เถรี
25-07-2019, 21:41
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราทั้งหมดเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นการปฏิบัติธรรมวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม สำหรับในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็จะมีการห่วงหน้าพะวงหลังเป็นปกติ ซึ่งภาษาพระเขาเรียกว่า ปลิโพธะ อ่านง่าย ๆ ว่า ปลิโพธ ซึ่งบาลีแสดงเอาไว้เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นว่า ห่วงตระกูลก็คือห่วงครอบครัวตัวเอง ห่วงการเดินทาง ห่วงการศึกษาเล่าเรียน ห่วงอาการเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราต้องตัดให้หมดจากใจไปในขณะที่เรากำลังนั่งปฏิบัติธรรม พูดง่าย ๆ ว่า เรานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นอย่างไร เราก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะฉะนั้น..ก็อย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ให้สนใจกับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาแทน และขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังกิเลสหยาบ ๕ อย่างคือนิวรณ์ทั้งห้า ได้แก่
กามฉันทะ ความยินดีในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
พยาบาท ความโกรธเกลียด อาฆาตแค้นคนอื่น
ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ขี้เกียจปฏิบัติ
อุทธัจจะกุกกุจจะ ความหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ เพราะกำลังใจไม่ทรงตัว
และวิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยว่าการปฏิบัตินี้จะมีผลจริงหรือไม่
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นการปฏิบัติธรรมวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม สำหรับในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็จะมีการห่วงหน้าพะวงหลังเป็นปกติ ซึ่งภาษาพระเขาเรียกว่า ปลิโพธะ อ่านง่าย ๆ ว่า ปลิโพธ ซึ่งบาลีแสดงเอาไว้เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นว่า ห่วงตระกูลก็คือห่วงครอบครัวตัวเอง ห่วงการเดินทาง ห่วงการศึกษาเล่าเรียน ห่วงอาการเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราต้องตัดให้หมดจากใจไปในขณะที่เรากำลังนั่งปฏิบัติธรรม พูดง่าย ๆ ว่า เรานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นอย่างไร เราก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะฉะนั้น..ก็อย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ให้สนใจกับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาแทน และขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังกิเลสหยาบ ๕ อย่างคือนิวรณ์ทั้งห้า ได้แก่
กามฉันทะ ความยินดีในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
พยาบาท ความโกรธเกลียด อาฆาตแค้นคนอื่น
ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ขี้เกียจปฏิบัติ
อุทธัจจะกุกกุจจะ ความหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ เพราะกำลังใจไม่ทรงตัว
และวิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยว่าการปฏิบัตินี้จะมีผลจริงหรือไม่