาม : ก็คือ เราได้รายได้จากการที่คนเข้ามากดถูกใจเยอะ ? ตอบ : ถ้าปัญญานิ่มไปเชื่อเขาก็ช่วยไม่ได้หรอก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:46 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#125
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีเฟซบุ๊กไปลงว่ามีรูปหล่อพระองค์ที่ ๑๑ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ที่สร้างโดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนจำหน่าย ขอยืนยันว่าพระองค์ที่ ๑๑ ของวัดท่าขนุน ขนาดหน้าตัก ๑๐ นิ้วถ้วน ๆ แล้วตอนที่สร้างก็แจกฟรีด้วย ฉะนั้น...อะไรที่เกิดขึ้นให้หาข่าวให้ดีก่อน อย่าเพิ่งไปถือมงคลตื่นข่าวแล้วก็เสียเงินให้เขาฟรี ๆ ตอนนั้นอาตมายังอยู่ที่เกาะพระฤๅษี พระครูแสงยังไม่ได้บวช ท่านมีศรัทธาสร้างรูปพระองค์ที่ ๑๑ เพื่อถวายให้อาตมาหาปัจจัยในการก่อสร้าง แต่อาตมาเองไม่นิยมการหาปัจจัยด้วยวิธีนั้น ก็เลยแจกฟรี
เรื่องของวัตถุมงคล ถ้าสงสัยหรือไม่รู้ว่ารุ่นไหนเป็นของวัด ให้เข้าไปดูในเว็บวัดท่าขนุน จะมีบอกไว้ ตั้งแต่รุ่นแรกที่อาตมาสร้างช่วงที่อยู่วัดท่าซุง ช่วงที่อยู่เกาะพระฤๅษี ช่วงที่อยู่วัดทองผาภูมิ จากนั้นท้ายสุดมาอยู่ที่วัดท่าขนุน ฉะนั้น...ถ้าคิดว่าองค์ไหนเป็นของวัดไปเปิดดูได้ มีบอกไว้ครบถ้วน องค์ไหนที่ไม่มีก็แปลว่าไม่ใช่ของทางวัด เป็นคนอื่นสร้าง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:48 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#126
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “วันที่ ๒๑ เมษายนนี้ อาตมาจะไปพุทธาภิเษกที่กองทุนหลวงปู่ปาน อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ความจริงจะพุทธาภิเษกที่วัดบึงลาดสวาย ปรากฏว่าระเบิดลง ทางผู้จัดสร้างโดนเจ้าคณะภาคตำหนิ ก็เลยต้องย้ายที่ไปโน่น ย้ายข้ามจังหวัดไปเลย อาตมาก็ไม่ว่าอะไร เพราะว่าจะไปทางด้านโน้นหรือมาทางด้านวัดบึงลาดสวายก็ไกลพอกัน
วัดบึงลาดสวายเป็นวัดมอญ แต่เป็นวัดมอญที่สวดทั้งมอญ สวดทั้งไทย เวลาพี่น้องมอญรอบวัดนิมนต์พระก็สวดแบบมอญให้ ถ้าพี่น้องคนไทยนิมนต์พระก็สวดแบบไทยให้ พระเกจิอาจารย์สมัยก่อนที่มีชื่อเสียงดัง ๆ ของบ้านเราเมืองเราส่วนใหญ่มีเชื้อสายมอญเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งหลวงปู่พุก วัดท่าขนุน ที่เขาถือว่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกก็เป็นมอญโพธาราม เพราะว่าตอนช่วงนั้นบรรดามอญย้ายตามพระมหาเถรคันฉ่อง (ตอนหลังได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว) ย้ายตามมาเยอะมาก พอทางพระเจ้าแผ่นดินสั่งให้ครัวมอญไปอยู่ตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น บรรดาพระเถระต่าง ๆ ก็แยกย้ายกันไปเป็นหลัก เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้กับญาติโยม ก็เลยมีพระเถระเชื้อสายมอญอยู่มากมาย ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ในกรุงเทพฯ ของเราพระมอญก็เยอะมาก ที่โด่งดังระเบิดเถิดเทิงเลยก็อย่างพระพิมลธรรม (นาค) วัดอรุณราชวราราม ที่สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ถือเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทย นั่นก็พระมอญ วัดชนะสงครามเราคิดว่าเป็นวัดไทย แต่โบราณมาเป็นวัดมอญ ชื่อวัดตองปุ อยู่กลางกรุงเทพฯ เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:49 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#127
|
||||
|
||||
![]()
"พระเถระทางมอญที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่ก็มีความสามารถที่แท้จริง สืบทอดความรู้มาจากตำราของมหาเถรคันฉ่องหรือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว โดยเฉพาะตำราการสร้างเบี้ยแก้ เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วความรู้เหล่านี้ก็ถ่ายทอดมาจากตำรามอญแทบทั้งนั้น
ปัจจุบันนี้พี่น้องชาวมอญยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นมาก ถึงเวลามีงานแต่ละที อยู่ใกล้อยู่ไกลก็ไปถึงกันหมด อาตมาเองเป็นประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นม้ง เป็นเย้า เป็นไทยอีสาน การแสดงออกก็ไม่เหนียวแน่นเท่ากับคนมอญ คนมอญนี่พูดถึงเรื่องรักชาติ รักพวกรักพ้องนี่เต็มที่ วัดไหนมีงาน ถ้าเจ้าอาวาสเป็นเชื้อสายมอญ เอ่ยปากคำเดียวนี่อยู่ไกลแค่ไหนก็ไป ถึงไม่มีสตางค์ไปก็เอาแรงงานไปช่วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2018 เมื่อ 18:50 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#128
|
||||
|
||||
![]()
"พระเถระชาวมอญอีกรูปหนึ่งที่โด่งดังมาก ๆ เลย ก็คือ หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน สมัยก่อนท่านสร้างชูชกดังระเบิดเถิดเทิง เคล็ดลับอยู่ตรงที่ว่า ชูชกขออะไรใครไม่เคยพลาด จัดเป็นเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกอันเป็นสุดที่รักอย่างกัณหาชาลี ชูชกก็ยังขอไปได้ ท่านเอาเคล็ดลับตรงนี้มาสร้าง
หลวงปู่รอดยังสร้างวัตถุมงคลอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด เป็นสิงห์ มีกระทั่งเขี้ยวเสือแกะ มีกระทั่งงาช้างแกะ มีรูปพระอัครสาวก ทุกอย่างนี่ถ้าอยู่ในมือลูกศิษย์คนมอญไม่มีทางได้หลุดออกมาเลย เก็บเงียบหมด มีแต่ลูกศิษย์คนไทยที่เอามาปล่อยต่อ จึงพอที่จะมีของหมุนเวียนในตลาดบ้าง โดยเฉพาะชูชกของหลวงปู่รอด จนป่านนี้ยังไม่มีใครทำได้เสมอกับท่านเลย ราชสีห์หลวงปู่รอดหรือสิงห์มหาอำนาจ ถามว่าดีตรงไหน ? บอกว่าเอาไว้พิทักษ์รักษาทั้งตัวเองและทรัพย์สินได้ดีมาก ๆ ขโมยเข้าวัดบางน้ำวนจะไปขโมยของ เจอสิงโตไล่ฟัดเปิดแน่บ ยังสงสัยว่าวัดนี้เลี้ยงสิงโตได้อย่างไร ถึงเวลาหลวงปู่รอดท่านก็เก็บเข้าย่าม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 01:57 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#129
|
||||
|
||||
![]()
"แม้กระทั่งธรรมยุติกนิกายในประเทศไทยก็สืบที่สืบทางมาจากมอญ เพราะว่าพระมอญมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก เพราะมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ก็เลยทำให้เคร่งครัดในเรื่องของการปฏิบัติไปด้วย ในเมื่อมีความเคร่งครัดทั้งในเรื่องของศีล ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม จึงทำให้แต่ละท่านมีความสามารถพิเศษกันมาก สร้างวัตถุมงคลอะไรออกมาก็ขลังไปหมด
หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี พระที่ท่านสร้างถือว่าใช้แทนสมเด็จวัดระฆังได้เลย เพราะว่าท่านก็ลบผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ลบผงทะลุกระดาน ผงหล่นลงพื้นเดินไปลงถาดเองได้อย่างกับฝูงมด บรรดาลูกศิษย์เห็นกันต่อหน้าต่อตา วัตถุมงคลหลวงพ่อเทียนอยู่ในมือใคร อย่าหวังเลยว่าจะหลุดออกมาง่าย ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#130
|
||||
|
||||
![]()
"อาณาจักรมอญสมัยก่อนคือสุธรรมวดี ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองหงสาวดี หรือเมืองปะโก หรือที่คนไทยเรียกว่าพะโคในปัจจุบัน โดนพระเจ้าอโนรธา หรือที่คนไทยเรียกว่าพระเจ้าอนุรุทธมหาราชของอาณาจักรพุกาม ยกมาตีอาณาจักรแตก จับเอากษัตริย์มอญและราชินีมอญไปขังเอาไว้ที่พุกาม ตั้งแต่นั้นมามอญก็เสื่อมลง ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้มอญเรืองอำนาจมาก แทบจะครองสุวรรณภูมิทั้งหมด
แม้กระทั่งภาษาระหว่างมอญกับเขมรก็มีความเนื่องกัน โดยเฉพาะการพูดเร็ว และออกเสียง ร.เรือ ชัดเจน เขาบอกว่ามอญกับเขมรพูดกันนี่ น้ำลายกระเซ็นเป็นตัว ร.เรือ ส่วนพวกเราออกเสียงอย่างนั้นไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 02:00 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#131
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้คณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีมีหัวก้าวหน้า สร้างศูนย์กายภาพบำบัดสำหรับพระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะ อยู่ในบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลวังด้ง ลงทุนลงแรงกันไปเยอะ ตอนนี้มีโอกาสได้ใช้งานกันแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 02:01 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#132
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ? เชื่อไหมว่ารัฐบาลนี้อาตมาจำนายกรัฐมนตรีได้คนเดียว รัฐบาลที่มาโดยไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย อาตมาไม่จำเลย นายกรัฐมนตรีจะไม่จำก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นหัวหน้าคสช. ส่วนคนอื่น ๆ ใครเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอะไรบ้างไม่ต้องถาม...จำไม่ได้
ที่จำไม่ได้มี ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือหาผลงานไม่ได้ สักแต่ว่าเป็นรัฐมนตรีไปวัน ๆ ส่วนอีกอย่างก็คืออาตมาไม่ได้ดูโทรทัศน์ ในเมื่อไม่ได้ดูโทรทัศน์มา ๓๐ กว่าจะ ๔๐ ปีจึงไม่ค่อยจะรู้จักใคร ในเมื่อไม่รู้จักถึงเวลาคนที่ไปวัดก็ราคาเดียวกันหมด ไปวัดก็นั่งแปะกับพื้นเหมือนกัน โดยเฉพาะที่น่าสงสารที่สุดก็บรรดาดารา อาตมาไม่รู้จักเลยจริง ๆ ถ้าไม่ดูโทรทัศน์ก็แปลว่าไม่ต้องรู้จักกัน บางทีเด็กวัดก็ตื่นเต้นวิ่งมาบอกว่าดาราคนโน้นมา ดาราคนนี้มา อาตมาก็ได้แต่ฟัง ๆ ก็ไม่รู้จักจริง ๆ ใครเป็นดาราถ้าไปวัดท่าขนุนก็โปรดทราบ เจ้าอาวาสไม่รู้จักคุณหรอก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 11:32 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#133
|
||||
|
||||
![]()
"เมื่อปลายเดือนมีนาคม งานวันเกิดหลวงพ่อมณฑล ก็มีคุณสมบัติ บัญชาเมฆ หรือที่พวกเราเรียกกันว่า "พี่บัวขาว" ไปทำบุญ ในความรู้สึกของอาตมาก็คือบัวขาวต้องตัวใหญ่มาก เพราะเห็นว่าต่อยมวยรุ่น ๗๐ กิโลกรัม ปรากฏว่าตัวเล็กกว่าอาตมาตั้งเยอะ แปลว่าจะต้องฝึกซ้อมจนกระทั่งทั้งเนื้อทั้งตัวแทบจะเหลือแต่กล้ามเนื้อ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ตัวเล็กแบบนั้น
บัวขาวไปหาอาตมาที่วัด ๒ ครั้งแล้วไม่เจอ มาวันงานเจอกันในงาน อาตมาก็มีงานประชุมต่อ พอสวดมนต์เสร็จก็ไม่ได้ฉันเพล รับไทยธรรมแล้วก็บอกกับบัวขาวว่าขอตัวไปประชุมก่อน เพราะว่าต้องไปพิจารณาสำนักปฏิบัติธรรมที่ได้รับรางวัลดีเด่น จะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นกรรมการพิจารณา ขอตัวได้ก็วิ่งไปสำนักพุทธฯ จังหวัด ตอนเย็นกลับมาที่วัด พระท่านบอกว่าบัวขาวมาหาพระอาจารย์อีกแล้ว ไม่เจอตามเคย ลืมบอกเขาว่าประชุมกันที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ได้ประชุมที่วัด ลืมบอกไป ส่วนที่เห็นก็คือ จริง ๆ แล้วบัวขาวเป็นคนมีสมาธิดีมาก เพราะว่าสวดมนต์จน ๑๑ โมง ๔๐ นาที บัวขาวนั่งฟังได้สบาย ตอนที่แกรำคาญก็คือมีแต่คนไปขอ "เซลฟี่" ด้วยความที่เป็นคนของประชาชน ถึงเวลาใครขอถ่ายรูปก็ต้องยิ้มให้ ต้องถ่ายรูปด้วย เขาบอกให้ตั้งการ์ดหน่อย ก็ตั้งการ์ดมวยให้เขาดู แล้วคิดดูว่าคนจะฟังพระสวดมนต์ ถึงเวลาก็โดนเรียกไปถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ เป็นเราจะทำอย่างไร ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 12:35 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#134
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์เล่าว่า "เคยมีพระ ๓ รูปจากวัดพระธรรมกาย ได้ยินกิตติศัพท์ของพระอาจารย์เล็กแล้วเลื่อมใสมาก จะไปขออยู่ปฏิบัติธรรมด้วย พอเห็นที่นอนว่าเป็นเสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ท่านขอลากลับเดี๋ยวนั้นเลย ตกลงว่าความเลื่อมใสในพระอาจารย์ยังไม่เพียงพอ
อย่างท่านเจ้าคุณปิงไปวัดก็เสื่อผืนหมอนใบเหมือนกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเขา ต้องบอกว่าพระวัดธรรมกายท่านลำบากไม่เป็น อยู่ในลักษณะโรงแรม ๕ ดาวเสียจนเคย ไปเจอโรงเตี๊ยมจิ้งหรีดอย่างของวัดท่าขนุนก็หนีกลับหมดเลย อาตมาก็ไม่ตำหนิเขา แต่อยากจะบอกว่า ถ้าเราลำบากไม่เป็น ไปที่ไหนก็ลำบากไปหมด ถ้าเราลำบากเป็น ไปที่ไหนก็สบายไปหมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2018 เมื่อ 12:35 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#135
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงระยะเวลาแห่งการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ปกติเด็ก ๆ จะไม่อยากบวชกับวัดท่าขนุน เพราะว่าพระท่านตีจริง ๆ...! ปีที่แล้วมีบวชอยู่ ๗-๘ รูป แต่อาตมาตั้งกติกาเอาไว้ว่า ถ้าใครอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะได้ จะให้ทุนการศึกษารายการละ ๕๐๐ บาท สี่อย่างก็ได้ ๒,๐๐๐ บาท กลายเป็นว่าปีที่แล้วผู้ที่ไปบวชได้ทุนกันทุกคน ตั้งใจท่องจะเอาเงิน..!
ปีนี้ขยับพรวดขึ้นมาเป็น ๓๔ รูป คงอยากได้บ้าง ...(หัวเราะ)... ไม่รู้ว่าถ้าปีหน้าถ้ามาเป็นร้อยจะมีปัญญาจ่ายไหวไหม ? จาก ๗-๘ รูป กลายเป็น ๓๔ รูป แล้วจาก ๓๔ จะเป็นเท่าไร ? เขาก็แค่บอกเพื่อนเขาต่อเท่านั้นเอง วันก่อนเณรทำบาตรตกทั้งใบเลย บอกแล้วว่าเณรต้องมีสติ ปรากฏว่าเณรมีสติ แต่บาตรไม่มีสติด้วย...! เพราะว่าเป็นบาตรสเตนเลส เณรผูกเชือกไม่แน่น พออุ้มไปนาน ๆ ก็หลวม พอหลวมแล้วเผลอก็หล่น บอกให้ไปรับรางวัลจากพระพี่เลี้ยง เณรทำท่าเหมือนจะตาย เณรวัดท่าขนุนไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะว่าเขารู้กิตติศัพท์เจ้าอาวาสดี งวดที่ผ่านมาถ้าผิดตีคือตีจริง ๆ ถึงเวลาฉันเพลคุยกัน อาตมาบอกว่า "เอ้า..เณรรู้ไหมว่าถ้าเสียงดังแปลว่าอิ่มแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เลิกฉันเลยนะ" เงียบสนิท...! เพราะว่ายังต้องกินอยู่ คนกินอยู่ปากคุยไม่ได้ จึงต้องเงียบ ถ้าหากว่าคุยได้แปลว่าอิ่มแล้ว ก็ต้องเลิกกิน ไม่เห็นต้องสอนอะไรมากเลย ...(หัวเราะ)... แต่เณรกินน่ากลัวมาก แต่ละรูปกินน่องไก่ทอดกระดูกเป็นจานเลย แต่หมาชอบ ถึงเวลาอาตมาก็กวาดกระดูกไปเลี้ยงหมา ๓๐ กว่ารูปบวช ๑๐ วันเป็นอย่างน้อย คาดว่าคงกินไปไม่หนี ๓๐,๐๐๐ - ๔๐,๐๐๐ บาท"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-05-2018 เมื่อ 07:46 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#136
|
||||
|
||||
![]()
"ความจริงอาตมาก็ให้เณรบิณฑบาตนะ แต่ให้สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เพราะว่าเณร ๓๐ กว่ารูป บวกกับพระเข้าไปด้วย แถวหนึ่งก็ ๕๐-๖๐ รูป ไม่ไหวหรอก โยมเขาใส่บาตรกันไม่ไหว จึงให้แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มละ ๑๐ รูปแล้วก็เปลี่ยนกันไป ๒ กลุ่มทำความสะอาดวัด กลุ่มหนึ่งบิณฑบาต ก็เท่ากับว่าบิณฑบาตหนึ่งวันเว้นสองวัน ตลอดโครงการก็บิณฑบาตได้แค่ ๓-๔ ครั้ง ไม่เกินนั้น
เณรตัวโต ๆ หน่อยอายุ ๑๔-๑๖ ปี จะได้เปรียบ ขายาว..เดินตามพระทัน เณรตัวเล็ก ๆ ต้องให้ไปสายใกล้ ที่วัดจะมีสายบิณฑบาตสายใกล้ เรียกว่าสายบ้านบน คือเข้าไปในหมู่บ้านท่าขนุน ไม่ไกลจากวัดนัก เดินไปกลับก็ ๒ กิโลเมตรเศษ ๆ สายนี้โยมก็พยายามจะเรียกร้องขอพระเยอะ ๆ อาตมาบอกว่าเยอะไม่ได้ พระแก่กับพระป่วยมีอยู่แค่นั้น คือให้พระแก่กับพระป่วยไปสายใกล้ ป่วยก็อย่าหวังว่าจะได้นอนกินเฉย ๆ นะ ส่วนสายไกลอย่างที่อาตมาเดิน ก็ ๕ กิโลเมตรกว่า ๆ ก็เอาเณรตัวใหญ่หน่อย เห็นตัวเล็ก ๆ ตัวแค่นี้ ๙ ขวบจริงหรือนี่ ? ต้องให้เดินไปสายใกล้แทน ฉะนั้น...สายใกล้ก็จะมีเณรเป็นแถวยาวอยู่ ๒ วันแล้วก็หายไปวันหนึ่ง เพราะว่าเณรตัวใหญ่ต้องไปสายไกล"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2018 เมื่อ 19:48 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#137
|
||||
|
||||
![]()
"จะว่าไปแล้วเป็นการฝึกระเบียบวินัยอะไรต่าง ๆ ได้ดีมาก เพราะว่าที่วัดต้องตื่นตามเวลาอยู่แล้ว ตี ๔ เป๋งไม่มาเจริญกรรมฐานก็เตรียมรอรับสายไฟได้ ไม่ใช่ไม้นะ...! ขอยืนยันว่าตีด้วยสายไฟขนาด ๒.๕ มิลลิเมตร ฟาดเข้าไปเถอะ ตีทีหนึ่งได้ ๒ แผล บางทีตีเณรนี่พ่อแม่ยืนร้องไห้เลย บอกว่าดีแล้วครับที่หลวงพ่อตี ผมเองคงไม่กล้าตี
อาตมาไม่ได้ตีเพราะว่าระบายอารมณ์ แต่ตีเพราะว่าเขาทำผิด จะถามเขาว่ารู้ไหมว่าผิดอะไร ? ทำอย่างนี้ทำไมถึงผิด ? แบบเดียวกับสมัยที่พวกเจ้าชายเล็กยังอยู่ "รู้ไหมทำไมต้องโดนตี ?" "ผมไปเล่นเกมส์ครับ" "ไม่ผิดหรอกเล่นเกมส์ หลวงพ่อเองก็อยากเล่น" "มีเงินครับ" "ไม่ผิดหรอก หลวงพ่อมีเยอะกว่ามึงอีก" เขาก็สงสัยว่าผิดอะไร ? "ผิดเพราะว่าเอ็งออกจากวัดแล้วไม่ลา ระเบียบวัดระบุไว้ชัด ๆ ถ้าเอ็งออกไปโดนรถทับตายแล้วใครจะรู้ว่าเอ็งออกไปตอนไหน ? เอ็งออกไปข้างนอกจะไปเล่นเกมส์ไปทำอะไร ข้าไม่ว่าอยู่แล้ว ถึงเวลาทำงานได้รางวัลมีเงิน จะไปซื้ออะไรก็เรื่องของเอ็ง แต่จะไปไหนต้องบอกลาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ก่อน ไม่ใช่หายไปเฉย ๆ แอบหนีไปเล่นเกมส์" เรื่องของเด็กถ้าเราบอกชัดเจนเขารับได้ บางทีก็ประเภท "ไปหาผ้าหนา ๆ มา หรือเอาสมุดปิดตูดมา" เปิดโอกาสให้เขาขนาดนั้นแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปแอบทำ ข้าสั่งให้หามาเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2018 เมื่อ 19:50 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#138
|
||||
|
||||
![]()
"เพียงแต่ว่าเด็ก ๆ กินน่ากลัว อย่างเณรหมี ให้เงินไป ๒๐๐ บาท กินไอศกรีมครึ่งวันหมดแล้ว โอ๊ย...ตาย ๆ ตอนนั้นไอศกรีมอะไรไม่รู้ จำได้ว่าอันละ ๖๐ บาท เงิน ๒๐๐ บาทกินได้พักเดียวหมดแล้ว โอ้หนอ...รุ่นตูไอศกรีมอันละสลึงเดียว รุ่นเอ็งอันละ ๖๐ บาท ช่วงนี้รถไอศกรีมเข้าวัดแล้วไม่ออกหรอก อยู่จนบ่ายเลย เพราะว่าเณรเยอะ เข้าไปอย่างไรก็ต้องมีคนซื้อ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2018 เมื่อ 19:51 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#139
|
||||
|
||||
![]()
"อยู่ที่วัดก็ลำบากอยู่อย่างหนึ่งเพราะว่าเณรไม่มีโทรทัศน์ดู ถ้าใครติดบุพเพสันนิวาสก็นั่งร้องไห้ไปเถอะ
