|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#201
|
||||
|
||||
ถาม : ควรพิจารณาวิปัสสนาญาณเมื่อใด ?
ตอบ : ถอนสภาพจิตออกมาให้อยู่ในระดับที่พิจารณาได้ เพราะถ้าไม่ใช่คล่องตัวจริง ๆ จะพิจารณาไม่ได้ ก็ต้องคลายลงในระดับที่เราพิจารณาได้ คือไม่เกินปฐมฌาน ถาม : พอเข้าถึงฌานสี่แล้วกลับมาพิจารณาได้ดีกว่าหรือเปล่าครับ ? ตอบ : พอทรงฌาน ๔ สภาพจิตจะว่างจาก รัก โลภ โกรธ หลง สภาพจิตของเราจะแหลมคมว่องไว สามารถที่จะรู้เห็นได้ชัดเจน ดังนั้น...จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทรงเป็นฌาน แล้วค่อยคลายออกมาพิจารณาเพื่อให้จิตที่ฟุ้งซ่านได้สงบลงชั่วคราว ในเมื่อตะกอนกิเลสสงบลงชั่วคราว ก็เหมือนกับฝุ่น ถ้าฝุ่นตลบอยู่ก็มองอะไรไม่เห็น ต้องให้ฝุ่นจางลงนิดหนึ่งก่อนแล้วเราค่อยพิจารณา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2017 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#202
|
||||
|
||||
ถาม : ความสว่างที่อธิบายข้างต้นยึดไม่ได้ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรให้ยึดได้ แม้แต่พระนิพพานก็ยึดไม่ได้ ตราบใดที่ยึดก็แปลว่าไปไหนไม่ได้ ตอนแรกยึดไว้ก่อน หลังจากยึดจนเต็มที่แล้วก็จะปล่อยของเขาเอง ที่บอกเพื่อให้รู้ว่าไม่ใช่เจออะไรก็ยึดไปหมด ก็แปลว่าหากเรายึดในเรื่องของความดีก็ยึดไปเถอะ แต่พอดีถึงที่สุดแล้ว แม้แต่ดีก็ต้องปล่อย ถาม : บางทีก็คิดว่าเราปล่อยความดี แปลว่า เราเลวใช่ไหม ? ตอบ : ปล่อยความดีไม่ได้แปลว่าไม่ทำความดี ทำความดีเป็นปกติแต่ไม่ได้ติดในดี เคยใช้คำพูดประมาณว่า “รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2017 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#203
|
||||
|
||||
ถาม : ธรรมาภิสมัยกับธรรมจักษุ มีเอกลักษณ์ต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : มีทั้งคู่ แต่คนแปลตีความอย่างนั้น ธรรมาภิสมัยถ้าว่าตามศัพท์ก็คือการเห็นธรรมในระยะเวลาที่พิเศษ ที่แตกต่าง ส่วนธรรมจักษุคือมีดวงตาเห็นธรรม ดวงตาเห็นธรรมนี่น่าจะครอบคลุมได้ทุกระดับ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2017 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#204
|
||||
|
||||
มีกลุ่มเด็กแว้นบิดรถเสียงดังผ่านหน้าบ้านไป "แม่เจ้าประคุณเอ๊ย....ไม่ได้นึกถึงพ่อถึงแม่เลย...บิดรถกันขนาดนี้ พวกนี้เป็นผู้มีพระคุณของแต่ละวัด ลงโค้งไหนวัดนั้นก็ได้สวด...!
พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า สติยิ่งมีมากยิ่งดี แต่อาตมาเห็นว่าถ้าสติมากเกินปัญญาไม่ค่อยดี ขออภัย...ไม่ใช่พระพุทธเจ้าตรัสนะ คนรุ่นหลังเขาตีความเอาเองว่าสติยิ่งมีมากยิ่งดี อาตมาเห็นว่าถ้าสติมากเกินไปก็มัวแต่จด ๆ จ้อง ๆ มัวแต่ระมัดระวังไม่กล้าทำอะไร ถ้าปัญญามากเกินไปก็บุ่มบ่ามโฉ่งฉ่าง รีบร้อนทำการซึ่งอาจจะพลาดได้ ฉะนั้น...สติกับปัญญาควรที่จะไปเท่า ๆ กัน แต่ว่าบรรดาท่านทั้งหลายที่ออกมาซิ่ง ออกมาแว้นกัน สติน้อยกว่าปัญญา ในเมื่อสติน้อยกว่าปัญญา ก็ทำในสิ่งที่ตัวเองและคนรอบข้างเดือดร้อนภายหลังแบบนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2017 เมื่อ 02:50 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#205
|
||||
|
||||
ถาม : คนที่อยู่ในศีลในธรรม ที่พอจะรู้ดีชั่ว เวลาทำชั่วนี่เพราะไม่มีสติหรือคะ?
