PDA

View Full Version : เก็บตกจากงานเป่ายันต์เกราะเพชร วันเสาร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒


เถรี
09-07-2019, 08:12
เมื่อเช้านี้ตอนพุทธาภิเษก พระท่านเมตตาสงเคราะห์ เนื่องจากว่าเป็นการพุทธาภิเษกพระบรมรูปของสมเด็จองค์ปฐม พระองค์ท่านก็เลยต้องเสด็จมาเอง แล้วพระองค์ท่านเสกให้หมด ทั้งที่อยู่ในกองที่เตรียมไว้และที่อยู่ติดตัวของพวกเราด้วย วัตถุมงคลชุดนี้ ถ้าใครบูชา พระองค์ท่านบอกว่าใครคิดร้ายก็จะแพ้ภัยตัวเอง เพราะฉะนั้น..เราก็มีหน้าที่สวดมนต์ภาวนาของเราไป การบูชาพระที่ดีที่สุดก็คือ อิติปิ โส ฯ ๓ ห้องไปเลย อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ

เถรี
09-07-2019, 08:13
เมื่อตอนท้ายของการพุทธาภิเษก อาตมาเห็นเงินเป็นมัด ๆ ร่วงจากฟ้าลงมาเต็มไปหมด กราบเรียนถามพระองค์ท่านว่าหมายถึงอะไร ? พระองค์ท่านบอกว่า "เศรษฐกิจแบบนี้จำเป็นที่จะต้องให้เรื่องลาภผลเงินทองด้วย ไม่อย่างนั้นญาติโยมจะไปไม่ได้" ใครต้องการมีความคล่องตัวในเรื่องของลาภผลเงินทอง ให้ภาวนาพระคาถาเงินล้านให้เป็นปกติ จะมีวัตถุมงคลหรือไม่มี ก็สงเคราะห์ให้เหมือนกัน

เถรี
09-07-2019, 18:03
อาตมาจะสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ต้องใช้เงินทุนมาก ปีนี้ก็เลยออกวัตถุมงคล ๒ รุ่นด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วไม่ค่อยได้ออก เป็นสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล ฉลอง ๖๐ ปีของอาตมา ซึ่งเป็นเนื้อพิเศษที่ทำได้ยากมาก เพราะว่าต้องอาศัยน้ำจากแหล่งเดียวในการบ่มเหรียญ ถึงจะเปลี่ยนเป็นสีปีกแมลงทับได้ แล้วหลายเหรียญก็ค่อนข้างจะดื้อ บ่มแล้วไม่ขึ้น แต่อาตมาว่า ถ้าหากว่าเป็นอาตมาก็จะเอาที่บ่มไม่ขึ้นนั่นแหละ เพราะแสดงว่ามั่นคงต่อตัวเองมาก ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

ส่วนอีกชุดหนึ่งเป็นแผ่นเลเซอร์ยันต์เกราะเพชรเล็ก ๆ โตกว่าเหรียญบาทนิดเดียว ถ้าท่านใดบูชาติดตัวเอาไว้ก็ต้องบอกว่า ไม่ต้องเป่ายันต์ก็ได้ แต่อาจจะลืม อาจจะหาย ถ้าหากว่าไม่มั่นใจก็เป่ายันต์เกราะเพชรติดตัว บูชาแผ่นยันต์ไปด้วย

สมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหลราคาแพงหน่อย เพราะว่าทำยาก เหรียญละ ๒,๕๐๐ บาท แต่แผ่นเลเซอร์ยันต์เกราะเพชรนั่น ๕๐ บาท สำหรับบุคคลที่เบี้ยน้อยหอยน้อย แต่ท่านก็อุตส่าห์ให้ต่อท้ายมาแล้วว่า งานนี้ให้ในเรื่องของลาภผลด้วย แต่ว่าให้ภาวนาคาถาเงินล้านเป็นปกติ จะได้มีความคล่องตัว

ญาติโยมขาดที่สำคัญที่สุดคือตัวศรัทธาอย่างแท้จริง ศรัทธาอย่างแท้จริงนี้ เรามอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ลังเล ไม่สงสัย ไม่คลอนแคลนด้วยประการทั้งปวง

เถรี
09-07-2019, 18:04
อาตมาสอนคาถาห้ามฝนให้กับพระในวัด พอถึงเวลาเดินบิณฑบาต เมฆดำต่ำเกือบจะติดหัว ฝนเริ่มเปาะแปะ ๆ มาแล้ว พระท่านก็ว่า "อาจารย์ครับ ดูท่าจะไม่ไหวแล้วครับ" อาตมาบอกว่า "ถ้าเอ็งคิดอย่างนั้นก็เจ๊งแน่ แต่ข้ายืนยันว่าไม่เป็นไร ขอให้มั่นใจเท่านั้น" ก็ปรากฏว่ามาได้แค่นั้น

หลังจากนั้น เดินบิณฑบาตตลอดเส้นทาง ๕ กิโลเมตรก็ดำอยู่แค่นั้น ฝนไม่ตก จนกระทั่งเข้าหอฉันแล้วฝนถึงตก บอกท่านว่า ในเรื่องของการฝึกปฏิบัติธรรมหรือว่าภาวนาคาถาต่าง ๆ สำคัญที่สุดก็คือความเชื่อชนิดมอบกายถวายชีวิต ถ้าคุณขาดความเชื่อตรงนี้ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จได้

เถรี
09-07-2019, 18:06
เรื่องของยันต์เกราะเพชรก็เช่นกัน บารมีพระมีอยู่แล้วในทุกอณูของอากาศ สภาพจิตเราเปิดรับด้วยความศรัทธาเลื่อมใสมากเท่าไรก็ได้ผลมากเท่านั้น หลายท่านสงสัยว่าวัตถุมงคลชนิดเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ทำไมหลวงพ่อเล็กใช้แล้วอานุภาพมากมายนักหนา แต่คนอื่นใช้บางทีก็ไม่ได้ผล ก็เพราะว่าขาดศรัทธาปสาทะอย่างแท้จริง

ซึ่งตรงส่วนนี้ พวกเราต้องแก้ไข เรามาด้วยความเลื่อมใส รู้ว่ายันต์เกราะเพชรเป็นของดี อยากได้ติดตัวไว้เป็นมงคล แต่ความเลื่อมใสของเราก็ยังไม่เต็มร้อย ต้องรู้สึกเหมือนกับว่าเราตกเหว แล้วคว้าเถาวัลย์ได้เส้นเดียว เราทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับเถาวัลย์เส้นนั้นขนาดไหน ก็คือต้องมีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยให้ได้ในลักษณะแบบนั้น

ลองพยายามค้นหากันดู ถ้าทำตรงนี้ได้ ชีวิตนี้ของเราจะมีที่พึ่งที่ระลึกได้ตลอดชีวิต ถ้ายังไม่ถึงที่สุดแห่งธรรม เกิดชาติไหนก็ตาม เราก็ยังมีที่พึ่งในลักษณะอย่างนี้ได้ตลอดไป

เถรี
09-07-2019, 18:10
มาวัดแล้วช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับท่านอื่นเขาด้วย อำนวยความสะดวกให้คนอื่น เมื่อถึงเวลาผลบุญนี้สนองมา เราทำอะไรก็สะดวก สบายไปหมด

เถรี
09-07-2019, 18:11
สำหรับญาติโยมที่ไม่เคยมาวัดท่าขนุนแห่งนี้ นอกจากห้องน้ำด้านข้างศาลาใหญ่นี้แล้ว ถ้าท่านเดินทะลุสวนไปสักประมาณ ๕๐ - ๖๐ เมตร ก็ยังมีห้องน้ำอีกเกือบ ๓๐ ห้อง ไม่ต้องมายืนรอคิวกันตรงนี้ ถ้าหากว่าสงสัยก็เดินหันให้ด้านขวามืออยู่กับศาลาใหญ่ แล้วก็เดินตรงไปเลย

เถรี
09-07-2019, 18:12
มีท่านใดทำสมบัติประจำตัวหายมารับคืนได้ แต่ละงานเอาอะไหล่มาทิ้งกันไว้เยอะมาก แล้วโดยแนวการปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ก็คือ ต้องเก็บเอาไว้จนกว่าเจ้าของจะมารับคืน

สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง อาตมามีตู้มหาสมบัติอยู่ แต่ละงานเวลาไปทำความสะอาดห้องพัก ก็จะเจอสารพัดสิ่งของ โดยเฉพาะที่อาตมาสงสัยก็คือแว่นตา ไม่มีแว่นแล้วไปได้โดยไม่รู้สึกผิดปกติ ต้องบอกว่าเก่งมาก

เถรี
10-07-2019, 16:54
การไหว้ครูนั้น ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็คือเรามีการไหว้ครูหรือบูชาครูมโนมยิทธิ ซึ่งต้องมีการตั้งขันครูทุกครั้ง แต่โดยการปฏิบัติแล้วเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะตัวของอาตมาเอง พอเคยชินก็ใช้ไปแล้ว ท่านจึงให้จัดมีการไหว้ครูประจำปี เป็นการบูชาครูใหญ่ คำว่าใหญ่ในที่นี้คือเป็นพิธีใหญ่ ทดแทนการที่เราไม่ได้บูชาครูมาตลอดทั้งปี

ดังนั้น..ท่านใดที่มาร่วมงานไหว้ครูประจำปีของทางวัดท่าขนุน ก็ถือว่าเป็นการไหว้ครูตามสายวิชาการ ตามสายครูบาอาจารย์ของท่านด้วย คราวนี้เครื่องบวงสรวงไหว้ครูนั้น โดยปกติก็คือเราต้องจัดต้องหากันมา แต่เครื่องบวงสรวงไหว้ครูของวัดท่าขนุน เป็นไปโดยความเมตตาและการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากท่านพระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม หรือที่บุคคลใกล้ชิดคุ้นเคยเรียกว่า มหาเอ ท่านรับผิดชอบในเรื่องของเครื่องบวงสรวงบูชาครูทุกครั้ง ซึ่งแต่ละงานต้องบอกว่าหมดไปหลายหมื่นถึงเป็นแสนบาท แต่ท่านก็เต็มใจทำให้

โดยบอกว่าทำเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา และโดยเฉพาะทำถวายครูบาอาจารย์ จึงถือว่าพวกเรามีส่วนเป็นเจ้าของเครื่องบวงสรวงร่วมกัน ใครอยากทำบุญในส่วนของเครื่องบวงสรวง ให้ไปทำบุญกับท่านอาจารย์มหาเอโดยตรง ถ้าไม่รู้จักก็พยายามหาพระรูปหล่อ ๆ หุ่นสะโอดสะองหน่อย แล้วถามท่านว่าใช่หรือไม่ ?

เมื่อเราเป็นเจ้าภาพเครื่องบวงสรวงด้วยกัน ถึงเวลาก็ตั้งใจไหว้ครู บูชาครูตามสายวิชาการของพวกเรา ก็เท่ากับว่าเราได้จัดไหว้ครูประจำปีของเราเช่นกัน จะได้ไม่ต้องติดหนี้ครูบาอาจารย์มากนัก โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่มาสายมโนมยิทธิ เพราะว่าสายวิชาการนี้ต้องมีการตั้งขันครูเป็นประจำ โดยแนวปฏิบัติอาตมาเองก็มาไหว้ครูรวมกันปีละครั้ง ๒ ครั้งตามหน้างานที่มี

เถรี
10-07-2019, 16:55
สำหรับงานนี้ทางด้านชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งชุมชนคุณธรรมที่เป็นเครือข่ายของวัดท่าขนุน นำเอาสินค้าชุมชนมาจำหน่ายด้วย อยู่ที่บริเวณซุ้มนั่งเล่นข้างลานธรรม ก็คือข้างถนนใหญ่ที่วิ่งเข้าวัด

ถ้าท่านทั้งหลายว่างเว้นจากภารกิจแล้ว ก็ไปเดินดูว่าทองผาภูมิของเรามีสินค้าอะไรที่น่าสนใจ เป็นที่น่าเสียดายก็คือว่า ช่วงฤดูกาลผลไม้ผ่านไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะอวดทุกท่านว่า เงาะทองผาภูมิอร่อยที่สุดในโลก แม้ว่าจะไม่ได้ประกวดก็ตาม

แต่ทุเรียนทองผาภูมินั้นอร่อยที่สุดในโลกจริง ๆ เพราะว่าส่งประกวดงานทุเรียนโลกแล้วได้รางวัลชนะเลิศมา แต่ว่าไม่มีของให้ เพราะว่างานผลไม้ทองผาภูมิเพิ่งจะผ่านไป จัดงานตั้งแต่วันที่ ๒๘ มิถุนายนถึง ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ก็คือผ่านมาแล้ว ๔ วัน แค่วันที่ ๑ วันที่ ๒ ก็แทบจะไม่มีของเหลือขายแล้ว

เถรี
10-07-2019, 16:56
อีกส่วนหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือ คณะรวมใจภักดิ์ของท่านอาจารย์วิชชุ อารมณ์ดี ที่มาช่วยจัดการการจราจรและดูแลความเรียบร้อยของสถานที่ ทางด้านบริษัทมุลเลอร์กรุ๊ป ซึ่งเป็นหน่วยงานคุณธรรม ก็ส่งคนมาช่วยงาน โดยเฉพาะช่วยดูแลด้านความสะอาดและการจราจรด้วย ต้องขออนุโมทนาและเจริญพรขอบพระคุณทุกท่าน ที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้งานทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

แล้วเรายังมีท่านเจ้าของโรงทานผู้ใจดี นำเอาข้าวปลาอาหาร ขนม ผลไม้ ตลอดจนกระทั่งน้ำดื่มมาเลี้ยงฟรีตลอดในงาน ซึ่งร้านค้ามีมาก ประกาศให้ไม่ไหว เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็ต้องศึกษากันเอง เดินดูป้ายว่าใครมาจากไหน ออกโรงทานอะไรบ้าง หลายต่อหลายท่านก็คุ้นเคยจนเป็นขาประจำ

อย่างคณะญาติโยมจากระยอง คณะของคุณบี คุณโบว์เหล่านี้ ท่านจะมาออกโรงทานเป็นประจำทุกครั้ง กุศลผลบุญนี้ก็จะรวมกันเป็นพลวปัจจัย ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ

เถรี
10-07-2019, 16:58
โดยเฉพาะขอยกคำอวยพรของครูบาอาจารย์ คือหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งท่านบอกว่า "ขอให้ศิษย์ทั้งหลาย อย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าให้จนกว่าใคร" ซึ่งถ้าว่าในลักษณะนี้ของเรา ถ้าจนน้อยกว่าคุณทักษิณ ชินวัตร นิดหนึ่งก็คงไม่เป็นไร

เถรี
10-07-2019, 17:01
พระของเราลำบากตรงที่ว่าจะไปไหน กลายเป็นเกะกะไปหมด บางท่านไม่ได้ระวังตัวเอง ญาติโยมก็ต้องระวังตาม แล้วเดี๋ยวนี้โยมก็เก่งมาก ระวังจนกระทั่งงานไปไม่ได้ คำว่างานไปไม่ได้ อย่างเช่นอาตมาแจกหนังสือ แจกวัตถุมงคล โยมก็ไม่กล้ารับ เพราะกลัวว่ารับของจากมือพระ ถ้าลักษณะนั้นท่านทั้งหลายเข้าใจผิด

การรับของที่เนื่องด้วยมือพระนั้น ท่านบอกว่า ถ้าพระมีจิตกำหนัดจะต้องอาบัติทุกกฎ ซึ่งก็คืออาบัติตัวเล็กเท่ากับจับสตางค์ คราวนี้เราเองไม่ได้มีจิตกำหนัด พระท่านส่งให้ก็รับไปเถอะ

พวกเรามักจะรู้มาก รู้เกิน แล้วก็ปรับตนเองตามหน้างานไม่เป็น ในสถานการณ์ที่คนจำนวนมาก ๆ ต้องรีบเข้า รีบทำบุญ แล้วรีบออก ไม่ใช่มาค่อย ๆ มาบรรจง

โดยเฉพาะส่วนหนึ่งที่อาตมาใช้คำว่า "เสนอหน้า" ก็คือต้องให้รู้ว่ามาแล้ว ทำบุญแล้ว ขอบอกว่างานแบบนี้ไม่ต้องมาเสนอหน้า ทำบุญแล้วออกไปได้เลย ถ้ามัวแต่เสนอหน้าอยู่ คนอื่นก็จะช้า กลายเป็นเราไปขวางทางบุญคนอื่นโดยไม่เจตนา เมื่อถึงเวลาทำอะไรมีอุปสรรคเกิดขึ้นในชีวิต เราก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่าท่านไปขวางทางบุญของคนอื่นเขา จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา แค่อยากจะเสนอหน้าหรืออะไรก็ตาม แต่กลายเป็นโทษไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว

เถรี
10-07-2019, 17:09
ช่วงนี้บรรดาพระเถรานุเถระ โดยเฉพาะพระมหาเถระ มรณภาพติด ๆ กันหลายรูป เท่าที่พวกเราทราบข่าวกันก็จะมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง หลวงปู่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดศรีโคมคำ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพะเยา แล้วก็ยังมี หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว ตำนานเกจิอาจารย์ "รวย เพิ่ม พูน" ของทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ว่าเท่าที่ปรากฏการมรณภาพของท่าน กลายเป็น "รวย พูน เพิ่ม" คือหลวงพ่อรวย วัดตะโก มรณภาพก่อน ตามด้วยหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน แล้วก็มาหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว

ทางด้านเหนือ นอกจากเสียหลวงปู่ปวง วัดศรีโคมคำไปแล้ว เมื่อวานนี้หลวงปู่ครูบาคำตั๋น วัดย่าพาย ก็ยังมรณภาพลงด้วยอายุ ๙๖ ปี ซึ่งเรื่องอายุอาตมาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า ? เพราะว่าแค่ฟังข่าวมาเท่านั้น

เถรี
10-07-2019, 17:10
ครูบาเหนือชัย โฆสิโต ถวายมีดหมอพยัคฆ์คำรณมา ๑ เล่ม ไม่ทราบเหมือนกันว่าลักษณะเนื้อสามกษัตริย์แบบนี้ ถ้าท่านทำจำหน่ายราคาจะแพงเท่าไร ?

เถรี
10-07-2019, 17:18
ที่โยมเห็นแถวยาว ๆ นั้นไม่ได้รับแจกของฟรี ก็คือท่านที่บูชาสมเด็จองค์ปฐมฉลองอายุ ๖๐ ปีของอาตมา ที่เรียกกันว่าเนื้อเขียวเหล็กไหล เพราะว่าเกิดจากการบ่มด้วยน้ำจากแหล่งน้ำพิเศษ แล้วโลหะเปลี่ยนสีเป็นสีปีกแมลงทับ ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่บ่มแล้วไม่เปลี่ยนสี ถ้าเป็นอาตมาจะบูชาแบบที่ไม่เปลี่ยนสี เนื่องจากว่ามั่นคงเที่ยงแท้ต่อตนเองในทุกสถานการณ์ เรียกว่าไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยาก เพราะว่าโลหะชนิดเดียวกัน ใช้กรรมวิธีเดียวกัน แหล่งน้ำเดียวกัน แต่บ่มแล้วไม่เปลี่ยนเลย

อีกส่วนหนึ่งก็เป็นแผ่นเลเซอร์ยันต์เกราะเพชร ขนาดเล็ก ๆ กำลังน่ารัก แต่ถ้าท่านถือไม่ดีก็ลอดง่ามมือ เพราะว่าโตกว่าเหรียญบาทนิดเดียว ซึ่งการที่บูชาวัตถุมงคลทั้ง ๒ อย่างนี้ อาตมภาพจะเอาไปร่วมบุญสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ท่านทั้งหลายที่บูชาวัตถุมงคลทั้ง ๒ อย่างนี้ ให้ทราบว่าท่านได้ทำธรรมทานใหญ่ ก็คือร่วมสร้างวิทยาลัยสงฆ์เพื่อการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งฆราวาส

เถรี
10-07-2019, 17:19
ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี อาคารหลังแรกที่คุยกันไว้ว่าจะสร้างปี ๒๕๕๙ ก็เลื่อนมาจนกระทั่งถึงปีนี้ ราคาที่ประเมินไว้ ๓๘ ล้านบาท ก็ขยับขึ้นไปเป็น ๕๐ ล้านบาท ญาติโยมไม่ต้องสงสัยหรอกว่า ทำบุญที่นี่แล้วเงินหายไปไหนหมด เพราะว่าอาตมาช่วยเหลือเขาหลายที่ แม้กระทั่งการศึกษาของคณะสงฆ์

ตอนนี้พระภิกษุสามเณรรูปใดที่ไปเรียน มจร.วัดไชยชุมพลชนะสงคราม ถ้าเป็นพระเณรในสังกัดคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ อาตมาถวายค่ารถให้รูปละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน มีรายจ่ายเดือนละประมาณสองแสนบาท ถ้าหากว่าเดือนไหนค่าเทอมออกก็โดนเป็นล้าน..!

