กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-11-2009, 21:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,383 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default สาเหตุของความตาย

คนเรามันมีวาระที่ความตายเข้ามาหลายสาเหตุด้วยกัน
สาเหตุที่หนึ่งเขาเรียกว่า อุปฆาตกรรม เป็นกรรมที่มาตัดรอน เกิดจากที่เราเคยฆ่าคนหรือสัตว์ใหญ่ไว้ก่อน กรรมตรงนี้เมื่อมาทันก็มาตัดชีวิตของเราไป

สาเหตุที่สองเกิดจากหมดอายุ สมมติว่าเรามีอายุขัย ๗๕ ปี ถ้าไม่ได้ประกอบกรรมความดีเพิ่มเติมในลักษณะของการต่ออายุเลย ก็จะหมดแค่นั้น

สาเหตุที่สาม หมดอาหาร อาหารก็มี ๑) กวฬิงการาหาร ก็คือข้าวและน้ำทั่ว ๆ ไป ๒) ผัสสาหารคือลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่มีเข้าไปสันดาป เผาผลาญ ช่วยย่อย พวกระบบร่างกายต่าง ๆ ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ ๓) วิญญาณาหาร ความต้องการทางตา ทางหู ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เห็นรูปสวย ๆ แล้วชื่นใจ ได้ยินเสียงเพราะ ๆ ชื่นใจ มีกำลังอยู่ต่อได้ แล้วก็ ๔)มโนสัญเจตนาหาร ความที่ใจมุ่งมั่นอยู่ เช่น รู้สึกว่างานยังไม่เสร็จ อย่างไรก็ไม่ไป ถ้าหากว่ากำลังใจมั่นคงจริง ๆ อยู่ต่อได้ แบบเดียวกับที่พระท่านอธิษฐานให้ร่างกายท่านอยู่เป็นกัป

สาเหตุสุดท้าย หมดกรรม หมวดนี้จะต้องเก็บไว้สำหรับพระอริยเจ้าระดับสูงสุดเท่านั้น ก็คือ หมดกรรม หมดงานแล้ว ไปดีกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2013 เมื่อ 11:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-11-2009, 21:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,383 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..ถ้าความตายมาถึงแล้วไม่มีอะไรที่น่ากลัวสักอย่าง
อุปฆาตกรรม เราทำเขาไว้ ใช้คืนเขาไป จะได้ไม่ตามทวงอีก
หมดอายุ อยู่มาจนป่านนั้นแล้ว ถ้าอายุ ๗๕ ก็แทบจะตะบันน้ำกินแล้ว ไปดีกว่า
หมดอาหาร ไม่มีอาหารกินแล้ว อย่างนี้ไปดีกว่า
หมดกรรม ตรงนี้ใคร ๆ ก็อยากหมด ก็ต้องหยุดสร้างกรรม

แรก ๆ ก็ทำความดี เว้นความชั่วไปเรื่อย ๆ ภายหลังก็จะเหลือสักแต่ว่าทำ รู้ว่าดีก็ทำเพราะว่าส่งผลให้แต่ดี รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่ไปแตะต้องในส่วนของความชั่ว จิตใจก็ปลดออกมา ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ก็กลายเป็นสักแต่ว่าทำ กรรมก็ไม่เกิด ถ้าหากถึงระดับนั้นแล้ว ทำดีก็ไม่ได้ผลดี ทำชั่วก็ไม่ได้ผลชั่ว เพราะเลยดีเลยชั่วไปแล้ว แต่ท่านทำดีเพื่อเป็นเนติ คือ แบบอย่างให้คนรุ่นหลัง และในขณะเดียวกันก็เว้นชั่วเพื่อไม่ให้ความเศร้าหมองต่าง ๆ มาเกาะกินท่านได้ รอเวลาหมดกรรม ฉะนั้น..พระถ้าทำถึงที่สุดแล้ว หมดงานเมื่อไรท่านก็ไปเลย

สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ มีพระจากจังหวัดราชบุรีอยู่รูปหนึ่ง อายุแค่ ๓๗ ปีเท่านั้น เมื่อเข้าถึงที่สุดแล้ว พิจารณาตนเองว่ามีงานที่จะทำหรือไม่ ก็ปรากฏว่าไม่มี งานของท่านในชาตินี้มีอยู่อย่างเดียว คือทำตัวของท่านให้ถึงที่สุดก็พอ เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็เลยมากราบลาหลวงพ่อเพื่อไปพระนิพพาน เนื่องจากว่าหลวงพ่อท่านรักษาการณ์แทนพระใหญ่ ถึงเวลาก็เลยต้องมาลาเจ้านายไปพระนิพพาน

ที่พม่าก็มีหลวงปู่สุริยะ จำไม่ได้ว่าอายุ ๕๒ หรือ ๕๓ ท่านไปแล้ว ทุกวันนี้ก็ทิ้งสังขารไว้ ไม่เน่าไม่เปื่อย ให้คนรุ่นหลังได้กราบไหว้เป็นหลักฐาน สถานที่ซึ่งท่านปฏิบัติ เหยียบเข้าไปถึงรู้สึกเย็นอย่างกับห้องปรับอากาศเลย กระแสความดีของท่านยังอยู่ แล้วก็รู้สึกว่าคนพม่าเขาจะเข้าใจตรงจุดนี้ เขากลึงหินอ่อนปักไว้ตรงนั้น ติดป้ายให้รู้เลยว่าเป็นจุดปฏิบัติธรรมแล้วท่านบรรลุ ถ้าใครอยากได้ง่าย ๆ ก็ไปนั่งแปะอยู่ตรงนั้นแล้วก็ปฏิบัติ เดินเข้าไปถึงรู้สึกเย็นชนิดที่ว่าอยากจะนั่งลงปฏิบัติเดี๋ยวนั้นเลย


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2013 เมื่อ 11:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:37



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว