กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-11-2025, 17:07
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 601
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 28,611 ครั้ง ใน 1,089 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-11-2025, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,601 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ถ้าหากว่ามีเสียงฟ้าเสียงฝนรบกวนเข้ามาในบันทึกเสียงครั้งนี้ ก็ต้องขออภัยกับทุกท่านด้วย

วันนี้กระผม/อาตมภาพไปปฏิบัติหน้าที่ในสนามสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ประจำปี ๒๕๖๘ ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เป็นวันสุดท้าย โดยมีพระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (หลวงพ่อเจ้าคุณทอมสันต์) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านเป็นประธานในพิธีเปิดการสอบวันสุดท้ายนี้

ในส่วนของโอวาทที่ท่านกล่าวถึงนั้น สะดุดหูกระผม/อาตมภาพอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า "สมัยนี้เราจะหาพระภิกษุสามเณรที่บวชเข้ามา ชนิดมอบกายถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา ยากเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่อยู่มาจนสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอก แปลว่าเป็นผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะวันนี้เป็นการสอบวิชาพระวินัยบัญญัติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับศีลพระ ก็คือในส่วนของนักธรรมชั้นโทเป็นอภิสมาจาร คือศีลที่มานอกพระปาฏิโมกข์ และในส่วนของนักธรรมชั้นเอกนั้นจะเป็นในเรื่องของสีมา

ตลอดจนกระทั่งสมบัติ วิบัติ ของกุลบุตรที่จะเข้ามาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ขอให้ทุกคนตั้งใจศึกษาและสอบให้ดี เพราะว่าเมื่อเรียนรู้แล้ว เราสามารถติดตัวไปใช้ได้ตลอดชีวิตของการเป็นนักบวช ถ้าหากว่าสามารถรักษาพระวินัยเอาไว้ได้ ต่อให้ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ท่านก็เป็นสมมติสงฆ์ที่ดีงาม ช่วยกันประคับประคองค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปได้"


ในส่วนนี้ญาติโยมทั้งหลายจะเห็นว่า ศีลพระไม่ได้มีแค่ ๒๒๗ ข้อ หากแต่มีศีลนอกพระปาฏิโมกข์มาอีกจำนวนมาก ที่เรียกว่าอภิสมาจาริยสิกขา ศีลในพระปาฏิโมกข์นั้น ท่านเรียกอาทิพรหมจริยาสิกขา ดังนั้น..สำนักไหนที่บอกว่าศีลพระมีแค่ ๑๕๐ ข้อ ก็ขอให้ญาติโยมทราบว่า ไม่น่าจะเป็นสำนักในพระพุทธศาสนาของเรา..! แต่
ตรงนี้จักไม่ขอกล่าวถึง

เมื่อพิธีเปิดเรียบร้อย ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการคุมห้องสอบจะดูแล กระผม/อาตมภาพจึงขอตัวเดินทางเข้าสู่ที่พัก ระหว่างนั้นก็ตรวจดูงานในกลุ่มไลน์และในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ส่งเข้ามาให้เป็นระยะ ปรากฏว่ามีคำถามประเภทที่กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าเคยตอบไปแล้ว แต่ท่านคงจะขี้เกียจในการค้นคว้า ประมาณว่า "ถ้าหลวงพ่อต้องพกวัตถุมงคลติดตัว จะเลือกวัตถุมงคลชนิดใดบ้าง ? หรือประเภทใดบ้าง ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2025 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-11-2025, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,601 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอตอบให้ชัดเจนในที่นี้เลยว่า กระผม/อาตมภาพนั้นชอบวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่าแต่ละอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่มีอุปเท่ห์ในการจัดสร้างและใช้สอย ที่แตกต่างหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง พูดง่าย ๆ ว่า "ทำยาก ศึกษายาก" เนื่องจากว่าเครื่องรางของประเทศไทยนั้น มีเป็นจำนวนมากมายมหาศาล และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้แหละ ที่ติดตัวบรรพบุรุษของเรา ออกศึกเสือเหนือใต้ รักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานอย่างพวกเราได้อยู่อาศัยมาจนทุกวันนี้

เนื่องเพราะว่าสมัยก่อนเขามีคตินิยมที่ว่า "พระต้องอยู่วัด" ดังนั้น..ต่อให้เป็นพระเครื่อง เมื่อถึงเวลาเสร็จศึกแล้วก็มักจะเอาไปถวายคืนวัด ติดบ้านอยู่เฉพาะเครื่องรางที่ท่านมั่นใจว่าคุ้มตัวได้เท่านั้น

