#21
|
||||
|
||||
![]()
ใครต้องการจะร่วมบุญนี้ สามารถร่วมบุญกับหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ลองเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก น่าจะมีวิธีติดต่อหรือว่าร่วมบุญอยู่ในนั้น
อาตมภาพเล่นเฟซบุ๊กไม่เป็น ไม่มีเฟซฯ ไม่มีไลน์ ไม่มีอินสตาแกรม มีแต่อีเมล์ให้ลูกศิษย์ส่งการบ้านเท่านั้น ในส่วนไลน์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยืมมาจากน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) เพราะว่าโดนเจ้านายด่า โทษฐานที่เป็น "คนหลังเขา" สั่งงานแล้วไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว ความจริงเจ้านายน่าจะด่าลูกน้องตัวเองมากกว่า เพราะเลขานุการต้องรู้ว่าอาตมามีอีเมล์อยู่แต่ดันไม่ส่ง เขาส่งแต่ในกลุ่มไลน์เท่านั้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2025 เมื่อ 02:15 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
![]()
ญาติโยมอย่าลืมไปหาอาหารกิน ไปเข้าห้องน้ำห้องส้วมให้ดีก่อน แล้วคำนวณเวลาดูว่าเราสามารถอั้นจนอย่างน้อย ๑๐ โมงครึ่งได้หรือเปล่า ?! เนื่องเพราะว่าพิธีอาราธนาบารมีพระ เพื่อเป่ายันต์เกราะเพชรสงเคราะห์ทุกท่าน จะเริ่มตอน ๑๐ โมงตรง โดยเฉพาะปีนี้ ญาติโยมทางราชอาณาจักรนอร์เวย์ ก็คือทางวัดสันโป่ง เมดิเตชั่น เซ็นเตอร์ ฮกซุน ขออนุญาตรับยันต์เกราะเพชรจากราชอาณาจักรนอร์เวย์
ญาติโยมที่รับยันต์เกราะเพชรในสถานที่อื่นนอกเหนือจากที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ พอมีเหตุการณ์แปลก ๆ บางทีก็จัดการไม่ถูก มีญาติโยมครอบครัวหนึ่ง ลูกสาวก็อายุ ๕๐ กว่าแล้ว ลองนึกว่าดูพ่อแม่จะอายุเท่าไร ? เมื่อรับยันต์ไปแล้ว ปรากฏว่าลูกสาวกรีดร้องโหยหวนลั่นบ้าน พ่อแม่ก็ไม่ฟังเสียงแล้วว่าอาตมาพูดว่าอะไร ทั้ง ๆ ที่บอกไปแล้วว่าให้ภาวนาไปเฉย ๆ ไม่ต้องสนใจ เดี๋ยวเทวดาท่านจัดการให้เอง ปรากฏว่าพ่อกับแม่ลืมแก่ ช่วยกันเอาธูปเทียนที่รับยันต์ฟาดลูกเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะไปฟาดใส่หน้า ยังดีที่ไม่ทิ่มลูกสาวตัวเองตาบอดไปก่อน..! สอบถามทีหลังได้ความว่า ลูกสาวมีสิ่งไม่ดีแฝงมากับตัว พอเห็นเทวดาที่มาควบคุมสถานที่ก็กลัว ส่งเสียงร้องขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ มีสติรู้อยู่แต่ห้ามตัวเองไม่ได้ บอกให้พ่อหยุดตี พ่อก็ไม่ฟังเสียง คิดว่าตีแล้วผีมันกล้ว ความจริงลูกสาวกลัวว่าจะโดนธูปทิ่มตาบอดมากกว่า..! เพราะฉะนั้น..พอถึงเวลา ถ้ามีใครเป็นแฟนคลับพวกนักดนตรีหรือว่าดารา เริ่มเป่ายันต์ฯ แล้วกรี๊ดขึ้นมา..! ก็ปล่อยเขากรี๊ดให้พอ ไม่ต้องไปสนใจ แล้วญาติโยมเชื่อไหมว่า ศาลาที่นั่งกันแน่นจนไม่มีที่ให้ขยับ พอมีคนกรี๊ดขึ้นมา มีที่ว่างโล่งเลย..! ขยับไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ? เพราะฉะนั้น..ถ้าอยากนั่งให้ได้เยอะ ๆ ก็ต้องกรี๊ดกันหลาย ๆ คนหน่อย..! บรรดาไสยเวทย์อาคม คุณผีคุณคนต่าง ๆ เมื่ออยู่ในพิธี ไม่สามารถที่จะต้านพุทธานุภาพได้ ดังนั้น..ก็จะโดนทำลายไปในที่สุด ยกเว้นพวกผีที่โดนเขาใช้มา ต้องอาศัยบารมีท้าวมหาราชทั้ง ๔ ให้ลูกน้องลากกันออกไป มีอยู่รายหนึ่งวิ่งออกจากศาลานี้ไปที่ป่าช้า คิดว่าจะหนีรอด เขาไม่รู้ว่าการเป่ายันต์นั้นสามารถคลุมได้ทั้งโลก หนีไปที่ไหนก็ไม่รอด ก็เลยไปแหกปากร้องอยู่ในป่าช้าคนเดียว ไม่ต้องรบกวนใคร..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2025 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
![]()
ด้านหน้านั่งชิดเครื่องบายศรีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ขยับขึ้นไปเลย ข้างนอกยังอยู่กันอีกมาก ขยับเข้าไปใกล้เท่าไรก็ดีเท่านั้น เพราะว่าบายศรีเหมือนสัญลักษณ์การบูชาพระ ถึงเวลาท่านแผ่บารมีลงมาก็จะผ่านตรงนั้นก่อน เบียดขึ้นหน้ากันหน่อย เจ้าหน้าที่ไปไหนหมด เริ่มจัดระเบียบโยมได้แล้ว เพราะว่าด้านนอกยังมีอีกมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 00:55 |
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
![]()
ระยะหลังต้องบอกว่าพวกบารมีสูงมาเกิดกันมาก คนโน้นก็ทำวัตถุมงคลรูปท้าวมหาราช คนนี้ก็ทำวัตถุมงคลรูปท้าวมหาพรหม ขอบอกว่ามีโอกาสขาดทุนสูงมาก เพราะอันดับแรก มีการบวงสรวงบอกกล่าว ขอกับท่านอย่างถูกต้องหรือเปล่า ?
ประการที่สอง เราขอบารมีท่านสงเคราะห์ หรือว่าใช้ให้ท่านทำงาน ? ต่อให้เทวดาหางแถว บารมีก็มากกว่ามนุษย์หัวแถว แล้วไอ้มนุษย์ท้ายแถวอย่างเราไปใช้ให้ท่านทำงาน..! โปรดระวังไว้ด้วย..วันไหนบุญไม่พาวาสนาไม่ช่วย ช่วงอกุศลกรรมแทรกพอดี จะมีของแถมหนัก ๆ ให้..! คล้าย ๆ กับสมัยนี้ วัดโน้นก็สร้างสมเด็จองค์ปฐม วัดนี้ก็สร้างสมเด็จองค์ปฐม กระผม/อาตมภาพเคยถามว่า "สมเด็จองค์ปฐมเป็นเพื่อนคุณหรือเปล่า ? นึกอยากจะสร้างก็สร้าง นึกอยากจะทำก็ทำ ได้บอกกล่าวท่านสักคำหนึ่งไหม ?" ที่จังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง มีวัดแห่งหนึ่งสร้างรูปสมเด็จองค์ปฐมสูง ๘ ศอก ใช้ช่างคนเดียวกับวัดท่าขนุน ใช้ฤกษ์ในการหล่อฤกษ์เดียวกับวัดท่าขนุน แต่หล่อ ๔ ครั้ง พังบรรลัยทั้ง ๔ ครั้ง..! เนื่องเพราะว่าไม่รู้จักท่าน ไม่ได้ขออนุญาตท่าน เห็นแต่ว่ามีคนเคารพสมเด็จองค์ปฐมมาก กูก็จะสร้างบ้าง..! ดังนั้น..ในเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลก็ดี การใช้วัตถุมงคลก็ตาม ถ้าหากว่าทำได้ถูกต้องก็เป็นคุณแก่ตัว ถ้าทำผิดพลาดอาจจะมีโทษที่คาดไม่ถึง..! แต่ด้วยความที่ผู้คนสมัยนี้ สภาพจิตหยาบมาก ความเคารพในพระรัตนตรัยมีน้อย แล้วแถมยังไม่ถือโบราณอีกต่างหาก เราจะเห็นว่าโบราณทำอะไรจะมีการบอกกล่าวอยู่ก่อนเสมอ กระทั่งจะเข้าป่าเข้าดง ก็ยังมีการกราบไหว้ มีการเซ่นสรวง มีการบอกกล่าวว่าตนเข้าไปเพื่อทำอะไร แม้กระทั่งเข้าไปล่าสัตว์ ก็ยังขอว่า "สัตว์ตัวใดถึงอายุขัย ก็ขอให้มาเจอกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 00:59 |
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
![]()
สมัยหลังไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ถ้ายังบุญรักษาเทวดาคุ้มครองก็แล้วไป ถ้าหากว่าช่วงไหนดวงตก กุศลกรรมขาดช่วงลง อกุศลกำลังเข้าสนอง จะได้รางวัลใหญ่ที่นึกไม่ถึง..!
คนรุ่นก่อน ๆ ถึงได้มีคำพูดประเภทว่า "ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่" แต่สมัยนี้ก็มักจะลบหลู่กันไปเรื่อย มีคนถามว่า "พระที่มรณภาพแล้วไม่เน่า มีคุณงามความดีอะไร ?" เขาก็ตอบว่า "จะมีความดีอะไร หมาหมูตายแล้วไม่เน่ามีเยอะแยะไป..!" เราจะเห็นว่าสภาพจิตของคนหยาบยังไม่พอ ยังขาดการศึกษาให้รู้จริง แล้วก็ไปสร้างกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเพิ่มขึ้น เรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่จะไปรู้ตัวกันตอนตาย ซึ่งแก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว ใครที่รู้ตัวล่วงหน้า กราบขอขมาพระรัตนตรัยได้ทันท่วงทีก็ดีไป ถ้าหากว่าไม่ทัน มีโอกาสอาตมภาพจะไปเยี่ยม แต่คงจะไม่มีโอเลี้ยงข้าวผัดไปส่ง เพราะว่าที่นั่นกินอะไรไม่ได้ ถึงเวลาอยู่ในเขตนั้นก็จะโดนลงโทษอย่างเดียว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 01:00 |
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
![]()
ท่านใดที่ตั้งใจรับยันต์เกราะเพชร ถ้ายังไม่มีธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่มอยู่ในมือ รีบไปเอาที่หน้าโบสถ์โดยด่วน เครื่องมือรับยันต์เพียงหนึ่งเดียวที่กำหนดเอาไว้ บารมีพระที่แผ่ลงมาเหมือนกับสถานีกระจายคลื่น เครื่องมือในการรับคือธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม แสดงออกว่าเราตั้งใจที่จะรับ ก็เท่ากับว่าเป็นเครื่องรับสัญญาณ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 01:01 |
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
![]()
ท่านที่อยู่ต่างประเทศเทียบเวลาให้ดี ถ้าเปิดถ่ายทอดสดอยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าหลายประเทศเวลาต่างจากเมืองไทยมาก อาตมภาพยังหลงไปทีหนึ่ง ราชอาณาจักรนอร์เวย์เวลาช้ากว่าเรา ๕ ชั่วโมง ก็เลยไปคิดว่าเราเป่ายันต์รอบแรก ๑๐ โมงเช้า จะเป็นเวลาบ่าย ๓ โมงของที่นั่น แต่ความจริงแล้วเข้าใจผิด เวลา ๑๐ โมงเช้าบ้านเราก็เท่ากับตี ๕ ของที่นั่น..! ตอนนี้ก็นั่งตาตี่ สัปหงกไปตาม ๆ กัน เพื่อที่จะรอเวลารับยันต์ที่เมืองไทย
แต่ต้องบอกว่าท่านทั้งหลายกำลังใจดีมาก ไม่เคยตื่นเวลานี้ก็ตื่นได้ ไม่เคยต้องมาลำบากลำบน ทนง่วงทนหนาวก็ทนได้ บุคคลประเภทนี้ถึงคู่ควรกับสิ่งที่ดีงาม เพราะว่ากำลังใจและความประพฤติของท่าน บ่งบอกให้รู้ว่าควรแก่งานประเภทนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 01:02 |
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
![]()
กระผม/อาตมภาพอยากจะผลักภาระเรื่องการเป่ายันต์เกราะเพชรให้พ้นตัวเสียที แต่พระและครูบาอาจารย์ก็ยังไม่ให้ครอบครูแก่ลูกศิษย์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องทนไปอีกกี่ปี ?
เรื่องของการ "ครอบครู" บางคนก็เรียกว่า "ยกขันครู" "รับขัน" แล้วแต่จะเรียกกันไป เป็นสัญลักษณ์ว่ายอมรับนับถือและปฏิบัติตามสายวิชาการนั้น ๆ โดยเฉพาะการครอบครูเพื่อเป่ายันต์เกราะเพชร ผู้ทำการครอบครูต้องบอกกล่าวฝากฝังกับครูบาอาจารย์ทั้งหลายให้กับลูกศิษย์ โดยเฉพาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2025 เมื่อ 01:03 |
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
![]()
ยันต์เกราะเพชรเป็นวิชาการตามตำราพระร่วงตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เป็นส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นธงออกศึกในยุคนั้น ใครที่มีสตางค์จะไปดูหนัง "พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย" ก็ได้ แต่เห็นเขาแบนกันทั้งแผ่นดิน เพราะดันไปเอาคนเขมรมาเล่น..!
ธงมหาพิชัยสงครามนอกจากมีอานุภาพคุ้มได้ทั้งกองทัพแล้ว ในส่วนคอธงเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณ คือ อิติปิ โสฯ ทั้งบท ๕๖ ตัว โบราณาจารย์ท่านนำมาเขียนลงเป็นแถว ๆ แบบตัวหนังสือจีน แต่เวลาอ่านให้อ่านตามขวาง เขาเรียกว่า "อิติปิ โสฯ ๘ ทิศ" บ้าง เรียกว่า "อิติปิ โสฯ เกราะเพชร" บ้าง แต่ว่าต้องจัดการ "ชักสูตร" เสียก่อนถึงจะสำเร็จเป็นยันต์เกราะเพชร ยันต์เกราะเพชรนั้นตามตำรากล่าวว่ามีอานุภาพมาก อันดับแรก คนที่รับไปจะไม่ตายโหง ก็คือจะไม่ตายแบบผิดปกติ อย่างเช่นว่าเครื่องบินตกตาย เพื่อนตายหน่อยเดียว พวกทำเป็นขนลุกขนพอง รีบมารับการเป่ายันต์กันใหญ่..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
![]()
ประการที่สอง จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ อาตมภาพเองเจอมาทุกรายการ
ที่ว่าไม่ตายโหงนั้น ต้องยกตัวอย่างโยมแม่ตัวเอง โยมแม่อาตมภาพเป็นคนมีบุญมาก อยู่ห่างจากถนน ๒๐ กว่าเมตรยังมีราชรถสิบล้อวิ่งมาเกย..! รถจักรยานที่ขี่อยู่กลายเป็นเศษเหล็ก โยมแม่นั้นกระดูกข้างขวาตั้งแต่กรามลงไปถึงขาหักหมดทุกท่อน นอนห้องไอซียูไป ๑๘ วัน..! อาตมภาพไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อฤๅษีฯ กราบเรียนท่านว่า "โยมแม่โดนรถชน อาการสาหัสมาก นอนห้องไอซียูมา ๑๘ วันแล้ว เกรงว่าจะไม่รอด จึงขอถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ ฝากพระยายมราชล่วงหน้าไว้ก่อน ถ้าโยมแม่มีอันเป็นไป ขอพระยายมราชท่านช่วยแจ้งข่าวบุญนี้ให้ด้วยครับ" หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านถามว่า "แม่แกรับยันต์เกราะเพชรไปบ้างหรือเปล่า ?" กราบเรียนหลวงพ่อท่านว่า "รับไปหลายครั้งแล้วครับ" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรหรอก คนรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ได้จะไม่ตายโหง" แล้วก็เป็นความจริง เพราะว่าโยมแม่รักษาตัวอยู่ ๓ ปี ก็กลับคืนดีมาอย่างเดิม แล้วก็ขยันไม่เป็นเรื่องอีกเหมือนเดิม ถึงเวลากวาดขยะแล้วเดินข้ามถนนไปทิ้ง เพราะว่าเทศบาลเขาเอาถังขยะไว้อีกฝั่งถนน ไม่ใช่ฝั่งเดียวกับบ้าน โดนมอเตอร์ไซค์ซิ่งมาชน สะโพกหักอีก..! อะไรจะสร้างเวรสร้างกรรมไว้ขนาดนั้น ? สรุปก็คือโยมแม่สมกับที่เป็นผู้หญิง เขาบอกว่า "แก่ง่าย..ตายช้า" โดนรถชนกี่รอบรอดมาได้ทุกครั้ง หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่าเกิดจากอานุภาพของยันต์เกราะเพชร..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
![]()
อีกท่านหนึ่งเป็นดาราชื่อดังสมัยนั้น ก็คือจารุณี สุขสวัสดิ์ ไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุง น่าสงสารมาก ซูเปอร์สตาร์ไปไหนมีแต่คนรุมเป็นร้อยเป็นพันเหมือนกับน้องลิซ่าสมัยนี้ แต่ไปวัดท่าซุงไม่มีใครแลเลย ทุกคนจะทำบุญกับหลวงพ่ออย่างเดียว ต้องนั่งเหี่ยว ๆ อยู่กลางศาลา ๔ ไร่
ปรากฏว่ารับยันต์ไปแล้ว ไปถ่ายหนังเรื่อง "ลูกสาวกำนัน" เขามีฉากที่ผู้ร้ายเอาน้ำมันราดลงบนแม่น้ำแล้วจุดไฟ จารุณีต้องขับเรือด่วนพุ่งข้ามกองไฟไป แต่ด้วยความที่ไฟลุกท่วมสูงมาก กะจังหวะไม่ถูก ข้ามไปแล้วจ๊ะเอ๋ตอหม้อสะพานเข้าพอดี..ตูมเดียวกระจายทั้งลำ..! ส่วนจารุณีก็กระดูกหลังหัก รักษาตัวอยู่เป็นปีกว่าจะกลับมาดีตามเดิม ไม่ตายเหมือนกัน..! ส่วนในเรื่องของการไม่ตายด้วยสัตว์มีพิษ อาตมภาพเป็นคนลองด้วยตนเอง เจองูพิษชนิดไหนจับเล่นหมด ท้ายที่สุดก็เจอดีจนได้ เพราะว่างูกะปะจะมากินลูกไก่ตอนหัวค่ำประมาณ ๒ ทุ่ม อาตมภาพก็จับยัดเข้ากรงดักหนูไว้ พรุ่งนี้จะเอาไปปล่อย ปรากฏว่าหลังบิณฑบาตฉันเช้าเสร็จแล้ว ก็น่าจะประมาณ ๘ โมงครึ่ง เจ้างูกะปะอดมาเกิน ๑๒ ชั่วโมงแล้ว พออาตมาล้วงออกจากกรงดักหนูมา ก็ดิ้นหนี หลุดจากมือขวา อาตมภาพก็เอามือซ้ายจับ หลุดจากมือซ้ายก็มือขวาจับ หลุดจากมือขวาอีกที เพิ่งจะยื่นมือซ้ายไป โดนฉกเข้าเต็มที่เลย ชีพจรข้อมือซ้ายพอดี ทุกวันนี้ ๔ เขี้ยวยังติดอยู่ชัด ๆ ใครต้องการดูมาขอดูได้..! อาตมภาพบีบปากงูให้ง้างขึ้น กว่าจะเอาออกได้บาดแผลก็ฉีกยับเยิน เพราะว่าไอ้เจ้านี่กัดแล้วไม่ปล่อย เอางูไปปล่อยเสร็จ ก็จัดแจงเอาน้ำล้างแผล หยอดยาเบตาดีน พันผ้าก๊อซ แล้วก็ไปนอนภาวนารอเวลาตาย พวกลูกศิษย์ก็เป็นเดือดเป็นร้อนกันใหญ่ โดยเฉพาะพระที่ท่านมาจากปักษ์ใต้ บอกว่า "อาจารย์ครับ ไอ้นี่กัด ตัดแขนตัดขากันทุกคน" ก็บอกกับท่านไปว่า "ไม่เป็นไร ถ้าหากว่าผมรักษายันต์เกราะเพชรได้ ผมก็จะไม่เป็นอะไร ถ้ารักษาไม่ได้ ยันต์เกราะเพชรเขาห้ามขโมยกับห้ามกินเหล้า ถ้ารักษาไม่ได้แปลว่าผมละเมิดศีล ก็สมควรตาย..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
![]()
ปรากฏว่าพิษงูวิ่งจากข้อมือขึ้นมาถึงศอก แล้วก็ถอยกลับไปที่แผลตามเดิม ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ ๔ - ๕ ครั้ง ก็หายไปเฉย ๆ สบายดีมาจนทุกวันนี้..! แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่ต้องไปลอง เนื่องเพราะว่าพิษงูนั้นนั้นปวดสุดใจขาดดิ้นเลย เหมือนอย่างกับใครเอาเหล็กแหลม ๆ แทงเข้าไปใต้เนื้อ วิ่งถึงตรงไหนก็ปวดขาดใจถึงตรงนั้น..! แปลว่าไม่ควรที่จะทดลอง แต่อาตมภาพก็ไม่ได้เจตนาทดลอง ทว่าไปโดนกัดเอง อานุภาพยันต์เกราะเพชรที่ว่าถ้ารับไปแล้วจะไม่ตายโหง จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ จึงผ่านการทดสอบเป็นที่ประจักษ์ด้วยตนเองมาแล้ว..!
ข้อต่อไปก็คือ ใครทำไสยศาสตร์ใส่คนที่รับยันต์เกราะเพชรไป จะโดนอานุภาพของยันต์เกราะเพชรสะท้อนคืนไปจนหมด ตั้งใจทำเขาหนักแค่ไหน ตนเองก็โดนหนักแค่นั้น..! เรื่องนี้ต้องถามทิดสามารถ (นายสามารถ สุขสาธุ) อดีตหลวงพี่สามารถ ฐานิสฺสโร วัดท่าซุง ท่านธุดงค์ไปทางด้านเหนือ ไปพักอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ปรากฏว่ามีพระธุดงค์ท่านมาปักกลดอยู่ก่อนแล้ว เข้าไปพูดคุยทักทายท่านก็ไม่พูดด้วย หลวงพี่สามารถของกระผมก็สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนาตามปกติ ปรากฏว่าใกล้สว่าง พระธุดงค์ท่านนั้นมาตะโกนอยู่ข้างกลดว่า "ท่าน ๆ ผมไม่สู้แล้ว..เลิกเถอะ..!" พี่สามารถก็ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร ? เพราะว่าตัวเองก็แค่สวดมนต์ไหว้พระตามปกติ พี่สามารถออกจากถ้ำนั้นเพื่อหารถยนต์เดินทางต่อ ไปถึงท่ารถ เจอพระธุดงค์รูปนั้นแก้ผ้าแก้ผ่อนเดินอยู่ที่ท่ารถ..! ไม่ทราบเหมือนกันว่าตั้งใจจะลองของ แล้วไปทำอะไรใส่พี่สามารถก็ไม่รู้ ? ตนเองโดนอานุภาพยันต์เกราะเพชรสะท้อนกลับ กลายเป็นเสียสติ ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ แก้ผ้าอยู่กลางสาธารณชน พี่สามารถบอกว่า "ผมไม่ได้ดูว่ามันเป็นอย่างไรต่อไป เพราะว่าตัวเองจะรีบเดินทาง" แต่ก็เห็นชัดว่าถ้าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน ท่านคงไม่ได้มาบอกตอนเช้ามืดว่าให้เลิกเถอะ..ท่านไม่สู้แล้ว..! ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว รักษาเอาไว้ได้ นอกจากจะไม่ตายโหง ไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษแล้ว บุคคลใดทำไสยศาสตร์มาจะโดนอานุภาพของยันต์เกราะเพชรสะท้อนไปหมด เขาตั้งใจทำเราหนักหนาเท่าไร เขาก็ได้รับคืนไปหนักเท่านั้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:27 |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
![]()
การรับยันต์เกราะเพชรต้องมีธูป ๓ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท ๑ เล่ม ถึงเวลาอธิษฐานตั้งใจรับ บารมีพระท่านสงเคราะห์ลงมาอย่างไร เราตั้งใจรับไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะขอให้เลือดเนื้อและกระดูกทั้งหมดของเรา เป็นที่สถิตอยู่ของพุทธานุภาพด้วย ถ้าลักษณะแบบนั้นท่านไปไหนก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าเท่ากับพกยันต์ติดตัวไปตลอดเวลา
การรับยันต์นั้น บุคคลที่รับได้จะมีอาการต่าง ๆ ก็คือ บ้างก็รู้สึกร้อนหูร้อนหน้า หนักหัวหนักไหล่ บางคนปวดเมื่อยไปทั้งตัว มีหลายคนที่ไข้จับไป ๒ วัน ๓ วันก็มี โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเอง ไข้จับไป ๓ วันเต็ม ๆ..! ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ? ท่านบอกว่า "ยันต์จะเข้าตัว แต่แกฝึกสมาธิเอาไว้มาก กำลังใจก็เลยไปต้านเอาไว้ บารมีพระท่านกดลงมา ตัวเองไปต้านเอาไว้ ร่างกายรับไม่ไหวก็เป็นไข้" อาตมภาพก็เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนดื้อได้ที่เหมือนกัน ก็คือขนาดพระท่านจะสงเคราะห์ ก็ยังจะสู้อีก แต่ว่าเรื่องของสมาธิภาวนาเป็นเรื่องที่ว่าไม่ได้ ผิดท่าผิดทางเขาจะป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะกันไม่ให้รัก โลภ โกรธ หลง กินใจตัวเอง เมื่อรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ต้องรักษาศีลอย่างน้อย ๒ ข้อ ก็คือห้ามกินเหล้ากับห้ามลักขโมย คำว่าห้ามกินเหล้านั้นก็คือสิ่งที่เป็นแอลกอฮอล์ ทำให้มึนเมาขาดสติ ส่วนการลักขโมยนั้นก็ถือเอาการหยิบเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ โบราณขอศีล ๒ ข้อนี้ไว้ เพราะว่าการดื่มสุราหรือติดยาเสพติด เป็นการเบียดเบียนตนเอง สร้างความไม่สบายใจให้แก่คนรอบด้าน การลักขโมยเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น อย่างน้อยจึงควรรักษาศีลได้ ๒ ข้อ ถ้ารักษาได้ ยันต์เกราะเพชรจะคอยคุ้มครองป้องกันท่านตลอดชีวิต แต่ถ้ามีความสามารถก็รักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ ไปเลยยิ่งดี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2025 เมื่อ 01:14 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
![]()
บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชร ถ้าหากว่าผู้ที่มารับยันต์มีท้องครั้งแรก ที่เรียกว่า "ลูกหัวปี" ก็คือลูกคนโต ไม่ใช่ลูกหัวปลี ไอ้นั่นมันลูกกล้วย..! ถ้าลูกคนโตเป็นลูกผู้ชาย คลอดออกมาจะมียันต์ติดตัวมาด้วย ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นรูปยันต์เกราะเพชร แต่เป็นอักขระไม่กี่ตัว บางท่านก็เป็นจุด เป็นขีด เป็นเส้น
ลูกศิษย์อาตมภาพคนหนึ่ง ลูกสาวคลอดออกมาลายพร้อยไปทั้งตัว หมอเรียกว่า "เด็กตุ๊กแก" พยายามเจาะเลือด เจาะไขสันหลัง ไปหาสาเหตุว่าทำไมเป็นอย่างนั้น เด็กเจ็บจนทนไม่ไหว พ่อแม่ก็สงสาร เพราะว่าหมอหาเหตุไม่ได้ก็ตรวจสอบไม่เลิก จึงกระซิบบอกว่าไปอุ้มออกมา อยู่บ้านไม่เกิน ๗ วันก็จะหายไปเอง เนื่องเพราะว่ายันต์เกราะเพชรจะซึมเข้าไปอยู่ในกระดูกทั้งหมด แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือถ้าหากว่าเป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นผู้หญิง ต้องไปพิสูจน์กันตอนตาย ก็คือตายแล้วเผาจะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูกให้เห็น ล่าสุดเมื่อ ๒ ปีก่อนก็มีตัวอย่างให้เห็น อาตมภาพแนะนำว่าให้เอากระดูกกะโหลกของพ่อชิ้นนั้น เลี่ยมแขวนไว้เลย แต่ลูกไม่กล้า สมควรตาย..! ตอนอยู่ก็รักกันจัง พอตายหน่อยเดียว ขนาดมียันต์ติดอยู่บนชิ้นกะโหลก ยังไม่ยอมเอามาติดตัวเลย..! ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่รับยันต์เกราะเพชร การเป่ายันต์เขาไม่ได้เป่าทีละคน บารมีพระท่านคลุมลงมาสามารถรับพร้อมกันได้ทั้งโลก แต่ใช้คำว่า "เป่ายันต์" เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ก็แปลว่าเป่ากันทีทั้งศาลา..! ถึงเวลาเราพนมมือ หลับตา นึกถึงภาพยันต์เกราะเพชร หรือภาพพระพุทธเจ้าที่เรารักเราชอบมากที่สุด ภาวนา "พุทโธ..พุทโธ" ไปเรื่อย บอกว่าพอแล้วเมื่อไรถึงลืมตาได้ แต่บางท่านมีสิ่งไม่ดีติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็นไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ หรือคุณผีคุณคนก็ตาม ถึงเวลาท้าวมหาราชท่านจะให้ลูกน้องจัดการให้ ถ้าพวกเราได้ยินใครออกอาการผิดปกติ ดิ้นตึงตังโครมคราม หรือว่าแหกปากร้องแบบสนุกสนานมาก..! ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ ภาวนาของเราไปก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาเทวดาท่านจัดการเรียบร้อย คนที่เป็นเช่นนั้นก็จะสงบลงไปเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2025 เมื่อ 01:17 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
![]()
ท่านใดที่เป็นโรคซึ่งหมอหาสาเหตุไม่ได้ รักษาหมดเงินเท่าไรก็ไม่หาย ลองเอาน้ำมนต์เสาร์ ๕ ไปดื่มไปอาบดู ถ้ากรรมไม่หนักมากก็คงจะรักษาได้ หรือพอที่จะช่วยกันได้ มีจำหน่ายที่เต็นท์บริเวณด้านข้างโบสถ์ อย่าทำตัวน่าเกลียด ปีก่อน ๆ มีการเหมาไปจำหน่ายขวดละ ๑๐๐ บาท..! นั่นก็หากินกันเกินไป
ธูปเทียนรับยันต์เกราะเพชรที่ท่านถืออยู่ มีอานุภาพเหมือนมีดหมอ ผีเจ้าเข้าสิงที่ไหน เอาจี้ใส่ตัว แล้วว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" สามารถที่จะช่วยไล่ผีได้ แต่อาตมามักจะใช้ในการจุดอธิษฐานขอพรพระท่าน เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านสงเคราะห์แล้ว สามารถที่จะติดต่อกับท่านได้ง่ายกว่า ถ้าใครมีหลายชุดก็ยิ่งดี จะได้ขอกันบ่อย ๆ หน่อย แต่ถ้าขอมากเกินไปก็ระวังจะได้ของพิเศษแถมมาด้วย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2025 เมื่อ 01:19 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
![]()
ผีวันนี้ไม่ดื้อก็เลยไม่สนุก พอเห็นท้าวมหาราชกับริวารเท่านั้นแหละ แหกปากร้องซะไม่มี..! บอกแล้วว่าปล่อยให้เต็มที่ ก็ไปกั้นเอาไว้อีก..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เก็บตกงานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร ณ วัดท่าขนุน ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2025 เมื่อ 01:19 |
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|