ตอบ : ต้องมี...เพียงสติน้อยกว่าปัญญา ทำให้ขาดการนึกคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะทำลงไป ฉะนั้น..ถ้าคนไม่มีสติทำอะไรไม่ได้หรอก ไม่มีสติก็ยืนเอ๋อเท่านั้น ถาม : อย่างนั้นก็เท่ากับว่าทำไปโดยเจตนา ? ตอบ : กรรมก็หนักว่าปกติเพราะว่าทำโดยเจตนา แบบเดียวกับนายหมูหยองที่บอกว่า การฆ่าคนก็เหมือนกับฆ่ามดฆ่าปลา..! ถาม : แล้วอย่างทหารที่ทำไปโดยหน้าที่ กรรมจะเบาลงไหมคะ ? ตอบ : เราต้องดูว่าสิ่งที่ทำนั้นเพื่อประโยชน์ของใคร ปล้นทรัพย์นั่นเพื่อตัวเอง แต่ทหารนั้นเพื่อป้องกันประเทศชาติ ถ้าวางกำลังใจถูกว่า นอกจากป้องกันประเทศชาติแล้ว ยังรักษาพระศาสนาด้วย ตัวที่เป็นกุศลก็ยิ่งมีมากขึ้นมาหักล้าง แต่ว่าจริง ๆ แล้วทหารทำตามหน้าที่ ไม่มีความโกรธแค้น สภาพจิตที่มืดบอดมีน้อยกว่า โทษจึงเบากว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-05-2017 เมื่อ 08:32 |
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#206
|
||||
|
||||
ถาม : นั่งสมาธิแล้วก็มองภาพพระ ทำประจำ จนรู้สึกว่าตัวแข็ง ?
ตอบ : ทำต่อไป ถ้าแข็งเป็นหินได้ยิ่งดี ภาพพระจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าตอนนั้นแสดงว่าสมาธิทรงตัวมากขึ้น ถาม : สัมปะจิตฉามิกับสัมปฏิจฉามิ บทไหน....(ไม่ชัด).... ? ตอบ : เขาเรียกว่ากลัวดี...เลือกเอาเอง อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ จับภาพพระให้คล่องตัว ถึงเวลาก็ใช้ได้เหมือนกัน จะเอาสัมปะจิตฉามิ สัมปฏิจฉามิ โสตัตตะภิญา อะไรก็ได้ แต่ให้ทำอย่างเดียว พอเราทำอย่างเดียวจนได้แล้ว ต่อไปอย่างอื่นก็ง่ายหมด ถ้าเราทำหลายอย่าง อย่างแรกก็ยังไม่ได้ อย่างหลังก็ยังไม่ดี ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เอาดีไม่ได้สักอย่าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:18 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#207
|
||||
|
||||
มีโยมมาจากนครพนม "นครพนมเป็นเมืองพุทธสองฝั่งโขง พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชบูรณะพระธาตุพนม สร้างพระธาตุศรีสองรัก
สมัยก่อนไม่มีเขตแดน คน ๒ ฝั่งโขงเป็นพี่น้องกันหมด สมัยนี้พอฝั่งโน้นข้ามมาก็เรียกเขาว่าลาว พอฝั่งนี้ข้ามไปเขาก็เรียกว่าไทย พอฝั่งนี้เข้ากรุงเทพฯ มาดันไปเรียกเขาว่าเป็นลาว ตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่ ? สมัยก่อนเขาเป็นพี่น้องกันหมด พอมาสมัยนี้มีประเทศมีเขตแดนให้ยุ่งยากไปหมด พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศลาวผ่านทางเขมร เจ้าฟ้างุ้มขึ้นครองราชย์ ได้พระนางคำแก้วราชธิดาเขมรเป็นมเหสี พระนางเห็นว่าประเทศลาวนับถือผี ก็เลยอยากจะให้นับถือพระ ส่งข่าวไปทางพ่อให้ส่งพระมหาปาสามาณเถระมาพร้อมกับพระบาง เวลาแห่มาปรากฏว่าพระบางท่านอยากอยู่แค่หลวงพระบาง ไม่ยอมไปต่อ ประเทศลาวเดิมนับถือผีเชื้อ ผีมดผีเม็ง แล้วก็นับถือพญานาค งูหลวง เงือกหลวง คราวนี้พอได้พุทธศาสนาเข้าไปก็เจริญก้าวหน้า กษัตริย์ยุคหลัง ๆ หลายองค์ก็เป็นธรรมิกราช ทำให้ประเทศลาวมีความเจริญมั่นคง จนมาถึงยุคเจ้าชายหน่อแก้วโกเมน บุเรงนองนอกจากตีเชียงใหม่แล้วยังตีล้านช้างด้วย ยึดไปจนแทบจะหมด เอาตัวเจ้าหน่อแก้วโกเมนไปเป็นตัวประกันที่พม่า กว่าจะกู้ชาติกลับมาได้ก็ลำบาก แล้วยังมาเสียหายหนักในยุคที่รบกับเวียดกง รบกับอเมริกัน เขาบอกว่าแค่จำนวนระเบิดที่ทิ้งลงไปที่ทุ่งไหหินก็มีถึงห้าแสนตัน..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:21 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#208