เถรี
10-07-2019, 17:19
เมื่อวานก็ยังไปเจอพระป่วยอยู่ ๒ รูป ลักษณะเป็นคนแก่ป่วยติดเตียง รูปหนึ่งอายุ ๙๖ ปี อีกรูปหนึ่งอายุ ๙๒ ปี ได้แจ้งกับคณะญาติโยมที่ดูแลว่า ถ้าต้องไปโรงพยาบาลแล้วมีรายจ่ายเกินกำลัง ขอให้บอกกับเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จะไปดูแลจัดการให้ เพราะอาตมามีตำแหน่งหนึ่งก็คือ ประธานการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ จัดการเกี่ยวกับพระป่วยพระมรณภาพ ถ้าเจ้าภาพเขาไม่ไหวก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย

ฉะนั้น..รายจ่ายในแต่ละปีจะมาก จนกระทั่งพอส่งบัญชีกับทางคณะสงฆ์ ทางนั้นก็ตกใจว่าวัดท่าขนุนมีรายรับขนาดนี้เลยหรือ ? แต่พอไปดูรายจ่ายก็หายตกใจ เพราะว่ารายจ่ายติดตัวแดงมาตลอด

เถรี
10-07-2019, 17:21
ท่านอาจารย์พระมหาอุดร สุทฺธิญาโณ ป.ธ.๙, ดร. เจ้าอาวาสวัดภาณุรังษี ท่านโทรมาถามว่า ถ้ามาถึง ๙ โมงนี่จะได้เข้าวัดไหม ? ก็เลยบอกกับท่านว่า จอดรถไว้หน้าวัดแล้วนั่งรถตู้เข้ามา ท่านเป็นอาจารย์สอนอาตมาตั้งแต่ปริญญาตรี อายุท่านน้อยกว่า พรรษาท่านน้อยกว่า เมื่ออาตมาเรียนจบ ท่านก็กลับมาเป็นลูกศิษย์ของอาตมาอีกทีหนึ่ง..กลับกัน

งานนี้ท่านฝากรูปหลวงพ่อต่อ วัดภาณุรังษีมาเข้าพิธีด้วย ประมาณ ๑ คันรถ เพื่อที่จะสร้างกุฏิพระ ซึ่งวัดภาณุรังษีเป็นวัดที่น่าสงสารมาก พื้นที่น้อยเลยขยายไม่ได้ ในเมื่อขยายไม่ได้ก็ต้องยืดขึ้นด้านบนอย่างเดียว ท่านก็เลยต้องรื้อกุฏิเก่าชั้นเดียวออก แล้วทำใหม่เป็น ๕ ชั้น ท่านบอกว่าศรัทธาญาติโยมท่านมีน้อย พึ่งบารมีอาจารย์พระครูหน่อย ก็เลยเอามาเข้าพิธีที่นี่

ทางด้านวัดภาณุรังษี มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ ๓ องค์ ก็คือหลวงพ่อโต หลวงพ่อต่อ หลวงพ่อแต้ม ท่านก็นำรูปหลวงพ่อต่อมาเข้าพิธี ท่านใดอยากได้พระพุทธรูปบูชาซึ่งทำโดยวัดท่าขนุนแล้วไม่ทัน ก็ขอให้ท่านทั้งหลายไปบูชาหลวงพ่อต่อที่วัดภาณุรังษีบางพลัดแทน ถ้าสงสัยว่าจะติดต่ออย่างไร ? ท่านแขวนป้ายอยู่ ถ่ายรูปไปว่าอยู่ที่ไหน ? เบอร์โทรศัพท์อะไร ? แล้วไปติดต่อกันเอง นั่นก็ได้วิหารทานใหญ่ ก็คือได้สร้างกุฏิสงฆ์ของวัดภาณุรังษี ส่วนของอาตมาเอง เอาทั้งวิหารทานและธรรมทาน ก็คือสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ตอนนี้กำลังเริ่มลงมือแล้ว จะวางศิลาฤกษ์ในวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ก็คือช่วงปลายปีนี้

เถรี
10-07-2019, 17:23
ท่านใดที่อยู่ทางภาคเหนือ ถ้าจะทำบุญกับอาตมา ไม่ต้องมาถึงวัดท่าขนุน ให้แวะที่วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไปหาหลวงพ่อสมศักดิ์ หรือที่อาตมาเรียกหลวงพี่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งท่านกำลังบูรณะวัดใหม่ทั้งวัด เพราะว่าหลังจากหลวงปู่ครูบาธรรมชัยมรณภาพแล้ว ญาติโยมก็ไปวัดน้อยลงไปเรื่อย ๆ อาตมาเพิ่งจะเอากฐินปลดหนี้ไปถวายท่านมา ก็ช่วยให้ท่านได้ทำกุฎิที่ไฟไหม้ไป แล้วเมื่องานสืบชะตาที่ผ่านมา ญาติโยมร่วมกันถวายปัจจัย รวมทั้งที่อาตมาถวายไปด้วย ได้ไป ๓๐,๐๐๐ กว่าบาท ท่านก็เอาไปซ่อมหลังคาวิหารหลวงปู่เสียอีก ดังนั้น..ถ้าท่านใดตั้งใจทำบุญกับอาตมา ก็แวะทำบุญที่วัดทุ่งหลวงได้เลย

ถ้าต่ำลงมาหน่อยก็วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน แวะหาตุ๊พ่อสิงห์ หรือว่าหลายท่านก็เรียกหลวงพ่อมหาสิงห์ ร่วมบุญกันตรงนั้นได้ หรือถ้าหากว่าอยู่อีสานก็แวะที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร หลวงพ่อนิลท่านไปสร้างวัดอยู่ที่นั่น ปีนี้อาตมาก็จะนำกฐินปลดหนี้ไปถวายท่าน ก็แปลว่าจริง ๆ แล้ว เรามีที่ทำบุญที่ไว้วางใจได้และอยู่ใกล้บ้านด้วย ไม่ใช่ต้องตะเกียกตะกายมาทำบุญที่วัดท่าขนุน ถึงจะไว้ใจได้ว่าไม่เอาเงินไปใช้อย่างอื่น

เถรี
10-07-2019, 17:43
ญาติโยมคนใต้ต้องบอกว่ารักใครรักจริง พอถึงเวลามีงานที่วัดท่าขนุน ก็จะมาก่อนคนอื่นเขา

เถรี
10-07-2019, 17:44
ตอนแรก ๆ ที่ทำศาลาหลังนี้ หลวงปู่หลวงตาก็บ่น บอกว่าจะทำไปหลังใหญ่อะไรนักหนา เดินทีหนึ่งกว่าจะถึงข้างในท้อเลย แต่พอถึงเวลางานก็ไม่พอใช้

ด้านบนชั้นสอง อาตมาจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เป้าหมายก็คือทำพิพิธภัณฑ์ฉลอง ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ที่เป็นครูบาอาจารย์ ตั้งใจทำถวายกุศลให้ท่าน ปรากฏว่าตอนนี้เลย ๑๐๐ ปีมาแล้ว พิพิธภัณฑ์ก็ยังออกแบบกันอยู่นั่น อาจจะเป็นว่าธรรมะจัดสรร ถึงเวลาจะออกมาให้ดีที่สุด มีความทันสมัยที่สุดก็ได้ เพราะว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ได้วางของโชว์ แต่ว่าเป็นการใช้แสงสีเสียงร่วมกันในการแสดง

ก็จะมีห้องพระพุทธศาสนา ห้องพระราชประวัติและผลงานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ห้องหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน แล้วก็ห้องเครื่องรางของขลัง ซึ่งไม่ใช่พระเครื่อง แต่เป็นเครื่องรางพวกมีดหมอ ตะกรุด พิสมร เสื้อยันต์ อะไรประมาณนั้น ซึ่งบางอย่างหาไม่ได้ในท้องตลาดและราคาแพงมาก อาตมาเก็บไว้หลายปี ว่าจะแบ่งปันให้ญาติโยมทั้งหลายได้ชมกัน ซึ่งนั่นก็จะเป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น เพราะว่านโยบายก็คือจะไม่วางของไว้ตาย ๆ แต่อาจจะมีการแสดงในลักษณะหล่อเป็นรูปนักรบโบราณถือดาบอาคม ถือขวานอาคม ขี่ควายธนู อะไรประมาณนั้น

จะได้รู้ว่าบ้านเราเมืองเราที่อยู่รอดกันมาทุกวันนี้ เกิดจากบรรพบุรุษของเราทั้งหลายที่ทุ่มเทเลือดเนื้อกายใจ ปกป้องแผ่นดินเอาไว้มาถึงรุ่นของเรา โดยสิ่งที่เป็นเครื่องยึดเป็นกำลังใจของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็คือวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังนั่นเอง

เถรี
10-07-2019, 17:46
อาตมาขอให้ทางโรงเรียนบ้านอูล่องฝึกการแสดงของเด็ก ๆ เอาไว้ เดี๋ยวญาติโยมจะได้ชมว่าการที่เราเอาเด็กทองผาภูมิไปที่อื่น ทำไมไปบี้เขาตายหมดทั้งประเทศเลย..! การแสดงชุดเก่าที่เขาเรียกร้องกันมากคือชุดตรีลีลาอารยชน เป็นการผสานศิลปะการแสดง ๓ ชนเผ่า คือไทย กะเหรี่ยง และมอญเข้าด้วยกัน

ส่วนชุดนี้อาตมาเรียกเองว่าชุดโปงลางสะอื้น กำลังจะหาทางให้ครูบาอาจารย์เปลี่ยนชุดของเด็ก ๆ หน่อย เดี๋ยวโปงลางสะออนจะคิดค่าลิขสิทธิ์ คือการแสดงของเราคล้ายคลึงได้ แต่ชุดไม่ควรที่จะคล้ายเขา เดี๋ยวจะมาปรึกษากันว่าจะเปลี่ยนเป็นชุดไปในลักษณะไหนดี

วันก่อนอาตมาไปรับรางวัลที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เห็นเด็ก ๆ โรงเรียนวัดนาคปรกเขาใส่ชุดได้รัดกุมดีมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นชุดที่แสดงออกซึ่งวัฒนธรรมอีสาน

เถรี
10-07-2019, 17:47
โยมเชื่อเถอะ...ศาลาหลังนี้ใหญ่กว่าที่คิด โบสถ์เล็ก ๆ ที่หลวงปู่สายตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อให้พระนั่งได้ ๒๑ รูป อาตมายัดเข้าไปได้ ๑๕๐ กว่ารูปมาแล้ว ฉะนั้น...ศาลาหลังนี้ ถ้ายัดกันเข้ามาจริง ๆ จะได้มากกว่าที่คิด

เถรี
10-07-2019, 17:47
กรุณาเก็บเก้าอี้ เก็บอาสนะไปเลย ไม่ต้องเอาเข้ามา นั่งกับพื้นด้วยกันทั้งหมด ถ้ามีเก้าอี้หรืออาสนะ จะกินพื้นที่ไปมากโดยใช่เหตุ

เถรี
10-07-2019, 17:48
เด็กที่ไหนร้องไห้ ส่งมาหาเจ้าอาวาส เดี๋ยวจัดการให้..! อาตมาชอบมากเลยเด็กร้องดัง ๆ นี่ เคยตีบังคับให้ร้องจนกระทั่งหมดสภาพไปเลย หลังจากนั้นพอได้ยินเสียงอาตมานี่เงียบสนิท ไม่มีการร้องอีกเลย..!

เถรี
10-07-2019, 17:48
ญาติโยมที่มาทีหลัง ถ้าไม่มีที่นั่งก็นั่งปากประตูเลย แถว ๆ ปากประตูสะอาดมาก เพราะว่าหมานอนทุกคืน หมาถูให้สะอาดเอี่ยมเลย...!

เถรี
10-07-2019, 17:53
แจ้งญาติโยมว่าคณะธรรมสัญจรซึ่งจัดรถตู้มาวัดในช่วงมีงานนั้น หลังจากสิ้นคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชาแล้ว ก็ยังมีการจัดรถตู้มาตามปกติ และรถตู้ก็จะหมุนเวียนอยู่ระหว่างหน้าวัดกับทางด้านใน ให้นั่งฟรีตลอดทั้งวันเหมือนเดิม ท่านที่เคยมาแล้วก็ใช้บริการได้เพราะว่ารู้แล้ว ท่านที่ไม่เคยมาโปรดทราบ...รถตู้ทุกคัน ท่านสามารถเรียกขึ้นฟรีได้ เพราะว่าจะขับหมุนเวียนอยู่ในนี้ ไม่ได้ไปไหน

เถรี
10-07-2019, 17:55
ตอนทำพิธีบวงสรวงให้ญาติโยมทุกคนตั้งใจถวายเครื่องบวงสรวงนี้เป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา บูชาคุณครูบาอาจารย์ พรหมเทวดาทั้งหมด เมื่อถึงเวลาการพุทธาภิเษก จะมีการสวดอิติปิ โส ฯ ตามกำลังวัน ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ ก็จะสวด ๑๐ จบ

ในช่วงนี้ถ้ามีกิจกรรมเหล่านี้ ก็ให้กำหนดใจตามกันไป เมื่อเริ่มการพุทธาภิเษกให้ทุกคนตั้งใจอธิษฐานว่า บารมีใดที่พระท่านสงเคราะห์ลงมา เราขอรับไว้ทั้งหมด ขอให้กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเรา มีอานุภาพเหมือนกับวัตถุมงคลที่ท่านพุทธาภิเษกในวันนี้ เชื่อว่าถ้าเราลืมวัตถุมงคลได้ ไปไหนก็คงไม่ลืมกระดูกในร่างกายตัวเอง..!

เถรี
10-07-2019, 17:57
ท่านอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี เป็นศิลปินแห่งชาติ เพลงแรกที่สร้างชื่อเสียงดังไปทั่วโลกเลยก็คือ เมด อิน ไทยแลนด์ พวกเราอาจจะจำเสียงอินโทรเพลงขลุ่ยได้ ความจริงท่านบอกว่าจะมาเป่าขลุ่ยในงานทำบุญอายุ ๖๐ ปีของอาตมา แล้วก็เจ็บไข้ได้ป่วย มาไม่ได้ งานนี้ว่าจะมาใช้หนี้ จากเพลงเดียวเลยโดนปรับเป็น ๓ เพลง

เป็นบุญหูที่ได้ยิน เป็นบุญตาที่ได้เห็น ศิลปินแห่งชาติมาแสดงแล้วได้ชมฟรีนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย คนอื่นเขาจ่ายค่าตั๋วกันแพงหูตูบ

ดนตรีต้องฟังด้วยใจ ฟังแล้วจินตนาการต้องดี เพลงสุดท้ายของท่านอาจารย์ธนิสร์ ถ้าใครฟังแล้วไม่ได้บรรยากาศค่ำคืนฤดูหนาว พระจันทร์เต็มดวง เหงา ๆ เย็น ๆ แปลว่ายังไปไม่ถึง ฟังแล้วจะเหมือนคนไกลบ้าน เหงาขึ้นมาก็นั่งมองดวงจันทร์ คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน ฉะนั้น...ถึงได้บอกว่าในเรื่องของดนตรี เขาฟังด้วยหู แต่ว่าต้องให้ถึงใจด้วย

เถรี
10-07-2019, 17:58
ขอเจริญพรขอบพระคุณท่านเจ้าของโรงทานทุกโรงที่เมตตานำเอาข้าวปลาอาหาร ขนม และน้ำมาเลี้ยง มีคนเรียกร้องหาไอศกรีมทุเรียนทองผาภูมิ ผลิตไม่ทัน เพราะว่าปีนี้ทุเรียนออกน้อย แล้วออกเป็นรุ่น ๆ ไม่ได้ออกรวดเดียว ในเมื่อหายาก ไอศกรีมผลิตไม่ไหว ผลิตไม่ทัน รอโอกาสหน้าเผื่อว่าจะมี

เถรี
10-07-2019, 17:59
มาวัดแล้วโปรดเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อกันนิดหนึ่ง สงสารผู้ชรา เวทนาผู้อ่อนวัย แสดงออกซึ่งกำลังใจที่ดีของเรา ช่วยขยับด้วย รบกวนหน่อย อย่าเอาสบายคนเดียว ถ้าเอาสบายคนเดียวนี่เขาบอกว่าเห็นแก่ตัว ถ้าคนเขาว่าเราอย่างนั้น เราก็จะโกรธ แต่การแสดงออกของเราชัดเลย เพราะฉะนั้น..โปรดแก้ไขด้วย ขยับเลื่อนเข้าไป เอาเข่าเกยหลังคนหน้าไปเลย ชิด ๆ เข้าไปหน่อย ทุกด้านเลย

ตอนนี้ด้านนอกฝนกำลังตก คนที่เข้ามาก็เข้าลำบากด้วย เพราะว่าด้านหลังตันอยู่ ด้านหน้าไม่ยอมขยับ ความจริงการรับยันต์เกราะเพชร รับมุมไหนของโลกก็ได้ แต่คราวนี้ฝนตกทางด้านนอกก็เลยทำให้ญาติโยมที่เคยนั่งใต้ต้นไม้ นั่งข้างศาลา นั่งไม่ได้ ก็ต้องเข้ามาเบียด ๆ กันด้านใน ท่านใดที่ด้านหน้าตัวเองยังมีช่องว่าง กรุณาขยับนิดหนึ่ง

เถรี
10-07-2019, 17:59
เรื่องของพระท่านตรงเวลาทุกอย่าง ถ้าหากว่าใครไม่ตรงเวลา แปลว่าสัจบารมียังพร่องอยู่

เถรี
10-07-2019, 18:02
ท่านใดที่ต้องการบูชาน้ำมนต์เสาร์ ๕ อยู่ทางด้านทางออกประตูเล็ก ด้านขวาของพระประธาน คือ หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ อาตมาเองเรื่องไหนเก่งหรือไม่เก่งไม่รู้ แต่เรื่องน้ำมนต์นี่เป็นเรื่องที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคี่ยวเข็ญอาตมาไว้มากที่สุด

เถรี
10-07-2019, 18:03
อย่างที่ได้แจ้งญาติโยมไว้ว่า วัตถุมงคลรุ่นนี้ ถ้าหากว่าไม่มีของวัดท่าขนุนไปเอาที่วัดภาณุรังษี เพราะว่าของวัดท่าขนุนเอาไว้สร้างวิทยาลัยสงฆ์ ของวัดภาณุรังษีสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ แล้วของอาจารย์ท่านก็สร้างแค่ไม่กี่องค์ กลัวว่าจะขายไม่หมด อาตมาบอกว่ารู้ฤทธิ์เด็กวัดท่าขนุนน้อยไป เดี๋ยวตามไปไล่บูชากันเองก็แล้วกัน

เถรี
10-07-2019, 18:04
สายตามองไม่เห็นยังอุตส่าห์มาอีก บรรดาท่านผู้พิการทางสายตามาที่นี่บ่อย ไม่ทราบเหมือนกันว่าติดใจอะไร บางทีก็เกาะกันมาเป็นแถวยาวอย่างกับเด็กอนุบาลเลย

เถรี
10-07-2019, 18:05
เราทำบุญกันแบบผู้ใหญ่ เข้ามาแล้วออกเลย เป็นการฝึกอุเบกขาในทานบารมี บางคนบอกว่าอยากเห็นหน้าพระอาจารย์นานหน่อย อยากเห็นหน้าหลวงพ่อนานหน่อย ไม่เป็นไร...เดี๋ยวไปโหลดรูปเอา ในอินเตอร์เน็ตมีให้เห็นเยอะมาก แต่ว่าตัวจริงนี่ได้เห็นน้อยนิดหนึ่ง เพราะว่าถ้ามัวแต่ช้าอยู่ คนข้างหลังก็จะเบียดเสียดเยียดยัดกันมาก

ไว ๆ อย่าประณีตมาก ต้องรู้จักปรับตัวตามกับสถานการณ์ด้วย ถ้ามัวแต่ช้าอยู่ ข้างหลังเขาก็เบียดกันแน่น อธิษฐานมาให้เรียบร้อย ใครจะหล่อพระทองคำวางลงได้เลย

เถรี
10-07-2019, 18:06
หนังสือที่แจกโยมมูลค่าเล่มละ ๔๓ บาท เพราะว่าพิมพ์สี่สีและเป็นกระดาษปอนด์ทั้งเล่ม อย่าไปคิดว่าราคาถูก ๆ แจกไปเพื่อให้ไปใช้งานจริง

เถรี
10-07-2019, 18:07
(โยมขอความเมตตาหลวงพ่อเป่าหัวให้) ไม่เป่าให้ใครมานานแล้ว ถ้าทำให้คนหนึ่ง เดี๋ยวคนอื่นขอแล้วไม่ได้ก็น้อยใจอีก

เถรี
10-07-2019, 18:08
(ประกาศตามเจ้าของรถ) ท่านเจ้าของรถย้ายรถด่วนเลย ตะเกียกตะกายขึ้นไปจอดบนตัวหนอนซึ่งไม่ใช่ที่จอด บนตัวหนอนนั้น เขาแค่โรยทรายแล้วก็วางตัวหนอนลงไป ท่านเอารถไปจอด เดี๋ยวก็จะยุบ แล้วถ้าหากว่ายุบขึ้นมา ก็แก้ไขเฉพาะจุดไม่ได้ ต้องรื้อขึ้นมาทำใหม่ทั้งหมด ท่านจะกลายเป็นผู้ทำลายของสงฆ์เสียเปล่า ๆ รีบย้ายรถด่วนเลย

เถรี
10-07-2019, 19:45
การรักษายันต์เกราะเพชรเอาไว้ อันดับแรก ต้องภาวนาทุกวัน จนกำลังใจทรงตัวแล้วกลืนน้ำลายสัก ๓ ครั้ง ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มครองท่านได้ทั้งวัน และอย่าได้ละเมิดข้อห้ามสำคัญ ๒ ข้อ

ข้อที่หนึ่งคือห้ามลักขโมย จะหยิบฉวยสิ่งของของเขาราคามากราคาน้อยก็ดี ด้วยเจตนาขโมย ยันต์เกราะเพชรจะเสื่อม ไม่คุ้มครองบุคคลนั้น

อีกประการหนึ่งก็คือห้ามดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด หลายรายที่ดื่มสุราบอกว่ายันต์เกราะเพชรหลุดจากตัวให้รู้ ๆ เลย ก็คือร้อนวาบกระชากออกจากตัวไป มีอยู่คนหนึ่งบอกรู้สึกเหมือนกับระเบิดออกจากตัวไปเลย อีกหลายคนบอกว่าเหมือนโดนถอดวิญญาณ คือโดนกระชากอะไรบางส่วนออกจากร่างกายไป ท่านที่ความรู้สึกชัด ๆ ก็จะได้รู้ว่าของดีไม่คุ้มครองแล้ว เพราะว่าเราไปละเมิดข้อห้าม

เถรี
10-07-2019, 19:48
ในส่วนนี้ถ้าท่านระมัดระวังแล้วก็ยังมีโอกาสพลาดได้ เพราะว่าอาหารสมัยนี้ผสมเหล้าผสมบรั่นดีกันเป็นปกติ มีลูกศิษย์บางคน เอาไอศกรีมมาถวาย อาตมาเปิดปั๊บหงายหลังเลย ถามว่า "กินเข้าไปได้อย่างไร ? นี่เหล้า" เขาบอก "ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ นี่รัมเรซิน" อีบ้า...! รัมคือเหล้า แล้วเป็นเหล้าเถื่อนของฝรั่งด้วย โอ้โห...แม่เจ้าประคุณ บอกว่ารัมไม่ใช่เหล้า เจริญมาก...! ยายนั่นยันต์เกราะเพชรหลุดหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ แถมยังกินอร่อยอีกด้วย

หลายรายก็เป็นช็อกโกแล็ตไส้บรั่นดี ระวังให้มาก เพื่อนพระซื้อมาฝากอาตมาเอง ท่านอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก อาตมาอ่านออก บอกว่า "เอ็งเอาเหล้ามาถวายพระแล้ว รู้ตัวไหม ?" ท่านบอกว่าไม่รู้เลย นึกว่าสอดไส้อะไรมา รสชาติซ่า ๆ กินแล้วหน้าแดงดี..!

ถ้าลักษณะอย่างนี้ยันต์เกราะเพชรหลุดหมด ที่อภัยให้อย่างเดียวก็คือ ท่านที่กินยาดองตามสูตร ยาโบราณต้องดองเหล้า เพื่อที่จะให้สารที่อยู่ในสมุนไพรออกมาอย่างเต็มที่ แต่ต้องกินตามสูตรจริง ๆ ก็คือ โบราณส่วนใหญ่ให้กินได้เป๊กเดียว ประมาณ ๓๐ ซีซี และในส่วนนี้ก็ห้ามพระด้วย ไม่ใช่ว่าเป่ายันต์เกราะเพชรแล้วกินยาดองได้ พระเราก็ฉันกันเพลิน นั่นโดนอาบัติเลย..ศีลขาด ไม่มีอะไรคุ้มตัวเลย ศีลพระที่จะคุ้มตัวก็ไม่มี ยันต์เกราะเพชรก็ไม่มี ฉะนั้น...ต้องระมัดระวังในเรื่องของอาหารให้มาก

เถรี
10-07-2019, 19:55
ยันต์เกราะเพชรของเรา ถ้าหากว่าไม่ละเมิดแล้ว ก็จะอยู่รักษาเราไปตลอดชีวิต แล้วถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ยันต์รักษาตัวเราอยู่ ? ก็มีหลายวิธีด้วยกัน

วิธีแรกก็คือฝึกทิพจักขุญาณให้ได้ แล้วก็พิจารณาดู ก็จะเห็นว่ายันต์เกราะเพชรยังอยู่ที่กึ่งกลางกายของเราหรือเปล่า ?

อีกวิธีหนึ่งก็คือหาผู้หญิงที่ท้องครั้งแรกมาเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถ้าคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย จะมียันต์ติดตัวมาด้วย คราวนี้ คำว่ายันต์ติดตัวมานั้น ไม่ใช่ว่าติดตัวมาเป็นรูปยันต์เกราะเพชร แต่ว่าจะเป็นจุด เป็นขีด เป็นแต้ม อย่างไรก็ได้ เพียงแต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ภายใน ๗ วัน จะหายเข้าไปอยู่ในกระดูก

เถรี
10-07-2019, 19:58
มีอยู่รายหนึ่งติดตัวมาลายพร้อยเลย พยาบาลเขาเรียกว่าไอ้เด็กตุ๊กแก ส่วนอีกรายหนึ่งทำคลอดแบบโบราณ หมอตำแยบอกว่าลูกออกมาตัวลาย พ่อแม่เห็นแล้วตกใจ ลืมไปว่าตัวเองไปรับยันต์เกราะเพชรมาก ก็ถามว่า "ยายแล้วจะแก้ไขอย่างไร ?" หมอตำแยนั่นสุดยอดมาก บอก "ง่ายนิดเดียว" อมเหล้าพ่นพรวด หายเกลี้ยงเลย..! โห...สุดยอดมากเลยยาย แต่จริง ๆ ยันต์เกราะเพชรไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่หนีเหล้าเข้าไปอยู่ในกระดูกของเด็กแทน

ถ้าหากว่าเด็กคนแรก หรือที่เรียกว่าลูกหัวปี คลอดมาเป็นผู้ชาย จะมียันต์ติดตัวมา ที่อาตมาทำพิธีไป มีหลายรายที่ถ่ายรูปมาให้ เป็นเส้นยาว ๆ ติดตัวเต็มไปหมด แล้วก็เป็นจุด ๆ แต้ม ๆ ก็มี มีบางรายก็เหมือนตุ๊กแกจริง ๆ เพราะว่าเป็นทั้งสีน้ำเงินสีแดงสลับกันด้วย ก็เลยไปนึกถึงสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุง มีโยมคนหนึ่ง พอรับยันต์ไปแล้ว คลอดลูกออกมา ยันต์ติดตัวมาเป็นสีแดง ปกติก็จะเป็นสีดำหรือน้ำเงินเข้ม ทำไมคนนี้เป็นสีแดง ?

หลวงพ่อวัดท่าซุงสอบถามว่า ทำตัวอย่างไรเมื่อรับยันต์ไปแล้ว ?เขาบอกว่าแยกห้องกับผัว ไปนอนห้องพระแทนเลย ตั้งใจรักษาศีล ๘ เพื่อลูกตัวเอง แล้วเด็กคนนั้นอัศจรรย์มาก เพราะว่าทุกพระใหญ่ขึ้น ๑๕ ค่ำ ยันต์เกราะเพชรจะปรากฏขึ้นทุกครั้ง แล้วถ้าหากว่าเป็นผู้ใหญ่ จะพิสูจน์อย่างไรว่าเราได้รับยันต์เกราะเพชร ? ก็ต้องรอ รอตายแล้วลูกหลานเผา จะมียันต์ติดกระดูกอยู่

เถรี
10-07-2019, 20:22
อาตมาแนะนำไป ๒ คนว่า ให้เก็บกระดูกพ่อที่มียันต์ติดอยู่เลี่ยมแขวนคอไปเลย ยันต์เกราะเพชรที่ติดกระดูกอยู่เป็นรูปยันต์ ไม่ใช่เป็นรอยต่อกระดูก เรื่องพวกนี้อาตมาเป็นคนเชื่อยากที่สุด ต้องพิสูจน์แล้วพิสูจน์อีก อย่างที่บอกว่าไปไล่จับงูพิษเล่น เพื่อที่จะพิสูจน์ว่ายันต์เกราะเพชรกันได้ไหม ? ปรากฏว่ากันได้จริง ๆ แต่ก็เจ็บแทบตาย เพราะว่างูพิษกัด ความเจ็บความปวดก็คือปกติของงูพิษเลย เพียงแต่ว่าเราไม่ตายแน่นอนเท่านั้น

เถรี
13-07-2019, 09:45
ในระหว่างที่รับยันต์เกราะเพชร จะรู้ได้อย่างไรว่ายันต์เข้าตัวเราแล้ว ? ช่วงนั้นถ้ารู้สึกร้อนหู ร้อนหน้า หนักหัว หนักไหล่ บางท่านก็รู้สึกยุบยิบเหมือนมีตัวอะไรไต่อยู่ตามร่างกายของตัวเอง แรก ๆ ก็อาจจะไต่แค่ตัวสองตัว ต่อไปก็มากขึ้น ให้รู้ว่ายันต์กำลังเข้าตัวท่านแล้ว บางท่านเป็นไข้ไป ๒ วัน ๓ วันเลยก็มี

โดยเฉพาะอาตมานี่เป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุด กราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "ผมมองเมื่อไร ผมก็เห็นว่ายันต์เกราะเพชรคลุมตัวผมอยู่ แล้วทำไมไข้จับเกือบตายครับ ?" ท่านบอกว่า "เพราะว่ากำลังใจของแกดื้อมาก พอมีสิ่งภายนอกแทรกเข้ามา ก็ต่อต้านโดยอัตโนมัติ ยันต์เกราะเพชรพยายามจะเข้า ก็ไปต้านเอาไว้ เลยกลายเป็นยื้อกันจนออกอาการเหมือนกับป่วยไข้" เมื่อทราบดังนั้น อาตมาก็เลยต้องเลิกยื้อ ก็คือปล่อยให้เป็นไปตามที่พระท่านจะสงเคราะห์ หลังจากนั้นก็ไม่เคยเป็นไข้อีก

เพราะฉะนั้น ใครมีนิสัยดื้อ เชื่อยาก ถ้ากลับบ้านไปแล้วไข้จับไปวันสองวัน ก็ให้รู้ว่าท่านเองนั่นแหละที่เป็นสาเหตุให้ยันต์เกราะเพชรเข้าลำบาก

เถรี
13-07-2019, 09:47
มีบางรายที่มาขอให้อาตมาถอนยันต์ให้ ถามว่าทำไมต้องถอน เขาบอกว่ามีครูโนราห์อยู่ แล้วไม่รู้ว่าเป็นคู่ศึกกับยันต์เกราะเพชร เพราะว่าโนราห์มาทางไสยศาสตร์ ก็เลยทำให้เดือดร้อน ขออนุญาตถอนยันต์ อาตมาบอกว่าไม่ต้องถอน โยมอธิษฐานขอให้ครูโนราห์สามารถที่จะเข้าออกทำหน้าที่ของตนเองได้ตามปกติก็จบแล้ว โยมก็บอกว่าทำไม่เป็น ท้ายสุดอาตมา ก็เลยต้องทำให้แทน..ซวยไปอีก

ฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครมีครูโนราห์ มีครูไสยศาสตร์หรือวัตถุที่เป็นไสยศาสตร์ติดตัวมา ถ้าเสียดาย ให้เอาไปฝากไว้ไกล ๆ ศาลาหลังนี้ แต่ถ้าไม่เสียดาย จะเปลี่ยนเป็นพุทธศาสตร์ ก็ติดตัวเอาไว้ เพียงแต่ว่าอานุภาพทางไสยศาสตร์จะหมดไป เนื่องจากว่าไสยศาสตร์กับพุทธศาสตร์นั้นเป็นคู่ศึกกันโดยปริยาย เหมือนความมืดกับแสงสว่าง

ไสยะ แปลว่าหลับ ไสยศาสตร์ ความรู้ที่ยังหลับอยู่ หรือถ้าหากว่าตามภาษาพระคืออวิชชา พุทธศาสตร์ ความรู้ของผู้ตื่น พุทธะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทั้งสองอย่างนี้เหมือนเหรียญเดียวที่มีสองหน้า อย่างไรก็อยู่คู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย เพียงแต่ว่าถ้าพุทธศาสตร์ที่เป็นความสว่างมาถึง ไสยศาสตร์ที่เหมือนกับความมืดก็จะต้องถอยออกไป

เถรี
13-07-2019, 09:49
อย่างเมื่อเช้านี้ตอนพุทธาภิเษก อาตมาขึ้นไปกราบพระ ท่านชี้ลงมาให้ดู ให้เห็นว่าสมัยนี้ไสยศาสตร์นั้น มีความเจริญรุ่งเรือง มีจำนวนมากเป็นพิเศษ จึงกราบเรียนถามพระท่านว่าแล้วช่วยเขาได้ไหม ? ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าใครตั้งใจรับยันต์เกราะเพชรในวันนี้ จะเป็นในที่นี้ ในที่อื่น ประเทศอื่น จังหวัดอื่นอะไรก็ตาม สามารถช่วยได้ แต่ถ้าไม่ตั้งใจรับด้วยความเคารพ ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรเหมือนกัน

ฉะนั้น ในส่วนนี้โยมต้องเข้าใจด้วยว่า ศรัทธาปสาทะเป็นพื้นฐานของศาสนาทั้งปวง ถ้าไม่มีศรัทธา...ความเชื่อ ปสาทะ...ความเลื่อมใส เราก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ เลื่อมใสน้อย...เข้าถึงน้อย เลื่อมใสมาก...เข้าถึงมาก ถ้ามอบกายถวายชีวิตให้ได้ ก็จะเข้าถึงอย่างเต็มที่ เป็นต้น

เถรี
13-07-2019, 09:54
ดังนั้น ในเรื่องของไสยศาสตร์หรือพุทธศาสตร์ก็ตาม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิชาการ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักสูตรนั้น ๆ ว่าต้องปฏิบัติอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับความเลื่อมใสเชื่อมั่นจริง ๆ

ถ้าท่านเชื่อมั่นอย่างมั่นคงว่า ทุกอณูของอากาศรอบกายของเราคือบารมีของพระ สามารถกำหนดใจให้ครอบลงมารักษาตัวเราเมื่อไรก็ได้ ถ้าท่านทำอย่างนี้ได้ ไม่ต้องมีวัตถุมงคลอะไรก็ใช้ได้ แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ มีวัตถุมงคลติดตัวเอาไว้ จะปลอดภัยกว่า

เนื่องจากว่ากติกาที่อาตมาว่ามานี้ มีข้อหนึ่งก็คือห้ามเผลอ ถ้าหากว่าเราตั้งสตินึกถึงพระท่านได้ตลอดเวลา สามารถขอบารมีพระสงเคราะห์เราได้ตลอดเวลา แต่โอกาสเผลอนั้นมีอยู่ ขาดสติเพียงนิดเดียว วาระกรรมแทรกเข้ามา เราก็อาจจะโดนได้

เถรี
13-07-2019, 09:58
อาตมาเองไปโดนไสยศาสตร์ที่วัดหนองบัว ประเทศพม่า ตั้งใจน้อมไทยธรรมและสิ่งก่อสร้างทั้งหมดถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ถวายต่อคณะสงฆ์ที่นั่น แค่เผลอจิตละจากภาพพระนิดเดียวเท่านั้น รู้สึกเหมือนเสียงฟ้าผ่าลงมาบนหัวเลย ขาดสติไปประมาณ ๒ วินาทีก็ตั้งหลักได้ หันไปบอกกับพระครูน้อย ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวว่า

"คุณสังเกตดู เดี๋ยวถ้ามีใครป่วยหนักชนิดลุกไม่ขึ้นเลย นั่นแหละคนที่เล่นงานผม" พระครูน้อยเดินออกไปพักเดียว หน้าเหี่ยวเหลือ ๒ นิ้วกลับมา บอกว่า "อาจารย์ครับ พวกเดียวกันเองครับ" อาตมาก็มาวิเคราะห์ว่าทำไมพวกเดียวกันมาเล่นงานอาตมา ? ก็คือเขาอยากจะดึงอาตมาไปช่วยสร้างวัดให้เขา แต่อาตมาเองมัวแต่สร้างให้วัดหนองบัวอยู่ เขาก็เลยต้องใช้ไสยศาสตร์ช่วย แต่ว่าท่านทำได้ดีมากเป็นพิเศษ ก็คือรู้สึกเหมือนกับโดนฟ้าผ่าใส่หัวเลย

แต่ขอโทษ...โดนยันต์เกราะเพชรสะท้อนกลับ เดี้ยงไปเป็นเดือน ขยับไม่ได้ ลักษณะเป็นกึ่ง ๆ อัมพาต จะกินจะนอนต้องมีคนป้อน มีคนพาไปห้องน้ำห้องส้วม ท่านเองก็คงนึกไม่ถึงว่าอาตมาจะมีของแบบนี้คุ้มต้วอยู่

เถรี
13-07-2019, 10:02
ท่านอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี รู้จักกันมาน่าจะ ๓๐ ปีหรือไม่ก็ใกล้เคียง ท่านบอกว่าเห็นกี่ครั้งหลวงพี่ก็เหมือนเดิม เรื่องนี้เป็นเวรเป็นกรรมของอาตมาเอง เชื่อหรือไม่ว่าเพื่อนร่วมชั้นมัธยมเจอหน้ากันจำอาตมาได้ทุกคน เพราะว่าเป็นนักเรียนก็ผมสั้น จากนักเรียนมาเป็นทหารก็ผมสั้น จากทหารมาเป็นพระ ยิ่งผมสั้นเข้าไปใหญ่ แล้วหน้าตาก็ไปช้ามาก ในเมื่อไปช้า พวกเห็นก็จำได้หมด

อาจารย์ธนิสร์ถามว่า ทำอย่างไรถึงหน้าตาไม่ค่อยจะแก่ ? ก็บอกท่านว่า "ทำงานให้เยอะเข้าไว้ เพราะลืมวันลืมคืน ไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไป ก็เลยไม่แก่" ส่วนคนไหน ถ้าเครียดมาก ๆ แหม...แต่ละวันอย่างกับเป็นปีนี่จะแก่เร็ว

เถรี
13-07-2019, 10:03
ตอนนี้สะดวก ใครจะถ่ายรูปอย่างไรก็ได้ เพราะถ่ายอย่างไรก็ไม่หล่อขึ้น ได้แค่นี้แหละ สร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้เยอะ คนจะเกิดมาหล่อเกิดมาสวย ก็ต้องมีศีล ๕ สมบูรณ์ ต้องมีพรหมวิหาร ๔ ส่วนอาตมาเองขาด ๆ วิ่น ๆ เพราะว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ไม่ใช่ฆ่าเขาก็โดนเขาฆ่านั่นแหละ..!

เถรี
13-07-2019, 10:05
ตอนนี้ทางวัดท่าขนุนของเราเป็นต้นแบบในการแยกขยะให้กับชาวบ้าน ขยะบางส่วนที่แยกออกมาก็เอาไปขาย บางส่วนก็เอาไปทำน้ำชีวภาพ น้ำหมัก บางส่วนก็เผาทำลาย ตอนนี้เรามีเตาเผาขยะของวัด ที่ชุมชนมาร่วมใช้งานได้ เผาขยะได้ชั่วโมงละ ๕๐ กิโลกรัม เผาซากสัตว์ได้ด้วย แต่กรุณาว่าอย่าเผลอ..ถ้าเผลอเมื่อไร เดี๋ยวจะเอาเด็ก ๆ เข้าไปเผา ต้องระมัดระวังให้ดี

เถรี
13-07-2019, 10:07
สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๕ นิ้ว เป็นฝีมือปั้นของท่านอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา แรก ๆ ขอตั้งราคาไว้ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท อาตมาบอกว่าไม่เอา ขอแค่ ๙,๙๙๙ บาทพอ ใครให้มาหนึ่งหมื่นทอนคืนไปบาทหนึ่ง ก็ปรากฏว่ามีคนที่จองแล้วทิ้งจองอยู่ ๗ - ๘ องค์ ก็เลยมีคนรวยมาบูชาไปในราคาองค์ ๑๕,๐๐๐ บาท

สรุปว่าสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้มีราคา ๑๕,๐๐๐ บาท อยู่ ๘ องค์ นอกนั้นราคา ๙,๙๙๙ บาท เอาไปออกต่อ อย่าให้เกิน ๑๕,๐๐๐ บาทนะ สงสารคนเขาบ้าง

วันก่อนอาตมาเห็นพระหินเขียวแม่น้ำโขงของทางวัดท่าขนุน ซึ่งทางวัดให้บูชาองค์ละ ๕๐๐ บาท เขาเอาไปปล่อยต่อองค์ละ ๔,๖๐๐ บาท เห็นแล้วจะเป็นลม อะไรถ้าหากว่าแพง โยมก็อย่าไปติดตาม พยายามหักห้ามใจไว้หน่อย เดี๋ยวรุ่นหลัง ๆ ก็จะมีของดีมาเอง

เถรี
13-07-2019, 10:08
อาตมาไปร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐมที่วัดแห่งหนึ่ง อย่าไปบอกชื่อวัดเขาเลย ญาติโยมไปร่วมกันมาก ต่างคนก็อยากได้บุญในการหล่อสมเด็จองค์ปฐม ก็เลยส่งถังปูนต่อ ๆ กันไป จนกระทั่งไปอ้อมรอบโบสถ์แล้ววนกลับมาอีกทีหนึ่งจึงจะมาถึงที่หล่อ ทั้ง ๆ ที่หล่อกับองค์พระจริง ๆ แล้วห่างกันอยู่แค่ ๑๐ กว่าเมตรเท่านั้น คนมามากเกินไป ทุกคนอยากได้บุญ ก็เลยต่อแถวไปเรื่อย กว่าจะย้อนกลับมานี่ ปูนแทบจะแห้งแล้ว

เถรี
13-07-2019, 10:15
ญาติโยมทั้งหลายที่มาวัดท่าขนุนในวันเสาร์ ๕ เจตนาก็แบ่งเป็น ๒ ส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งก็คือมาร่วมพิธีไหว้ครูและพุทธาภิเษก อีกส่วนหนึ่งก็ตั้งใจมารับยันต์เกราะเพชร คราวนี้ญาติโยมหลายท่านก็คงจะทราบข่าวว่า อาตมาเคยทำวัตถุมงคลชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าตะกรุดมหาสะท้อน เป็นวัตถุมงคลชนิดเดียวที่อาตมาสร้างมากรุ่นที่สุด ก็คือได้ทำถึง ๖ รุ่นด้วยกัน

ปกติวัตถุมงคลของอาตมานี่ซ้ำสองก็ไม่ทำแล้ว...เบื่อ แต่เนื่องจากว่าตะกรุดมหาสะท้อนนั้นเป็นที่ต้องการมาก ญาติโยมเรียกร้องมาอยู่เรื่อย ราคาแพงแค่ไหนก็สู้ ก็เลยทำไปถึง ๖ รุ่น แต่ปัจจุบันนี้หยุดทำแล้ว เพราะว่าโดนสั่งห้าม เนื่องจากว่าญาติโยมเอาตะกรุดไปใช้ แล้วไปเล่นเขาตายไป ๒ ศพ..!

ศพแรกเป็นอาจารย์ใหญ่ ตอนแรกก็สอนกรรมฐาน ไป ๆ มา ๆ ก็ออกแนวไสยศาสตร์ พอถึงเวลาลูกศิษย์เห็นไม่ชอบมาพากล จะไม่อยู่ด้วย ก็ไปข่มขู่เขาว่าวันเดือนปีเกิดพวกแกอยู่ในมือข้า เดี๋ยวจะบังฟันให้ตายให้หมด บรรดาลูกศิษย์เขาก็เป็นลูกศิษย์ของอาตมาด้วย ก็เลยรวมหัวกัน ๗ - ๘ คนปลุกตะกรุดมหาสะท้อนพร้อม ๆ กัน อาจารย์ใหญ่เลยตายแทน..!

ส่วนอีกรายหนึ่ง เป็นการหักล้างกันในหน่วยงาน ผู้นำคนใหม่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งสำคัญ ต้องเล่นงานกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะโดนแย่งตำแหน่งได้ ก็เลยแจ้งตำรวจข้อหาว่าอีกฝ่ายฉ้อโกง เป็นเงินนับร้อยล้านบาท ตั้งใจว่าจะไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลย ฝ่ายที่อยู่ ๆ โดนยัดข้อหาให้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร มีตะกรุดมหาสะท้อนเนื้อทองคำของอาตมาอยู่ ก็เลยขอบารมีพระแล้วนั่งภาวนา ปรากฏว่าอีกฝ่ายตายเอง..!

พอมีข่าวตายมาเข้าหู ๒ ศพ อาตมาเลยโดนสั่งห้ามไม่ให้ทำอีก ตะกรุดมหาสะท้อนนั้น ใครทำดีทำชั่วกับเจ้าของตะกรุดจะโดนย้อนคืนหมด ทำดีก็รับดีคืนไปหลายเท่า ทำชั่วก็รับชั่วคืนไปหลายเท่า

เถรี
13-07-2019, 10:16
ที่กล่าวตรงนี้ก็เพราะว่า ตะกรุดมหาสะท้อนมีความคล้ายคลึงกับยันต์เกราะเพชร คล้ายคลึงกันตรงที่ว่า ถ้าใครทำอะไรมา ส่วนที่ไม่ดีก็คืนไปหมด ยันต์เกราะเพชรมีอานุภาพอย่างหนึ่ง ก็คือสะท้อนคืนไสยศาสตร์ทั้งหมด

ถ้าหากว่าใครอยากจะรู้ว่าตัวเองทำไสยศาสตร์มีผลเท่าไร ให้ไปขอคนที่มียันต์เกราะเพชรแล้วลองทำเขาดู โดนสะท้อนคืนไปแล้วจะรู้เองว่าตัวเองทำได้ขนาดไหน..!

เถรี
15-07-2019, 09:04
อีกไม่กี่วันจะเข้าพรรษา หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เป็นวันเฉลิมพรรษา อยากจะรู้ว่ามีใครเรียกพระนามในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ได้ถูกบ้าง ?

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระ - บาด - สม - เด็ด - พระ - ปะ - ระ - เมน - ทะ - ระ - รา - มา - ทิบ - บอ - ดี - สี - สิน - มะ - หา - วะ - ชิ - รา - ลง - กอน - พระ-วะ-ชิ-ระ-เกล้า-เจ้า-อยู่-หัว

จำกันไม่ได้หรอก เชื่อเถอะ

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
สม-เด็ด-พระ-นาง-เจ้า-สุ-ทิ-ดา-พัด-ชะ-ระ-สุ-ทา-พิ-มน-ลัก-พระ-บอ-รม-รา-ชิ-นี

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สม - เด็ด - พระ - นาง - เจ้า - สิ - หริ - กิด พระ - บอ - รม - รา - ชิ - นี - นาด
พระ - บอ - รม - มะ - ราด - ชน - นะ - นี - พัน - ปี - หลวง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
สม - เด็ด - พระ - กะ - นิด - ถา - ทิ - ราด - เจ้า - กรม - สม - เด็ด - พระ
- เทบ - พะ - รัด - ราด - ชะ - สุ - ดา - สะ - หยาม - บอ - รม - ราด - ชะ - กุ - มา - รี

จำกันไม่ได้หรอก หัดเรียก ๆ ให้ชินไว้ เดี๋ยวไม่ชินกัน อย่าลืมว่าตอนนี้เรามีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าเพิ่มขึ้นมา เพราะว่าพระราชบิดาขึ้นครองราชย์แล้ว ฉะนั้นที่เราเรียกพระองค์ภา ปัจจุบันนี้ไม่ได้แล้ว

ท่านคือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
สม - เด็ด - พระ - เจ้า - ลูก - เทอ - เจ้า - ฟ้า - พัด - ชะ - ระ - กิ - ติ - ยา - พา - นะ - เรน - ทิ - รา - เทบ - พะ - ยะ - วะ - ดี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
สม - เด็ด - พระ - เจ้า - ลูก - เทอ - เจ้า - ฟ้า - สิ - หริ - วัน - นะ - วะ - รี
นา - รี - รัด - ราด - ชะ - กัน - ยา

หัดเรียกให้ชิน ๆ ปากไว้ ถ้าญาติโยมความจำเหมือนคอมพิวเตอร์อย่างอาตมาก็ดีไปอย่าง พอบันทึกปั๊บ ก็ไม่ไปไหนเลย

คราวนี้เรามีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระ - บาด - สม - เด็ด - พระ - บอ - รม - ชะ - นะ - กา - ทิ - เบด - มะ - หา - พู - มิ - พน - อะ - ดุน - ยะ - เดด - มะ - หา - ราด - บอ - รม - มะ - นาด - ถะ - บอ - พิด ก็คือเป็นสมเด็จพระราชบิดาของรัชกาลปัจจุบัน

เถรี
15-07-2019, 09:05
ส่วนใหญ่แล้วเห็นนักข่าวอ่าน บอ - รม เป็น บะ - รม กันหมด
บอ - รม บอ - วอน บอ - พิด
จำไว้เลยว่า บอ อย่างเดียว เป็น บะ ไม่ได้

แล้วก็เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ถ้าเรียกชื่อในหลวงเต็ม ๆ ยากหน่อยก็เรียกแค่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ย่อ ๆ นิดหนึ่ง แต่อย่าลืมคำว่า พระบาทสมเด็จ เพราะว่าได้รับพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ถ้ายังไม่ได้ผ่านพิธีบรมราชาภิเษกก็เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เถรี
15-07-2019, 09:06
บางทีญาติโยมอาจจะสงสัยว่า พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอย่างพระอาจารย์เล็กใช้ย่ามอะไร ? เก็บย่ามของพระใหม่เขามาใช้ คือพระใหม่บวชแค่เดือนสองเดือน ใช้แล้วก็ทิ้งไว้ อาตมาก็เก็บมาใช้ต่อ

เกิดเป็นพระอาจารย์เล็ก หยิบย่ามใบไหนมาใช้ก็ขลังหมด เพราะว่าใส่แต่เงิน เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องไปดูหรอกว่าย่ามดีหรือไม่ดี สำคัญอยู่ตรงที่คนใช้ เขาบอกกระบี่อยู่ที่ใจ หยิบอะไรขึ้นมาก็ใช้ได้..ใช่ไหม ?

เถรี
15-07-2019, 09:16
เขาบอกว่ารู้หนึ่งโปร่งร้อย ก็คือเป็นเสียทุกงานเลย มีผีฝรั่งกลายเป็นเทวดาได้ ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่าตั้งใจสร้างผลงานศิลปะ ทรงสมาธิได้ไม่รู้ตัว ก็เลยกลายเป็นเทวดาไป

เดี๋ยวปีนี้จะไปคุยกับผีต่างประเทศอีก พวกนี้เวลาเห็นพระไทยเขาชอบ วิ่งเข้าหาเลย เพราะว่าอย่างไรก็ได้บุญแน่ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเรามีบุญ ปรากฏว่าพวกผี เขาเหมือนอย่างกับอยู่ในความมืดมิด ไม่มีกำลังบุญที่จะส่องทาง พอคนที่มีบุญมา บุญมากบุญน้อย ก็จะเป็นความสว่างมากน้อย ตามกำลังบุญของตัว

เพราะฉะนั้น..พวกนี้เหมือนอยู่ในที่มืด พอเห็นแสงสว่าง รู้ว่าตรงนี้ใช่แน่ ก็วิ่งเข้าหาเลย แต่ว่าน้อยรายที่เขาสามารถติดต่อได้ สามารถที่จะขอส่วนบุญส่วนกุศลได้ ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าขอใครได้ก็กวนอย่าบอกใครเลย บางคนไปต่างประเทศบอกว่านอนไม่หลับ หารู้ไม่ว่าผีมาขอส่วนกุศลเป็นพัน ๆ เลย ในเมื่อเขาไม่ได้ เขาก็ไม่เลิก สรุปว่าไม่รู้เรื่องว่าทำไมนอนไม่หลับ นี่ถ้าไม่ได้คุยกับผีก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นอย่างนี้

โดยเฉพาะไปอินโดนีเซีย ประเทศอิสลาม ผีมาทีหนึ่งเจ็ดแปดพัน ถามว่าพวกแกตายทำไมไม่ลงนรก ? เขาบอกว่าเขาตายก่อนหมดอายุ เออ...รอดไป แล้วมาหาทำไม คนละศาสนากัน ? เขาบอก ตอนเป็นคนโง่พอแล้ว ตอนเป็นผีนี่รู้แล้วว่าอะไรดีอะไรชั่ว ก็ยังดีที่ฉลาดทัน ก็เลยอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป เพราะถ้าไม่ให้เขาก็กวนทั้งคืน ไม่ต้องนอนกันพอดี

ล่าสุดไปที่ประเทศญี่ปุ่น ไปได้องครักษ์คอยเฝ้าให้ ประเทศญี่ปุ่นต้องบอกว่าน่าสงสารหรือเราน่าสงสาร เตียงก็สั้น ๆ ผ้าห่มก็สั้น ๆ นอนไปนี่ตีนโผล่ แล้วอากาศ ๕ องศา หนาวอย่าบอกใครเลย นอนไม่หลับ ท้ายสุดก็เลยต้องโวยกับพ่อองครักษ์ ขอให้เขาช่วยให้หายหนาวถึงนอนได้

เถรี
15-07-2019, 09:22
อาตมามีเพื่อนเป็นด็อกเตอร์ เรียนจบด็อกเตอร์ ๒ ใบเลย พิการแบบนี้แหละ แต่ความสามารถสูงมาก อาตมาเห็นไม่ได้นึกว่าเป็นคนพิการ เขาเก่งกว่าเรา สอบได้คะแนนเท่ากันเป๊ะเลย คือวิทยานิพนธ์ท่านได้เกรดเอ แสดงว่าคะแนนต้องนำเยอะมาก แต่คอร์สเวิร์คของอาตมาน่าจะนำท่านมาก สองอย่างรวมกันแล้วตัดคะแนนมาได้เท่ากับเป๊ะเลย คนเก่ง ๆ มีความสามารถ ร่างกายพิการนิดหน่อย คนเขามองข้ามกันหมด เพราะว่าเขาดูที่ความสามารถของเรา

แบบเดียวกับครูไอซ์ที่ตาบอดแล้วสอนหนังสือที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ครูไอซ์สอนภาษาอังกฤษได้ยอดมาก เด็ก ๆ ทุกคนรักครูไอซ์ แต่ครูไอซ์ตาบอด มองอะไรไม่เห็น

คนที่พิการจะพัฒนาความสามารถด้านอื่นขึ้นมาแทน สายตาพิการจะพัฒนาประสาทสัมผัสอื่นขึ้นมาแทน ร่างกายพิการ มือพิการก็จะใช้เท้า เท้าพิการก็ใช้มือ ดูแล้วก็คืออยู่ในลักษณะว่าพัฒนาเพื่อให้อยู่รอด ซึ่งเป็นหลักของการดำรงชีวิตของสรรพสัตว์เลย

เถรี
15-07-2019, 09:31
ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ไม่ประมาท ตั้งใจปฏิบัติในทาน ในศีล ในภาวนาเป็นปกติ การให้ทานเกิดใหม่ก็ร่ำรวย การรักษาศีลเกิดใหม่ก็มีรูปร่างหน้าตาสะสวยหล่อเหลา การภาวนาเกิดมาก็มีปัญญาฉลาดมาก

ฉะนั้น...ในสามส่วนนี้ควรที่จะทำให้เสมอกัน เพราะว่าถ้าคนสวยคนหล่อ แต่ไม่มีปัญญา ก็อาจจะโดนเขาหลอกลวง คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่มีเงินเยอะเลย คนก็คงไม่สนใจเราเท่าไร อีกคนหนึ่งประเภทหน้าตาดี๊ดี แต่พูดอะไรซื่อบื้อไปหมด คนเขาคงไม่อยากจะคบหาด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าควรที่จะทำทั้งสามอย่างให้เสมอกัน เมื่อถึงเวลาได้รับอานิสงส์ก็จะได้รับเหมือน ๆ กัน สวย รวย ดีเสมอกัน มีปัญญามากเสมอกัน

เถรี
15-07-2019, 09:34
วันก่อนอาตมาไปรับรางวัลที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทั้งดารา ทั้งนักร้องมากันตั้งหลายคน ถ่ายรูปกัน อาตมาก็..เออ...เด็กรุ่นใหม่ ๆ เขามารยาทดี หน้าตาก็หล่อเหลาสะสวยดี โยมเขาบอกว่า "นั่นดารานะหลวงพ่อ" อาตมาบอกไม่รู้จักหรอก ดาราคู่สุดท้ายที่รู้จัก ผู้ชายชื่อทูน ผู้หญิงชื่อจารุณี ถ้าอายุน้อยกว่านั้นไม่รู้จัก

จะมีรู้จักเป็นพิเศษอยู่ก็กึ่งดารากึ่งนางงาม ก็คือคุณอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ นางสาวไทยปี ๒๕๓๕ อันนี้รู้จักเพราะว่ามีคลิปเกี่ยวกับการฟ้อนข้าวประดับดิน ส่วนอีกท่านหนึ่งก็น้องป๊อป (อารียา) อันนั้นเป็นญาติกันเอง ไม่รู้จักก็ไม่ได้ นอกนั้นมานี่ไม่รู้

บางทีอยู่วัด เด็ก ๆ เขาวิ่งมา "หลวงพ่อ ๆ รถเมล์มา" บอกว่า "รถเมล์มาก็ดู อย่าให้เกี่ยวสายไฟ เพราะว่าถ้ารถสองชั้นเข้ามา บางทีก็เกี่ยวสายไฟของวัดขาด" เด็กบอกว่า "ไม่ใช่หลวงพ่อ รถเมล์เป็นดารา" "รถเมล์เป็นดารา ? เขาเอาไปขับรับใครในหนังหรือ ?"

ฉะนั้น...อย่าเอาอะไรกับพระแก่ ถึงเวลาเขาแนะนำตัวดารา บอกตรง ๆ เลย ไม่รู้จัก ขอโทษด้วยนะ โตช้าไปหน่อย ถ้าโตเร็วกว่านี้ อาตมาอาจจะรู้จัก

เถรี
15-07-2019, 09:44
ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายว่า ยันต์เกราะเพชรเป็นบารมีพระพุทธเจ้า ในเมื่อเป็นบารมีพระพุทธเจ้าก็คือมาจากพุทธศาสตร์ ความรู้ของผู้ตื่น ก็คือตื่นจากกิเลสแล้ว ส่วนไสยศาสตร์เป็นความรู้ของผู้หลับ ผู้ถูกถ่วงหนักด้วยอวิชชา หลงงมงายเหมือนคนที่อยู่ในความหลับ ในเมื่อความตื่นกับความหลับ ความสว่างกับความมืด ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้โดยธรรมชาติ

เมื่อถึงเวลาผู้ที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้ามีการภาวนาเป็นปกติ จากประสบการณ์ของอาตมาที่ลงปักษ์ใต้ไปครั้งแรกเมื่อเกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว ไปอยู่ในดงไสยศาสตร์พอดี ก็สงสัยว่าสัมผัสปุ๊บก็หาย สัมผัสปุ๊บก็หาย ก็เลยตั้งใจพิจารณาดูก็รู้ว่า ด้วยความที่เรามียันต์เกราะเพชรอยู่ เมื่อผ่านไปก็เลยทำลายไสยศาสตร์เขาไปด้วย

ทันทีที่รู้สึกว่าเป็นไสยศาสตร์ ยันต์เกราะเพชรก็แสดงอานุภาพด้วยตัวเอง ก็เลยทำให้มั่นใจว่าไสยศาสตร์นั้นไม่สามารถที่จะสู้กับอำนาจของยันต์เกราะเพชรได้ แต่ก็มีบุคคลที่เคยรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว กินไม่ได้ นอนไม่หลับหลายวัน จะตายเอา ไปหาครูบาอาจารย์ของตน เขาก็บอกว่าแกครอบครูโนราห์ แล้วดันไปรับยันต์เกราะเพชร ครูโนราห์มาทางสายไสยศาสตร์ ก็เลยทำให้เดือดร้อน

อาตมาก็แนะนำว่าให้อธิษฐานขอบารมีพระว่า ให้ครูโนราห์สามารถเข้าออก ทำหน้าที่ของตัวเองได้ ผู้ที่รับไปก็บอกว่าทำไม่เป็น ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องอธิษฐานแทน ไม่อย่างนั้นแล้วครูโนราห์โดนกดอยู่ข้างใน ออกไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เตือนผ่านลูกผ่านหลาน เจ็บไข้ได้ป่วย หัวไม่วาง หางไม่เว้น

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครครอบครูสายโนราห์ทางปักษ์ใต้มา ก็ขอให้รู้ว่าถ้ามารับยันต์เกราะเพชรไป อาจจะมีปัญหานี้ ถ้ามีปัญหานี้ วิธีแก้ก็คือจุดธูปบอกพระพุทธเจ้าว่าขอให้ครูโนราห์ ซึ่งเป็นครูตามสายวิชาของครอบครัวของตน หรือว่าสายวิชาตามสายครูบาอาจารย์ของตนสามารถเข้าออกได้ ไม่อย่างนั้นโดนกดอยู่ข้างใน เดี๋ยวอาละวาดอีก

เถรี
15-07-2019, 09:46
อีกส่วนหนึ่งที่พบมาโดยประสบการณ์เลยก็คือ บรรดาวัตถุที่ปลุกเสกด้วยวิธีไสยศาสตร์ต่าง ๆ ที่เป็นของต่ำ พวกนี้ถ้าเข้ามาในพิธียันต์เกราะเพชรนี่สลายตัวหมด ถ้าใครเสียดาย เคยแนะนำหลายคนแล้วว่าอย่าเอามา ถ้าเอามาเท่ากับเราตั้งใจทำลายทิ้งด้วยตนเอง

บางทีเวลาเป่ายันต์เกราะเพชร ตั้งใจดู เห็นบารมีพระครอบลงไป บรรดาสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่เป็นคุณผีคุณคน ไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ ก็กระจายออกรอบข้าง เหมือนกับเราโยนถ่านร้อน ๆ ลงไปกลางฝูงมด มดก็แตกฮือไปรอบข้างในลักษณะอย่างนั้น

ในส่วนนี้ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า ในเรื่องของพุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์นั้น ต่อให้ไม่ทำผิดคิดร้าย อย่างไรก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต่อต้านกันโดยธรรมชาติ เหมือนความสว่างมา ความมืดก็ต้องหายไป

เมื่อเข้าใจในจุดนี้แล้ว ญาติโยมทั้งหลายที่รับยันต์เกราะเพชรไป ก็ขอให้มั่นใจว่าเรารับเอาความดี ความสว่างเข้าไป เมื่อถึงเวลาถ้ามีการรักษาไว้ถูกต้องตามวิธีกรรม ก็คือพยายามภาวนาไว้ทุกเช้า พออารมณ์ใจทรงตัวตั้งมั่นแล้ว ก็ให้กลืนน้ำลายสัก ๓ ครั้ง ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มเราได้ทั้งวัน แต่ถ้าอยากให้มั่นใจก็ก่อนนอนว่าสักอีกรอบหนึ่ง ทำในลักษณะเดียวกัน ถึงเวลาเรานอนอยู่ ยันต์เกราะเพชรจะได้รักษาเราได้

เพราะว่าสมัยนี้เรื่องของไสยศาสตร์ลมเพลมพัดก็มีมาก กลางค่ำกลางคืนโดยเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ ประมาณ ๕ ทุ่มไปแล้ว ก็มักจะมีการปล่อยไสยศาสตร์ไป เพราะว่าถ้าไม่ปล่อย ตัวเองก็ร้อน อยู่ไม่ได้ ถึงเวลาได้ยินเสียงผิดปกติ โบราณถึงได้บอกว่าห้ามทัก เพราะว่าถ้าทักก็เหมือนกับเราเปิดประตูรับโจรเข้าบ้าน ตำรวจเห็นเราเปิดประตูรับ ก็คิดว่าโจรเป็นพวกเดียวกัน เลยไม่ช่วยป้องกัน

ในเรื่องของเจ้าที่เจ้าทางเทวดาผีบ้านผีเรือนก็ตาม ถ้าหากว่าเราทัก เท่ากับเราเปิดโอกาสให้เขาเอง ท่านก็ไม่กันให้เหมือนกัน ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ท่านจึงจำเป็นที่จะต้องรับยันต์เกราะเพชรหรือมียันต์เกราะเพชรติดตัวเอาไว้ อาตมาเองก็ยังคงพกอยู่เป็นปกติ

เถรี
15-07-2019, 09:49
(คุยกับนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิปัสสนาภาวนา) งานนี้เราเน้นตรงการรับศีลและภาวนา เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ให้ทำความดี นี่เป็นแค่งานมุมเดียวของสำนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น หลัก ๆ เลยเรายังมีจัดปฏิบัติธรรมอย่างน้อยปีละ ๖ รุ่น มีงานอุปสมบทหมู่ฟรีปีละ ๔ ครั้ง มีบวชสามเณรภาคฤดูร้อนฟรี เหล่านี้เป็นต้น แล้วก็พวกอบรมค่ายพุทธบุตร อบรมญาติโยมต่าง ๆ ฉะนั้นที่เราเห็นนี่แค่งานมุมเดียวเท่านั้น ค่อย ๆ เสนอเอา เก็บข้อมูลสัก ๒ ปีน่าจะหมด

วัดท่าขนุนของเราตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี ปี ๒๕๕๑ ปลายปีด้วย จำได้ว่าเป็นเดือนตุลาคม พอมาปี ๒๕๕๓ รับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทั่วประเทศมี ๘๓ แห่งเท่านั้น บรรดานิสิตปริญญาตรีสาขาวิปัสสนาภาวนาเขามาเก็บข้อมูลกัน ว่าสำนักปฏิบัติธรรมที่ได้รับรางวัลดีเด่น มีการกระทำอะไรที่สมควรแก่การได้รับรางวัลบ้าง

เถรี
15-07-2019, 09:51
ถ่ายไปกี่ครั้ง หลวงตาก็เหมือนเดิม พวกเอ็งน่ะแก่ไปเรื่อย พวกเหลน ๆ ถ่ายรูปไว้ดู คงเครียดไปตาม ๆ กันว่าตัวเองแก่ขึ้นเรื่อย ๆ หลวงตาก็อยู่เท่าเดิม

เดี๋ยวอีก ๒๐ ปีให้หลังมาดูรูปนี้ว่าโยมแก่ไปเท่าไร ส่วนอาตมานี่ไม่ต้องห่วง จะอยู่แค่นี้แหละ มีคนพยายามพิสูจน์ทราบมาเกิน ๓๐ ปีแล้ว

เถรี
15-07-2019, 09:54
(บอกกับผู้ที่ช่วยงานใกล้ชิด) ต้องบอกว่าซักซ้อมไว้ให้ดีแล้วจะยืนระยะได้ ของคุณเผลอหน่อยเป็นหลุด ไปอารมณ์เสียใส่โยมเขาอยู่เรื่อย

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร ณ วัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)