พูดง่าย ๆ ว่าดำเนินการในลักษณะที่ตนเองมั่นใจว่า ฝ่ายของตนมีไวยาวัจกรดูแลเรื่องการเงิน โอกาสกระทบกระเทือนมีน้อยมาก ก็คือถ้าหากว่าตนเองเสียหาย อีกฝ่ายก็ต้องเสียหายมากกว่า จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ สะเทือนไปทั้งวงการคณะสงฆ์ไทย โดยที่สมเด็จพระสังฆราชท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย กว่าจะรู้ไฟก็ไหม้บ้านหนักแล้ว..! พระองค์จึงต้องออกมาระงับยับยั้งเรื่องราว จนกระทั่งกลายเป็นปาหี่เล่นขายของ ก็คือเรื่องต่าง ๆ จบลงเร็วกว่าที่คิด ถ้าอยู่ในลักษณะนี้แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นชั่วสุด ๆ..! เพราะว่าเท่ากับเอาไฟเผาพวกเดียวกันเอง แต่จะว่าไปแล้ว เราเห็นเขาเป็นพวก เขาจะเห็นเราเป็นพวกหรือเปล่า !?
เพียงแต่ว่าในระหว่างการดำเนินการนั้น ท่านรัฐมนตรี (ช.) ก็ต้องหาเสียงตามแบบนักการเมือง สัมภาษณ์อะไรก็ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" ส่วนท่านนายตำรวจ (ซ.) เห็นว่าเป็นโอกาสที่กูจะหาแสงได้ กูก็เปิดให้แถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวแทบทุกวัน..! แต่ความจริงการกระทำโง่ ๆ แบบนี้ก็ดีไปอย่าง ก็คือทำให้เรื่องใหญ่กว่าที่คิด เมื่อเกิดไฟไหม้บ้านขึ้นมา ท่านผู้ยิ่งใหญ่ก็คงจะรู้ว่าเกินกำลังที่กูจะรับไหวแล้ว ถึงได้กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช จนพระองค์ท่านต้องออกมายับยั้งเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
เราจะเห็นว่าแม้สถานการณ์ละเอียดอ่อนอย่างของพระพุทธศาสนา ก็ยังมีการฉวยโอกาส เหยียบกัน กระทืบกัน ข้ามหัวคนอื่นขึ้นไปเพื่อความเด่นดังของตนเอง จึงไปนึกถึงข้อเปรียบเทียบซึ่งมีผู้รู้กล่าวไว้ว่า พระพุทธศาสนาของเราเหมือนไก่ในเข่งตรุษจีน ก็คือพร้อมที่จะโดนเชือดอยู่แล้ว ก็ยังจิกยังตีกันอีก ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรงเดียวกันนั่นแหละ..! จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตั้งสติให้ดี ระลึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า "ถ้าฝ่ามือไม่มีบาดแผล ย่อมสามารถที่จะจับยาพิษได้โดยไม่ต้องกลัวเกรงอะไร"
ก็แปลว่าเราท่านทั้งหลายต้องเร่งปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกระทั่งคนเขายอมรับในคุณงามความดีนั้น ๆ และขอร้อง..! ให้เขายอมรับเพราะว่าเราดีจริง ไม่ใช่ให้เขายอมรับเพราะแรงโฆษณาหรือเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไป..! เพราะว่าลักษณะนั้นน่าจะไม่ใช่ภาวะของภิกษุสามเณร พูดง่าย ๆ ก็คือว่าถ้าเป็นนักการเมืองหรือฆราวาสก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าหากว่าอยู่ในผ้าเหลือง แถมยังมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต แบบนั้นก็คาดว่าท่านจะมีทุคติของเป็นที่ไปอย่างแน่นอน..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2025 เมื่อ 21:41
|