|
||||
|
||||
ถาม : (ไปลพบุรี)
ตอบ : ไปลพบุรีต้องไปกลัวใคร ? ถ้าไปลพบุรีก็ไปกราบเจ้าพ่อพระกาฬ เอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบท่านขอเป็นลูกเป็นหลาน ขอให้ท่านดูแลด้วย มีระดับท้าวมหาพรหมช่วยดูแล ใครเขาจะกล้ามายุ่งกับเรา ศาลหลักเมืองกาญจนบุรีกับศาลเจ้าพ่อพระกาฬลพบุรีนี่เป็นพรหมนะ ศาลพระกาฬลพบุรีนั่นใหญ่บึ้มเลย ถาม : ทำไมลพบุรีจึงมีลิงเยอะ ? ตอบ : เขาเชื่อว่าเป็นลูกหลานของพญากากวานร ที่ช่วยท่านแม่จามเทวีรบจนหริภุญชัยไม่มีศัตรูนั่นแหละ เขาบอกว่าลิงพวกที่อยู่นั้นก็คือลูกหลานของท่าน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:21 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#209
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “คราวหน้าการสร้างวัตถุมงคล สั่งเท่าไรให้ทำเท่านั้น ถ้าวัสดุเหลือให้นำกลับมา ถ้าโรงงานทะลึ่งปั๊มเกินก็ให้ยุบรวมแล้วเอากลับมา ไม่ต้องจ่ายค่าปั๊มให้ ไม่อย่างนั้นแล้วโรงงานมักจะมักง่าย เห็นวัสดุเหลือก็ทำไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้สนใจว่าเราสั่งเท่าไร”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:22 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#210
|
||||
|
||||
ถาม : เวลามีคนแช่ง ถ้าเราบอกว่าไม่รับ ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่รับแล้วคิดไหม ? ถ้าคิดก็แปลว่ารับไปแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:22 |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#211
|
||||
|
||||
ถาม : เวลาจับภาพพระ จับในอกบ้าง จับที่อื่นบ้าง ไม่รู้จะไปต่ออย่างไรครับ อยากไปต่อ ?
ตอบ : อยากไปต่อ ก็เพิ่มขึ้นอีกองค์หนึ่ง ไว้ในอก ๑ องค์ ไว้บนหัว ๑ องค์ หายใจเข้าองค์บนหัวเลื่อนไปในอก องค์ในอกเลื่อนไปบนหัว หายใจออกองค์บนหัวเลื่อนไปในอก องค์ในอกเลื่อนไปบนหัว สลับกันไปเรื่อย ถ้ารู้สึกว่าชัดเจนดีแล้วก็เพิ่มไปเรื่อย ๆ ดูว่าจะได้กี่องค์..! ถาม : ควรจะสักกี่องค์ ? ตอบ : ควรจะได้สัก ๑๐๘ องค์พร้อม ๆ กัน...! แต่ต้องชัดเจนเท่ากัน เพราะฉะนั้น...เพิ่มไปเป็น ๒ องค์ก่อน ส่วนอีก ๑๐๖ องค์เก็บไว้รอเวลา ถาม : พระอาจารย์เคยบอกว่า อาจจะเห็นไม่ชัดเจน ? ตอบ : ขอให้มีไว้ก่อน หลังจากนั้นที่ชำนาญแล้วจะกำหนดได้มั่นคงขึ้น ชัดเจนขึ้น คราวนี้จึงจะเป็นแบบที่เราต้องการ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:23 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#212
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “อาจารย์บ๊ะท่านบอกว่า อาตมาตรงเวลาอย่าบอกใครเลย ท่านบอกว่า “เดี๋ยวจะหาว่าโกหก ก็เลยต้องย่องไปดูจริง ๆ” ตอนงานเป่ายันต์ฯ ท่านบอกถึงเวลาปุ๊บอาตมาไม่รอใคร เลย
ก็ไม่รู้ว่าจะรอใคร เพราะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตอาตมาก็คือพระพุทธเจ้า ในเมื่อเวลาเป็นของพระก็ต้องให้เวลานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ใครจะมาไม่มานี่ไม่ต้องรอแล้ว ไม่มีใครสำคัญกว่านั้นอีกแล้ว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2017 เมื่อ 03:24 |
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#213
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ หมดแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และเผือกน้อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|