![]() |
การทำอรูปฌาน
๑ การทำอรูปฌานต้องนึกภาพกสิณขึ้นมาก่อนกองไหนก็ได้ยกเว้นแค่อากาสกสิณ ภาพกสิณที่นึกขึ้นมาก่อนนี้ต้องเป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่ใช้แสดงฤทธิ์ใช่หรือไม่ครับ
๒ หลังจากนึกภาพกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแล้วก็นึกให้ภาพกสิณนี้หายไปแล้วก็มาพิจารณาว่าภาพกสิณนี้ถึงแม้จะละเอียดแต่ก็ยังมีรูปอยู่ยังมีสิ่งที่ละเอียดกว่าคือความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่ไม่มีรูปแล้วก็มองท้องฟ้าตรงที่ไม่มีเมฆที่เป็นสีฟ้าที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมภาวนารู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมว่า อากาสา อนันตา จนสมาธิถึงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ ๓ ตอนมองท้องฟ้าสีฟ้าซึ่งไร้เมฆที่มองออกไปได้ถึงอวกาศพร้อมกับรู้ลมหายใจพร้อมคำบริกรรมต้องทำแบบเดียวกับกสิณที่ลืมตามองภาพท้องฟ้าจำภาพแล้วก็หลับตานึกภาพท้องฟ้าแล้วก็ลืมตามองใหม่ทำวนซ้ำแบบนี้จนภาพท้องฟ้าภาพอวกาศติดตาติดใจแล้วภาพก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากการรู้ลมหายใจจนทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเป็นภาพความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดที่สว่างเจิดจ้าตรงฌาน ๔ ละเอียดใช่หรือไม่ครับ ๔ ท้องฟ้าโดยส่วนมากก็จะมีเมฆแต่ตอนจะทำอรูปฌานท้องฟ้าที่เรามองต้องเป็นท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าที่ไร้เมฆถึงจะสามารถมองออกไปถึงอวกาศได้แบบนี้ต้องใช้กสิณจัดการกับเมฆไม่ให้เข้ามาในระยะสายตาใช่หรือไม่ครับ ๕ ความต่างของอากาสกสิณกับความว่างของอากาศอันแทบไร้ที่สิ้นสุดของอรูปฌานข้อแรกคืออากาสกสิณสามารถนึกให้ภาพใหญ่ขึ้นเล็กลงย่อได้ขยายได้แต่อรูปฌานข้อแรกจะไม่สามารถควบคุมได้แบบภาพอากาสกสิณจนกว่าจะสำเร็จอรูปฌานข้อต่อไปถึงจะควบคุมได้ใช่หรือไม่ครับ ๖ สภาวะของอรูปฌานข้อแรกเหมือนกับภาพอากาสกสิณที่เป็นปฏิภาคนิมิตแบบสุดท้ายตรงฌาน ๔ ละเอียดที่นึกขยายภาพออกไปจนแทบไร้ที่สิ้นสุดใช่หรือไม่ครับ |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:59 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.