|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เคยได้ยินว่าพระห้ามฉันเนื้อดิบ อยากเรียนถามว่าถ้าจะถวายปลาดิบแบบญี่ปุ่น พระจะฉันได้หรือไม่ และผิดศีลไหมคะ ?
ตอบ : ฉันได้ แต่ผิดศีล เพราะว่าสมัยก่อนทางด้านฮินดูเขานิยมมังสวิรัติ โดยเฉพาะอาหารเนื้อ ต่อให้ทำสุกเขายังรังเกียจ แล้วนี่ว่ากันดิบ ๆเลย ถาม : แล้วอย่างกึ่งสุกกึ่งดิบได้ไหมครับ ? ตอบ : ผิดเหมือนกัน คือตอนนี้พระอีสานจำนวนมากอยากจะสึก เพราะว่าฉันปลาร้าบองดิบ ๆ ไม่ได้ ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:27 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : มีเพื่อนต่างชาติถามว่าคนไทยทำบุญทอดกฐินทุกปี เป็นร้อยปี แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังยากจน ในขณะที่พวกตะวันออกกลางบางประเทศที่มีน้ำมัน ไม่ได้ทำบุญหรือทอดกฐินเลย แต่ประชาชนมีฐานะดีและมีสวัสดิการดี อยากทราบว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นเจ้าคะ ?
ตอบ : คุณรู้ได้อย่างไรว่าไอ้ที่รวย ๆ ในตะวันออกกลาง ไม่ใช่คนไทยไปเกิดที่นั่น ? ก็ดันถามเรื่องอย่างนี้ สรุปว่าคนที่ทำยังไม่ทันจะเกิดใหม่ ส่วนคนที่เกิดใหม่ในรุ่นเรานี่แหละ เดี๋ยวรอให้ม็อบเลิกก็จะเริ่มรวยแล้ว ขนาดออกพระทองคำยังจองกันไม่มีเหลือ จะไม่รวยได้อย่างไร เขาบอกว่าทำบุญชาตินี้มักจะได้ชาติหน้า ให้รีบเสนอหน้าแล้วจะได้ชาตินี้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 02-12-2022 เมื่อ 23:57 |
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ย บาปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : บาปแปลว่าชั่ว ปล่อยเงินกู้ชั่วไหมเล่า ? การปล่อยเงินกู้ ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็ถือว่าสมยอมกัน ไม่มีใครทำผิด แต่ถ้าเงินกู้ดอกเบี้ยอัตราเกินกฎหมาย ถ้าคิดว่าแน่ก็เบี้ยวได้เลยเพราะอีกฝ่ายหนึ่งผิด แต่เขาจะส่งคนมากระทืบจมดินเสียก่อน..! ถาม : แต่ถ้าคิดดอกเบี้ยมหาโหดแล้วทำให้เขาเป็นทุกข์นี่จะเป็นบาปไหมครับ ? ตอบ : ไม่เป็น..เพราะคุณเองรู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร..แล้วยังไปเอาจากเขา ถาม : ก็คนเดือดร้อนนี่ครับ ? ตอบ : ก็รับกรรมของตัวเองไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:29 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มักจะมีการชุมนุมกันหลายครั้ง จากสาเหตุหลายกรณี เช่น การชุมนุมทางการเมือง การชุมนุมเรียกร้องราคาผลผลิต ซึ่งมักจะมีการปิดถนนหรือสถานที่ต่าง ๆ การกระทำทั้งหลายเหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายไหนหรือภาคส่วนไหน อยากทราบว่าการกระทำเหล่านี้จะเกิดผลกรรมหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : กรรมแปลว่าการกระทำ เกิดผลแน่ ๆ ผลที่เห็นคือรถติด ส่วนผลที่จะเห็นต่อไปข้างหน้า ถ้าสุขภาพไม่ดีจะท้องผูกเป็นประจำ อันนี้แค่ผลกระทบที่น้อยที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปอุดเขานานหลายวัน ถ้าไปอุดเขานานหลายวันก็ตัวใครตัวมันเลยนะ ถาม : แล้วถ้าเกิดว่าพ้นจากชาตินี้ไปแล้วล่ะครับ ? ตอบ : ทำอะไรก็ติดขัด มีอุปสรรคไปหมด ถาม : เมื่อเดือดร้อนผมก็ไปเรียกร้อง ต้องปิดถนน ? ตอบ : คนไทยเรามักจะรู้แต่สิทธิของตนเอง แต่ลืมในการไปล่วงสิทธิของผู้อื่น ถาม : แล้วมีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ ? ตอบ : มี..เดี๋ยวฆ่ากันตายหมดเขาก็เลิกกันไปเอง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2014 เมื่อ 04:07 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : จากการที่หลวงพ่อวัดท่าซุงได้เล่าเรื่องสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และได้เล่าเรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้า คิดว่าในเมื่อมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม แล้วจะมีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมด้วยจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : น่าจะเป็น ถาม : จะเป็นบรรลุพร้อม ๆ กันหรือเปล่า ? ตอบ : เกิดไม่ทันจ้ะ เลยตอบไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:32 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ถ้าเกิดเรามีของทำบุญแล้ว ทีนี้เราโทรไปถามเพื่อนว่าจะร่วมทำบุญด้วยหรือเปล่า เขาก็ร่วมทำบุญกับเรา แล้วให้เราออกเงินทำบุญใส่ซองไปก่อน แล้วเอาเงินนั้นมาจ่ายเราทีหลัง เงินนั้นเราเอามาใช้จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่เกินราคาของที่ทำบุญใช้ได้ มีโทษคือใช้แล้วเงินหมด..! ถาม : แล้วถ้าเกิดว่าเกินนี่อย่างไรครับ ? ตอบ : ถ้าไม่เอาไปถวายวัดก็ติดหนี้สงฆ์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:33 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ในหนังสือสมบัติพ่อให้เขียนว่า พุทธาภิเษกที่ตึกรับแขก วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ซึ่งเป็นพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปบูชา แต่คุณวิมาลี ศิรประภาชัยได้ขออนุญาตหลวงพ่อนำส่วนที่สร้างถวายเข้าพิธีนี้ด้วย วันรุ่งขึ้นก่อนหลวงพ่อรับแขกท่านเล่า “เมือคืนปลุกเสกพระหมาไม่หอน งวดนี้ไม่ให้หมาเห็น เพราะ ๒ งวดก่อนให้หมาเห็นเห่ากันเจี๊ยวจ๊าว รุ่นนี้แอบไม่ให้หมาเห็น เมื่อคืนปลุกรุ่นยันกลับ ใครทำไม่ดียันกลับหมด” ผมอ่านคำสนทนาของพระอาจารย์ ณ บ้านอนุสาวรีย์ พ.ศ.๒๕๔๔ เห็นว่าหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านให้เข้าพิธีใหม่ ผมขอโอกาสถามว่า ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านบอกว่า “เมื่อคืนปลุกรุ่นยันกลับ” คือรุ่นไหนครับ ?
ตอบ : เมื่อคืนอาตมาหลับ ก็เลยไม่รู้ว่ารุ่นไหน..! ถาม : แล้วรุ่นยันกลับที่หลวงพ่อวัดท่าซุงทำนี่รุ่นไหนครับ ? ตอบ : ไม่ต้องเลือกรุ่นหรอก ถ้าใครมาใกล้ ๆ ก็ยันได้ทุกคนแหละ..! ถาม : ที่หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๓ เป็นล็อกเก็ต มีลักษณะไหนครับ ใช่เหรียญของขวัญวันเกิดรุ่นสุดท้ายหรือไม่ครับ ? ตอบ : เห็นทางวัดท่าซุงเขาบอกว่ารุ่น ๓ คือรุ่นที่เป็นเหมือนพระพุทธชินราช ถาม : แต่ล็อกเก็ตนี่คือรุ่นสุดท้ายใช่ไหมครับ ? ตอบ : ก็แล้วแต่จะนับ เหมือนกับการสังคายนาพระธรรมวินัย บางรายก็นับไป ๗ - ๘ ครั้ง บางรายก็นับแค่ ๓ ครั้ง แล้วแต่ว่าเชื่อตรงไหน ถาม : แล้วมีข้อสรุปไหมครับว่าตกลงมีมาแล้วกี่ครั้ง ? ตอบ : นักวิชาการเอาแค่ ๓ ครั้งแรก ถาม : แล้วทำไม ๔ ครั้งหลังนี่เขาไม่นับล่ะครับ ? ตอบ : นอกจากหลักฐานไม่ชัดเจนแล้ว ยังเป็นการแค่ทวนความเฉย ๆ การสังคายนาต้องมีสาเหตุที่จะทำเพื่อความบริสุทธิ์ของพระธรรมวินัย แต่การสังคายนาครั้งที่ ๔ และ ๕ เป็นการทวนความเฉย ๆ ไม่ได้มีสาเหตุ ครั้งที่ ๑ สาเหตุคือการจาบจ้วงพระธรรมวินัยของสุภัททปริพาชก ครั้งที่ ๒ เป็นการไม่เสมอกันในศีลของภิกษุชาววัชชี ที่ไปตีความเองว่าน่าผ่อนผันได้อย่างนั้นอย่างนี้ ครั้งที่ ๓ มีพวกเดียรถีย์ปลอมบวชเข้ามามากแล้วอ้างพระธรรมวินัยผิด ๆ ส่วนครั้งที่ ๔ - ๕ นั้น ท่านทำลักษณะทวนของเก่า เหมือนอย่างกับว่าสวดดูว่ายังจำได้ไหม ไม่ได้มีสาเหตุในการปกป้องพระธรรมวินัย การสังคายนาพระธรรมวินัยคือการทบทวนว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอะไรไว้ อันดับแรกถ้าได้บุคคลที่ทันในยุคสมัยนั้นได้ยิ่งดี เพราะจะได้ยืนยันในคำสอนนั้น ๆ อันดับที่ ๒ ผู้ที่เข้าร่วมในการสังคายนาพระธรรมวินัยควรจะเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ เพราะว่าทุกท่านสามารถที่จะติดต่อตรงกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถยืนยันคำสอนนั้นได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ดังนั้น..ก็เลยมีแบบธรรมเนียมปฏิบัติในลักษณะที่ว่า อย่างน้อย ๆ บุคคลที่เข้าสังคายนาก็ควรจะเป็นพระอรหันต์ระดับปฏิสัมภิทาญาณขึ้นไป ส่วนเมื่อไม่กี่วันก่อนที่มีข่าวว่าขุดพบอาคารสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็เอาไปพิสูจน์อายุของเนื้อไม้ตามแบบที่ฝรั่งเขาเรียกว่าคาร์บอน ๑๔ ได้อายุออกมา ๖๒๕ ปี (ก่อนคริสตกาล) ก็เชื่อว่าพระพุทธเจ้าอาจจะเกิดก่อนหน้าที่พวกเราเชื่อถือกันเป็น ๑๐๐ ปี ว่าอย่างนั้น แต่อาตมาดูแล้วไม่เห็นมีอะไรต่างเลย เพราะว่าปัจจุบันของเราอายุพุทธศาสนาก็คือมากกว่าศาสนาคริสต์ ๕๔๓ ปี ถ้าบวกอายุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไป ๘๐ ปีก็คือ ๖๒๓ ปีพอดี ก็แปลว่าไม่มีอะไรผิดพลาดไปจากที่เขาวิเคราะห์ออกมา ฉะนั้นไม่ใช่ข่าวใหญ่ แล้วก็ไม่ใช่ข่าวใหม่ แต่รู้สึกว่าแวดวงวิชาการเขาตื่นเต้นกันมากว่าเป็นของใหม่ จะต้องปรับเรื่องวัน เดือน ปีในการประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งไกลเกินไป เขาบอกว่าอายุไม้นั้นเกิดก่อนคริสตศักราชประมาณ ๖๒๕ ปี คราวนี้พอเราเอา ๕๔๓ บวกด้วย ๘๐ ได้ ๖๒๓ ต่างกัน ๒ ปีเท่านั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าฝรั่งจะโม้ว่าวิธีการของเขาแม่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อาตมาไม่เห็นความต่างของ ๒ ปีเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:37 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผมจะไปบวชธุดงค์ที่วัดท่าซุง ขอคำแนะนำว่าควรปฏิบัติและทำกำลังใจอย่างไรครับ ?
ตอบ : ควรปฏิบัติอย่างไร ? “ปฏิบัติตามระเบียบวัดท่าซุง” ทำกำลังใจอย่างไร ? “ตายแน่” คนเราถ้านึกถึงความตายเป็นปกติ จะไม่ประมาทในชีวิต ถ้าตายแล้วไปอบายภูมิถือว่าขาดทุนมหาศาล ในเมื่อรู้ตัวอย่างนั้นก็ต้องตะเกียกตะกายให้เต็มที่ ไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ หลุดพ้นไปพระนิพพานได้เลยยิ่งดี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:38 |
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "กรรมอทินนาทานมักจะเสียทรัพย์สิน เราดูอย่างพายุไห่เยี่ยนล่อเสียราบเป็นหน้ากลองเลย เราคงไม่เคยคิดว่ามีบ้านอยู่ดี ๆ จะโดนลมยกไปทั้งหลัง แล้วส่วนใหญ่ที่โดนพร้อม ๆ กันก็มักจะเป็นประเภทถึงเวลาก็ยกกองทัพไปตีบ้านตีเมืองเขา มาทีก็กวาดราบเป็นหน้ากลองไปเลย ไม่ต้องห่วง คนทองผาภูมิร่วมกันบริจาคช่วยบรรเทาภัยจากพายุ ส่งของไปฟิลิปปินส์หลายตันแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2013 เมื่อ 15:39 |
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์เล่าว่า "นึกถึงตอนที่หลวงพ่อวัดท่าซุงไปอเมริกา ท่านนำญาติโยมกับพระตามไปทั้งหมด ๔๒ รูป ชุดนั้นได้วีซ่าอเมริกาตลอดชีวิตหมดเลย แล้วตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม รู้อยู่อย่างเดียวว่าพระท่านช่วย พอมาท่านเจ้าคุณแย้ม (พระราชวิริยาลังการ) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงรูปปัจจุบันบอกว่า “ผมจะไปอเมริกา ปรากฏว่าวีซ่าไม่ผ่าน เขาบอกว่าถ้าอยากให้วีซ่าผ่านให้ไปขอลายเซ็นคน ๒ คนมาให้ได้” ถามว่าลายเซ็นใคร ? “นายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ได้ก็เอาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ”
เขาบอกว่าไม่รู้ว่าสถานทูตอเมริกาให้สิทธิพิเศษอะไรหลวงพ่อ ถ้าท่านเซ็นรับรองเขาจะออกวีซ่าให้เลย แล้วท่านบอกว่า "ผมจะไปเอาลายเซ็นนายกฯ ที่ไหน เพราะว่าตอนนั้นยังเป็นมหาแย้มอยู่เลย แล้วหลวงพ่อฤๅษีลิงดำผมก็ไม่รู้จัก.." ท่านเล่าให้ฟังแล้วก็ตลกดี ท่านบอกว่า "จนกระทั่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมรณภาพแล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าวัดท่าซุงอยู่ที่ไหน ?" จะเห็นได้ว่าเรื่องของบารมีพระเป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึง ปี ๒๕๓๒ ถ้าจำไม่ผิดนะ ช่วงปลายปี หลวงพ่อบุญรัตน์รับสัญญาบัตรพัดยศที่ พระครูปิยรัตนาภรณ์ ท่านก็โทรศัพท์มาหา ขอให้ไปช่วยงานหน่อย ก็ลาหลวงพ่อขึ้นไปพร้อมกับท่านชาติชาย ปรากฏว่างานพระราชทานมีในวิหารวัดพระสิงห์ อาตมาก็ไป ปรากฏว่าพระผู้ใหญ่นั่งอยู่เต็มไปหมด ก็ย่อง ๆ ไปนั่งกับเขา ใกล้เวลาที่สมเด็จพระญาณสังวรจะเสด็จ ตอนนั้นพระองค์ท่านเพิ่งจะขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชได้ไม่กี่เดือน พวกเจ้าหน้าที่กรมศาสนามาไล่พระที่ไม่ได้เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศให้ออกหมดเลย อาตมาหันไปบอกท่านชาติชายว่า “เอาหลวงพ่อนั่งบนหัวไว้ ดูว่าเขาจะกล้าไล่ไหม ?” จับภาพหลวงพ่อนั่งบนหัวอย่างชัดเจนเลย นั่งไม่รู้ไม่ชี้ เขาไล่ออกหมดเกลี้ยง เหลือไอ้เด็กน้อย ๒ คนนั่งอยู่หน้าตาเฉย หลังจากนั้นบรรดาเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดก็ตามขบวนสมเด็จพระสังฆราชเข้ามา พอสมเด็จพระสังฆราชเห็นพวกอาตมา ๒ คนนั่งอยู่ก่อน ท่านก็พระราชทานย่ามให้คนละใบ เพราะฉะนั้น..เราต้องเชื่อเรื่องของคุณพระ คืออยากรู้ว่าเจ้าหน้าที่ข้าราชการตัวกระเปี๊ยกจะเอาบารมีที่ไหนมาไล่หลวงพ่อวัดท่าซุง แต่วิธีนี้รังแกชาวบ้านเขาเกินไป อย่าทำบ่อยนัก อาตมาก็ทำครั้งนั้นครั้งเดียว ย่ามที่สมเด็จพระสังฆราชประทานให้ก็ยังเก็บอยู่จนทุกวันนี้ แต่ว่าถ้างานพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศของหลวงพ่อองอาจ วัดวีระโชติฯ ท่านต้องไปรับที่นครพนม เพราะว่าของท่านสังกัดคณะสงฆ์หนตะวันออก รับที่วัดพระธาตุพนม ลองไปดูก็ได้นะ วิ่งรถเป็นวันเลย แล้วก็มีหลวงพี่อาจินต์จากวัดท่าซุง แต่ว่าได้ในนามของวัดไทยที่เยอรมัน ของหลวงพี่อาจินต์ท่านรับที่วัดพนัญเชิง เพราะว่าอยู่หนกลาง บรรดาต่างประเทศนี่เขาเอาลงสังกัดหนกลางหมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2013 เมื่อ 01:48 |
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ต้องขอโมทนากับญาติโยมทุกท่าน ที่ร่วมด้วยช่วยกันซื้อเครื่องมือแพทย์มอบให้กับทางโรงพยาบาลทองผาภูมิ โรงพยาบาลทองผาภูมิได้อาคารผู้ป่วยนอกใหม่เพิ่มมาอีก ๑ หลัง คราวนี้อาตมาจับพลัดจับผลูท่าไหนก็ไม่รู้ กลายเป็นประธานการพัฒนาโรงพยาบาล หาเงินให้เขามา ๒ ปีแล้ว ปีนี้เป็นปีที่ ๓
ที่น่าสงสารที่สุดก็คือ อาตมาเองตื่นขึ้นมาก็เจอว่าพระไพรีพินาศหมดแล้ว เขาแอบไปแย่งกันตอนที่อาตมาหลับ เปิดกระทู้ตอน ๒ ทุ่ม ยังไม่ทันจะ ๓ ทุ่มเลย พระก็หมดแล้ว แต่ถ้าโอนไม่ทันวันที่ ๕ นี้เขาตัดสิทธิ์นะจ๊ะ มีผู้จองสำรองไว้บานเลย แล้วก็โปรดทราบว่า งานนี้คนที่จองสำรองก็มีสิทธิ์อด เพราะว่าจำนวนยอดการสร้างพระ อาตมาสั่งโรงงานผลิตไปแน่นอนแล้ว ถ้าช่วงที่ยังไม่สั่ง ยังสามารถเพิ่มยอดได้ ตอนนี้สั่งการไปจนเขาผลิตจะเสร็จอยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง..ราคาที่กำหนดคือกำหนดตามราคาเม็ดเงินและค่าการผลิต ในช่วงนั้นเงินกับทองเหมือนกัน ก็คือราคาขึ้น ๆ ลง ๆ ถ้าใครที่ไม่ได้วัตถุมงคลชุดที่สร้างเครื่องมือแพทย์ ก็ไปรอปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน อาตมาจะให้สิทธิ์บูชาอีกชุด พอบอกว่าองค์ละ ๑,๕๐๐ บาท คนทำได้ยินแทบช็อก จะเอากำไรที่ไหนมา พระหน้าตัก ๑.๕ เซนติเมตร เนื้อเงินแท้ทั้งองค์ รับรองว่าท้องตลาดต้องมีคนมาด่าอาตมาอีก ว่าไปทำราคาเขาเสียหมด แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ด่าก็คือคุณล้อมเดช อาตมาตั้งราคาถูกเท่าไร คุณล้อมเดชก็ได้กำไรมากเท่านั้น เขาเอาไปปล่อยเสียแพงหูดับไปเลย..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมว่า "เป็นอย่างไรจ๊ะ ติดม็อบนกหวีดกันหรือเปล่า ? เฮ้อ...ไม่รู้บ้านเมืองเราจะเป็นอย่างไรต่อไป โบราณเขาบอกว่าได้คืบจะเอาศอก ถ้ารัฐบาลถอยในเรื่องพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แล้วเลิกม็อบ การเลือกตั้งครั้งต่อไปเขามีสิทธิ์ชนะสูงมาก แต่คราวนี้ไม่ยอมเลิก ในเมื่อไม่ยอมเลิก สร้างความเดือดร้อนให้กับคนส่วนรวม โปรดระวังพลังเงียบไว้ด้วย คนที่เขาเดือดร้อนแล้วอยู่เฉย ๆ ก็ดี แต่ถ้าเขาเดือดร้อนแล้วไปแสดงออกด้วยการเลือกพรรคฝ่ายตรงข้าม คุณจะเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:13 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ล้มทับแขนตัวเองหัก
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ได้รับการฝึกมาจริง ๆ จะเป็นสัญชาตญาณเลยว่า เวลาล้มเราต้องใช้มือข้างที่ถนัดลงไปค้ำทุกครั้ง อาตมาเองยังไม่รู้ว่าแก่กว่านี้ ยังจะทำได้เหมือนปัจจุบันหรือเปล่า ? เพราะปัจจุบันนี้ล้มไม่เป็น ลื่นแค่ไหนก็ไม่ล้ม ความเคยชินที่ฝึกมาจะหาจุดสมดุลของตัวเองได้ แต่พอแก่ไปกว่านี้แล้ว ประสาทร่างกายล้า เฉื่อยชาลงไป อาจจะขยับตัวหาความสมดุลไม่ทัน ปัจจุบันเวลาลื่น บางทีคนเขาเห็นทางลื่นยาวเป็นเมตรเลย “ทำไมอาจารย์ไม่ล้ม ?” ถ้าแก่กว่านี้ต้องอาศัยเทวดาช่วยค้ำ ...(หัวเราะ)... ตอนนี้ยังพอที่จะค้ำตัวเองได้อยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:15 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมที่บูชาพระเนื้อทองคำมาว่า "ได้พระมาแล้วโปรดระวัง อย่าทำให้ท่านกลายเป็นพระลาว (จมูกบี้) เพราะว่าทองคำเนื้อจะอ่อนมาก เนื่องจากว่าอาตมาใช้ทองคำแท่ง ไม่มีส่วนผสมอื่น ดังนั้น..ถ้าเผลอกดโดนพระนาสิกจะบี้ ถ้าเป็นเซียนพระก็คือหมดราคาไปเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:16 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ทำบุญด้านใดจึงจะได้หลักในการปฏิบัติธรรมตั้งแต่อายุยังน้อยคะ ?
ตอบ : สมาธิอย่างเดียวเลยจ้ะ ถ้าสมาธิทรงตัวได้ตั้งแต่ระดับอุปจารสมาธิขึ้นไป จะเริ่มเห็นผลของการปฏิบัติ โดยเฉพาะถ้าปีติเกิด คราวนี้ก็จะทำไม่ยอมทิ้งแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:16 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ตอนเย็นต้องมีการทดลองวิทยาศาสตร์ ต้องทำให้สัตว์ตาย จะมีการอธิษฐานเพื่อหลีกเลี่ยงอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องคิดว่า สิ่งที่เราทำนี้เป็นความรู้ ในเมื่อเป็นความรู้ก็แปลว่าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมทาน ให้อุทิศส่วนกุศลที่เป็นธรรมทานนี้ให้แก่สัตว์ที่ตาย ให้เขาไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ จำไว้ว่า..เราไม่อยากทำหรอก แต่คราวนี้สภาพนั้นบังคับ ก็ทำเฉพาะช่วงนั้น ไม่ได้ทำตลอด ๒๔ ชั่วโมง แล้วก็ไม่ได้ทำทุกปี เวลาที่เหลือเราก็รักษาศีลปฏิบัติธรรมของเราให้เต็มที่ไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การปล่อยปลาที่ท่าน้ำที่มีเรือผ่าน เราก็หลีกเลี่ยงไม่ให้ใกล้เรือ จะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ได้...แต่อย่าให้คนไปรอช้อนก็แล้วกัน ก่อนปล่อยเอาถุงหรือว่าถังที่ใส่ปลาเปิดให้น้ำเข้าไปสักหน่อยก่อน ให้ปลาชินกับน้ำใหม่ พอเปิดเข้าไปจนปลาชิน ปลาก็จะเริ่มหาทางออกแล้ว เราค่อยเทลงน้ำไป ถ้าเทลงไปเลยทีเดียวปลาจะช็อกน้ำใหม่ แล้วจะไปไหนไม่เป็น โดนเขาจับไปหมด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:19 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ถ้าอยากมีโอกาสในการช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ต้องอธิษฐานอย่างไร ?
ตอบ : ไม่ต้องอธิษฐาน ถึงเวลาก็ทำเลย ทำเพื่อพระศาสนา ทำเพื่อมรรคผลพระนิพพานของตัวเอง การปฏิบัติเพื่อมรรคผลพระนิพพานของตัวเอง คือการทำเพื่อพระศาสนาอยู่แล้ว ถ้าศีล สมาธิ ปัญญาของเราดี สร้างความเลื่อมใสให้กับคนอื่น ทำให้เขาหันเข้ามาทำนุบำรุงพระศาสนากันมากขึ้น แล้วปฏิบัติตามหลักพระศาสนามากขึ้น คือการที่เราช่วยอย่างเต็มที่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:20 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ไปปฏิบัติธรรม สักพักมีครูบาอาจารย์ทักว่าเป็นพุทธภูมิ ?
ตอบ : ไม่เห็นยาก..ก็ลาพุทธภูมิ ถาม : ลาอธิษฐานกับพระหรืออย่างไรคะ ? ตอบ : จ้ะ..ใช้ธูป ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม บัวขาว ๕ ดอก จุดธูปเทียนบูชาพระ ถวายดอกบัวไป อธิษฐานว่าถ้าข้าพเจ้าเคยปรารถนาพระโพธิญาณมาในชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอละซึ่งความปรารถนานั้น จะขอปฏิบัติตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ ถาม : แค่นี้หรือคะ ? ตอบ : แค่นั้นแหละจ้ะ ถ้าทำมากกว่านั้นเดี๋ยวจะให้ไปตีลังกาทำ ง่ายเกินไม่ชอบใช่ไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนแรกตั้งใจว่าเดือนมกราคมจะไปงานรับปริญญาของเด็ก ๆ ที่อังกฤษ เลื่อนไปเลื่อนมา ในที่สุดเขาไปลาได้เอาวันที่อาตมาติดงาน จึงไม่ต้องไปแล้ว
ส่วนใหญ่แล้วงานของอาตมาต้องนิมนต์กันข้ามปีถึงจะได้ตัว บางทีถ้าไปติดที่เขานิมนต์ไว้แล้วก็ไม่ได้อีก ปีหน้างานหลวงตาวัชรชัยไม่รู้ว่าจะหนีไปได้หรือเปล่า ? เพราะตอนแรกท่านบอกไว้ว่า ท่านจะจัดประมาณวันที่ ๒๖-๒๗ เมษายน คือหลวงตาวัชรชัยท่านเกิด ๒๙ เมษายน แต่ที่ไปจัดวันที่ ๑ พฤษภาคมเพราะว่าเป็นวันหยุดแน่ ๆ คราวนี้พอท่านบอกวันที่ ๒๖-๒๗ เมษายน อาตมาก็เตรียมล็อกวันไว้ให้ท่าน แต่ปรากฏว่าท่านขยับมาจัดวันที่ ๑ พฤษภาคมใหม่ คราวนี้พอเตรียมวันให้ท่าน งานที่อาตมาควรจะรับในวันที่ ๑ พฤษภาคมก็รับไปแล้ว ก็แปลว่าไปงานท่านไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:23 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|