ประกาศบอกกับเณรไว้ว่าใครร้องไห้ครั้งที่ ๑ ตี ๑ ที ร้องไห้ครั้งที่ ๒ ตี ๒ ที ครั้งที่ ๓ ตี ๓ ที เพราะฉะนั้นร้องได้เลย...! กลางคืนแอบร้องไห้คิดถึงบ้าน คราวนี้จะได้รู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน อยู่บ้านนี่ทูนหัวทูนเกล้า ต้องการอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่ที่นี่ต้องทำทุกอย่าง กวาดวัด ถูศาลา ซักเสื้อผ้า เลี้ยงหมา ทำสารพัด เชื่อเถอะ...ผ่านไปสักอาทิตย์หนึ่งเขาจะรักพ่อแม่สุดจิตสุดใจเลย แต่พอนาน ๆ ไปก็ลืม มีคนส่งคลิปมาให้ดูที่เณรน้อยเดินธุดงค์ไปก็ร้องไห้ไป "ไม่เอาแล้วอาจารย์ใจร้าย" แต่เณรสู้นะ ขอให้ได้บ่น เดินไปร้องไห้ไปแต่ก็เดิน เพราะว่าอาจารย์บอกว่าถ้าไม่เดินก็ทิ้งไว้ให้เสือกินที่นี่..! ตอนนั้นเณรอาร์ตไปบึงลับแลกับท่านกอล์ฟ เขาก็ถาม "หลวงน้า ๆ ที่นี่มีเสือใช่ไหม ?" "มี" "แล้วหลวงน้าไม่กลัวหรือ ?" "ไม่กลัวหรอก เพราะว่าหลวงน้าขายาวกว่า เสือมาก็วิ่งหนี เณรวิ่งช้ากว่าเสือก็กินเณร" เณรนั่งร้องไห้เลย ไปเจอหลวงน้าไม่ถนอมน้ำใจเณรเลย เล่นบอกว่าจะวิ่งหนีทิ้งเณรให้เสือกิน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2018 เมื่อ 19:53 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#140
|
||||
|
||||
![]()
"หน้านี้ยังดีที่ฝนตกแล้ว ไม่อย่างนั้นหน้าแล้งป่าบริเวณนั้นจะมีแหล่งน้ำอยู่ที่เดียวคือบึงนั้น พวกสัตว์ทั้งหมดจะมารวมกินน้ำบริเวณนั้น แล้วเสือก็จะลงมาดักกินสัตว์อื่นด้วย รอยเท้านี่ประเภทมือกว้าง ๆ อย่างอาตมาวัดได้ ๗ นิ้วมือกาง ๆ ต้องนึกเลยว่าตัวใหญ่แค่ไหน เพียงแต่ว่าช่วงนี้เสือน่าจะไปหากินที่อื่น แถวนั้นช้างกำลังลงมาเยอะ เพราะว่าช้างขาดแหล่งน้ำไม่ได้อยู่แล้ว
ตอนนี้มีช้างอยู่ตัวหนึ่ง เขาเรียกว่าเจ้างาเล็ก เดินข้ามถนนตรงห้วยเขย่งอยู่ทุกวัน เขาถ่ายรูปส่งให้กรมคชบาลไปพิจารณาแล้ว เพราะดูท่าทีว่าจะเป็นช้างเผือก ถ้าไม่ใช่ช้างเผือกก็เป็นช้างสีประหลาด ซึ่งถือว่าเป็นตระกูลสูงใกล้เคียงกับช้างเผือก เจ้านี่หากินเดี่ยว ไม่ไปกับพวก ถึงเวลาก็ออกจากป่า ข้ามถนนไปหากล้วยหาอ้อยในไร่ชาวบ้าน ตอนนี้อาตมากำลังวางแผนว่าจะช่วยช้างด้วยการปลูกกล้วย คือกล้วยปลูกฤดูกาลเดียวก็ได้แล้ว พอถึงเวลาหน้าฝนก็ระดมปลูกเลย ช่วยกันปลูกคนละกอ สองกอ แบกหน่อมาจากบ้าน พอถึงเวลาเขามาก็มีกิน ไม่ต้องบุกเข้าไปที่ไร่ชาวบ้าน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2018 เมื่อ 19:56 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|