แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองออกตรวจการณ์ในเขตตำบลชะแล ส่งภาพไปให้อดีตท่านเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. อดีตเจ้าคณะภาค ๑๔ ดู ท่านยังถามว่า "มึงไปโลกไหนมาวะ ?" เพราะว่าถนนหนทางยากลำบากสุด ๆ ขนาดมีรถขับเคลื่อน ๔ ล้อยังไม่แน่ว่าจะไปได้รอด..!
สิ่งพวกนี้เป็นความจริงที่ปรากฏอยู่ทั่วประเทศไทย แต่ความเจริญนั้นไปกระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นโยบายของมหาเถรสมาคมที่ออกมา แม้ว่าเราต้องปฏิบัติตาม เพราะว่ามติมหาเถรสมาคมเท่ากับเป็นกฎหมายของพระ แต่ก็คงมีวัดที่ปฏิบัติตามได้ไม่มาก โดยเฉพาะวัดที่ไม่มีรายได้
แล้วอีกประการหนึ่ง การตั้งฆราวาสเข้ามาเป็นกรรมการบริหารการเงินของวัด เป็นที่ปรึกษาของเจ้าอาวาสในการบริหารจัดการวัด แทบทุกวันนี้ ต่างจังหวัดไกล ๆ อำนาจบริหารวัดก็ไม่ได้อยู่ในมือเจ้าอาวาสอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเรื่องเงินเรื่องทอง กฐินมา ผ้าป่ามา ก็มักจะโดนไวยาวัจกรวัดอปโลกน์ ก็คือยัดเยียดตัวเองเข้ามาเป็น แต่ส่วนใหญ่แล้วคือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. รองนายก อบต. สมาชิกสภาเทศบาล หรือว่าสมาชิก อบต. เหล่านี้เป็นต้น ถึงเวลาเก็บเงินไปแล้ว ทางวัดก็ไม่มีโอกาสได้เห็นอีก ไปทวงเงิน บางท่านก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ บางคนรำคาญก็ถามว่า "จะเอาลูกปืนแทนไหม ?!"
แต่ว่าเรื่องพวกนี้ไปไม่ถึงผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง เพราะว่าท่านไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เป็นเรื่องที่บรรดาพระต่างจังหวัดของเราลำบากใจกันมาก แต่ในเมื่อวัดท่าขนุนมีศักยภาพพอ ก็จะพยายามตั้งคณะกรรมการบริหารวัดตามที่มหาเถรสมาคมมีมติมา แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถตั้งได้หรือไม่ ? เพราะว่าผู้มีคุณวุฒิทางบัญชีไม่ได้หากันง่าย ๆ ต้องเป็นเรื่องที่ใช้ความพยายามกันต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:32
|