|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
![]()
กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพ
ลูกปรารถนานิพพาน ขอพึ่งหลวงพ่อสั่งสอนเจ้าค่ะ กรณีที่ ๑ ลูกได้กลิ่นอาหารแล้วดูเวทนาไม่ทัน แต่เห็นว่ามีตัณหาเกิดความอยากรับประทานขึ้น แล้วพอคิดเรื่องอื่นความอยากก็หายไป เรียนถามหลวงพ่อดังนี้ ๑. พอเห็นอนิจจังของตัณหา หรือเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์อื่น ๆ แล้วต้องทำอย่างไรต่อเจ้าคะ ๒. ลูกเข้าใจว่า ตัณหาเกิดต่อมาจากเวทนาซึ่งมาจากผัสสะอีกที เพราะผัสสะเปลี่ยนมาเป็นธรรมารมณ์กระทบใจ ตัณหาความอยากอาหารเลยหายไปตามผัสสะที่เปลี่ยนไป ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่ และเป็นแบบนี้กับทุกกรณีเลยหรือไม่ และเมื่อเข้าใจแบบนี้แล้วเราจะไปต่ออย่างไร กรณีที่ ๒ บางครั้งลูกเห็นทันที่เวทนาเกิด และเห็นไตรลักษณ์ของเวทนา จึงยังไม่ทันเกิดตัณหา เช่น ได้ยินเสียงแล้วรู้สึกเฉย ๆ เรียนถามหลวงพ่อ ดังนี้ ๑. ตอนที่รู้สึกเฉย ๆ นั้น เป็นอทุกขมสุขเวทนา ที่ไม่เกิดตัณหาต่อ ใช่หรือไม่ ๒. การเกิดอทุกขมสุขเวทนา จะทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอวิชชานุสัย ๓. ถ้าต้องเกิดอวิชชานุสัยอยู่แล้ว เพราะเวทนาก็มีแค่ ๓ อย่าง จะต้องทำอย่างไร เพื่อให้เป็นการเห็นอย่างไม่ยินดียินร้าย จะได้ไม่เกิดอวิชชานุสัยจากอทุกขมสุขเวทนา ๔. การเห็นแล้วเกิดอทุกขมสุขเวทนา ใช่การมองด้วยอุเบกขาหรือไม่ ๕. ทำอย่างไรจะตัดตรงที่ผัสสะได้เจ้าคะ เพราะปัจจุบันทำได้มากที่สุดแค่เห็นที่เวทนา น้อมกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงเจ้าค่ะ |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลลิตา ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ลูกได้กลิ่นอาหารแล้วดูเวทนาไม่ทัน แต่เห็นว่ามีตัณหาเกิดความอยากรับประทานขึ้น แล้วพอคิดเรื่องอื่นความอยากก็หายไป
เรียนถามหลวงพ่อดังนี้ ๑. พอเห็นอนิจจังของตัณหา หรือเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์อื่น ๆ แล้วต้องทำอย่างไรต่อเจ้าคะ ? ๒. ลูกเข้าใจว่า ตัณหาเกิดต่อมาจากเวทนาซึ่งมาจากผัสสะอีกที เพราะผัสสะเปลี่ยนมาเป็นธรรมารมณ์กระทบใจ ตัณหาความอยากอาหารเลยหายไปตามผัสสะที่เปลี่ยนไป ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่ และเป็นแบบนี้กับทุกกรณีเลยหรือไม่ และเมื่อเข้าใจแบบนี้แล้วเราจะไปต่ออย่างไร ? กรณีที่ ๒ บางครั้งลูกเห็นทันที่เวทนาเกิด และเห็นไตรลักษณ์ของเวทนา จึงยังไม่ทันเกิดตัณหา เช่น ได้ยินเสียงแล้วรู้สึกเฉย ๆ เรียนถามหลวงพ่อ ดังนี้ ๑. ตอนที่รู้สึกเฉย ๆ นั้น เป็นอทุกขมสุขเวทนา ที่ไม่เกิดตัณหาต่อ ใช่หรือไม่ ? ๒. การเกิดอทุกขมสุขเวทนา จะทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอวิชชานุสัย ? ๓. ถ้าต้องเกิดอวิชชานุสัยอยู่แล้ว เพราะเวทนาก็มีแค่ ๓ อย่าง จะต้องทำอย่างไร เพื่อให้เป็นการเห็นอย่างไม่ยินดียินร้าย จะได้ไม่เกิดอวิชชานุสัยจากอทุกขมสุขเวทนา ? ๔. การเห็นแล้วเกิดอทุกขมสุขเวทนา ใช่การมองด้วยอุเบกขาหรือไม่ ? ๕. ทำอย่างไรจะตัดตรงที่ผัสสะได้เจ้าคะ เพราะปัจจุบันทำได้มากที่สุดแค่เห็นที่เวทนา ? ตอบ : ทุกข้อที่ถามมา แค่อยู่กับลมหายใจตรงหน้า ไม่หลุดออกไปไหน ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลารู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ? สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ? |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|