กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-05-2025, 22:22
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,983
ได้ให้อนุโมทนา: 225,260
ได้รับอนุโมทนา 801,674 ครั้ง ใน 39,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-05-2025, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,140 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อวานนี้ กระผม/อาตมภาพยังต้องเข้าประชุมผ่านระบบ ZOOM Meeting Online เพื่อเตรียมการจัดงานรับประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ และประกาศนียบัตรบริหารการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แล้วก็ได้ร่วมบุญในการจัดงานครั้งนี้ไปเป็นจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาทถ้วน

สำหรับวันนี้พวกเรานัดกันด้วยเลข ๕ - ๖ - ๗ ทำให้ทุกคนต้องตื่นค่อนข้างที่จะเช้า เพราะว่าต้องเดินทางไปยังเมืองศิมลา ซึ่งออกเสียงได้ยากมาก อากาศช่วงเช้าอยู่ที่ ๑๔ องศาเซลเซียส ขณะที่พวกเราลงมานั่งรอบริเวณห้องอาหาร ซึ่งน้องการ์ตูน (นางสาวศรันย์พร บุรินทรโกษฐ์) กำลังจัดเตรียมผลไม้และกับข้าวที่นำมาจากเมืองไทย เพื่อเตรียมถวายพระและบริการให้กับทุกคน

เมื่ออาหารพร้อม พวกเราก็กวาดใส่ท้องกันแบบไม่ต้องสนใจรสชาติ แล้วมาตรวจสอบดูว่ากระเป๋าของตนได้รับการขนขึ้นไปบนหลังคารถตู้แล้วหรือยัง ? จากนั้นก็นั่งรถตู้วิ่งยาวลงมาประมาณ ๒๐ กว่านาที มาถึงบริเวณที่จอดรถบัส ทำการเปลี่ยนกลับไปที่รถบัสซึ่งเป็นคันเก่าที่จอดรอเรามา ๓ วันแล้ว กระผม/อาตมภาพนั้น นอกจากทำการทิปบรรดาเจ้าหน้าที่ตลอดจนกระทั่งพนักงานของโรงแรม ASIA SPA RESORT ไปคนละ ๕๐๐ รูปีแล้ว ยังมาทิปให้กับคนขับรถทั้งสองคน อีกคนละ ๕๐๐ รูปี รวมแล้วช่วงเช้านี้หมดไป ๕,๕๐๐ รูปีแล้ว..!

เมื่อขนข้าวของเข้าที่โดยเฉพาะกระเป๋า ทำการตรวจนับเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทาง ซึ่งกระผม/อาตมภาพคิดว่าการเดินทางด้วยรถบัสไปยังเมืองศิมลานั้น เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะกล้าหาญมาก แล้วก็เป็นจริงตามนั้นเสียด้วย เนื่องเพราะว่าเมื่อเรามาถึงเมืองหะมิระปุระ ก็ต้องวนรถในสถานที่คับแคบ เพื่อจะหาร้านอาหารที่จับจองเอาไว้ ต้องวนแล้ววนอีก เพราะว่าสลับซับซ้อนมาก

ท้ายที่สุดก็ต้องลงจากรถบัส เพราะว่าคนอื่นบีบแตรด่าบรรพบุรุษสนั่นหวั่นไหวไปหมด..! แล้วให้นายวิกรมพาพวกเราเดินไปค่อนข้างจะไกล เข้าไปตามช่องเล็ก ๆ เพื่อทะลุไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มองไปก็ไม่เห็นว่าจะมีร้านอาหารสักแห่ง แต่ว่าเขาพาเราเดินขึ้นไปจนถึงชั้นที่ ๓ จึงได้เจอภัตตาคารชื่อ MAHADEVA พวกเราเข้าไปนั่งรออาหาร โดยที่น้องการ์ตูนกับคุณเอ (นายฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ช่วยกันจัดอาหารไทยมาถวาย มีทั้งห้อยจ๊อ ปลาทูต้มเค็ม แล้วก็ข้าวกล่องที่สั่งมาเผื่อถวายพระบนรถ จากโรงแรม ASIA SPA RESORT ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2025 เมื่อ 04:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-05-2025, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,140 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อได้อาหารมา พวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตาฉันกันจนอิ่ม ปรากฏว่าอิ่มไปแล้วพักใหญ่ กว่าที่กับข้าวชนิดแรกของทางร้านอาหารจะมาถึง แล้วค่อยทยอยมากันทีละอย่างสองอย่าง ไปจนเกือบจะถึงลำดับสุดท้ายแล้ว ข้าวสวยเพิ่งจะมาถึง..! แล้วปิดท้ายด้วยไก่ผัดเปรี้ยวหวานและไข่เจียว

แต่พระทั้ง ๔ รูปฉันจนกระทั่งท้องกางไปแล้ว ก็เลยชิมอย่างโน้นคำอย่างนี้คำ แล้วมอบส่วนที่เหลือให้กับญาติโยมทั้งหลายไป ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่ต้นจนกระทั่งอาหารจานสุดท้ายออกมา ใช้เวลาถึง ๑ ชั่วโมง ๒๐ นาที..! คุณเอบอกว่าทำอะไรกับคนอินเดียจะใจร้อนไม่ได้ เพราะว่าเขามีนิสัยทำงานให้ได้วัน ไม่ใช่ทำงานให้ได้งาน ดังนั้น..ยิ่งทำช้าเท่าไรก็เหนื่อยน้อยเท่านั้น..!

ในเมื่อยกอาหารให้คนอื่น และตัวเราไม่ได้ฉัน กระผม/อาตมภาพจึงเดินออกไปยังตลาดภายนอก เพื่อที่จะดูบ้านดูเมืองของเขา แล้วก็อาศัยนั่งพักอยู่ใต้อนุสาวรีย์มหาตมะ คานธี จนกระทั่งทุกคนพร้อมแล้วจึงมาขึ้นรถ ช่วงเช้านี้คำนวณระยะทางว่า พวกเราวิ่งมาได้ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร ใช้เวลาไป ๔ ชั่วโมง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ๑ ชั่วโมงต่อ ๒๐ กิโลเมตรเท่านั้น..!

จากตรงนี้ไปยังเมืองศิมลา ถ้าหากว่ายังอยู่ในอัตรานี้ก็มีหวังได้ถึงกันดึกดื่นเที่ยงคืนแน่นอน..! ถนนหนทางเริ่มคดเคี้ยวไต่ขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ บางแห่งก็มีเทวาลัย หรือว่าวัดในความหมายของเขาตั้งอยู่ ซึ่งเด็กรถของเราก็ชี้ให้พวกเรายกมือไหว้ไปเสียทุกแห่ง..!

เมื่อไปจนกระทั่ง "ไร้แรงบิน" กันดีแล้ว พวกเราก็มาจอดเข้าห้องน้ำกันอีกรอบหนึ่ง ตอนเวลาประมาณ ๑๖.๓๕ น. ปรากฏว่าการเข้าห้องน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เสียแล้ว เรื่องใหญ่ก็คือทุกคนวิ่งไปซื้อหาน้ำอัดลมบ้าง กาแฟบ้าง มาใส่ท้องตัวเองเป็นการใหญ่ คาดว่าข้าวปลาอาหารเมื่อกลางวัน น่าจะโดนรถเขย่าจนกระทั่งละลายหายไปหมดแล้ว..!

จากนั้นพวกเราก็ขึ้นเขาสูงไปเรื่อย ๆ ถนนหนทางคับแคบ มีรถบรรทุกเป็นจำนวนมาก กว่าที่จะขยับ กว่าที่จะแซงได้ ก็ช้าเหลือเกิน แล้วถึงเวลารถใหญ่สวนมาก็ต้อง "ดูใจ" กันก่อน ก็คือใครจะเป็นคนจอด ใครจะเป็นคนขยับรถของตนเอง แต่ว่าคนอินเดียนั้นนิสัยน่ารักมาก แม้ว่าถนนหนทางจะคับแคบ และรถราหมาวัวเกะกะไปหมด แต่ทุกคนก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คุณขยับบ้าง ผมขยับบ้าง ท้ายที่สุดรถก็ผ่านไปจนได้

พวกเราเดินทางขึ้นเขาสูงไปเรื่อย ๆ ขณะที่ตะวันก็ลับทิวเขาลงไป อากาศเยือกเย็นลงมา จนรู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศในรถจะเย็นน้อยกว่าข้างนอกเสียอีก..! จนกระทั่งมืดมัวสลัวตาก็เริ่มเข้าเขตเมืองศิมลา ซึ่งเป็นเมืองที่ยาว ๆ ไปตามชายเขา ทำให้เป็นเมืองที่ยาวหลายสิบกิโลเมตร แต่ว่าบรรดารถนั้น ยิ่งเข้าตัวเมืองก็ยิ่งมาก จนกระทั่งเกะกะไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะขึ้นหน้า ใครจะถอยหลัง พวกเราค่อย ๆ ฝ่าฟันกันไป แม้ว่าหลายคนจะหมดกำลังใจ นั่งหลับตาอย่างเดียวไปตั้งนานแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2025 เมื่อ 04:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-05-2025, 01:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,435
ได้ให้อนุโมทนา: 158,058
ได้รับอนุโมทนา 4,481,140 ครั้ง ใน 36,044 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งท้ายที่สุด เวลาประมาณทุ่มเศษ ๆ ของประเทศอินเดีย ถ้าหากว่าเป็นบ้านเราก็ตกประมาณ ๓ ทุ่มแล้ว พวกเรามาจอดรถใหญ่ มองเห็นทิวทัศน์รอบด้าน ที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ เหมือนดวงดาวเต็มภูเขาไปหมด จนกระทั่งมีคนปากร้ายแซวว่า "สลัมลอยฟ้า" ชัด ๆ..!

พวกเรารออยู่พักหนึ่งก่อนที่รถเล็กจะมาขนกระเป๋า แล้วยังมีที่ว่างอยู่ น้องการ์ตูนจึงพากระผม/อาตมภาพและทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) เดินทางล่วงหน้าขึ้นไปโรงแรม The Zion ก่อน

เมื่อได้ห้องพักเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพเองก็รีบส่งงานทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ให้เหลือคั่งค้าง แล้วมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ญาติโยมทั้งหลายที่รอฟังอยู่ อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงได้ช้านัก ก็เพราะว่าถนนหนทางเขย่าโครมคราม มีแต่เสียงแตรรถและเสียงเครื่องยนต์ ถ้าบันทึกเสียงจะมีเสียงรบกวนเป็นอย่างมาก..!

โรงแรม The Zion แห่งนี้ นอกจากจะสวยงามแล้ว ภายในห้องพักของกระผม/อาตมภาพ ยังมีพระพุทธรูปอยู่บนหิ้งเล็ก ๆ อีกด้วย แต่ว่าที่รู้สึกไม่เหมาะสมเลยก็คือ ทุกชั้นของเขาจะมีโต๊ะตั้งโทรศัพท์เตี้ย ๆ แล้วมีเศียรพระพุทธรูปอยู่ท่ามกลางพระหัตถ์ วางเป็นเครื่องประดับอยู่ ถ้าวางอยู่บนโต๊ะก็ไม่กระไรนัก แต่นี่วางอยู่ใต้โต๊ะเลย..! พูดง่าย ๆ ว่าเสมอกับเท้าของเรา ทำเอากระผม/อาตมภาพแทบไม่กล้าทีจะเดินเลยทีเดียว..!

ส่วนในล็อบบี้ ช่วงที่รับกุญแจนั้น มีรูปมหาเทพท่านหนึ่งยืนเป่าขลุ่ยอยู่ เป็นรูปปั้นสีขาว งดงามมาก ๆ เมื่อถาม "เจ้าแม่นภิสราเทวี" ว่าเป็นรูปของใคร ? ท่านบอกว่าเป็นรูปของพระกฤษณะ หรือถ้าหากว่าบางคนเรียกว่าพระรามบ้าง พระนารายณ์บ้าง แล้วแต่ว่าอยู่ในอวตารปางไหน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เป็นอันว่าคือ "พี่ใหญ่" ของพวกกระผม/อาตมภาพเอง ในเมื่อมี "พี่ใหญ่" คอยดูแลอยู่ด้วย คาดว่าคืนนี้จะได้พักกันอย่างมีความสุข

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2025 เมื่อ 04:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว