การฝึกทิพโสต
			 
			 
			
		
		
		
			
			ถาม :  การฝึกทิพจักขุญาณกับการฝึกทิพโสต ใช้วิธีเหมือนกันหรือเปล่าคะ ? 
ตอบ : ไม่เหมือนกัน วิธีฝึกทิพโสตนั้น ถึงเวลานั่งสมาธิจนใจสงบแล้ว ให้ตั้งใจกำหนดฟังสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบข้างของเรา เริ่มจากเสียงที่ดังที่สุดก่อน พอชัดเจนแล้ว ให้กำหนดรู้เสียงที่เบากว่านั้นให้ชัดเจนขึ้น..แล้วกำหนดรู้เสียงที่เบากว่านั้นอีกให้ชัดเจนขึ้น กำหนดรู้เสียงที่เบากว่าลงไปเรื่อย ๆ  จนกระทั่งเสียงยุง เสียงแมลง ร้องดังเหมือนกับออกลำโพง   
 
หลังจากนั้นก็ขยายวงสมาธิออกไป จากที่เอาเฉพาะในห้องของเรา ก็อาจจะเป็นทั้งบ้าน พอทั้งบ้านได้แล้วก็อาจจะเป็นในเขตบริเวณของบ้าน   หลังจากนั้นก็ขยายออกไปข้างบ้าน ขยายออกไปทั้งซอย ค่อย ๆ ขยับไปตามความคล่องตัวที่เกิดขึ้น ต่อไปจะเอาแบบข้ามโลก ข้ามภพ ข้ามภูมิก็จะไปได้ 
 
ถาม :  ไม่เกี่ยวกับการจับภาพพระ ? 
ตอบ : จับภาพพระให้ใจนิ่งก่อน แล้วค่อยไปฝึกการฟัง ถ้าฝึกสำเร็จแล้วอาจจะรำคาญเสียงไปเลยก็ได้ 
   
ถาม :  แล้วเป็นไปได้ไหมคะว่า  วิธีฝึกระหว่างทิพจักขุญาณและทิพโสตจะต่างกัน แต่อารมณ์คล้ายกัน ? 
ตอบ : ท้ายสุดจะไปลงตรงนั้น ลงที่เดียวกัน ถ้ามีพื้นฐานเดิมอยู่แล้ว ก็จะไปลงของเก่าเอง  เป็นไปเองโดยอัตโนมัติ   
 
ตอนนี้ส่งพระที่วัดไปเรียน ป.วภ.(ประกาศนียบัตรวิปัสสนาภาวนา) ก็คือ พระครูน้อยกับอาจารย์สมพงษ์  หลังจากที่ท่านนั่งกรรมฐานผ่านไปเดือนกว่า ๆ พออาตมาไปถึงที่นั่นก็ไปเลี้ยงพระ  พระครูน้อยพอฉันเสร็จท่านก็มาชวนคุย "อาจารย์ครับ..ผมท่าจะบ้าแล้ว"   ถามว่าทำไม ?  "วันก่อนยุงกัดผม ผมก็เลยแกล้งตบ  ยุงหล่นพลั่กลงไปกับพื้น มันบ่นว่าตีกูทำไมวะ ?   ผมก็เลยบอกว่า ก็มึงกัดกูก่อนนี่หว่า..ยุงก็เลยตุปัดตุป่อง สะบัดก้นบินไปเลย"    
 
ส่วนอาจารย์สมพงษ์อยู่เข้าอบรมกรรมฐานไปเดือนกว่า ๆ ก็คิดจะหนีกลับ  พอคิดว่าจะหนีกลับ  นกกางเขนที่บินผ่านมาร้องว่า  "ขี้แพ้ ๆ ๆ" ท่านก็เลยต้องกัดฟันทนอยู่ต่อ
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2014 เมื่อ 16:37
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |