เมื่อบอกให้กับท่านเจ้าคุณกอล์ฟและบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงได้ทราบ ท่านเจ้าคุณกอล์ฟบอกว่า "หลวงพ่อพูดเหมือนหลวงพ่อบ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิลังการ์เลย" ทำเอาทิดเฟิร์สบอกว่า "เขาไม่ได้นัดแนะกันนะครับ ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างพูด" กระผม/อาตมภาพเองฟังบรรยายไป ท่ามกลางฝูงยุงมากมายมหาศาล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าสมาธิ ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะทนยุงกัดไม่ได้..!
เมื่อฟังพระพุทธเจ้าชนะมารตรัสรู้แล้ว พวกเราก็ได้สวดมนต์ถวาย แล้วนั่งสมาธิอีก ๑๕ นาที จากนั้นก็เดินประทักษิณรอบพระศรีมหาโพธิ์ และองค์พระเจดีย์พุทธคยา สวดอิติปิ โสฯ ๓ ห้อง รอบพระเจดีย์พุทธคยา ๓ รอบ ก่อนที่จะไปเข้าคิวเพื่อที่จะกราบหลวงพ่อพระพุทธเมตตา แต่ปรากฏว่ามีคณะสงฆ์เข้าไปสวดมนต์อยู่ในนั้น ทั้งคณะสงฆ์ทิเบต และคณะสงฆ์อินเดีย พวกเราจึงเข้าไปแล้วสามารถที่จะไหว้ได้ไกล ๆ เท่านั้น
เมื่อย้อนออกมาแล้ว พวกเราก็มาหามุมถ่ายรูปบริเวณเสาอโศก ซึ่งเป็นมุมที่สามารถเห็นได้ทั้งพระเจดีย์พุทธคยาและเสาอโศกพร้อมกัน จากนั้นท่านเจ้าคุณกอล์ฟก็พาพวกเราลุยเข้าไปใหม่อีกรอบ บอกว่ากิจกรรมถวายผ้าห่มหลวงพ่อพระพุทธเมตตาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ พวกเราต้องไปเข้าแถวรออยู่เป็นเวลานานมาก กว่าที่จะสามารถเข้าไปถึงด้านใน
กระผม/อาตมภาพเอาผ้าขะตะที่น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ส่งมาให้ ถวายหลวงพ่อพระพุทธเมตตา พร้อมกับรับพานดอกไม้มาจากคณะท่านเจ้าคุณกอล์ฟ อธิษฐานแล้วถวายไป เป็นอันว่าจบภารกิจสำหรับวันนี้ เดินออกมาทางด้านนอก ใส่รองเท้าแล้ว ต้องมารอพวกเรา เพราะว่าทางเดินออกนั้นเป็นคนละทางกัน ถ้าขืนไม่รอ มีหวังพลัดหลงกันแน่..!
ครั้นออกมาถึงข้างนอก ก็ต้องรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ เพราะว่าบุคคลที่ช้าก็มีอยู่ บรรดาสารพัดแขกก็พยายามมาเสนอขายของ แต่ละคนล้วนแล้วแต่พูดไทยได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าพูดประโยคยาว ๆ รู้เรื่องหรือเปล่า ? นอกจากชวนให้ซื้อของอย่างเดียว จนกระทั่งรถบัสของพวกเรามาถึง กระผม/อาตมภาพขึ้นรถบัสแล้วก็ควานหาโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเข้ารายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมไว้ก่อน และแจ้งในช่องแช็ตไว้แล้วว่า "อยู่ที่ประเทศอินเดีย ขออนุญาตปิดหน้าจอ" ปรากฏว่าได้เวลาทำแบบประเมินพอดี เนื่องเพราะว่าตรงกับเวลา ๓ ทุ่มของเมืองไทย เมื่อทำประเมินเสร็จ เป็นอันว่ารอดตัวไป สามารถที่จะได้ประกาศนียบัตรการร่วมปฏิบัติธรรม ๓ ชั่วโมงของครั้งนี้มาอย่างเต็มภาคภูมิ..!
พวกเราฝ่ารถติดกลับมาจนกระทั่งถึงโรงแรม DHAMMA GRAND HOTEL & RESORT เป็นเวลา ๓ ทุ่มครึ่งเมืองไทยแล้ว เข้าถึงที่พักก็ยังต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน แถมพรุ่งนี้ยังต้องตื่นตี ๕ ฉันเช้า ๖ โมง และออกเดินทางตอน ๗ โมงของประเทศอินเดียอีก จึงต้องรีบบันทึกเสียงเอาไว้ก่อนที่จะเข้านอน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:52
|