กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-11-2025, 16:27
พุทธภูมิ พุทธภูมิ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2024
ข้อความ: 4
ได้ให้อนุโมทนา: 30,889
ได้รับอนุโมทนา 139 ครั้ง ใน 8 โพสต์
พุทธภูมิ is on a distinguished road
Default การทำอรูปฌาน

๑ การทำอรูปฌานต้องนึกภาพกสิณขึ้นมาก่อนกองไหนก็ได้ยกเว้นแค่อากาสกสิณ ภาพกสิณที่นึกขึ้นมาก่อนนี้ต้องเป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่ใช้แสดงฤทธิ์ใช่หรือไม่ครับ
๒ หลังจากนึกภาพกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแล้วก็นึกให้ภาพกสิณนี้หายไปแล้วก็มาพิจารณาว่าภาพกสิณนี้ถึงแม้จะละเอียดแต่ก็ยังมีรูปอยู่ยังมีสิ่งที่ละเอียดกว่าคือความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่ไม่มีรูปแล้วก็มองท้องฟ้าตรงที่ไม่มีเมฆที่เป็นสีฟ้าที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมภาวนารู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมว่า อากาสา อนันตา จนสมาธิถึงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ
๓ ตอนมองท้องฟ้าสีฟ้าซึ่งไร้เมฆที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมกับรู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมต้องทำแบบเดียวกับกสิณที่ลืมตามองภาพท้องฟ้าจำภาพแล้วก็หลับตานึกภาพท้องฟ้าแล้วก็ลืมตามองใหม่ทำวนซ้ำแบบนี้จนภาพท้องฟ้าภาพอวกาศติดตาติดใจแล้วภาพก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากการรู้ลมหายใจจนทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเป็นภาพความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่สว่างเจิดจ้าตรงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ
๔ ท้องฟ้าโดยส่วนมากก็จะมีเมฆแต่ตอนจะทำอรูปฌานท้องฟ้าที่เรามองต้องเป็นท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าที่ไร้เมฆถึงจะสามารถมองออกไปถึงอวกาศได้แบบนี้ต้องใช้กสิณจัดการกับเมฆไม่ให้เข้ามาในระยะสายตาใช่หรือไม่ครับ
๕ ความต่างของอากาสกสิณกับความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดของอรูปฌานข้อแรกคืออากาสกสิณสามารถนึกให้ภาพใหญ่ขึ้นเล็กลงย่อได้ขยายได้แต่อรูปฌานข้อแรกจะไม่สามารถควบคุมได้แบบภาพอากาสกสิณจนกว่าจะสำเร็จอรูปฌานข้อต่อไปถึงจะควบคุมได้ใช่หรือไม่ครับ
๖ สภาวะของอรูปฌานข้อแรกเหมือนกับภาพอากาสกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่นึกขยายภาพออกไปจนแทบไร้ที่สิ้นสุดใช่หรือไม่ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พุทธภูมิ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-11-2025, 02:54
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,230
ได้ให้อนุโมทนา: 289,248
ได้รับอนุโมทนา 862,466 ครั้ง ใน 13,436 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ๑. การทำอรูปฌานต้องนึกภาพกสิณขึ้นมาก่อนกองไหนก็ได้ยกเว้นแค่อากาสกสิณ ภาพกสิณที่นึกขึ้นมาก่อนนี้ต้องเป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่ใช้แสดงฤทธิ์ใช่หรือไม่ครับ ?
๒. หลังจากนึกภาพกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแล้วก็นึกให้ภาพกสิณนี้หายไปแล้วก็มาพิจารณาว่าภาพกสิณนี้ถึงแม้จะละเอียดแต่ก็ยังมีรูปอยู่ยังมีสิ่งที่ละเอียดกว่าคือความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่ไม่มีรูปแล้วก็มองท้องฟ้าตรงที่ไม่มีเมฆที่เป็นสีฟ้าที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมภาวนารู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมว่า อากาสา อนันตา จนสมาธิถึงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ ?
๓. ตอนมองท้องฟ้าสีฟ้าซึ่งไร้เมฆที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมกับรู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมต้องทำแบบเดียวกับกสิณที่ลืมตามองภาพท้องฟ้าจำภาพแล้วก็หลับตานึกภาพท้องฟ้าแล้วก็ลืมตามองใหม่ทำวนซ้ำแบบนี้จนภาพท้องฟ้าภาพอวกาศติดตาติดใจแล้วภาพก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากการรู้ลมหายใจจนทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเป็นภาพความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่สว่างเจิดจ้าตรงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ ?
๔. ท้องฟ้าโดยส่วนมากก็จะมีเมฆแต่ตอนจะทำอรูปฌานท้องฟ้าที่เรามองต้องเป็นท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าที่ไร้เมฆถึงจะสามารถมองออกไปถึงอวกาศได้แบบนี้ต้องใช้กสิณจัดการกับเมฆไม่ให้เข้ามาในระยะสายตาใช่หรือไม่ครับ ?
๕ ความต่างของอากาสกสิณกับความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดของอรูปฌานข้อแรกคืออากาสกสิณสามารถนึกให้ภาพใหญ่ขึ้นเล็กลงย่อได้ขยายได้แต่อรูปฌานข้อแรกจะไม่สามารถควบคุมได้แบบภาพอากาสกสิณจนกว่าจะสำเร็จอรูปฌานข้อต่อไปถึงจะควบคุมได้ใช่หรือไม่ครับ ?
๖ สภาวะของอรูปฌานข้อแรกเหมือนกับภาพอากาสกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่นึกขยายภาพออกไปจนแทบไร้ที่สิ้นสุดใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เริ่มจากกสิณปกติ ภาวนาจนเป็นปฏิภาคนิมิตก่อน ซักซ้อมจนคล่องตัว นึกเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น แล้วค่อยขยับไปที่อรูปฌาน

"ส่วนของอรูปฌาน ต้องมีการนึกพิจารณา แปลว่าต้องมีความคิดเข้าไปประกอบด้วย" ไม่ใช่ไปนั่งมองท้องฟ้า (การมองท้องฟ้าเป็นอากาสกสิณ) หากแต่เป็นการทิ้งภาพกสิณไปแล้วขยายห้วงนึกของเราให้กว้างออกไปเรื่อย ๆ ได้ทั้งจักรวาลยิ่งดี แล้วภาวนาจนอารมณ์ทรงตัวเท่าฌาน ๔ จากนั้นซักซ้อมให้คล่องตัว แล้วค่อยขยับต่อไป
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว