สิ่งพวกนี้ต้องบอกว่าแต่ละคน แต่ละท่าน ล้วนแล้วแต่คิดว่า ถ้ามีระเบียบหรือว่ากฎหมายออกมาบังคับแล้ว ก็จะทำให้พระภิกษุสามเณร แม่ชี ตลอดจนกระทั่งฆราวาส "เลิศเลอเพอร์เฟ็ค" ดีงามจนกระทั่งสามารถเป็นพระอริยเจ้าไปตาม ๆ กัน โดยลืมนึกถึงความเป็นจริงข้อที่ว่า ไม่ว่าจะพระธรรมวินัยหรือกฎหมายบ้านเมืองก็ตาม บังคับได้เฉพาะบุคคลที่ละอายชั่วกลัวบาปเท่านั้น
คนที่ออกกฎระเบียบต่าง ๆ มาเพื่อที่จะให้พระซึ่งถือศีล ๒๒๗ ก็ดี สามเณรที่ถือศีล ๑๐ ก็ดี หรือว่าแม่ชีที่ถือศีล ๘ ก็ตาม ประพฤติปฏิบัติตามความต้องการของท่านทั้งหลายนั้น อยากถามว่า "ทุกท่านมีศีล ๕ ครบแล้วหรือไม่ ?"
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องพวกนี้อยากจะบอกว่า ถ้าท่านทั้งหลายอยากจะเพ้อเจ้อ ก็เชิญเพ้อเจ้อไปตามสบาย คาดว่าบุคคลที่ละอายชั่วกลัวบาป ถึงไม่มีระเบียบหรือกฎหมายเหล่านี้ เขาก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนพวกที่ไม่ละอายชั่วกลัวบาป ต่อให้ท่านทั้งหลายสละความรู้ความสามารถ ๗ ชั่วโคตร ออกกฎหมายหรือระเบียบมาบังคับ ก็คงจะทำอะไรเขาเหล่านั้นไม่ได้อยูดี..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:45
|