แต่กระผม/อาตมภาพนั้นขอนำพระเป็นที่ตั้งเสมอ ในที่นี้ถ้าให้เลือกได้องค์เดียว ขออนุญาตเลือกสมเด็จองค์ปฐม ไม่ว่าจะเป็นของหลวงพ่อวัดท่าซุง รุ่น ๑ หรือว่ารุ่น ๒ ก็ตาม หรือถ้าหากว่าเป็นของวัดท่าขนุนเอง ก็สร้างเอาไว้มากมายหลายรุ่น เนื่องเพราะว่าสมเด็จองค์ปฐมนั้น พระองค์ท่านให้พรเอาไว้ว่า บุคคลที่บูชารูปของท่านนั้น ให้ตั้งใจภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบ แผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั่วหล้า แล้วไม่ต้องทำอะไร ใครคิดร้ายกับเราก็จะแพ้ภัยตัวเอง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นผลมามากต่อมากแล้ว

วัตถุมงคลชิ้นต่อไปที่เลือกติดตัวอยู่ในปัจจุบันก็คือรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ มีทั้งในส่วนของท้าวเวสสุวรรณลอยองค์ ที่สร้างโดยท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธ์ ยติธโร) วัดสุทัศนเทพวราราม และเหรียญรอยพระพุทธบาท หลังท้าวเวสสุวรรณของวัดท่าขนุนเอง ในส่วนนี้ ท้าวเวสสุวรรณท่านเป็น "ภูติบดี" ก็คือนายใหญ่แห่งผีทั้งหลาย ถ้าหากว่าท่านมีติดตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะเข้าป่าเข้าดง หรือสถานที่แปลกใหม่อย่างไร ก็จะปลอดภัยเสมอ

ความจริงกระผม/อาตมภาพนั้นพกท่านท้าวเวสสุวรรณของหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี "ท่านอาจารย์ปู่" ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน แต่ว่าภายหลังลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ซึ่งมีอาชีพในการทำทัวร์ต่าง ๆ ไปที่โน่นแล้วโดนผีหลอก ไปที่นี่แล้วโดนผีหลอก เมื่อมาปรารภ กระผม/อาตมภาพจึงสละท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งตนเองมั่นใจที่สุดในการใช้งานให้กับลูกกิฟท์ไป ตนเองก็ต้องมาใช้ของเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี แล้วมาภายหลังก็พกของวัดท่าขนุนเองเพิ่มเติมไปอีก ๑ องค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2025 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-11-2025, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,601 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับที่ ๓ ขอมอบให้กับ "ท่านพี่" อสุรินทราหูของกระผม/อาตมภาพ ไม่ว่าจะเป็นพระราหูกะลาตาเดียว ของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองก็ดี หลวงพ่อปิ่น วัดศีรษะทองก็ดี หรือว่าของครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ หรือครูบาเจ้าอโนชัย วัดปงสนุก เหล่านี้เป็นต้น ถ้าหากว่าหามาติดตัวได้ ภาวนานึกถึงท่านเป็นประจำ เรื่องร้ายต่าง ๆ ก็จะกลับกลายเป็นดี และเป็นวัตถุมงคลที่กระผม/อาตมภาพพกติดตัวไปต่างประเทศเสมอ เพราะว่าทำด้วยกะลาตาเดียว ไม่ว่าเครื่องจะสแกนอย่างไรก็ไม่ดัง ทำให้ติดตัวไปได้อย่างสบายใจเป็นที่สุด..!

วัตถุมงคลชิ้นต่อไปก็คือมีดหมอ ส่วนใหญ่ที่พกติดตัวติดรถอยู่เป็นมีดหมอเทพศาสตรา หลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ "ท่านอาจารย์ปู่" ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุนนั่นเอง เพียงแต่ว่าบางส่วนก็นำออกจำหน่ายให้ญาติโยมบูชาไปหมดแล้ว เหลือที่ติดตัวกับที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนเท่านั้น มีดหมอนั้น ถ้าหากว่าท่านอาราธนาได้ถูกต้อง นอกจากจะเป็นมหาอำนาจ ป้องกันภัย สามารถถอนคุณถอนของต่าง ๆ แล้ว มีดหมอหลวงปู่เดิมยังเป็นมหาอุดอีกต่างหาก

เรื่องนี้ต้องถามผู้การเรวัช (พลตำรวจโทเรวัช กลิ่นเกษร) ซึ่งเคยเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ท่านจะพกมีดหมอหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ติดตัวเป็นประจำ ไม่ว่าจะต้องไปไล่ยิงกับผู้ร้ายที่ไหนก็ตาม ท่านไม่มีอะไรให้ต้องหวั่นเกรง เพราะเชื่อมั่นในอำนาจของมีดหมอที่ติดตัวอยู่ ว่าคุ้มครองป้องกันได้อย่างแน่นอน..!

วัตถุมงคลชิ้นต่อไปก็คือเบี้ยแก้ ถ้าได้สุดยอดเบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่ภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หรือว่าหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วก็ตาม อาราธนาติดตัวให้ดี กระผม/อาตมภาพนั้นมีประสบการณ์กับเบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือมากที่สุด เพราะว่าสั่นเตือนทุกครั้งที่มีอันตรายอยู่ใกล้ ครั้งแรก ๆ ยังคิดว่าแผ่นดินไหวหรือเปล่า ? เมื่อสอบถามพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายท่าน ต่างก็บอกว่าตนเองก็มีประสบการณ์แบบนี้เช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2025 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-11-2025, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,601 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าหาของครูบาอาจารย์ระดับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หรือหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วไม่ได้ เพราะว่าราคาสูงมาก ก็หาของหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ที่ราคาพอจับต้องได้ แต่ว่าท่านทั้งหลายต้องมั่นใจในที่มาด้วย

เนื่องเพราะว่าครั้งแรกในชีวิตที่กระผม/อาตมภาพไปกราบหลวงปู่เจือเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว ด้วยความที่ไม่มั่นใจว่าหลวงปู่ท่านจะรับแขกตอนไหน ? จึงไปเดินดูวัตถุมงคลในตู้หน้ากุฏิท่านก่อน ปรากฏว่าเพิ่งจะก้มดูไปได้ไม่นาน หลวงปู่เจือท่านก็เปิดประตูออกมากวักมือเรียก บอกสั้น ๆ ว่า "ท่าน..ถ้าจะเอาเบี้ยแก้ มาเอาที่ผมนี่" กระผม/อาตมภาพถึงได้ซาบซึ้งใจว่า เบี้ยแก้ในตู้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นของทำขึ้นมาโดยไม่ได้เสกทั้งนั้น..! เนื่องเพราะว่าคนทำก็คือคนที่ทำให้หลวงปู่ท่านเสกนั่นเอง พูดง่าย ๆ ว่าส่วนนี้ขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเองล้วน ๆ..!

วัตถุมงคลชิ้นต่อไปที่ควรจะมีอย่างยิ่งก็คือตะกรุดมหาระงับ ถ้าได้สุดยอดตะกรุดมหาระงับของ "ท่านอาจารย์ปู่ทวด" ก็คือหลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณีเป็นดีที่สุด ถ้าไม่ได้ก็ต้องของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช ซึ่งหลวงปู่เทียมนั้นท่านศึกษาสุดยอดวิชาตะกรุดมหาระงับมา แล้วยังมีการทำตะกรุดมหาระงับพิสดารอีกต่างหาก ก็คือถ้าหากว่าเป็นปกติก็จะยาวไม่เกิน ๗ หรือ ๙ นิ้ว ถ้ายาวเกิน ๙ นิ้วขึ้นไป เรียกว่าตะกรุดมหาระงับพิสดาร ซึ่งท่านจะลงพวกมหาอำนาจ มหาละลวยต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีกมาก

สิ่งหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็จะนำติดตัวไปไว้ที่นั่นด้วย ก็คือเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ๑ คู่ กับตะกรุดมหาระงับพิสดาร หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช เพราะมั่นใจว่าเรื่องร้ายทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น จะโดนระงับจนกระทั่งหมดสภาพไปเองด้วยบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย

ในส่วนนี้ท่านทั้งหลายถ้าจะเลียนแบบตาม ก็สามารถที่จะให้เสาะหาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ แต่บางคนบางท่านก็รู้สึกว่า โอกาสที่จะใกล้ของดี คู่ควรแก่การใช้งานนั้นห่างไกลเหลือเกิน อย่างกระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าใกล้ครูบาอาจารย์ที่ตนเองมั่นใจ ก็จะสะสมเอาไว้เรื่อย

อย่างสมัยที่อยู่กับหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง พระสมเด็จคำข้าวองค์ละ ๑๐ บาท กระผม/อาตมภาพออกกิจนิมนต์ได้เงินมาเมื่อไร ก็ไปบูชาพระ ซึ่งก็คือถวายสังฆทานกับหลวงพ่อท่านนั่นเอง เนื่องเพราะว่าถวายทีหนึ่ง ท่านก็ให้พระสมเด็จคำข้าวมาทีหนึ่ง จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเก็บพระสมเด็จคำข้าวเอาไว้นับพันองค์ เพื่อนพระพี่พระน้องบอกว่า "มึงจะบ้าเก็บไปถึงไหนวะ ? ของมีตั้งเยอะตั้งแยะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2025 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 10-11-2025, 23:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,601 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ปรากฏว่าทันทีที่หลวงพ่อมรณภาพ วันนั้นพระสมเด็จคำข้าวขึ้นราคาไปองค์ละ ๑๐๐ บาท..! แล้วหลังจากนั้นก็ขึ้นไปเรื่อยจนถึงองค์ละ ๑,๖๐๐ บาท ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บุคคลที่ว่ากระผม/อาตมภาพจะบ้าเก็บไปถึงไหน มาโกยจากกระผม/อาตมภาพไปคนเดียว ๗๐๐ องค์..! แล้วก็ให้ราคาองค์ละ ๑๐ บาทเท่านั้น นี่ถ้าไม่ได้เห็นว่าห่มเหลืองอยู่ด้วยกัน จะถีบให้สักทีหนึ่งเสียด้วยซ้ำไป..!

หรือว่าอย่างหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม สมัยก่อนวัตถุมงคลของท่านราคาองค์ละ ๒๐ บาท มีโอกาสเมื่อไรกระผม/อาตมภาพก็ไปกอบโกยเอาไว้เสมอ แต่ส่วนใหญ่พอกลับมาแล้ว บรรดาตำรวจทหารที่เฝ้าวัดท่าซุง ก็มักจะปล้นต่อจนหมด..! ทำให้กระผม/อาตมภาพเองต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ให้รู้ว่าไปกราบท่านมา

อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ด้วยความที่มีประสบการณ์มาก จึงได้สะสมเบี้ยแก้ของท่านเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรุ่น ๘๐ ปี อายุวัฒนมงคลของท่าน ซึ่งท่านจะสร้างเบี้ยแก้ชุบรัก เบี้ยแก้หุ้มดิ้นเงิน เบี้ยแก้หุ้มดิ้นทอง อย่างละ ๕๐๐ องค์เท่านั้น..!

กระผม/อาตมภาพโกยมาต่ำ ๆ แบบหนึ่งก็ ๒๐ - ๓๐ องค์ แม้กระทั่งไอ้ตัวเล็กเห็นแล้วก็ยังตกตะลึง เนื่องเพราะว่าไม่คิดว่าอาตมภาพจะมีเบี้ยแก้ทีหนึ่งเป็นลังขนาดนั้น..! โดยเฉพาะเบี้ยแก้ตัวครู บูชามาครั้งแรก ๙ คู่เต็ม ๆ..! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของเงินทอง เพราะว่ามาถึงรุ่นหลวงปู่เจือนั้นกระผม/อาตมภาพทำพระคาถาเงินล้านขึ้นเต็มที่แล้ว ในยุคของหลวงพ่อกวยนั้น ยังอยู่ในยุคที่ใช้คาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ ซึ่งก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ถ้าหากพอใจจะใช้เงินเท่าไร ก็จะมีพอดีแค่นั้นทุกครั้ง แต่พอเป็นพระคาถาเงินล้าน จะใช้เงินเท่าไรก็ยังเหลือเฟือไม่ขาดมือมาจนทุกวันนี้..!

ดังนั้น..ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ส่วนของตะกรุดมหาระงับ หลวงปู่เทียม และเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือนั้น กระผม/อาตมภาพจะอาราธนาเข้าไปก่อนเสมอ ส่วนท่านทั้งหลายที่จะยึดถือวัตถุมงคลอื่นใดของครูบาอาจารย์ก็ตามที กระผม/อาตมภาพแทบจะมีอยู่ทุกอย่างทุกประการ แต่ถ้าหากว่าให้เลือกหลัก ๆ ก็เลือกดังที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2025 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว